ตอนที่ 579 : รอยฝ่ามือ
ฝึกสำเร็จ !
หวังเย่าเดินออกมาจากห้องซ้อมและพบกับคนที่คุ้นเคยเข้า
เดวอนที่เข้าโรงพยาบาลมากว่า 1 อาทิตย์ ได้เข้าร่วมสำนักฉลามดำอย่างเป็นทางการแล้ว
เขามารายงานตัวกับบราวนิ่งเพื่อเข้าลงทะเบียนเรียนตัวต่อตัว
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิกเท่านั้น, ค่าลงทะเบียนวิชา, ค่าห้องฝึก และยังต้องจ่ายอีก 50,000 เหรียญสำหรับการเรียนต่อครั้งด้วย
เมื่อเห็นหวังเย่าเดินออกมา บราวนิ่งก็เดินเข้าไปหาทันที
“มาสิ…บรู๊ค นี่เดวอน ศิษย์พี่ของนาย ฉันจะให้เขาแสดงฝ่ามือฉลามดำให้ดู”
เมื่อเห็นหวังเย่าที่ใส่หน้ากากอยู่ เดวอนก็ต้องอึ้งไปทันที เขาจำวันที่ได้สู้กับหวังเย่าขึ้นใจ
“อาจารย์ ไม่ต้องหรอก ”
“ไม่ต้องอายไป ถึงนายจะบาดเจ็บอยู่ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไร ผ่อนคลายเข้าไว้” บราวนิ่งตบไหล่เดวอน และพูดขึ้น “ยืดอกไว้ แล้วแสดงให้ศิษย์น้องเห็นว่านายน่ะแกร่งแค่ไหน ”
เดวอนได้แต่เกาหัวด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน “ก็ได้”
เดวอนหลับตาลงแล้วประกบมือเข้าด้วยกัน ไม่นานก็มีพลังห่อหุ้มที่มือของเขาเอาไว้ มันเบาบางอย่างมาก แต่ก็น่าจะดำลงไปในน้ำเดือดได้สัก 2 ชั่วโมงโดยไม่มีปัญหาอะไร
บราวนิ่งพูดขึ้นมา “นี่คือผลลัพธ์ของการเรียนส่วนตัวกับฉัน แค่ 3 เดือนเขาก็สามารถควบคุมพลังภายในได้แล้ว ถ้าเขาขยันกว่านี้ ฉันเกรงว่าคงไม่ใช่แค่โคจรพลังภายในได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ลงไปอยู่ในน้ำเป็นวันสองวันก็คงไม่ใช่ปัญหา”
หวังเย่าพยักหน้าและพูดขึ้น “อาจารย์นี่สอนเก่งจริง ๆ ศิษย์พี่เองก็แกร่งด้วยเหมือนกัน”
“เป็นยังไง ? นายสนใจจะเข้าเรียนแบบส่วนตัวรึเปล่า ? 5 หมื่นต่อวัน ฉันจะสอนอย่างละเอียดเลย การฝึกฝ่ามือฉลาดดำไม่ใช่ปัญหาสำหรับนายอย่างแน่นอน หลังจากที่หมดเวลาแล้วนายยังถามคำถามที่สงสัยกับฉันได้อีก ถามอะไรก็ได้ ฉันว่างตอบคำถามนายตลอด ฉันว่านายต้องพอใจแน่ ๆ ”
เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของบราวนิ่ง หวังเย่าก็ได้แต่ยิ้มออกมา “ไม่จำเป็นหรอก ผมคิดว่าผมไม่ต้องฝึกอะไรแล้ว”
“อย่าถ่อมตัวไปเลย…เดวอน แสดงการฝึกออกมา”
เดวอนกลัวขึ้นมา “อาจารย์ ผมบาดเจ็บอยู่ ผมคงไม่เหมาะที่จะสู้..แค่ก แค่ก…”
บราวนิ่งมองไปที่เดวอนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ก็ได้ บรู๊ค ฉันจะตรวจสอบนายเอง นายควรจะแสดงผลลัพธ์การฝึกตลอดหลายวันนี้ออกมา แล้วฉันจะให้คำแนะนำกับนายเอง”
หวังเย่าโบกมือทันที “ผมคิดว่าไม่จำเป็น”
