ตอนที่ 570 : ตงเหลิ่ง
ซิดดี้เห็นแฟนธอมพุ่งมาหาตัวเองก็กลัวขึ้นมาจนนั่งลงไปกองกับพื้น
ตั๊กแตนของเขาตายไปแล้ว สกิลและสถานะที่เขาได้มาก็หายไปด้วย แล้วเขาจะเอาความแข็งแกร่งจากไหนมารับมือกับแฟนธอม
ดาบของแฟนธอมได้ฟันเข้าใส่ซิดดี้ แต่ตอนนั้นเองกลับมีแสงที่ดูเย็นชาเข้ามาขวางเอาไว้
ปลายดาบได้ปะทะกับกำแพงน้ำแข็งจนเสียงระเบิดดังขึ้นแต่กำแพงน้ำแข็งกลับไม่เป็นอะไร
“ฮ่าฮ่า…ซิดดี้ แกนี่ดูน่าอนาถจริงๆ แกเกือบโดนนักโทษของตัวเองฆ่าเอา ! ”
ที่ด้านหลังของซิดดี้มีประตูมิติก่อตัวขึ้นก่อนจะมีผู้ชายและผู้หญิงเดินออกมา
ผู้ชายนั้นตัวสูงถือหอกสีเงิน ส่วนผู้หญิงใส่ผ้าคลุมไม่อาจจะเห็นใบหน้าได้ แต่ดูจากร่างกายภายนอกแล้วเธอน่าจะเป็นคนที่สวยไม่น้อย
ผู้หญิงถือถังสีดำเขียนตัวหนังสือจีนขนาดใหญ่เอาไว้ น้ำมันโลก !
นี่คือเครื่องมือที่เหมือนกับแหวนมิติแต่มันใหญ่กว่าเป็นหลายสิบเท่า มันออกแบบมาเพื่อใส่ของเหลว ไม่ว่าจะได้รับการโจมตีหนักแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะรั่วไหลออกมาได้
ผู้ชายยกตัวซิดดี้ขึ้นมาและถามขึ้น “น้ำมันพร้อมรึยัง ? ”
ซิดดี้แสดงท่าทีเขินอายออกมา “คุณตงเหลิ่ง ขอโทษด้วย ผม…ใช้น้ำมันไปหมดแล้วแต่…”
สีหน้าของผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนไปทันที แต่ซิดดี้ก็รีบอธิบายออกมา “แต่ผมจะชดเชยให้เป็น 3 เท่า”
ชายคนนั้นพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเฉยเมย “ไม่ ฉันจะทำตามที่รับปากเอาไว้ ฉันจะพานายออกจากดาวนี้” จากนั้นเขาก็มองไปที่ซิดดี้ “แร่หินที่นายส่งมามีคุณภาพสูง เจ้านายของฉันพอใจอย่างมาก”
“เป็นเกียรติที่ทำให้จ้าวสวรรค์พอใจ” ซิดดี้โค้งให้ด้วยความเคารพ
ชายคนนั้นมองไปที่แฟนธอมที่ถูกกันไว้โดยกำแพงน้ำแข็งแล้วยิ้มออกมา “สัตว์อสูรนี่ดูดีนะ”
เขายกมือขึ้นก่อนที่กำแพงน้ำแข็งตรงหน้าจะสลายไป และได้เผชิญหน้ากับแฟนธอม
“ที่รัก เธอชอบสัตว์อสูรนี่รึเปล่า ? ฉันจะเอามันกลับไปถ้าเธอชอบ” เขาโอบเอวผู้หญิงแล้วถามขึ้นมาโดยไม่สนใจ แฟนธอมแม้แต่น้อยว่าจะคิดยังไง
ผู้หญิงในผ้าคลุมมองไปที่แฟนธอม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ถ้าเธอไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ เธอชอบรึเปล่า ? ” ชายคนนั้นยิ้มออกมาและมองไปที่แฟนธอม
แฟนธอมมองไปที่ชายคนนั้นและยิ้มเช่นกัน “เหมือนว่าเจ้าอยากตายสินะ ! ”
“สัตว์อสูรทุกตัวที่สู้กับฉันก็มักจะพูดแบบนี้แหละ ”
ระหว่างที่พูดนั้นเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าของแฟนธอม โดยอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น
เขามองไปที่แฟนธอมและยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “แต่สุดท้ายฉันก็จัดการได้หมด…แกเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ! ”
พลังของเขาระเบิดออกมา พลังมันราวกับภูเขาที่กดทับผู้คนเอาไว้
ครืน…
ความหนาวเย็นได้แผ่มาครอบคลุมไปทั่วทั้งเหมืองราวกับที่นั่นได้เข้าสู่ฤดูหนาว
หิมะและน้ำแข็งนับไม่ถ้วนหมุนวนรอบตัวเขา เขากำหมัดก่อนที่จะมีน้ำแข็งห่อหุ้มหมัดของเขาเอาไว้ !
ซู่ !
