TB:บทที่ 215 โบรกเกอร์เถื่อน
เมื่อเห็นชายทั้งห้าคนรวมถึงเฉินหลงกำลังตรงเข้ามา เมดสาวหน้าตาน่ารักสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูส่งยิ้มหวานพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ยินดีต้อนรับสู่บ้านเผิงไหลค่ะ! นายท่าน!”
เหล่าเมดจะเรียกแขกทุกคนที่มาดื่มที่บาร์ว่า ‘นายท่าน’
หลังจากที่เฉินหลงและคนทั้งสี่เดินเข้าไปในบาร์ พวกเขาก็ได้พบเจอกับผนังที่ถูกตกแต่งด้วยรูปการ์ตูนต่างๆมากมาย
ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวที่แต่งชุดเมดเดินเข้ามาพร้อมกับโค้งตัวให้พวกเขาแล้วพูดด้วยท่าทางน่ารัก “นายท่านกลับมาแล้ว!”
จากนั้นเธอก็พาชายห้าคนไปยังโต๊ะที่ยังว่างอยู่ เธอถามพวกเขาว่า “นายท่าน รับดื่มอะไรดีคะ?”
เฉินหลงสั่งไวน์ให้ทุกคน คนละหนึ่งแก้ว จากนั้นก็ได้เพลิดเพลินกับการเต้นรำของเหล่าเมดในบาร์
บาร์แห่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างบาร์และคาเฟ่ คุณสามารถดื่มและชมการแสดงเมดสาวได้ในเวลาเดียวกัน บาร์แบบนี้เป็นที่นิยมมากในที่นี่ สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ที่มีความกดดันมหาศาลจากการทำงาน พวกเขาชอบมาที่นี่เพื่อคลายเครียด
ในขณะเดียวกัน สถานที่ดังกล่าวก็เป็นสถานที่ปกปิดที่ดีที่สุดเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะระบบอัจฉริยะพบที่ติดต่อที่นี่ เฉินหลงคงไม่คิดว่านี่คือที่ติดต่อของแก๊งซากุระ ถึงแม้ว่าเขาจะเคยมาที่นี่แล้วก็ตาม
ในตอนนี้ ระบบอัจฉริยะยังได้ล็อคคอมพิวเตอร์ที่เครื่องคิดเงิน ที่เป็นครั้งล่าสุดที่มัตสึชิตะติดต่อกับเขา
คนที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นสาวน้อยในชุดเมดหน้าตาน่ารักวัยยี่สิบปี ในตอนที่เธอเห็นว่าเฉินหลงกำลังมองมาทางตัวเองอยู่ หญิงสาวจึงส่งยิ้มเห็นฟันขาวเกลี้ยงเกลาและดวงตากลมที่ได้เปลี่ยนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวให้เฉินหลง รอยยิ้มนี้ให้ความรู้สึกว่าเธอไม่ได้เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ คือมันน่ารักมาก น่ารักฝุดๆไปเลย
ในขณะเดียวกัน หญิงสาวคนหนึ่งได้วิ่งกลับมาดูรอยยิ้มของเธอ
สาวแคชเชียร์ทำหน้าที่ตามปกติ ในตอนที่มีแขกมาเช็คบิล เธอก็จะส่งยิ้มหวานและยื่นเงินให้แขกด้วยความสุภาพ
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ในบาร์ถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม เฉินหลงและคนอื่นๆอีกสี่คนก็ได้ออกจากบาร์ไปพร้อมกับเครื่องติดตาม หลังจากนี้ไม่ว่าหญิงสาวคนนี้จะทำอะไรอยู่ เธอก็จะอยู่ในสายตาของเฉินหลงตลอดเวลา
เวลา 23.00 น. บาร์แห่งนี้ได้ปิดการใช้บริการแล้ว พนักงานต้อนรับของบาร์จึงไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนจากชุดเมดให้กลับมาเป็นชุดปกติ
ในทำนองเดียวกัน สาวแคชเชียร์เองก็ทำการเปลี่ยนชุดเมดที่ตัวเองสวมอยู่เช่นกัน
การเปลี่ยนเสื้อผ้าร่วมกันของเหล่าหญิงสาว เฉินหลงก็ได้ทราบชื่อของหญิงสาวที่เครื่องคิดเงิน เธอมีชื่อว่า มิจิโกะ
หลังจากปิดประตูร้านแล้ว มิจิโกะได้กล่าวลาเพื่อนร่วมงานแล้วเดินออกไปจากที่นี่ตามลำพัง
ในตอนที่เขาเห็นมิจิโกะ เธอดูไม่เปลี่ยนไปเลย เฉินหลงไม่แปลกใจเลยจริงๆว่าทำไมเขาถึงจำคนไม่ผิด