“นายบอกว่ามันไม่จำเป็นได้ยังไง ? นายจะไม่ให้ฉันดูพัฒนาการของนายหน่อยหรือ ไม่งั้นนายจะไม่รู้ถึงการพัฒนาของตัวเองและทำให้ก้าวหน้าได้ช้าขึ้น”
“นี่…ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่มันคงไม่ดีถ้าผมทำให้อาจารย์บาดเจ็บ”
“นายพูดบ้าอะไรของนาย ? ” บราวนิ่งตบอกด้วยความภูมิใจ “ฉันน่ะเป็นมนุษย์ปลา กระดูกที่ฉันมีต่างจากคนทั่วไป ฉันมีพลังภายในปกป้องร่างกายมากกว่าคนทั่วไป ถ้านายทำให้ฉันบาดเจ็บได้ ฉันจะคืนเงินค่าเรียนให้นายเลยก็ได้”
“ถ้ายังไม่สู้กัน นายอย่าคิดว่าจะออกจากที่นี่ไป”
ตอนแรกหวังเย่าไม่คิดจะสู้กับคนแก่ แต่ตอนนี้เขากลับหรี่ตาลงและถามขึ้นมา “พูดจริงงั้นหรือ ? ”
“ฉันจะพูดเล่นทำไม ฉันเปิดสำนักมาหลายร้อยปีแล้ว ชื่อเสียงที่มีคิดว่าได้มาง่าย ๆ รึไง ? ”
บราวนิ่งก้าวออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นเตรียมพร้อมที่จะสู้
“งั้นก็ได้”
เมื่อหวังเย่าโคจรพลังภายใน อยู่ ๆ ในห้องก็เกิดลมพัดที่รุนแรงขึ้นมา ระฆังในห้องต่างก็สั่นและดังอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นแบบนั้น เดวอนก็รีบไปหลบที่ด้านหลังทันที
บราวนิ่งมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าตกตะลึง เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังของเขา
ตาของเขากระตุกไปตามและพูดขึ้น “ไม่ใช่หรอก ถึงเขาจะเชี่ยวชาญขั้นที่สองได้ แต่เขาก็ไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก”
กรร…
ฉลามดำโผล่มาที่ด้านหลังของบราวนิ่ง มันอ้าปากของมันออกมา เผยให้เห็นฟันอันแหลมคมราวกับจะกลืนกินคนทั้งเป็น
ปัง
ฝ่ามือฉลามดำได้พุ่งเข้าใส่อกของบราวนิ่งทันที
เขารู้สึกอึดอัดที่หน้าอกอย่างมากในตอนนี้ ซี่โครงของเขาถึงกับบิดผิดรูปไป พลังนี้แทบจะทำลายอวัยวะภายในของเขา ในหัวของเขามีแต่ความสับสนไปหมด ตอนแรกเขาคิดว่ามันคือความฝัน แต่ทว่าตัวเขากลับกระเด็นออกไปจริง ๆ
“นี่…ฉันฝันอยู่สินะ ? ”
จนตอนที่หลังกระแทกกับกำแพง ความเจ็บถึงทำให้บราวนิ่งได้สติขึ้นมา
ตูม…
ร่างกายอันแข็งแกร่งของมนุษย์ปลาได้อัดกับกำแพงอย่างแรง มันยังไม่หยุด จนร่างของเขาฝังเข้าไปกับกำแพงเหล็กนั้น
ตัวของเขาร่วงลงมากับพื้น โดยที่กำแพงยังเป็นรูปหลังเขาอยู่เลย
“อาจารย์..คุณไม่เป็นไรนะ ? ” เดวอนรีบวิ่งเข้าไปประคองบราวนิ่งขึ้นมา
“มะ…ไม่เป็นไร ! ” ชายแก่สีหน้าแข็งทื่อไป ในหัวของเขาคิดถึงเรื่องยอมแพ้แล้ว ฝ่ามือฉลามดำที่หวังเย่าใช้ออกมานั้นแรงกว่าของเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งมันน่าเหลือเชื่อเกินไป
