ตอนที่ 593 : รางวัล
สุดท้ายการฝึก 5 เดือนเต็มก็ได้สิ้นสุดลง ทุกคนได้มายืนเรียงแถวกัน
ภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิด นายพลกว่า 600 คนสวมชุดเกราะป้องกันยืนเรียงแถวต่อตัวเป็นฉากที่งดงามขึ้นมา
นอร์แมนยืนอยู่บนเวทีและตะโกนขึ้นมา “ ยินดีกับทุกคนที่ผ่านการฝึกไปได้ พวกนายคือความหวังของประเทศตัวเองและเป็นเกียรติยศของทุกคน จากวันนี้ไปพวกนายจะรับหน้าที่ในการปกป้องประเทศและบ้านเกิดอย่างดาวทมิฬเอาไว้ ! ”
ทุกคนพากันตะโกนออกมา “ แม้ว่าจะต้องตายเราก็ไม่เสียดาย ! ”
เสียงดังก้องไปทั่ว
ทันทีที่พวกเขาพูดจบก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น
“แม่ทัพเก่าอัลเฟรด จะอธิบายถึงการคัดเลือกในวันพรุ่งนี้ ! ”
เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่อัลเฟรดจะปรากฏตัวขึ้นมาโบกมือให้กับทุกคน
“นี่คงเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวล นั่นคือการคัดเลือกแม่ทัพ ! ตามการตัดสินใจของคณะกรรมการแล้ว เราจะไม่ลงคะแนนในการเลือกครั้งนี้ เราจะไม่สนใจความสัมพันธ์ของแต่ละคน เราสนใจแค่ทักษะ ดังนั้นการคัดเลือกครั้งนี้จึงมีการทดสอบ คนที่ชนะจะได้เป็นแม่ทัพ”
“พวกนายเปิดเครื่องสื่อสารเอาไว้”
หลังจากที่เปิดเครื่องที่ติดกับหู ก็มีหน้าจอปรากฏขึ้นมาตรงหน้าทุกคน
“ตอนนี้พวกนายคงเห็นหนวดปีศาจที่เข้าใกล้ดาวทมิฬมาเรื่อย ๆ แล้ว พวกนายลองดูดี ๆ ”
อัลเฟรดให้เวลากว่า 3 นาทีให้ทุกคนได้ดูแผนที่
หวังเย่ายกมือขึ้นขยายภาพก่อนจะเห็นภาพอันน่ากลัว มันเหมือนกับหนวดปลาหมึกที่คล้ายกับเถาวัลย์บิดไปมา มันราวกับรากต้นไม้
เมื่อขยายภาพอีกครั้งก็พบว่าด้านในหนวดนั้นมีของเหลวไหลไปมา ในของเหลวนั้นมีร่างของสัตว์อสูรและมนุษย์ไหลอยู่
พวกนี้สุดท้ายก็เป็นได้แค่สารอาหารให้กับหนวดปีศาจนี่ก็เท่านั้น
ฉากต่าง ๆ ในอดีตได้วนกลับมาในหัวหวังเย่าอีกครั้ง เขานึกถึงตอนที่โลกของเขาต้องล่มสลาย
ตอนนั้นอัลเฟรดได้กระแอมออกมาเพื่อเรียกสติทุกคน
“เขตสีฟ้าบนหนวดนี่เป็นพื้นที่ปลอดภัย นี่คือส่วนที่พวกนายจะทดสอบในวันพรุ่งนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของพวกนายตอนนี้แล้วมันน่าจะเพียงพอที่จะจัดการกับหนวดนี้ได้ การทดสอบในวันพรุ่งนี้คือการเก็บแร่แม่เหล็ก ซึ่งเราต่างก็รู้ว่ามันเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อจักรวาล เป็นรองแค่เพียงหินดำ มันคือขุมกำลังที่หายากมากกว่าน้ำมันและแก็ส ยานและเกราะที่เราใช้ทุกวันนี้ก็ใช้แร่แม่เหล็กนี้เป็นเชื้อเพลิง ”
“ตอนที่หนวดนี่กลืนกินดาวเคราะห์ มันจะทำการย่อยสลายแร่ในดาวเคราะห์ซึ่งทำให้บางส่วนของหนวดนี่คายเอาแร่แม่เหล็กออกมาซึ่งนั่นก็ส่งผลดีต่อเรา พวกนายขยายเข้าไปดูในส่วนสีฟ้าและจะพบจุดสีแดงเล็ก ๆ มันคือสถานีที่คอยจับตาดูการเติบโตของหนวดนี่มาหลายพันปีแล้ว แผนที่นี้ถูกวาดขึ้นโดยสถานีนี้ ยานของเราได้ให้ข้อมูลต่าง ๆ จนสุดท้ายก็วาดแผนที่อิเล็กโทรนิคนี้ขึ้นมาสำเร็จ”
