บทที่ 528 ฟั่นโจวถูกล้อมโจมตี
บทที่ 528 ฟั่นโจวถูกล้อมโจมตี
เมื่อเห็นว่าทั้งเจิ้งชิงเทียนกับอู๋เต้าต่างขานรับ ลู่หยวนก็เริ่มลอบคิดคำนวณอยู่ในใจ
พละกำลังของเศษเสี้ยววิญญาณทั้งสองนี้ไม่ได้อ่อนแอ ดวงหนึ่งมีเส้นชีพจรวิถีคุณธรรม อีกดวงมีอำนาจจักรพรรดิ แม้หลังจากสร้างรูปลักษณ์ขึ้นใหม่แล้ว พวกเขาอาจจะไม่สามารถเติบโตไปสู่พลังที่มากกว่านี้ได้ในทันที
แต่ในโลกนี้ พวกเขายังเป็นตัวตนที่สามารถควบคุมอำนาจได้!
แน่นอนว่าต้องใช้วัสดุที่ดีในการสร้างรูปลักษณ์ขึ้นใหม่!
ฟั่นโจวผู้อยู่ข้างกายเก็บของทั้งหมดที่หยิบขึ้นมา เมื่อเห็นสีหน้าครุ่นคิดของลู่หยวน เขาก็ไม่อาจทราบได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าเข้าไปรบกวน
ในตอนนี้ ทั้งสองอยู่ในซากปรักหักพังแปลกตา!
ลู่หยวนค่อยกลับมามีสติขณะมองไปยังสถานที่ห่างไกล
ฟั่นโจวมองตาของลู่หยวนก่อนจะพบว่าทิศทางดังกล่าวถูกปิดกั้นโดยกำแพงหินทรุดโทรม ทำให้ยากที่จะมองเห็นว่าสิ่งที่อยู่ข้างหลังคืออะไร
“บุตรศักดิ์สิทธิ์?”
ฟั่นโจวตะโกนด้วยความสับสน เขาไม่ทราบว่าการที่ลู่หยวนมองไปทางนั้นมันมีความหมายว่าอย่างไร
ลู่หยวนพลางแย้มยิ้มขณะหันสายตามามองฟั่นโจว จากนั้นจึงก้าวถอยหลังเล็กน้อย
ฟั่นโจวไม่แม้แต่เข้าใจว่าการทำเช่นนี้มีความหมายว่าอย่างไร
ทันใดนั้น กลิ่นอายทรงพลังพลันรวมตัว แล้วพลังนับไม่ถ้วนก็เคลื่อนลงมา!
ตูม!
กำแพงหินขนาดใหญ่ดังกล่าวพังทลายลงมา!
ปราณดาบกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงเข้ามาหาฟั่นโจว!
หัวใจของฟั่นโจวแข็งทื่อ จากนั้นจึงตระหนักได้ว่าต้องทำอะไร เขาพลันหมุนตัวเพื่อหลบเลี่ยงปราณดาบได้อย่างหวุดหวิด!
ตูม!
ปราณดาบเคลื่อนลงสู่พื้น เศษหินระเบิดออก ควันธุลีกระจายไปทั่ว!
ทันทีที่ลู่หยวนยกมือขึ้น ควันธุลีก็สงบลงทันที
กลุ่มคนสามถึงสี่ร่างปรากฏบนพื้นในตอนนี้ แต่ละคนถืออาวุธครบครัน อายุอานามอยู่ประมาณยี่สิบ
แม้ฟั่นโจวจะหลบมาด้านข้างได้ แต่เขาก็ยังอยู่ในสภาพอับอายยิ่ง ใบหน้าขาวซีด เสื้อผ้าบริเวณช่วงเอวถูกปราณดาบเมื่อครู่ฟาดฟัน!
หลังจากประคองร่างกายจนมั่นคงแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นก่อนพบว่าผู้คนเหล่านั้นที่ปรากฏตัวท่ามกลางกลุ่มควันอันเงียบงันช่างดูคุ้นเคยยิ่งนัก!
คนเหล่านี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทายาทของประมุขตระกูลฟั่น!
เมื่อเห็นจิตสังหารบนใบหน้าแต่ละคน ฟั่นโจวก็เข้าใจความตั้งใจของอีกฝ่ายผู้มาที่นี่!
