บทที่ 558 กวนผิงซื่อ
บทที่ 558 กวนผิงซื่อ
แม้กวนผิงซื่อไม่ทราบว่าเหตุใดซ่งชิงถึงร้อนรนขนาดนี้ แต่เขาประสานมือทันทีแล้วเอ่ย “ขอรับ! น้อมรับคำสั่งของคุณชาย!”
คนที่เหลือต่างตอบรับเช่นกัน!
“มีอีกเรื่องหนึ่ง”
ซ่งชิงโยนยันต์ใบหนึ่งต่อหน้าทุกคน “ระดมกองกำลังทั้งหมดและรวบรวมของเหล่านี้ภายในสามวัน”
กวนผิงซื่อหยิบยันต์ขึ้นมาแล้วมองดูครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยรับปาก
ซ่งชิงโบกมือ “ไปได้แล้ว ข้าจะเก็บตัวสามวัน”
ทุกคนตอบรับคนแล้วคนเล่าก่อนจะจากไปด้วยความเคารพ!
ตอนนี้ซ่งชิงเป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องโถงใหญ่
ทว่าทันใดนั้น เศษเสี้ยววิญญาณดวงหนึ่งก็ปรากฏข้างกายซ่งชิง ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชางเหล่า!
“เจ้าหนู การรวบรวมของเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่คิดว่าสามวันมันน้อยเกินไปหรือ?”
สิ่งที่ชางเหล่าพูดถึงก็คือของที่เขียนบนยันต์
ของเหล่านี้ถูกเตรียมไว้ให้ชางเหล่าเพื่อการสร้างร่างขึ้นมาใหม่
“ไม่น้อยหรอก”
ซ่งชิงเอ่ยอย่างแผ่วเบาขณะดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ของเหล่านี้ใช้พลังของดินแดนทั้งห้าของข้ารวบรวมได้ภายในสามวัน”
“ชางเหล่า ถ้าจำไม่ผิดเจ้าเคยบอกว่าสัมผัสได้ถึงตัวตนของผนึกเศษเสี้ยววิญญาณในตำหนักประตูสวรรค์ ซึ่งเศษเสี้ยววิญญาณนี้คล้ายกับผู้ที่เคยใช้เคล็ดกายาเพื่อกลายเป็นมหาจักรพรรดิในแดนเซียนตอนนั้นใช่หรือไม่?!”
ชางเหล่าพยักหน้า “ใช่”
“ข้าอยากพบเขาภายในสามวัน!”
สายตาของซ่งชิงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หลังจากต่อสู้กับลู่หยวน ซ่งชิงก็ตระหนักได้ว่าเคล็ดกายาคือสิ่งสำคัญที่สุด!
ในช่วงวิกฤตตอนนั้น เป็นซ่งชิงที่ไม่เห็นคุณค่าของเคล็ดกายา ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ลู่หยวนเข้าควบคุม ทำให้ไม่มีพลังมากพอที่จะสวนกลับ!
ทว่ามันยังไม่สายเกินไปที่จะฝึกฝนตอนนี้!
หากเศษเสี้ยววิญญาณในตำหนักประตูสวรรค์ข้องเกี่ยวกับมหาจักรพรรดิผู้ใช้เคล็ดกายาจริง เช่นนั้นลู่หยวนจะเอาชนะเขาในด้านนั้นได้อย่างไร?!
ชางเหล่าข้องใจอะไรก่อนจะตอบตกลงทันที “ได้!”
ด้านนอกประตูวัง
กลุ่มคนล้อมรอบกวนผิงซื่อ พวกเขาแต่ละคนได้รับมอบหมายภารกิจในการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งของกองกำลังตามดินแดนทั้งหลายภายในสามวัน
ในที่สุดก็มีใครบางคนเอ่ยถาม “ถ้าสมมติว่าการผลัดเปลี่ยนไม่ราบรื่น พวกเราควรจะรับมืออย่างไร?”
ปัญหานี้อยู่ในใจของหลาย ๆ คน การผลัดเปลี่ยนดังกล่าวจะดำเนินการในเวลาเดียวกันและต้องเสร็จสิ้นภายในสามวัน ปัญหาจะเกิดก็คงเป็นเรื่องธรรมดา
กวนผิงซื่อเอ่ยโดยไม่แม้แต่ขยับตา “ฆ่า! หากไปได้ไม่สวยก็ต้องฆ่าจนกว่าจะยอม!”
หัวใจของทุกคนบีบรัดเมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขาทราบดีว่าจะต้องมีกี่คนที่ถูกสังหารภายใต้ประโยคเดียวของกวนผิงซื่อ
ภายในสามวันจะเกิดพายุนองเลือดทั่วแผ่นดินใหญ่!
“ได้!”
ทุกคนตอบรับก่อนจะจากไปทันที แต่ละคนมุ่งหน้าไปทางพื้นที่ที่พวกเขารับผิดชอบ!
กวนผิงซื่อยืนเอามือไพล่หลังขณะในใจเต็มไปด้วยวัสดุบนยันต์เมื่อครู่
ตอนนี้กองกำลังที่อยู่ใต้อาณัติซ่งชิงต่างให้ความร่วมมือกับกวนผิงซื่อเป็นอย่างดี เขาทราบดีว่าคนเหล่านั้นสามารถรวบรวมของที่ระบุไว้บนยันต์ได้ภายในสามวัน!
ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เว้นก็แต่ของชิ้นเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหยกถ่ายวิญญาณ
อาจกล่าวได้ว่าของชิ้นนี้พบได้แต่มิอาจแสวงหา ขอเพียงปรากฏบนแผ่นดินหยวนหง มันก็จะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างร่างขึ้นใหม่!
หยกถ่ายวิญญาณเกือบทั้งหมดในตำหนักประตูสวรรค์ถูกใช้จนหมดแล้ว ส่วนที่เหลือล้วนเป็นของไม่สมบูรณ์
ตามวัสดุที่ต้องใช้ซึ่งระบุไว้ในยันต์ของคุณชาย คนที่สร้างร่างใหม่ในครั้งนี้ไม่อาจมองข้ามได้ แน่นอนว่าหยกถ่ายวิญญาณจะต้องเป็นของดีที่สุด!
ทั่วทั้งแผ่นดินหยวนหง คนที่สามารถรวบรวมหยกถ่ายวิญญาณที่ดีได้คือตระกูลลู่แห่งแดนเหนือกับวังจักรพรรดิแดนมัชฌิม
สถานที่สองแห่งนี้ล้วนไม่ใช่สถานที่ที่จะได้หยกถ่ายวิญญาณมาได้โดยง่าย!
กวนผิงซื่อหรี่ตาเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
ถ้าจำไม่ผิด เมื่อไม่นานมานี้มีผู้มารายงานว่าคนที่ใกล้ชิดกับลู่หยวนมากอยู่ในตระกูลหนึ่งในเมืองชายแดนขนาดเล็กทางทะเลใต้
หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาก็พบว่ามีหยกวิญญาณสวรรค์ซ่อนอยู่ในตระกูลขนาดเล็กนี้!
หยกวิญญาณสวรรค์กับหยกถ่ายวิญญาณย่อมมีความแตกต่างกัน แต่พวกมันต่างมีผลต่อการสร้างร่างกายภาพขึ้นใหม่ ยิ่งกว่านั้น การใช้หยกวิญญาณสวรรค์จะทำให้มีโอกาสเกิดการรู้แจ้งมหาวิถีแห่งฟ้าดิน!
ด้วยเหตุนี้ การใช้หยกวิญญาณสวรรค์แทนหยกถ่ายวิญญาณจึงเป็นเรื่องปกติ!
กวนผิงซื่อครุ่นคิดสักพัก จากนั้นก็นึกชื่อตระกูลขนาดเล็กนี้ขึ้นมาได้
“ทะเลใต้ ตระกูลเซียว…”
“มีคนมา!”
ขณะกวนผิงซื่อออกคำสั่ง เขาก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้น “พี่ผิงซื่อ ท่านมีเรื่องสำคัญจะบอกงั้นหรือ?”
กวนผิงซื่อหันมาก่อนจะพบว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉือเซ่า!
“เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ?”
กวนผิงซื่อถึงกับแย้มยิ้มออกมา “เช่นนั้นจ้าวเยี่ยนก็ยังมีชีวิตเหมือนกันใช่หรือไม่?”
ฉือเซ่าพยักหน้า “แม้สถานการณ์ในตอนนั้นจะวิกฤต แต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าสิ้นหวัง ข้าฉวยโอกาสพาจ้าวเยี่ยนออกมาได้ แต่เขาได้รับบาดเจ็บ จำเป็นต้องการเวลาพักฟื้น”
“ข้ามาที่นี่เพื่อเตรียมขอโทษคุณชาย”
กวนผิงซื่อเอ่ยคำ “คุณชายเก็บตัวอยู่ ดังนั้นอย่าไปรบกวนจะดีกว่า แต่ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสแก้ไขแล้ว เจ้าออกไปทำงานพร้อมกับจ้าวเยี่ยนเป็นไง?”
