ตอนที่ 606 : ไฟกับไฟ
“ หวังเย่า!”
เมื่อเห็นแผ่นหลังที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า โอพีเลียและเจนกิ้นก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที
หวังเย่ามาแล้ว พวกเขารอดแล้ว !
หวังเย่าใช้มือขวารับมือกับลูกไฟเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย เขาออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถรับมือลูกไฟนี้ได้
ลูกไฟที่เหมือนกับดวงอาทิตย์ลอยอยู่ตรงหน้าของหวังเย่า แต่เมื่อเทียบกับลูกไฟนี้แล้วตัวของเขาไม่ต่างอะไรจากมดเลย แต่ทว่าตัวตนเล็ก ๆ นี่กลับมีพลังแทบไม่จำกัด !
เมื่อเห็นว่าลูกไฟที่เขาโยนออกไปถูกรับเอาไว้ได้ ดิ๊คก็ใจสั่นขึ้นมาทันที
แต่เมื่อมองดูอีกครั้ง เขาก็ต้องช็อก
“แกนี่เอง ! หวังเย่า ! ” ดิ๊คกัดฟันแน่นและตะโกนออกมา
“ทำไมแกถึงรับลูกไฟฉันเอาไว้ได้ แกได้หินกฎไฟมารึไง ? ” พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลยจริง ๆ ของดี ๆ ทั้งหมด หวังเย่ากลับได้ไป !
ครืน….
ลูกไฟในมือของหวังเย่าหมุนวนไปมา เขาได้ทำการถ่ายพลังเข้าไปเพิ่มทำให้มันมีพลังมากขึ้น !
ลูกไฟในมือเริ่มใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า พลังของมันมากกว่าเดิม ความร้อนนั้นถึงกับทำให้เจนกิ้นและโอพีเลีย อดไม่ได้ที่จะถอยไป
ไป !
ลูกไฟหยินหยางถูกโยนออกมา
ดิ๊คแสดงท่าทีเยาะเย้ยออกมา “แกคิดจะเล่นกับไฟ แกคิดว่าแกจะทำร้ายฉันได้รึไง ? ”
เมื่อเห็นลูกไฟถูกโยนออกมา ดิ๊คก็ได้ยื่นมือขวาพยายามรับมือกับลูกไฟแบบที่หวังเย่าทำ แต่ตอนที่ลูกไฟอยู่ห่างออกไป 5-10 เมตรนั้น เขาก็พบว่าไฟนี่มันต่างจากไฟของเขาอย่างมาก
ฟรืด…
ทำไมมันร้อนได้แบบนี้ ?
ความสามารถในการควบคุมไฟก็มีเหมือนกัน เขาไม่น่าจะรู้สึกร้อนได้ขนาดนี้ไม่ใช่หรือไง
ในใจเขาเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา เพื่อความปลอดภัย ดิ๊คจึงได้ยื่นมือทั้งสองออกไปพยายายามรับมือกับลูกไฟนี้ไว้
แต่…ไฟนั่นกลับระเบิดออกตอนที่ปะทะกับตัวเขา มันได้กลืนกินเขากับสตาร์ดรีมไปทันที
ครืน…
อ๊า…
ดิ๊คอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา สตาร์ดรีมต้องรีบถอยกลับมาและดึงดิ๊คหนีออกมาจากระเบิดไฟนี้ด้วย
ดิ๊คใจสั่น เขาอยู่ในเปลวไฟแค่ 5 วินาทีแต่ผมและคิ้วของเขาถึงกับไหม้
ผิวของเขากลายเป็นสีดำ ผิวหนังรอบ ๆ โดนเผาจนเขาแสบร้อนตามตัวไปหมด
ตาของเขากระตุกพร้อมกับขนทั้งตัวที่ลุกขึ้นมา “รึว่า…หวังเย่าได้หินกฎไฟที่ระดับสูงกว่าฉัน ? ”
ตระกูลมูหลางหลอกเขา ชัดแล้วว่ามันมีหินกฎไฟระดับสูงกว่าอยู่ แต่เขากลับได้แต่หินกฎไฟระดับ 100 มา !