เดิมทีฟั่นโจวไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในตระกูลฟั่น หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพยัคฆ์โลหิต เขาคงไม่มีการบ่มเพาะจนถึงระดับนี้
เป็นเพราะพละกำลังที่เพิ่มขึ้นมหาศาลจึงทำให้ทุกคนในตระกูลให้ความสนใจ ผู้อาวุโสบางส่วนซึ่งเดิมทีไม่พอใจประมุขตระกูล ทว่าพวกเขาไม่อาจทำอะไรได้เนื่องจากไม่มีทายาทแม้แต่คนเดียว
ถึงกระนั้นการปรากฏตัวของฟั่นโจวก็ทำให้พวกเขามองเห็นจุดเปลี่ยน!
ดังนั้น ฟั่นโจวจึงเข้ามาข้องเกี่ยวการเปรียบเทียบภายในตระกูลอยู่หลายครั้ง เขาใช้ชีวิตอยู่บนความคาดหวังขณะแสดงพรสวรรค์กับการบ่มเพาะอันน่าทึ่งออกมา ผ่านไปสักพัก มันก็เกิดความสงสัยว่าทายาทของประมุขตระกูลจะสามารถสืบทอดตำแหน่งดังกล่าวได้หรือไม่
เรื่องนี้ทำให้ประมุขของตระกูลรังเกียจฟั่นโจว!
ตอนนี้พวกเขามาพบกันที่ซากปรักหักพังแล้ว ทายาทของประมุขตระกูลย่อมแผ่จิตสังหารมาทางฟั่นโจว!
ถึงแม้ตระกูลฟั่นจะมีขนาดเล็ก แต่ทายาทของประมุขตระกูลยังคงกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ปัจจุบัน
พวกเขาย่อมทราบถึงตัวตนของลู่หยวนเช่นกัน!
ทันทีที่ลงถึงพื้น พวกเขาต่างประสานมือและคำนับให้ลู่หยวน แม้ตนเองจะแก่กว่าอีกฝ่าย แต่ทุกคนเลือกแสดงท่าทีเคารพในฐานะผู้น้อย
ราวกับว่าพวกเขาวางตัวอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า
“คารวะบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่”
ผู้นำกลุ่มคือลูกชายคนโตของตระกูลฟั่น ฟั่นจี้
หลังจากคารวะลู่หยวนแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยความเคารพ “ข้าขอบังอาจถามบุตรศักดิ์สิทธิ์ หากพวกข้าสังหารฟั่นโจวในวันนี้จะเป็นการรบกวนท่านหรือไม่?”
ฟั่นจี้ถึงกับทราบดีกว่าใคร พวกเขาหมายหัวฟั่นโจวทันทีที่สัมผัสกลิ่นอายของอีกฝ่ายได้ แต่หลังจากทำเช่นนั้น ก็ค้นพบตัวตนของลู่หยวน
ด้วยระดับการบ่มเพาะของลู่หยวน เขาจะไม่รับรู้ถึงการกระทำของอีกฝ่ายได้อย่างไร?
แต่ลู่หยวนไม่ได้หยุดพวกเขา เขาไม่มีความตั้งใจที่จะแทรกแซงด้วยซ้ำ
ฟั่นจี้ยิ่งทำตัวอาจหาญขณะพุ่งตรงเข้ามาพร้อมกับดาบยาวในมือ
ตอนนี้เองที่ลู่หยวนพลันถอยออกมาเช่นกัน ต่อให้ฟั่นจี้โง่แค่ไหนก็เข้าใจความหมายของการกระทำเช่นนี้!
เขาฟาดฟันดาบในมือออกไปทันที!
แม้ฟั่นจี้จะไม่ทราบว่าฟั่นโจวพบบุตรศักดิ์สิทธิ์ตระกูลลู่ได้อย่างไร แต่เขาทราบว่าอีกฝ่ายไม่มีความตั้งใจที่จะปกป้องฟั่นโจวแม้แต่น้อย
ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร!
การที่ฟั่นจี้เอ่ยถามอีกครั้งก็เพื่อแสดงความเคารพ เขาคิดว่าลู่หยวนคงไม่เข้ามาแทรกแซง หาไม่แล้ว อีกฝ่ายคงลงมือทันทีที่เขาโจมตีเมื่อครู่!