ใบหน้าของฉือเซ่าเปล่งประกายขึ้นมา เขาติดตามคุณชายในคราวนี้แล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังทำให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยสภาพหงุดหงิดเช่นนั้น
เขาจึงได้แต่สาปส่งตัวเอง!
ตอนนี้เขาได้รับโอกาสที่จะชดใช้ความผิดแล้ว จึงไม่แปลกที่จะกระตือรือร้นเพื่อทำงานให้กับคุณชาย!
ฉือเซ่าประสานมือทำความเคารพทันที “พี่ผิงซื่อโปรดชี้แนะด้วย!”
กวนผิงซื่อพยุงฉือเซ่าขึ้นแล้วเอ่ย “มีเมืองขนาดเล็กแห่งหนึ่งอยู่บริเวณชายแดนทะเลใต้ ซึ่งตระกูลขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในนั้นคือตระกูลเซียว!”
“ภายในสามวัน พวกเราต้องเอาหยกโบราณมาจากตระกูลขนาดเล็กนี้… หยกวิญญาณสวรรค์!”
แม้จะมีตระกูลจำนวนมากอยู่ในทะเลใต้ แต่ความจริงแล้วไม่มีตระกูลขนาดใหญ่ในพื้นที่ชายแดน
ตระกูลเซียวนี้อาจจะเป็นตระกูลขนาดเล็กที่สุด!
งานแค่นี้นับว่าง่ายดาย!
“ได้! ขอบคุณพี่ผิงซื่อ!”
แม้เป็นเรื่องง่ายที่จะไปสถานที่เช่นนี้เพื่อนำหยกกลับมา ใช้เพียงคนเดียวก็เหลือเฟือแล้ว
แต่ฉือเซ่าเข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงอยากให้พาจ้าวเยี่ยนไปด้วย
มันจะกลายเป็นความดีความชอบของพวกเขา ดังนั้นทั้งสองจะได้ไม่ดูแย่ต่อหน้าทุกคนในอีกสามวันข้างหน้า
กวนผิงซื่อแย้มยิ้มแล้วเอ่ย “ไม่ต้องสุภาพก็ได้ ข้าแค่อยากเตือนเจ้าว่าตระกูลเซียวนี้มีคนที่ต้องระวังเอาไว้ เขาคือสมาชิกตระกูลที่เป็นมิตรกับลู่หยวนในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ มีชื่อว่า… เซียวเทียน!”
“ได้!”
ฉือเซ่าตอบตกลงขณะมองไปทางจ้าวเยี่ยน จากนั้นเตรียมที่จะออกเดินทางไปเอาหยกวิญญาณสวรรค์!
กวนผิงซื่อมุ่งหน้าไปทางหนึ่งเพื่อเตรียมจัดการงานที่เหลือ!
…
ในตอนนี้!
แดนเซียน!
ในวังจักรพรรดินีเหยาจี!
จักรพรรดินีเหยาจีนั่งอยู่บนบัลลังก์ เสื้อผ้างดงามล้ำค่าไม่ปลิวไสวไปตามสายลม ทำให้ดูไม่ต่างจากคนเกียจคร้าน นางเอามือข้างหนึ่งกุมหน้าผากขณะคิ้วหลุบต่ำ ไม่ช้าก็เคลื่อนตัวมาอยู่กลางห้องโถง
ห้องโถงใหญ่มีขนาดหลายร้อยลี้ พื้นที่กว้างขวางและได้รับการคุ้มกันโดยองครักษ์ทุกหนแห่ง
บริเวณใจกลางห้องโถงมีผู้หญิงเพียงสองคนกำลังคุกเข่าอยู่
ทั้งสองต่างตัวสั่นเทาและไม่กล้าหายใจแรง ศีรษะของพวกนางแทบจะฝังลงกับพื้น
จักรพรรดินีเหยาจีเอ่ยอย่างเนิบช้า “สรุปก็คือไม่เพียงแต่พวกเจ้าแพ้เท่านั้น แต่ยังเสียกล่องกระบี่ไท่อีไปด้วยงั้นหรือ?”