ยิ่งคิดเท่าไหร่เขาก็ยิ่งหงุดหงิดเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าหวังเย่ายังแสดงท่าทีสบาย ๆ ความเย่อหยิ่งที่เขาแสดงออกมาในตอนแรกได้หายไปทันที
“มันตายไปแล้วไม่ใช่รึไง ? ทำไมมันถึงรอดกลับมาได้ ! ”
“หวังเย่า…ทำไมแกยังไม่ตาย ! ” ดิ๊คตะโกนออกมา
หวังเย่ายิ้มออกมา “สำหรับแกแล้ว คนอื่นต้องทำตามคำสั่งแก ถ้าใครขัดใจแกก็คงต้องตายสินะ ? ”
“เมื่อฉันเกิดขึ้นมาในโลกนี้ งั้นก็ไม่ควรมีแกอยู่ ตัวตนของแกคือบาป ! ” ดี๊คตะโกนขึ้น
หวังเย่าลูบจมูกแล้วพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าบุตรแห่งสวรรค์อย่างแกจะมั่นใจตัวเองเกินไปนะ ! ”
“วันนี้แกต้องตาย ! ” ดิ๊คมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าโกรธแค้น เขากัดฟันแน่นแล้วตะโกนออกมา
“นี่แหละที่ฉันอยากจะบอกแก ! ” หวังเย่ามองไปที่ดิ๊คด้วยสายตาอาฆาต
“ฆ่ามัน ! ” ดิ๊คสั่งการพร้อมกับสตาร์ดรีมที่ยกกระบองขึ้นพุ่งเข้าใส่หวังเย่าทันที
ลำแสงก่อตัวขึ้นในมิติและสาดเข้ามาราวกับฝนตก สตาร์ดรีมได้กระโดดไปมาในลำแสงนั้นพร้อมกระบองที่คอยฟาดเข้าใส่หวังเย่า
หวังเย่ายิ้ม ก่อนจะเรียกเอไนน์ออกมา
เอไนน์ไปยืนอยู่ที่ด้านหลังของหวังเย่าและประกบมือเข้าด้วยกันพร้อมกับมีค่ายกลเก่าแก่ปรากฏขึ้นมาที่ใต้เท้าของเธอ
ปราการปฐพี !
มันมีรั้วหนามก่อตัวขึ้น ความสามารถของมันหากใช้กับเพื่อนร่วมทีมคือหากเพื่อนร่วมทีมได้รับบาดเจ็บ มันจะเร่งความเร็วในการฟื้นฟู
แต่ตอนนั้นหวังเย่ายังสบายดีอยู่ ค่ายกลนี้จึงถูกใช้กับฝ่ายตรงข้ามแทน
หน่วง !
สตาร์ดรีมเริ่มช้าลงมาทันที มันราวกับว่ามันวิ่งผ่านน้ำอยู่ เท้าของมันราวกับติดอยู่กับโคลน ความเร็วที่เหมือนกับสายฟ้าในตอนแรก ตอนนี้กลับโดนหวังเย่าตามทันได้อย่างง่ายดาย
โล่ผู้พิทักษ์ !
เพิ่มโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีม สามารถรับการโจมตีได้ โล่ลดความเสียหายลง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ความเสียหายจากธาตุมืดจะเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์
ตรงหน้าของหวังเย่ามีโล่สามเหลี่ยมปรากฏขึ้น โล่นี้ส่องประกายแสงสีเงินออกมา
ลำแสงได้พุ่งเข้าอัดกับโล่ แต่ไม่อาจจะทำอะไรหวังเย่าได้เลย
หวังเย่าเหมือนกับเดินอยู่กลางสายฝน แต่ฝนเม็ดเล็ก ๆ นี้ไม่อาจจะทำให้เขาเปียกได้แม้แต่น้อย
เอไนน์ได้สกิลใหม่มา มันคือสกิลที่รับมือกับสตาร์ดรีมได้เป็นอย่างดี !
กระบองทั้งสองของสตาร์ดรีมได้ฟาดเข้าใส่หวังเย่า แต่เขากลับใช้โล่ป้องกันเอาไว้ได้
หวังเย่ามองไปที่สัตว์อสูรตรงหน้าแล้วยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าแกจะแกร่งอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เท่าไหร่ ! ”
ในตอนที่พูดนั้น หวังเย่าก็ได้ยกหมัดซ้ายขึ้นมาพร้อมกับโคจรพลังภายในก่อนจะต่อยออกไป
ร่างของฉลามดำปรากฏขึ้นมาที่ด้านหลังของหวังเย่าพร้อมหมัดที่ต่อยเข้าใส่สตาร์ดรีม
หมัดได้ต่อยเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายทันที พร้อมกับเกราะของมันที่แตกออก มันได้กระเด็นออกไปก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา
หวังเย่าปิดการทำงานของโล่และหันไปหาดิ๊คพร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ย
จากนั้นเขาก็เอามือไขว้หลังแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
“แก…แกมันไม่ใช่คนแล้ว !” ดิ๊คแทบพูดอะไรไม่ออก เขาคิดเสมอว่าเขากับหวังเย่านั้นแกร่งพอ ๆ กัน
โดยเฉพาะหลังจากที่ได้หินกฎไฟระดับ 100 มา เขาก็ยิ่งมั่นใจและรู้สึกว่าในดาวทมิฬนี้ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
แต่ความจริงที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับตบหน้าเขาจนเขารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า !