หมัดนั้นราวกับอุกกาบาตที่ตกลงมา มันพุ่งตัดอากาศพร้อมกับคลื่นอากาศสีขาวที่กระจายออกมา ลมหนาวเย็นกระจายไปทั่วก่อนที่หมัดนั้นจะต่อยเข้าใส่ที่ท้องของแฟนธอม
แฟนธอมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองราวกับโดนภูเขากดทับ เขาไม่อาจจะขยับตัวได้ หิมะและน้ำแข็งเริ่มแช่แข็งเขาเอาไว้
ผมของเขาเริ่มมีหิมะมาเกาะ ร่างกายส่วนร่างมีชั้นน้ำแข็งโผล่ขึ้นมาจนทำให้เขาไม่อาจจะขยับตัวได้
กรร…
แฟนธอมคำรรามออกมาจนทำให้น้ำแข็งรอบตัวแตกออก ดาบของเขาได้ฟันออกไปรับมือกับหมัดน้ำแข็งเอาไว้
ฟรืด…
แฟนธอมกระเด็นออกไปพร้อมกับเลือดที่กระจายออกมา หวังเย่ารีบเข้าไปประคองแฟนธอมเอาไว้
ภายใต้แสงจันทร์ หวังเย่าได้ปรากฏตัวขึ้นมา
พวกคนที่ยืนอยู่บนหน้าผาได้มองลงมาที่หวังเย่า
“เป็นนายนี่เอง ! ”
“นายนี่เอง ! “
ทั้งสองเหมือนจะรู้จักกัน
หวังเย่าตะโกนออกมา “ตงเหลิ่ง ! ”
ชายคนนั้นมองมาที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น “เป็นนายนี่เอง….หวังเย่า ! ”
เมื่อได้ยินชื่อของหวังเย่า ผู้หญิงคนนั้นก็ก้าวออกมาและมองมาที่หวังเย่าและอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ “ เป็นเขาจริง ๆ…”
ผู้หญิงคนนั้นพึมพำออกมาพร้อมสายตาที่แสดงความสับสนราวกับคิดถึงเรื่องเมื่อในอดีต
“พวกนายรู้จักกันงั้นหรือ ? ” แฟนธอมและซิดดี้ต่างก็ถามขึ้นมา
หวังเย่าพยักหน้า “ตอนที่ฉันยังอยู่ในโลกมนุษย์ เขาเคยเข้าร่วมการชุมนุมวันชาติและได้ที่ 1 ไป ตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่ได้พบกันอีก ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกันที่นี่”
“น่าสนุกดีนี่ ฮ่าฮ่า…”
ตงเหลิ่งหัวเราะออกมาและชี้มาที่หวังเย่า ก่อนจะถามกับซิดดี้ “เขาเป็นนักนักโทษของแก แต่แกกลับแพ้ให้กับเขางั้นหรือ ? ”
ซิดดี้พยักหน้า “ใช่แล้ว”
“แกอยากแก้แค้นรึเปล่า ? ” ตงเหลิ่งยิ้มออกมา
“คุณตงเหลิ่ง..ผมอยาก ! ” ซิดดี้อยากได้โอกาสแบบนี้ เขาตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารีบป้องมือให้กับตงเหลิ่งด้วยท่าทีเคารพ
“ที่รัก ถ้าฉันจะจัดการกับเขาที่นี่ เธอจะว่าฉันรึเปล่า ? ” ตงเหลิ่งยิ้มออกมา เขารอฟังคำตอบจากผู้หญิงคนนั้น
“ฉันผิดหวังนิด ๆ ฉันคิดว่านายจะเข้าร่วมการชุมนุมด้วย ไม่คิดเลยว่านายจะแค่มาดูเฉย ๆ ” ตงเหลิ่งมองไปที่หวังเย่า แล้วพูดขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ทั้งสองยังเป็นแค่เด็กหนุ่ม พวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายปีแต่ตอนนี้กลับมาพบกันอีก
หวังเย่าสนใจอีกฝ่ายมาโดยตลอดแต่ตั้งแต่จบการชุมนุมไปแล้วตงเหลิ่งก็หายตัวไป
ไม่มีใครรู้ว่าตงเหลิ่งมาจากไหน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงปรากฏตัวขึ้นมา หวังเย่าอยากหาโอกาสที่จะสู้กับอีกฝ่ายแต่ก็ไม่มีโอกาสเลยสักครั้ง
แต่เมื่อพบกับตงเหลิ่ง ตอนนี้หวังเย่าก็รู้ว่าไม่มีโอกาสที่จะชนะอีกฝ่ายเลย
หวังเย่ามองไปที่ตงเหลิ่ง แล้วยิ้มออกมา“ ฉันมีคำถามในใจมาตลอด สุดท้ายนายมาจากไหนกัน ? นายบอกฉันได้รึยัง ? ”
ตงเหลิ่งยิ้มออกมา “ฉันบอกนายก็ได้ ยังไงซะนายก็ต้องตายอยู่ดี”
“นายน่าจะเคยได้ยินเขตหวงห้ามทั้งสามตอนที่นายอยู่ในโลกมนุษย์สินะ ? ”
หวังเย่าพยักหน้า อสูรมิติของเขากำเนิดขึ้นมาที่นั่น แต่เขาไม่เคยไปที่เขตหวงห้ามทั้งสามมาก่อน
“เขตหวงห้ามทั้งสามน่ะคือสนามรบ มันคือที่ที่คนจากดาวนิบิรุก่อสงครามเมื่อหลายแสนปีก่อน หลังจากจบการต่อสู้นั้น พื้นที่นั้นก็ถูกครอบครองโดยคนโบไลด์จนกลายมาเป็นดาวโบไลด์ในปัจจุบัน”
“งั้นนายมาที่โลกมนุษย์ทำไม ?”
ตงเหลิ่งยิ้มออกมา “จริง ๆ แล้วก็เพราะนาย ! ”