ตอนที่ 664 : คนแรก
ลมพัดเข้ามาในโรงแรม โจวอวิ๋นโดนหวังเย่าจับเอาไว้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว
“อ๊า…” โจวอวิ๋นร้องออกมา
หวังเย่าโคจรพลังภายในให้กระจายออกมาโดยรอบ ซึ่งทำให้ไฟนั้นสว่างขึ้นกว่าเก่า
เฟิงและคนอื่น ๆ ไม่อาจจะทนรับพลังของหวังเย่าได้ จนต้องถอยกลับไปและมองดูฉากตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
“ผ่อนคลายก่อน ! ”
มือของหวังเย่าขยับไปมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสื้อของโจวอวิ๋นที่ถูกถอดออก
เมื่อโดนมือของหวังเย่าจับเอาไว้ เขาก็ราวกับตุ๊กตาที่ทำได้แค่หันไปมาตามที่หวังเย่าบังคับ
เขาไม่อาจจะดิ้นรนได้เลยแม้แต่น้อยภายใต้กำมือของหวังเย่า
ด้วยพลังภายในของหวังเย่าที่เข้ามาในตัว หลังจากผ่านไปสักพัก เส้นเลือดที่ตีบตันของโจวอวิ๋นก็ถูกเปิดออกในพริบตา ร่างกายของเขากลับรู้สึกอุ่นและผ่อนคลายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากที่ปรับสภาพร่างกายของโจวอวิ๋นให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดแล้ว หวังเย่าก็โยนโจวอวิ๋นขึ้นไปบนอากาศ ในตอนที่ โจวอวิ๋นเริ่มร่วงลงมา เขาก็ได้สร้างค่ายกลขึ้นมาที่ใต้ตัวของโจวอวิ๋น
ภายใต้การจับตาดูของทุกคน มันเห็นได้ว่าค่ายกลนั้นส่องแสงออกมา ภายใต้แสงนั้นราวกับสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นไปมาและกำลังหมุนวนไปกับค่ายกล
หลังจากนั้นสักพักการหมุนของค่ายกลก็เริ่มช้าลง ก่อนที่ประตูมิติจะเปิดออก มันเผยให้เห็นมิติก่อตัวของวิญญาณสัตว์อสูร
ก่อนที่พวกเขาจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็เห็นว่ามืออีกข้างของหวังเย่ากลับส่องแสงออกมาก่อนจะหายไปในประตูมิตินั้น
หวังเย่ายกมือทั้งสองขึ้นพร้อมกับประตูมิติที่ปิดตัวลง ที่ค่ายกลนั้นมีพลังลึกลับก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับพลังจากตัวของหวังเย่าที่ถ่ายเทเข้าไปในตัวของโจวอวิ๋น
เฟิงมองดูค่ายกลนั้นและพบว่ามันราวกับรากของต้นไม้ หวังเย่าคือลำต้น ส่วนโจวอวิ๋นนั้นคือผลของต้นนี้
ค่ายกลให้พลังชีวิตกับหวังเย่าอย่างต่อเนื่อง จากนั้นมันก็อาศัยหวังเย่าเป็นตัวกลางเพื่อให้พลังกับตัวโจวอวิ๋นต่อ
ไม่นานตัวของโจวอวิ๋นกลับหดลง เขาราวกับแมลงในรังไหมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง
กรร…
อสูรฟองน้ำได้คำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด เส้นเลือดของมันได้หลอมรวมเข้ากับเส้นเลือดของโจวอวิ๋นอย่างสมบูรณ์ วิญญาณของมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโจวอวิ๋น มันเกิดการเชื่อมต่อระหว่างทั้งสองขึ้น
กรร…
ภายใต้เสียงฟ้าร้องที่ดังก้องนี้ พวกเขาไม่น่าจะได้ยินเสียงคำรามของสัตว์อสูร
แต่เสียงคำรามของสัตว์อสูรกลับดังขึ้นมาในหูของเฟิงและคนอื่น ๆ ในที่นั้นอย่างชัดเจน มันทำให้พวกเขากลัวอย่างมากหลังจากที่ได้ยินมัน
