ตอนที่ 604 : ฆ่าดิ๊ค
เจนกิ้นและโอพีเลียได้ไปหยุดในส่วนที่ไม่ห่างจากสถานีมากนัก
ทั้งสองคนได้ตรวจสอบพิกัดและพบว่าพื้นที่นี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในในแผนที่
งั้น…มันก็เป็นไปได้แค่อย่างเดียว !
พื้นที่นี้คือพื้นที่ที่ดีที่สุดที่ตระกูลมูหลางเตรียมไว้ให้กับดิ๊คในการหาแร่แม่เหล็ก
เจนกิ้นและโอพีเลียมองหน้ากัน “น่าจะเป็นที่นี่แหละ ! ”
โอพีเลียพูดขึ้น “เราต่างก็ได้รับบาดเจ็บหนักมา คงเข้าไปในหนวดนั้นไม่ได้อีกแล้ว เราต้องซุ่มรออยู่ข้างนอก”
เจนกิ้นคิ้วขมวด “เธอคิดจะลงมือข้างนอกนี้เลยงั้นหรือ ? ”
“ถูกต้อง”
“สัตว์อสูรของเธอน่ะสร้างกับดักขึ้นมาจัดการกับเขาได้รึเปล่า ? ” ยังไงซะนี่ก็เป็นมิติภายนอก สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นจะอ่อนแอลงอย่างมาก เจนกิ้นจึงถามขึ้นมาด้วยความกังวล
“เชื่อฉันเถอะ ถ้าฉันไม่มั่นใจ ฉันไม่ทำหรอก”
“งั้นก็เก็บแรงเอาไว้ ” เจนกิ้นพูดขึ้น
โอพีเลียพยักหน้าก่อนจะเรียกสัตว์อสูรของเธอออกมา ภายใต้คำสั่งของโอพีเลีย สัตว์อสูรของเธอก็ได้บินไปยังหนวดทันที
รากของมันฝังลงไปในผนังของหนวดพร้อมกับเกาะที่นั่นเอาไว้
มันได้เปล่งแสงสีเขียวออกมา ก่อนจะดูดซับพลังงานอย่างบ้าคลั่งและเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบไม้จำนวนมากที่งอกออกมา
รากของมันลามออกไปไต่ทั่วทั้งหนวด
สุดท้ายพุ่มไม้ของมันก็หนาขึ้นราวกับที่นั่นกลายเป็นป่า
“มีรากเยอะแบบนี้ก็ดี ทันทีที่ดิ๊คมาที่นี่ เขาคงไม่อาจจะมองเห็นเราได้”
โอพีเลียยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “ดิ๊คกับโดมินิคสู้กันมานาน ฉันไม่คิดว่าสัตว์อสูรของดิ๊คจะเป็นภัยต่อฉันมากนัก ยังไงซะต้นไม้ของฉันก็มีพลังแสงให้ใช้งาน ดังนั้นนายไม่ต้องเป็นห่วงฉัน นายเข้าโจมตีดิ๊คได้เลย มาแก้แค้นให้หวังเย่ากัน ! ”
“ได้ ! ”
ทั้งสองคนพากันวางแผนก่อนที่จะไปซ่อนตัว
….
10 นาทีต่อมา ดิ๊คก็มาถึงที่นั่น
ไกลออกไปเขาก็เห็นหนวดที่สั่นไหวไปมาพร้อมกับเถาวัลย์จำนวนมากที่เกาะหนวดอยู่
เขาลังเลไปชั่วครู่ ก่อนจะเปิดแผนที่ออกดูและยืนยันว่าที่นี่คือที่ที่ตระกูลมูหลางเตรียมให้กับเขาจริง ๆ
“แปลกที่มีต้นไม้อยู่ที่นี่ด้วย” ดิ๊คพึมพำออกมา
เขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แต่เขาก็สลัดความกังวลทิ้งไป ยังไงซะหนวดที่นี่ก็มีแร่แม่เหล็กจำนวนมาก จึงเป็นธรรมดาที่จะมีต้นไม้กาฝากโผล่มาที่นี่เพื่อดูดซับพลังงาน
ดิ๊คเริ่มทำการเดินเครื่องเพื่อมุ่งหน้าไปที่ป่านั่น เขาเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ใจเขากลับสั่นขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อมกับตาที่กระตุกไปด้วย
เขาดึงเอาดาบออกมาและลดความเร็วลง
แต่ด้านหลังของเขานั้นเถาวัลย์กลับค่อย ๆ เข้าใกล้เขามาเรื่อย ๆ ราวกับมือเล็ก ๆ ที่กำลังจะจับตัวเขาเอาไว้
แกร๊ก..
เสียงเถาวัลย์เสียดสีกันดังขึ้น !
“โจมตี ! ”
โอพีเลียกำหมัดแน่นพร้อมกับเถาวัลย์นับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้าโจมตี
ตอนนั้นดิ๊คถึงกับใจหล่นวูบ เขารีบก้มหัวลงแต่มือกับขาของเขากลับถูกเถาวัลย์รัดเอาไว้
“ใคร ! ”
ดิ๊คเหงื่อตก เขาพยายามสลัดการรัดให้หลุดแต่ตัวเขากลับโดนตรึงอยู่ เขาไม่มีแรงที่จะต่อต้านได้เลยในตอนนี้
“ดิ๊ค แกตายตามหวังเย่าไปซะ ! ”
เจนกิ้นโผล่มาพร้อมกับดาบในมือแล้วฟันเข้าใส่ดิ๊คเต็มกำลัง
ดิ๊คหรี่ตาลงมองไปที่อีกฝ่ายแล้วพูดขึ้น “แกร่งแค่นิดหน่อยกลับคิดจะฆ่าฉัน ฝันไปเถอะ ! ”
“ไฟ ! ”
ครืน….
ตัวของดิ๊คได้มีไฟลุกไหม้ขึ้นมา เถาวัลย์ที่รัดตัวเขาอยู่โดนเผาเป็นเถ้าในทันที
โอพีเลียเห็นไฟนั่นก็ต้องตกตะลึง “เป็นแบบนี้ได้ยังไง เขาดูดซับหินกฎไฟไปงั้นหรือ ? ”
จุดอ่อนของสัตว์อสูรต้นไม้นั้นคือไฟ หากไม่ทิ้งเถาวัลย์ที่โดนเผาไป งั้นไฟอาจจะลามมาถึงตัวของต้นไม้ได้ ตอนนั้นมันคงเป็นปัญหาใหญ่
เธอรับรู้ได้ถึงความร้อนที่เผ่าตัวเองอยู่ สัตว์อสูรต้นไม้ก็กรีดร้องออกมา ไม่มีใครได้ยินเสียงของมัน แต่สีหน้าเจ็บปวดที่มันแสดงออกมาก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
ดิ๊คดึงดาบออกมาพร้อมกับบิดตัวก่อนที่จะโยนดาบออกไป
เจนกิ้นได้รับมือกับการโจมตีเอาไว้พร้อมกับประกายไฟที่กระเด็นออกมา
เจนกิ้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกระเด็นออกไป
“ในการฝึกแม้ว่าแกจะอยู่อันดับ 4 แต่ถ้าวัดความสามารถในการสู้กันจริง ๆ แล้ว แม้แต่หวังเย่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันด้วยซ้ำ ! แต่พวกแกสองคนกลับคิดจะแก้แค้นให้กับหวังเย่างั้นหรือ ! ”
ดาบได้กลับมาที่มือของดิ๊ค เขาได้ยิ้มออกมา “ฉันแปลกใจที่ได้ยินว่าพวกแกจะแก้แค้นให้กับหวังเย่า ฉันล่ะอยากเห็นหน้ามันตอนตายจริง ๆ ฮ่าฮ่า…”
ในตอนที่ดิ๊คพูดอยู่นั้นก็มีใบไม้ก่อตัวขึ้นมา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เขา
หมอกพิษก่อตัวขึ้น น้ำย่อยตามผนังของหนวดถูกดูดออกมาพ่นเข้าใส่ดิ๊ค
แต่ตอนนี้เขาใส่เกราะอยู่ หมอกนี้ไม่อาจจะทำอะไรเขาได้
เขาเร่งเครื่องเต็มไปกำลังเพื่อฝ่าออกไปจากหมอกพิษนี้
ไกลออกไป โอพีเลียเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจน เธอให้สัตว์อสูรใช้รากของมันเพื่อจับตัวดิ๊คเอาไว้
“โอ้ โอพีเลีย เธอนี่น่ารักจริง ๆ เลย เธอไม่รู้รึไงว่าไฟของฉันน่ะอันตรายต่อสัตว์อสูรของเธอแค่ไหน ? ”
ดิ๊คตะโกนออกมาพร้อมกับไฟที่ลุกขึ้นมาจากตัวอีกครั้ง ไฟอันทรงพลังนี้ทำให้น้ำย่อยระเหยไป รากที่พุ่งเข้ามาจับตัวเขาเอาไว้ก็เริ่มแห้งและโดนเผาไปด้วย
กรี๊….