ในตอนที่เขาอยู่ในบาร์เมื้อกี้นี้ เฉินหลงไม่ได้ใช้เครื่องดักจับเพื่ออ่านข้อมูลของหญิงสาว ถ้าเขาได้พบกับเธออีกครั้ง เขาจะใช้เครื่องดักจับเพื่อดูข้อมูลของอีกฝ่าย ชีวิตของธออาจเต็มไปด้วยเรื่องสนุกและเรื่องตื่นเต้นก็ได้ ใครจะไปรู้
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เฉินหลงคิดจะผิดพลาดไปหน่อย จู่ๆเขาก็เห็นมิจิโกะหยุดเดินแล้วเดินวกกลับไปที่ร้าน
‘อย่างกับในละครเลยแฮะ’
มิจิโกะเดินกลับไปที่บาร์และสอดส่องดูรอบๆ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว มิจิโกะก็หยิบกุญแจออกมาไขประตู แล้วเข้าไปข้างในพร้อมกับล็อคประตูจากด้านในบาร์อีกที
ในตอนที่เธอเดินไปจนถึงเครื่องคิดเงินสด มิจิโกะก็เปิดคอมพิวเตอร์ ป้อนตัวเลขและเข้าไปที่อินเทอร์เฟส* ในอินเทอร์เฟสมีข้อความอยู่สองข้อความ หลังจากที่อ่านข้อความทั้งสองข้อความอย่างละเอียดแล้ว มิจิโกะได้เข้าไปที่อินเทอร์เฟสอื่นและส่งทั้งสองข้อความไป
หลังจากนั้น มิจิโกะก็จ้องอยู่ที่หน้าจอคอมเพื่อรอการตอบกลับ
ใช้เวลาไม่นาน มิจิโกะก็ได้รับการตอบรับ ในนั้นส่งมาว่า ต้องทำงานทั้งสองงานให้เสร็จเรียบร้อยจึงจะได้รับค่าตอบแทน
หลังจากได้รับการตอบกลับ มิจิโกะก็ส่งข้อความตอบอีกฝ่าย จากนั้นก็ส่งกลับไปให้คนที่สั่งงานนั้น แต่ค่าตอบแทนที่เธอจะได้รับสูงแค่ 10% ซึ่งเป็นค่าตอบแทนที่เธอได้รับในฐานะตัวกลาง อย่างไรก็ตามในฐานะตัวกลาง เธอสามารถลดความเสี่ยงของทั้งสองฝ่ายได้ แต่เธอหาคำตอบได้ง่าย ดังนั้น 10% จึงเป็นราคาที่เหมาะสมมาก
บาร์แห่งนี้เป็นของคนที่รักในหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ แต่จริงๆแล้ว มิจิโกะต่างหากเป็นเจ้าของ จริงๆแล้วเจ้าของในนามคนนั้นเป็นเพื่อนของมิจิโกะ ในฐานะแคชเชียร์ มิจิโกะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ทุกวัน นับว่าเป็นการปกปิดข้อมูลได้ดีมาก และที่นี่คือเมดบาร์ ใครจะไปคิดล่ะว่าเมดแคชเชียร์คนนี้จะเป็นถึงโบรกเกอร์เถื่อน
หลังจากที่ได้รับเงิน มิจิโกะก็ระบายยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
หลังจากปิดคอมพิวเตอร์ มิจิโกะก็เปิดประตูร้านและเตรียมตัวจากไปจากที่นี่ แต่ในตอนที่เธอเปิดประตูออกมาจากร้าน เธอก็ได้พบกับเฉินหลงและคนอื่นๆอีกสี่คน เธอถึงกับอึ้ง ขมวดคิ้วขึ้นและแสดงสีหน้าตกใจออกมา “คุณลูกค้าคะ ตอนนี้ร้านของเราปิดแล้วค่ะ ถ้าคุณต้องการมาดื่มที่นี่ รบกวนรอร้านเปิดพรุ่งนี้นะคะ”
หลังจากนั้นเธอก็ทำการล็อคประตู
เธอจำได้ว่าเฉินหลงเคยมาที่ร้านเธอก่อนหน้านี แต่ตอนนี้ ทำไมจู่ๆเขาถึงได้มาปรากฏตัวอยู่หน้าร้านได้ล่ะ? ในใจของมิจิโกะรู้สึกถึงรางร้าย
“เรื่องนั้น ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่ได้จะมาดื่ม พวกเรามาหาคุณครับ” เฉินหลงตอบกลับเป็นภาษาจีนด้วยรอยยิ้ม
น่าเสียดายที่มิจิโกะเข้าใจภาษาจีน แถมยังรู้ด้วยว่าเฉินหลงหมายถึงอะไร แต่เธอก็ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ แล้วตอบเขาเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “เอ๋? ซุมิมาเซน** ฉันไม่เข้าใจภาษาจีนค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อรู้ว่าเฉินหลงกำลังตามหาตัวเองอยู่ มิจิโกะก็เตรียมชิ่ง!