“ไม่นานมานี้สถานี้ได้จับภาพแร่ไฟระดับ 100 ได้ น่าแปลกใจที่ตอนนี้มันอยู่ที่พื้นที่สีฟ้า”
ที่โลกมนุษย์ก็มีแร่ไฟอยู่ แต่ของที่โลกนั้นอยู่แค่ระดับ 90 แร่ไฟระดับ 100 และ 90 นั้นต่างกันอย่างมาก
“กฎการแข่งขันนี้คือต้องเก็บแร่แม่เหล็กใน 10 ชั่วโมงให้ได้โดยที่ 1 กิโลกรัมเท่ากับ 1 คะแนน ถ้าพวกนายพบกับแร่ไฟระดับ 100 มันจะได้ 100 คะแนน ก่อนที่จะจบการแข่งขัน ผู้เข้าร่วมต้องกลับมาที่ยานก่อนที่เวลาจะหมด ไม่งั้นก็ถือว่าตกรอบ”
“คนที่ได้ที่หนึ่งจะได้เป็นแม่ทัพ คะแนนของพวกนายจะเป็นตัวตัดสินตำแหน่งของพวกนายในกองทัพนี้ แน่นอนว่าหากพวกนายไม่พอใจกับอันดับและตำแหน่งที่ได้มา พวกนายสามารกลับไปที่ประเทศตัวเองเพื่อรับตำแหน่งที่นั่นได้”
มีคนยกมือขึ้นถาม “หากคะแนนเท่ากันล่ะ ? ”
“งั้นก็ขึ้นอยู่กับผลงานในตอนที่ฝึก”
“เราจับทีมกันเพื่อหาแร่ได้รึเปล่า ? ” มีคนถามขึ้นมา
“ได้ แต่จำนวนคนในทีมห้ามเกิน 10 คน คะแนนของแต่ละทีมต้องไม่น้อยกว่า 10 คะแนน ไม่งั้นแล้วทั้งทีมจะตกรอบ”
อัลเฟรดมองไปรอบ ๆ แล้วถามขึ้นมา “มีคำถามอะไรอีกรึเปล่า ? ”
“ไม่มีแล้ว ! ” ทุกคนตะโกนขึ้นมา
“งั้นก็กลับไปเตรียมอุปกรณ์และอาวุธที่จำเป็นให้พร้อม พวกนายจะมารวมตัวกันที่นี่ตอน 9 โมงเช้าของวันพรุ่งนี้ จากนั้น 10 โมงเราจะเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ! ”
ทันทีที่อัลเฟรดพูดจบ ทุกคนก็ไม่ได้แยกย้ายออกไปแต่กลับมองหาเพื่อนร่วมทีมแทน
กฎของการแข่งขันนี้ง่าย ๆ ไม่ได้ห้ามให้ตั้งทีม ต่อหน้าหนวดปีศาจที่อันตรายนี้แล้ว แน่นอนว่าการอยู่ด้วยกันเป็นทีมก็ได้เปรียบกว่าอยู่คนเดียว
“หวังเย่า นายจะอยู่ทีมเดียวกับฉันรึเปล่า ? ” เจนกิ้นเดินเข้ามาถาม
หวังเย่ามองไปที่เจนกิ้น ก่อนจะตอบไป “นายอย่าเข้าใจผิด ด้วยความแข็งแกร่งของนายแล้ว นายลงมือคนเดียวก็ได้สบายมากกับการแข่งขันนี้…แน่นอนว่าฉันไม่ได้ดูถูกนาย ฉันคิดว่านายกับฉันน่ะคงต้องมาแข่งกัน”
เจนกิ้นยิ้มออกมาและตบไหล่หวังเย่า “จบการฝึกนี้ ฉันจะกลับไปที่ประเทศตัวเอง ฉันอยากให้นายได้ตำแหน่งนี้ ในอีกด้านแล้วก็เท่ากับการสร้างบุญคุณ ฉันคิดว่าในบรรดาหลายคนที่นี่ นายน่ะเหมาะที่สุดที่จะเป็นแม่ทัพ ! ”
เมื่อเจนกิ้นเสนอตัวช่วย หวังเย่าก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ “ฉันคงปฏิเสธไม่ได้ ขอบคุณมากเจนกิ้น”
หวังเย่าเดินเข้าไปกอดเจนกิ้นเอาไว้
“หวังเย่า ฉันหาคนมาช่วยนายแล้ว” โอพีเลียโผล่มาที่ด้านหลังและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“หือ ? ” หวังเย่าหันกลับไปและพบกับคนที่คุ้นเคย