“สัตว์อสูรนี่ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกของสัตว์อสูร ! ” อันตงจ๋ามองโจวอวิ๋นด้วยสีหน้าตกตะลึงก่อนจะมองไปที่เฟิง
“แกร่งจริง ๆ วิญญาณสัตว์อสูรนี่น่าจะเป็นสัตว์อสูรที่เพิ่งเกิด มันยังไม่ได้รับการพัฒนา ด้วยวิญญาณนี้ อนาคตของ โจวอวิ๋นจะไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน ! ” เฟิงพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ลัวจ้าวฮวายกนิ้วโป้งขึ้นมา “ ฉันเองก็อยากได้วิญญาณแบบนี้บ้าง”
เฟิงโบกมือและยิ้มออกมา “ไม่รู้ว่าสัตว์อสูรนี่จะมีสกิลแบบไหน นายอยากได้จริง ๆ หรือ ? ”
“สกิลอะไรก็ช่าง ตราบใดที่หวังเย่าเลือกมาให้ งั้นแน่นอนว่ามันต้องเป็นของที่ดี ! ” ลัวจ้าวฮวาพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ผนึก ! ” หวังเย่าตะโกนออกมาพร้อมกับค่ายกลที่เท้าของเขาก็หายไป จากนั้นก็พบว่าโจอวิ๋นนั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้น
โจวอวิ๋นที่แต่เดิมตัวผอมแห้งแต่ตอนนี้กลับดูแข็งแรงขึ้นอย่างมาก ไหล่ของเขากว้างขึ้นหลังจากที่หลอมรวมกับวิญญาณสัตว์อสูร
หลังของเขามีลาย 3 อันปรากฏขึ้นมา มันราวกับมังกรที่กำลังจะเชื่อมต่อกัน
เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็ได้ใช้นิ้วทั้งสองสลักลวดลายผนึกลงไปที่หลังของโจวอวิ๋น
แสงสีแดงได้ส่องประกายออกมา ไม่นานลวดลายทั้งสามก็ได้ทำการเชื่อมต่อกัน
หวังเย่าปรับลมหายใจและดึงมือกลับออกมา จากนั้นเขาก็มองไปที่ลอยตรงหลังของโจวอวิ๋น ก่อนจะพยักหน้าออกมาด้วยความพอใจ
การผนึกวิญญาณสัตว์อสูรครั้งแรกกลับไม่ได้กดดันและง่ายดาย !
เฟิงพูดเกินจริงไป จนทำให้เขาแทบใจอ่อน !
“เรียบร้อยแล้วหรือ ? ” ลัวจ้าวฮวาวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น
“โจวอวิ๋น นายรู้สึกยังไงบ้าง…” ลัวจ้าวฮวาวิ่งเข้าไปหาโจวอวิ๋น แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักไปราวกับเจอฉากที่น่ากลัวเข้า
เพราะตัวของโจวอวิ๋นเต็มไปด้วยจุดสีดำ ตัวของเขาราวกับรังผึ้ง มันทำให้ผู้คนที่เห็นเขาต่างก็พากันขนลุกและขยะแขยง
“นี่….” ลัวจ้าวฮวาชี้ไปที่โจวอวิ๋นด้วยมือที่สั่นก่อนจะพูดขึ้นมา “พี่เย่า…ผนึกมัน…มีปัญหารึเปล่า ? ”
ทุกคนเมื่อเห็นท่าทีของลัวจ้าวฮวา จึงพากันวิ่งไปหาโจวอวิ๋น เมื่อเห็นสภาพของโจวอวิ๋น ทุกคนต่างก็พากันแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา
“พวกนายเป็นอะไร ? ” โจวอวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย
เฟิงมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น “หวังเย่า….มีอะไรผิดปกติรึเปล่า ? ”
“หือ ? ” โจวอวิ๋นแสดงสีหน้าสงสัยออกมาและมองไปที่ทุกคน เขาไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแบบนี้ออกมา
เขายกมือขึ้น ก่อนจะมองที่มือตัวเองและกรีดร้องออกมา จากนั้นเขาก็ลูบตัวของตัวเองด้วยท่าทีกลัว
โจวอวิ๋นเงียบไปทันที สุดท้ายเขาก็รู้แล้วว่าทำไมพวกนี้ถึงได้แสดงท่าทีช็อกแบบนี้ ถ้าเขาเห็นตัวเองแต่แรก เขาจะยอมรับได้รึเปล่า ?
