ตอนที่ 602 : แม่เหล็กสีเลือด
หวังเย่ากางมือออกและพบว่าในมือของเขานั้นมีไฟลุกขึ้นมา เขาต้องแปลกใจเมื่อพบว่าไฟกำลังลุกไหม้อยู่บนฝ่ามือของเขา แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่ามันร้อนเลยแม้แต่น้อย
หวังเย่ารู้ดีว่าไฟนี้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อตัวเขาเอง แต่สำหรับคนอื่นแล้ว มันไม่ได้เป็นแบบนั้น
เขาจึงดับไฟลงแล้วมองไปที่ผนังของหนวด มันมีลมพัดไหวไปมาพร้อมกับที่ชิ้นเนื้อบนกำแพงที่ส่ายไปมาด้วย
หวังเย่าเดินไปที่ผนังอย่างช้า ๆ ก่อนจะพบว่าที่นั่นเต็มไปด้วยหินที่งอกออกมา
“นี่มันอะไร ? ”
เขาลองใช้นิ้วลูบดูและสัมผัสได้ถึงความเย็นและพลังงานจากตัวของมัน
เมื่อลองมองดูดี ๆ ก็พบกับก้อนอัญมณีสีแดงก่ำนั้น มันราวกับผลไม้ เขาจึงได้ทำการตรวจสอบมันทันที
ประเมิน !
ชื่อ : แม่เหล็กสีเลือด (สมบัติหายาก) !
คำอธิบาย : แม่เหล็กสีเลือดนี้เกิดขึ้นมาจากการที่หนวดได้กลืนกินพลังจากแร่แม่เหล็กเข้ามา แต่ทว่าแร่แม่เหล็กบางก้อนนั้นกลับเข้าไปหลอมรวมกับเลือดของหนวดจึงทำให้มันกลายมาเป็นสมบัติที่หายากและมีพลังมหาศาล
ย้ำ : แม่เหล็กสีเลือดนั้นมีพลังที่รุนแรงอย่างมาก สัตว์อสูรที่ต่ำกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์ หากใช้มันแล้วจะอยู่ในอันตราย !
สมบัติที่มีค่าที่สุดที่หวังเย่าเคยได้มาคือผลสมองราชาภูติ มันยากที่จะหาอะไรมาเทียบเท่าได้ แต่ตอนนี้เขากลับพบสมบัติที่มีค่ายิ่งกว่านั้น ?
เขาเรียกเอไนน์ออกมา สาวน้อยมองไปที่เสาหินตรงหน้าด้วยตาที่เป็นประกาย เธอราวกับสาวน้อยที่กำลังจะแต่งงานและมองหาแหวนเพชร เธอดูตื่นเต้นและรีบเดินเข้าไปที่เสาหินเหล่านั้นทันที
“แม่เหล็กสีเลือดใช้เพิ่มค่าประสบการณ์ เธอไม่ต้องตื่นเต้นไป เตรียมตัวให้พร้อม ฉันจะลองเพิ่มเลเวลให้กับเธอ ! ”
เอไนน์หลับตาลงและพูดขึ้น “ได้ ข้าพร้อมแล้ว”
เธอหลับตาลงด้วยท่าทีกังวล
“เริ่มแล้วนะ” หวังเย่าจับเอาก้อนแม่เหล็กสีเลือดไว้ในมือก่อนจะเปิดใช้งานระบบให้เพิ่มพลังให้กับเอไนน์
แม่เหล็กสีเลือดในมือหายไปทันทีพร้อมกับสายฟ้าที่แล่นผ่านจากมือไปยังหัวใจของหวังเย่า เขารู้สึกได้ถึงความแรงของสายฟ้านี้จนทำให้เขาถึงกับต้องขนลุก
พลังงานที่ปล่อยออกมานี้อาจจะทำให้สัตว์อสูรบาดเจ็บได้ !
แกร๊ก..