“แน่นอนว่าฉันน่ะเป็นคน แต่แกต่างหากที่กำลังจะกลายเป็นศพ ! ”
“ไม่ …ฉันไม่ตาย แกไม่มีทางฆ่าฉันได้ ! ”
ดิ๊คหันกลับและตะโกนบอกกับสตาร์ดรีม “ยื้อมันไว้ ถึงแกจะต้องตายแต่ก็อย่าให้มันไล่ตามฉันทัน ! ”
ดิ๊คสั่งการออกมาอย่างเลือดเย็นเขาไม่ได้หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของดิ๊คแล้ว สตาร์ดรีมเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น
“ได้ ! ” สตาร์ดรีมเช็ดเลือดที่มุมปากและเข้าไปขวางทางหวังเย่าเอาไว้
ไกลออกไป โอพีเลียและเจนกิ้นต่างก็อึ้ง ทั้งสองพากันมองสตาร์ดรีมด้วยความสงสาร “โชคร้ายจริง ๆ ที่เขาไปเป็นสัตว์อสูรของคนแบบนั้น ”
หวังเย่าหรี่ตาลงและถามขึ้นมา “แกแน่ใจหรือว่าจะสู้จนตัวตายเพื่อเจ้านายแบบนี้ ? ”
สตาร์ดรีมยิ้มออกมา “บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ข้าอยากทำ ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่ายั้งมือกับข้า ข้าก็จะไม่ยั้งมือกับเจ้าเช่นกัน”
หวังเย่าพยักหน้าและดึงเอาดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมา “ถ้าอย่างนั้นฉันหวังว่าชีวิตข้างหน้าของนายจะได้เจอกับเจ้านายที่ดี”
ฟรืบ !
ทั้งสองหายตัวไปแต่ในพริบตา และในตอนที่ปรากฏตัวออกมานั้นดาบในมือของหวังเย่าก็ได้แทงเข้าไปในหัวใจของ สตาร์ดรีมแล้ว
สตาร์ดรีมได้แต่ยิ้มออกมาก่อนที่จะคลายมือออกพร้อมกับกระบองที่หลุดออกจากมือ
“ขอบคุณ หวังเย่า” สตาร์ดรีมยิ้มออกมาอย่างพอใจ สุดท้ายร่างกายของเขาก็แตกออกกลายเป็นจุดแสงแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“หวังเย่า ดีจริง ๆ ที่นายรอดมาได้” โอพีเลียพูดขึ้น
“เธอคิดว่านายตายไปแล้ว เธอน่ะร้องไห้หนักมาก มันทำให้ฉันคิดว่าพวกนายสองคนเป็นคนรักกัน ฮ่าฮ่า…” เจนกิ้น พูดขึ้นมาพร้อมมือที่กุมท้องอยู่
“เจนกิ้น นายไม่ต้องพูดเรื่องนี้ก็ได้ไม่ใช่รึไง ? ” โอพีเลียพูดขึ้นมา
“นี่หญ้าฟื้นฟูที่ฉันเก็บมาได้ นายกินมันสิ”
หวังเย่าเอาหญ้าออกมาจากแหวนมิติแล้วส่งให้กับเจนกิ้นและโอพีเลีย
ทั้งสองรับหญ้านั้นไปก่อนจะไปนั่งที่อุกกาบาตแล้วเริ่มฟื้นฟูตัวเอง
“ดิ๊คน่าจะหนีไปที่สถานี พวกนายรักษาตัวอยู่ที่นี่ก่อน ฉันจะไปฆ่ามัน ! ”
ทั้งสองพยักหน้าตอบรับและได้แต่มองหวังเย่าที่เดินทางออกไป