หลังจากที่เงียบได้สักพัก โจวอวิ๋นก็ยิ้มออกมาและมองไปที่หวังเย่า “อาเย่า ฉันรบกวนนายจริง ๆ ”
หวังเย่ามองไปที่โจวอวิ๋น “นายไม่โทษฉันรึไงที่ทำให้นายกลายเป็นสภาพนี้ ? ”
โจวอวิ๋นส่ายหน้า “เมื่อฉันเลือกที่จะเชื่อนาย ฉันก็ไม่รู้สึกผิด…มันจะมีของดีที่ไม่มีข้อเสียได้ยังไง ฉันไม่ได้ใสซื่อแบบนั้นซะหน่อย” เมื่อพูดจบโจวอวิ๋นก็ยิ้มให้กับหวังเย่า
เมื่อเห็นว่าเพื่อนเขายิ้มออกมา หวังเย่าก็พยักหน้าด้วยความโล่งอก “แต่ฉันอยากบอกนายว่านี่คือโชคที่แท้จริง…ฉันอยากให้ของที่ดีที่สุดกับเพื่อน ฉันไม่หาของที่มันแย่ให้กับนายหรอก”
เมื่อพูดจบหวังเย่าก็กดมือลงไปที่หัวของโจวอวิ๋น จากนั้นเขาก็หลับตาลงและเริ่มเปิดใช้งานระบบ
เขาเข้าสู่ฟังก์ชันเก็บของและเลือกที่จะใช้งานผลสมองราชาภูติและแม่เหล็กเลือด
เตือน : ใช้ผลสมองราชาภูติและแม่เหล็กเลือดสำหรับเพิ่มเลเวลให้วิญญาณสัตว์อสูร ?
หวังเย่าไม่ลังเลที่จะยืนยัน
ในพริบตามือของหวังเย่าก็มีแสงส่องสว่างออกมา แสงนี้ได้กลืนกินทั้งบ้านไป
เฟิงและคนอื่น ๆ ถึงกับต้องพากันยกมือขึ้นมาปิดตาเอาไว้
หลังจากนั้นสักพักแสงก็รวมตัวเป็นพลังงานและได้เข้าไปในตัวของโจวอวิ๋น
เลเวลของอสูรฟองน้ำเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันถึงกับเกิดภาพของอสูรฟองน้ำขึ้นมาที่ด้านหลังของโจวอวิ๋นด้วย
เงาของปลาปีศาจได้โผล่มาในบ้าน มันว่ายไปมาในลำแสงนั้น
คลื่นพลังของมันเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โจวอวิ๋นรู้สึกว่าแขนขาของตัวเองราวกับดอกไม้ไฟที่แตกออก ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
70, 80, ….
เลเวลของอสูรฟองน้ำเพิ่มขึ้นอย่างกับติดจรวด ไม่นานมันก็ขึ้นไปถึงเลเวล 90 สัตว์อสูรทั่วไปไม่อาจจะเพิ่มเลเวลขึ้นเร็วแบบนี้ได้ แต่วิญญาณสัตว์อสูรของโจวอวิ๋นนั้นกลับทำได้ในเวลาไม่ถึง 30 วินาที !
เลเวลของมันยังไม่หยุดจนกระทั่งขึ้นไปหยุดที่ 119
โจวอวิ๋นนั่งลงกับพื้นและถอนหายใจออกมา เขาไม่เคยรู้สึกเลยว่าเขาแข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน