ตอนที่ 560 : ยิง
แทงค์น้ำมันกว่า 50 อันถูกขนออกมาที่ลาน หากมันระเบิดออกมา มันคงทรงพลังน่าดู
ภายใต้คำสั่งของเอเดรียน แทงค์พวกนั้นก็ถูกเปิดออก
ลูโด้เปล่งแสงออกมา หนวดของมันยื่นลงมาที่แทงค์พวกนั้นแล้วสูบน้ำมันเข้าไป
ครืน….
เสียงดังขึ้นมาจากลูโด้ พร้อมกับหนวดของมันที่กลายเป็นเหมือนกับท่อสูบน้ำมันขึ้นไปในตัว
หนวดอันอื่น ๆ ชูขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉากนี้เป็นฉากที่น่าตกใจอย่างมาก !
ผ่านไปสักพักน้ำมันก็ถูกสูบไปจนหมด น้ำหนักตัวของลูโด้เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก จากที่มันบินอยู่ก็ทำให้มันร่วงลงมาเล็กน้อย แต่เครื่องยนต์ในเกราะกลับทำงานยิ่งกว่าเดิม เสียงเครื่องดังสนั่นที่แม้แต่ด้านนอกเหมืองก็ยังได้ยิน
นักโทษพากันทำแนวกันไฟรอบตัวบึงเอาไว้
เมื่อเห็นน้ำมันถูกสูบไปหมด เอเดรียนก็มองไปที่ลูโด้ก่อนจะยกดาบชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้วตะโกนออกมา “ เตรียมโจมตี !”
ครืน ! ทันใดนั้นลูโด้ก็พ้นน้ำมันออกมาจนกระจายไปทั่วบึงแห่งนั้น ก่อนที่มันจะพ้นไฟออกมาตาม ไม่นานไฟก็ค่อยลามออกไป
ก้อนหินขนาดใหญ่ติดไฟขึ้นมาก่อนจะถูกโยนเข้าไปในป่าภายในบึง
ในเวลาเดียวกันปืนที่ใต้ท้องของลูโด้ก็ทำการเล็งไปที่บึงก่อนที่จะยิงออกมา
ครืน….
สัตว์อสูรนับไม่ถ้วนต่างก็โดนน้ำมันอาบไปด้วย พร้อมกับไฟที่แผดเผาเข้ามา
ตูม !
ครืน…
ในตอนนั้นป่าเริ่มติดไฟ ไฟนี้สูงหลายสิบเมตรที่แม้แต่ด้านล่างท้องของลูโด้ก็ยังแดงก่ำ
กรร…
เสียงคำรามดังขึ้นมาจากเปลวไฟ เอเดรียนถึงกับแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา “ เตรียมสู้ ฆ่าสัตว์อสูรพวกนี้ให้ได้ ! ”
“ได้ ! ”
สัตว์อสูรนับไม่ถ้วนวิ่งออกมาจากบึงและพบกับพวกนักโทษที่ดักรอเอาไว้ด้านหน้า
เขตกันไฟนั้นเต็มไปด้วยสัตว์อสูรในทันที่ เลือดกระจายไปทั่ว กลิ่นน้ำมันและเลือดลอยคละคลุ้งไปหมด
แกร๊ก…
ต้นไม้นับไม่ถ้วนโดนเผาจนล้มลงมา ต้นไม้ใหญ่โดนเผาจนกลายเป็นตอตะโกและเริ่มที่จะหักโค่นลงมาอย่างช้า ๆ
หวังเย่ามองดูลูโด้ที่อยู่บนท้องฟ้า สีหน้าของเขาเริ่มที่จะหม่นลงเมื่อเห็นตอนที่น้ำมันถูกราดลงมา
เมื่อได้ยินเสียงร้องของสัตว์อสูร หวังเย่าก็ได้แต่กำหมัดแน่น
“หวังเย่า ไปได้แล้ว” แฟนธอมมองดูเปลวไฟและรู้สึกแค้นขึ้นมาไม่ต่างกับหวังเย่า
“สัตว์อสูรพวกนี้น่าสงสารก็จริง แต่พวกมันตายไปแล้ว เราต้องไปกันแล้ว”
หวังเย่ากัดฟันแน่นและกระโดดออกมาจากโพรงไม้เพื่อหนีออกจากที่นั่น
ร่างขนาดใหญ่ของลูโด้ราวกับเป็นเมฆดำ แต่เมื่อมันถอยตัวออกไปกลับมีฝนตกหนักลงมา
ไฟในบางพื้นที่ที่ลุกไหม้อยู่นั้นดับลงไป บางพื้นที่ไฟยังลามต่อไปเรื่อย ๆ
การต่อสู้ระหว่างไฟกับน้ำยังคงดำเนินต่อไป แต่ไฟเหมือนจะได้เปรียบก่อนที่สุดท้ายจะเปลี่ยนบึงแห่งนี้ให้กลายเป็นทะเลไฟ
กรร !