เกิดเสียงสายฟ้าช็อตดังขึ้น
สายฟ้าสีแดง, ฟ้า, ม่วงและขาวก่อตัวขึ้นมารอบ ๆ ตัวของเอไนน์ทันที
ดีที่เธอเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เธอจึงไม่ได้ร้องออกมา
เธอพยายามหลับตาลงพร้อมกับสีหน้าที่บิดเบี้ยวก่อนที่พลังงานจะไหลเข้ามาในตัวของเธอ จนทำให้ตัวเธอมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
ร่างกายของเอไนน์เติบโตขึ้นไปอีกจนทำให้เธอกลายเป็นสาวสวย
สิ่งที่ทำให้หวังเย่าถึงกับต้องแปลกใจคือ…เธอที่เหมือนกับเด็กน้อยนั้นกลับกลายเป็นสาวสวยหน้าอกโตสะบึม
จากคัพ A ไป C จนสุดท้าย….อยู่ที่คัพ D !
มันต่างไปจากเดิมจนผิดหูผิดตา !
เอไนน์โตจากเด็กน้อยวัย 15 ขึ้นมาเป็นสาวสวยวัย 19 ปี เธอนั้นงดงามและดูน่าหลงใหลยิ่งกว่าเดิม
ที่เท้าของเธอมีค่ายกลก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับที่เธอเริ่มลอยตัวขึ้น ผมของเธอพาดยาวจนถึงสะโพก ตอนนี้เธอราวกับเทพธิดาอย่างไรอย่างนั้น !
เลเวลของเอไนน์เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จากเลเวล 71, 72….80 !
แค่อึดใจเดียวเธอก็เลเวลขึ้นจาก 70 มาเป็น 80 ได้ และมันยังเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
81, 82….
หวังเย่าใจเต้นรัว….มันยังไม่จบแค่นี้ !
เขารู้ว่าโอกาสที่เธอจะเลเวลขึ้นเป็น 90 ได้นั้นแทบจะเป็น 0 เพราะการเพิ่มเลเวลขึ้นมาอย่างรวดเร็วในพริบตานี้หมายความว่าเอไนน์จะพลาดโอกาสในการปลุกสกิลของตัวเองขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นมานี้น่ากลัวอย่างมาก ! ต้องรู้ก่อนว่าหลังจากที่เลเวล 80 แล้ว ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการใช้ผลสมองราชาภูตินั้นก็ลดลงไปอย่างมากเช่นกัน
ตอนที่อยู่ในบึง หวังเย่าได้ทำการใช้ผลไม้ไปหลายร้อยผลบวกกับความพยายามของแฟนธอมเอง เพื่อช่วยให้แฟนธอมได้พัฒนาขึ้นจากเลเวล 85 เป็น 89
แต่เอไนน์ใช้แม่เหล็กสีเลือดไปแค่อันเดียวก็สามารถทำให้เลเวลเพิ่มขึ้นมาถึง 80 ได้และเลเวลยังเพิ่มขึ้นไปต่อ !
สุดท้ายเลเวลของเอไนน์ก็ไปหยุดที่ 85 เมื่อเห็นแบบนั้นหวังเย่าจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เอไนน์กลับลงมายืนที่พื้นและลืมตาขึ้นมามองหวังเย่าก่อนจะแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมา
หวังเย่าได้ใช้ระบบตรวจสอบเธอทันที
ชื่อ : เอไนน์
เลเวล : 85
ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์
สกิล : ปราการปฐพี สร้างรั้วหนามรอบตัว หากเพื่อนร่วมทีมอยู่ในรั้วหนามนี้แล้วจะช่วยเร่งการฟื้นฟู แต่หากเป็นศัตรูอยู่ภายใต้รั้วหนามนี้แล้ว จะลดความเร็วของศัตรูลง 15 เปอร์เซ็นต์, หัวใจศิลา เพิ่มพลังให้กับเพื่อนร่วมทีม เพิ่มการต้านทานทางจิตใจ มีโอกาสที่จะต้านทานการกดดันทางสายเลือด, ผู้พิทักษ์จิต ต้านทานการโจมตีทางกายภาพทุกรูปแบบระหว่างที่ใช้สกิล เมื่อได้รับบาดเจ็บรุนแรง ร่างกายจะเข้าสู่สภาวะหลับใหล ไม่อาจจะทำอะไรได้จนกว่าสภาวะหลับใหลจะสิ้นสุดงลง จะใช้พลังงานของเจ้านายในการฟื้นฟูตัวเอง ต้องใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะมีพลังเต็มที่ดังเดิมได้, โล่เอลฟ์ เพิ่มโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีม สามารถใช้ต้านทานความเสียหายและการโจมตีได้ โล่สามารถช่วยลดความเสียหายลงได้ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ความเสียหายที่ได้จากการโจมตีในธาตุตรงกันข้ามจะเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์
จุดอ่อน : แม้ว่าจะต้านทานการโจมตีทางกายภาพได้ระหวางที่ใช้สกิล แต่ไม่ได้ต้านทานการโจมตีทางจิตหรือการโจมตีธาตุ ร่างกายเปราะบางอย่างมาก เมื่อโดนโจมตีจะได้รับบาดเจ็บหนัก โล่เอลฟ์นั้นไม่แนะนำให้ใช้เมื่อสู้กับสัตว์อสูรธาตุมืด
สิ่งที่ชอบ : แฟนธอม
หลังจากที่ตรวจสอบสกิลทั้งสี่ของเอไนน์ที่พัฒนาขึ้นมาแล้ว หวังเย่าก็พยักหน้าด้วยความพอใจ “ มีสกิลโล่เพิ่มขึ้นมา สกิลทั้งสามเองก็แข็งแกร่งขึ้นและพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก สกิลอวยพรที่แต่เดิมได้เปลี่ยนเป็นปราการปฐพีเพิ่มความสามารถทำให้ศัตรูช้าขึ้นมาได้ สกิลที่สองก็เพิ่มบัฟจาก 15 เปอร์เซ็นต์ เป็น 20 เปอร์เซ็นต์”
“การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดถือว่าดี แต่สิ่งที่เธอชอบก็ยังเป็นแฟนธอมไม่เปลี่ยน ! ” หวังเย่าทำท่าทีอิจฉาออกมา
“นายท่าน แฟนธอมนั้นพิเศษสำหรับข้าอย่างมาก ! ” เอไนน์แสดงท่าทีเขินอายออกมา
ในบ้านที่ดาวทมิฬ แฟนธอมที่เล่นเกมอยู่ก็ถึงกับจามออกมา
“หัวหน้า นายเป็นไข้งั้นหรือ นายกินยาหน่อยไหม ? ” ลูกน้องทั้งสี่คนถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
แฟนธอมพูดขึ้น “ฉันเนี่ยนะจะเป็นไข้ นายเคยเห็นสัตว์อสูรเป็นไข้มาก่อนรึไง ? ”
อาหลงเกาหัวแล้วพูดขึ้นมา “แล้วทำไมนายถึงจามได้ ? ”
แฟนธอมมองไปที่จอแล้วบ่นออกมา “ต้องเป็นหวังเย่าแน่ ๆ ที่นินทาฉันอยู่”
สาวสวยได้หัวเราะออกมา “ ต้องมีผู้หญิงคิดถึงนายอยู่แน่ ๆ เลย ”
แฟนธอมส่ายหน้า ก่อนจะบอกให้ทุกคนกลับไปสนใจเกมต่อ แต่ทว่าในใจเขากลับนึกถึงเอไนน์ขึ้นมา
“ข้าน่ะแค่ชื่นชมแฟนธอม แต่ยังไงคนโปรดของข้าก็ยังเป็นนายท่านอยู่ดี “ เอไนน์เดินเข้ามาหาหวังเย่า
“แน่ใจนะ ฉันน่ะรู้มานานแล้วว่าผู้หญิงนั้นปากไม่ตรงกับใจ ! ”
หวังเย่าลูบหัวเอไนน์แล้วพูดขึ้น “กลับเข้าไปในแหวนก่อน เราจะออกจากที่นี่กัน”
เอไนน์พยักหน้าและกลับเข้าไปในแหวนทันที
ก่อนที่จะออกไป หวังเย่าก็ได้ทำการเก็บแม่เหล็กสีเลือดจากเสาหินกว่าร้อยก้อน
เมื่อเก็บแม่เหล็กสีเลือดได้ร้อยก้อน มิติที่นั่นก็เริ่มสั่นไหว แม้แต่เซลล์ดำก็เริ่มเกิดการสั่นไหวไปตาม
เซลล์ดำเหมือนจะพุ่งเข้าใส่หวังเย่าทันที
หวังเย่าที่เห็นแบบนั้นก็กังวลและรีบกระโดดออกมาเพื่อจะออกจากมิติแห่งนี้