บอร์ด, แรมโบ้ และ มาทิลด้า นี่คือ 3 ใน 10 นายพลอันดับแรกที่ฟอเนอร์แนะนำมา ในหมู่นายพล 600 คนแล้วพวกเขาอยู่ใน 100 อันดับแรก
“นายพลหวังเย่า ฉันอยากเข้าร่วมทีมกับนาย” บอร์ดพูดขึ้นมา
“เอาจริง ๆ แล้ว ฉันคิดว่าฉันแกร่งพอและน่าจะมีโอกาสได้ตำแหน่งแม่ทัพไป แต่เมื่อเห็นคนอื่น ๆ แล้ว ฉันก็รู้ว่าฉันมีหวังแค่เพียงน้อยนิด ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะสนับสนุนคนฝั่งเดียวกัน” แรมโบ้พูดขึ้นมา
มาทิลด้าเป็นชายตัวใหญ่ผิวดำ เขาคือคนที่ตัวสูงที่สุดที่นี่ “ฉันเลือกแล้วและคิดว่าหวังเย่าน่าจะมีหวังที่สุด ฉันไม่อยากพลาดโอกาสที่จะเป็นคนของแม่ทัพ”
“ฮ่าฮ่า…” ทุกคนพากันหัวเราะออกมา
“ก็ได้” หวังเย่าก้าวออกมาจับมือกับทุกคน
“หวังเย่า ! ”
ไกลออกไปนั้นอัลเฟรดได้เดินเข้ามาหาและโบกมือให้กับหวังเย่า
“สบายใจได้ ฉันไม่ได้มาหานายเรื่องสัตว์อสูร นายไม่ต้องอ้างไปห้องน้ำหรอก” อัลฟรดพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
หวังเย่ายิ้มแห้ง ๆ ออกมาก่อนจะเดินเข้าไปหาอัลเฟรดและพูดขึ้น “ผู้อาวุโสมีเรื่องอะไรถึงได้มาหาผม ? ”
อัลเฟรดพูดขึ้นมา “นายมากับฉัน”
หลังจากนั้นอัลเฟรดก็ได้พาเขาไปที่ห้องประชุม เขาได้เห็นพวกระดับสูงที่นั่นและอดไม่ได้ที่จะช็อก
“นี่…”
“พวกนี้คือคนที่เกษียณไปแล้ว” อัลเฟรดพูดขึ้น
อัลเฟรดตบไหล่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น “เราจะไม่อ้อมค้อม เราน่ะคาดหวังในตัวนายกับการเป็นแม่ทัพ ฉันหวังว่านายจะทำให้ดีที่สุดและกลับมาอย่างปลอดภัย”
“จากอันดับในการฝึกแล้ว ฉันได้เตรียมของขวัญให้กับอันดับหนึ่ง” อัลเฟรดพูดจบก็ได้ส่งแหวนให้กับหวังเย่า
หวังเย่ารับแหวนมาและพบกับยานที่อยู่ด้านใน
“นี่คือยานรบที่สร้างขึ้นโดยกองกำลังดวงดาว มันมีความเร็วกว่า 3 เท่าของแสง ความสามารถในการบินและการต่อสู้นั้นไม่อาจจะเอายานทั่วไปมาเทียบได้”
เมื่อเห็นยานนั้น หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ
อัลเฟรดพยักหน้าอีกครั้งและพูดขึ้น “ฉันให้มันกับนาย เพราะไม่ว่านายจะได้เป็นแม่ทัพรึไม่ แต่เราก็หวังว่านายจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย นายน่ะคือคนที่มีพรสวรรค์ที่ดาวทมิฬไม่อาจจะเสียไปได้ ! ทุกคนในห้องนี้ต่างก็ยอมรับในความแข็งแกร่งของนาย ! ”
“กองกำลังดวงดาวเป็นกองกำลังที่สำคัญ เราไม่คิดจะช่วยเหลือใคร แต่นายทำได้โดดเด่นเกินไป มันมีคนมากมายที่อยากให้นายตาย หวังว่านายจะปกป้องตัวเองได้” ชายแก่อีกคนพูดขึ้น
หวังเย่ามองไปที่แหวนในมือแต่ไม่พูดอะไร
“ขอบคุณผู้อาวุโสทุกคนที่เป็นห่วง ผม หวังเย่า จะทำตามที่ทุกคนคาดหวังให้ได้”
หลังจากที่จับมือกับทุกคนแล้ว หวังเย่าก็ได้เดินออกมาจากห้องประชุม