ลู่หยวนยืนเอามือไพล่หลังขณะรอยยิ้มปรากฏในดวงตา “เจ้าฆ่าเขาไม่ได้หรอก”
ฟั่นจี้ตกตะลึง ส่วนคนอื่นพากันโค้งตัวต่ำโดยไม่กล้าเอ่ยคำใด
หลังจากฟันฝ่าจนมาถึงที่นี่ พวกเขาจึงทราบทันทีว่าหากทำให้ลู่หยวนไม่พอใจก็จะไม่มีใครรอดชีวิตกลับไปในวันนี้
ชื่อเสียงของราชาแห่งนรกผู้นี้ขจรไปไกลทั่วทั้งแผ่นดินแล้ว!
มีเพียงคนโง่อย่างฟั่นโจวที่รู้จักแต่การฝึกฝนเท่านั้น ที่ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องนี้!
ทันทีที่คำพูดของลู่หยวนหลุดออกจากปาก ขาของฟั่นจี้ก็อ่อนระทวย
ในตอนนี้ เสียงของลู่หยวนยังคงลอยเข้าหู “แต่ถ้าพวกเจ้าอยากใช้กำลังก็สามารถทำได้ทุกวิถีทาง แน่นอนว่าข้าจะไม่ก้าวก่ายแม้แต่น้อย”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของฟั่นจี้ก็ทอประกาย “ขอบคุณบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
คนอื่นต่างพากันคารวะอีกครั้ง
ฟั่นโจวย่อมบังเกิดความหวาดกลัว เขาทราบว่าพวกฟั่นจี้มีเจตนาฆ่า วันนี้ไม่ฆ่าเขา อีกฝ่ายก็ต้องตาย!
หากพยัคฆ์โลหิตยังอยู่ เขายังพออาศัยพลังของอีกฝ่ายเพื่อต่อสู้กับผู้คนได้บางส่วน แต่ตอนนี้ไม่อาจทำได้แล้ว!
ฟั่นโจวเหลือบมองลู่หยวนก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายกำลังยืนเอามือไพล่หลังพลางยกยิ้ม ราวกับกำลังรอรับชมการแสดงอันยอดเยี่ยม!
ฟั่นโจวเข้าใจแล้วว่าหมดโอกาสที่ลู่หยวนจะให้การช่วยเหลือ วันนี้เขาจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเองเท่านั้น
ดวงตาของฟั่นโจวแปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น เขาลุกขึ้นขณะกุมดาบยาวเอาไว้ แล้วลอบคำนวณความเป็นไปได้ที่จะชนะ
ระหว่างที่มีลู่หยวนอยู่ด้วย การเดินทางของเขาราบรื่นและได้รับของดีมามากมาย หากใช้พวกมันร่วมกันก็อาจจะมีโอกาสชนะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย!
ลู่หยวนมองฟั่นโจวขณะแย้มยิ้มอยู่ภายใน สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ทะเลห้วงความคิดลมปราณของอีกฝ่าย
เมื่อพวกฟั่นจี้กำลังจะลงมือ ทะเลห้วงความคิดลมปราณของฟั่นโจวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย!
การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ดึงดูดความสนใจของลู่หยวน
เขาเพียงรู้สึกว่าปราณวิญญาณในทะเลห้วงความคิดลมปราณของฟั่นโจว คล้ายกับกลับตาลปัตร!
หากปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดกับคนอื่น พวกเขาอาจกลายเป็นคนพิการอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ถึงอย่างไร ความผันผวนของทะเลห้วงความคิดลมปราณย่อมส่งผลกับการใช้ปราณวิญญาณ โดยปกติแล้วคนประเภทนี้จะอยู่ในกลุ่มไร้ประโยชน์
แต่ตอนนี้สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับฟั่นโจวผู้ยังมีค่าโชคชะตาเหลืออยู่ห้าพันแต้ม!
เช่นนั้นเขาก็ไม่ใช่กลุ่มไร้ประโยชน์!
จากประสบการณ์การอ่านนวนิยายของลู่หยวน นี่อาจจะเป็นหนึ่งในที่พึ่งสุดท้ายของฟั่นโจว!
ถึงอย่างไรตัวเอกต่างก็เป็นพวกเส้นชีพจรผิดปกติ พรสวรรค์บกพร่องและพวกไร้ค่าอยู่แล้ว แต่เขาสามารถใช้พรสวรรค์บกพร่องเช่นนี้เพื่อก้าวสู่ความรุ่งโรจน์ในแผ่นดินนี้ได้!
ลู่หยวนปล่อยให้พวกฟั่นจี้ลงมือ เพื่อดูว่าทะเลห้วงความคิดลมปราณของฟั่นโจวมีความแตกต่างอย่างไร!