เสียงร้องของสัตว์อสูรต้นไม้ดังขึ้น แต่มันดังแค่ในหัวของโอพีเลียเท่านั้น คนอื่นไม่อาจจะได้ยินได้
โอพีเลียน้ำตาไหลออกมาพร้อมตัวที่สั่น “เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับหวังเย่า ฉันคงได้แต่ต้องยอมเสียแกไป ! ”
โอพีเลียเช็ดน้ำตาพร้อมกับยกมือขึ้น พลังของเธอได้ส่งไปถึงสัตว์อสูรพร้อมกับควบคุมให้รากที่ถอยกลับมานั้นเข้าไปรัดตัวดิ๊คเอาไว้อีกครั้ง
รากและใบก่อตัวขึ้นมาใหม่ แม้ว่าจะโดนเผาไปแค่ไหน แต่มันก็งอกกลับขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ
“เจนกิ้นลงมือ ! รีบจัดการเขาซะ ! ” โอพีเลียตะโกนออกมา
เมื่อเห็นว่าโอพีเลียยอมทุ่มเทแบบนี้ เจนกิ้นก็ได้เรียกนักรบแฝดของเขาออกมาก่อนที่ทั้งสามจะพุ่งเข้าไปโจมตี
ดาบของทั้งสามได้ปักเข้าไปในเกราะของดิ๊ค
แกร๊ก !
เสียงเหล็กแตกดังขึ้นพร้อมเกราะของดิ๊คที่พังลง
ดาบทั้งสามนั้นฟันทะลุห้องเครื่องไปทันที
ฟรืด !
เมื่อดึงดาบออกมาก็เกิดไฟฟ้าช็อตไปทั่วทั้งเกราะก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้นมา
ตูม !
เสียงระเบิดดังขึ้นมาพร้อมกับที่เจนกิ้นและโอพีเลียต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“แม้ว่าจะต้องเสียสัตว์อสูรไป แต่ถ้าแก้แค้นให้กับหวังเย่าได้ก็ถือว่าคุ้ม ! ” โอพีเลียปลอบใจตัวเอง
แต่ตอนนั้นเองกับมีเสียงฮึดฮัดดังขึ้น “ทำฉันใจสั่นได้เลยนะ ตะกี้นี้ฉันคิดว่าฉันต้องตายแล้ว แต่ฉันหนีออกมาจากเกราะทันและเรียกสัตว์อสูรออกมาช่วยไว้ได้”
ดิ๊คอยู่ในอ้อมแขนของสตาร์ดรีม
สตาร์ดรีมนี้มีความสามารถในการกระโดดที่สูงและเร็วจนแทบจะตรวจจับไม่ได้ เพราะแบบนั้นดิ๊คถึงหนีรอดออกมาได้
ดิ๊คกระโดดออกจากมือของสตาร์ดรีม และมองไปยังทั้งสองคนที่แสดงสีหน้าตกตะลึง ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา “ตอนนี้ถึงตาฉันลงมือแล้วสินะ ? ”