“เป็นยังไงบ้าง ? ” หวังเย่าเดินไปหาและช่วยเดวอนประคองบราวนิ่งให้ไปนั่งที่ม้านั่ง
บราวนิ่งหรี่ตาลงมองหวังเย่าอยู่นานโดยไม่พูดอะไรออกมา
จนสักพัก เขาก็พูดขึ้นมาด้วยปากที่สั่น “นายเองก็เป็น…มนุษย์ปลาด้วยหรือ ? ”
“ไม่” หวังเย่าตอบกลับตามจริง
“นาย….ไม่ใช่ว่านายเคยเรียนฝ่ามือฉลามดำมาก่อนหรอกนะ ? ”
“ไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เรียนมัน ! ”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น บราวนิ่งก็เบิกตากว้าง “แล้วนายเรียนมากี่วัน”
หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ประมาณ 7 วันแล้ว”
เดวอนที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินที่หวังเย่าพูดก็ถึงกับตัวสั่นเทาและมองไปที่หวังเย่าด้วยสายตาที่กลัวยิ่งกว่าเก่า
“ที่คุณบอกไว้ตะกี้ว่าจะคืนค่าเรียนให้ผมหมดน่ะ จริงรึเปล่า ? ”
บราวนิ่งไปและได้แต่ขมวดคิ้ว “นี่…”
หวังเย่ากลับรู้สึกผิดขึ้นมาทันที หรือว่าเขาลงมือหนักเกินไปงั้นหรือ ?
บราวนิ่งพูดขึ้นมา “นั่นน่ะ…มันก็ใช่ปัญหาอะไรหรอก นายถอดหน้ากากออกแล้วถ่ายรูปกับฉันได้ไหมล่ะ ? ” บราวนิ่ง ยิ้มออกมา
ปึก ปึก…
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาพร้อมกับทหารกว่าสิบคนที่เดินเข้ามาเรียงแถวที่หน้าประตู ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องและทำความเคารพหวังเย่า “คุณหวังเย่า นายพลฟอเนอร์ ได้เชิญคุณเข้าร่วมการประชุม รถจอดรออยู่ด้านล่างแล้ว”
ทั้งบราวนิ่งและเดวอนต่างก็ช็อก ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าหวังเย่าเป็นใคร
ตลอดหลายวันมานี้ บราวนิ่งได้ดูทีวีแต่ก็พบว่ามีแต่เรื่องของหวังเย่าเต็มไปหมด เขาคิดว่าหากหวังเย่ามาเป็นศิษย์สำนักของเขา เขาคงจะคิดค่าเรียนสักสองเท่า
หวังเย่าถอดหน้ากากออก ยังไงซะถ้าจะออกจากดาวทมิฬนี้เขาก็ต้องพึ่งฟอเนอร์อยู่ดี
“ไปกันเถอะ” หวังเย่าเดินออกไป
บราวนิ่งไม่สนใจร่างกายที่เจ็บปวดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เขารีบลุกขึ้นยืนแล้วพูดขึ้นมา “บรู๊ค…ไม่สิ…คุณหวังเย่าช่วยเซ็นต์ชื่อให้หน่อยได้รึเปล่า ! ”
หวังเย่าไม่ได้หันกลับมาและตอบกลับ “มันอยู่ที่กำแพงบ่อ อย่าลืมคืนเงินผมด้วยล่ะ”
“ได้ แน่นอน ”
เมื่อได้ยินคำตอบจากบราวนิ่ง หวังเย่าก็ยิ้มออกมา เขาตาเป็นประกายก่อนจะหันกลับไปที่ห้องซ้อม
บราวนิ่งเดินไปที่ริมบ่อน้ำที่เหลือน้ำไม่ถึงครึ่ง ก่อนจะกระโดดลงไป จากนั้นเขาก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นรอยฝ่ามือสองอันที่หวังเย่าทิ้งเอาไว้
“ตัดกำแพงนี่ออกให้ฉันหน่อย ฉันจะเอาไว้โชว์ ! ”