ในตอนที่หนุ่มจีนคนนี้มาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ มิจิโกะจะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาเพื่อแสดงความรักของตัวเอง ความเป็นไปได้หนึ่งเดียวที่เธอคิดออกคือ อีกฝ่ายรู้ว่าเธอเป็นโบรกเกอร์เถื่อน!
“ผมรู้ว่าคุณเข้าใจ ไม่ใช่ว่าคุณเป็นตัวกลางของแก๊งซากุระเหรอครับ หาเงินแบบนี้ง่ายเกินไปรึป่าวเนี่ย?” ในสายตาของเฉินหลง เธอไม่สามารถปิดบังเฉินหลงได้เลย
ในเมื่อเฉินหลงรู้แล้ว เธอก็จะไม่ปิดบังมันอีกต่อไป เปิดประตูเข้าไปคุยกันในร้าน เธอได้พูดกับเฉินหลงเป็นภาษาจีนอย่างตรงไปตรงมาและคล่องแคล่ว “คุณเป็นใคร? แล้วทำไมคุณถึงรู้ตัวตนของฉันได้?”
ในเวลานี้ รอยยิ้มหวานๆที่เคยประดับอยู่บนใบหน้าของมิจิโกะได้หายไปแล้วเรียบร้อย
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผมเป็นใครหรอก แค่บอกผมมาว่าแก๊งซากุระอยู่ที่ไหนก็พอ พวกเราจะจากไปดีๆ แล้วคุณก็จะได้เป็นโบรกเกอร์เถื่อนได้อย่างสบายใจต่อไปครับ” เฉินหลงคลี่ยิ้มบางๆให้อีกฝ่าย
มิจิโกะเป็นแค่คนธรรมดา เฉินหลงจึงไม่ได้สนใจเธอเป็นพิเศษ
“ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ฉันเป็นแค่ตัวกลาง ฉันไม่รู้ว่าแก๊งซากุระอยู่ที่ไหน…” มิจิโกะตอบด้วยรอยยิ้มหวานๆที่กลับมาประดับบนใบหน้าอีกครั้ง
“แน่ใจนะ? อ้อ ผมลืมบอกคุณไปอย่างหนึ่ง ผมมีความสามารถพิเศษนะ ผมสามารถบอกได้ว่าสิ่งที่คนอื่นพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือว่าเรื่องโกหก ตอนนี้ผมรู้สึกหนักใจนิดหน่อย เพราะไม่มีใครโกหกผมได้ อีกอย่างคือผมไม่ชอบให้คนอื่นมาโกหกซะด้วยสิ… ” เฉินหลงจ้องมองมิจิโกะไม่วางตา
*Interface (อินเตอร์เฟส) คือตัวประสาน ซึ่งหมายถึง การเชื่อมต่อกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเตรื่องคอมพิวเตอร์ สามารถถ่ายโอนข้อมูลซึ่งกันและกันได้
**すみません (สุมิมาเซน) แปลว่า ขอโทษ ในที่นี่ประมาณว่า sorry excuse me?