นกฟินิกซ์หลายสิบตัวพากันบินไปหาลูโด้และพ่นไฟออกมา พวกมันไม่อยากให้ด้านล่างโดนเผา พวกมันคิดจะโจมตีเพื่อทำให้ลูโด้ตกลงมา
ตอนที่กลุ่มนกฟินิกซ์เผชิญหน้ากับลูโด้นั้น ค้างคาวนับไม่ถ้วนก็บินขึ้นไปบนฟ้าและปรากฏตัวขึ้นด้านบนของลูโด้
บนหลังของมันราวกับป้อมปราการ
ปัง ปัง ปัง
ไฟถูกยิงออกมาเพื่อกันไม่ให้ค้างคาวพวกนั้นเข้าใกล้
ตอนที่กระสุนโดนตัวค้างคาว เกราะของค้างคาวก็ต้องแตกออกเป็นชิ้น ๆ
ร่างของค้างคาวถูกเผยออกมา ตอนที่มันกำลังจะโจมตีอีกครั้งก็โดนไฟเผาไปแล้ว
หวังเย่าซ่อนตัวอยู่ในป่าที่ซึ่งมีฝนตกหนักในบริเวณนั้น
เขาเงยหน้าขึ้นมองสัตว์อสูรบนท้องฟ้าพร้อมกับกำมือขวาแน่นจนต้นไม้ที่เขาจับอยู่ต้องแตกออก
“เก็บแรงเอาไว้ ! ” แฟนธอมที่ยืนพิงต้นไม้อยู่ได้เตือนออกมา
หวังเย่าขมวดคิ้วและส่ายหน้า “ไม่จำเป็นต้องโจมตีต่อ ให้พวกสัตว์อสูรถอยกลับมา หาที่ซ่อนตัว รอจนกว่าเราจะสู้กับเอเดรียน แล้วค่อยให้พวกนั้นมารวมตัว”
“เจ้าลืมแล้วหรือว่าจะเอาชนะลูโด้ยังไง ? หากไม่มีพวกแนวหน้า งั้นกระสุนของมันก็ไม่มีวันหมด เราต้องกดดันมัน” แฟนธอมพูดขึ้น
“แม้ว่าเราจะไม่ใช้สัตว์อสูรพวกนี้เป็นตัวรับกระสุน แต่ฉันก็กดดันลูโด้ได้ ! ” หวังเย่ากัดฟันแน่นแล้วพูดขึ้น
“หือ เจ้ามีวิธีอย่างไร ! ”
หวังเย่ามองไปที่แฟนธอมแล้วยิ้มออกมา “อาวุธในการทำสงครามไม่ได้มีแค่สัตว์อสูรและดินปืน บางครั้ง..ก็ต้องใช้ใจของคนด้วย ! ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้กดเครื่องสื่อสารที่หูแล้วติดต่อกับฟอเนอร์ “เฮ้ ฉันว่าจะย่างหมูสักหน่อย”
ฟอเนอร์กำลังทำงานอยู่ที่ฝ่ายกองทัพ เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เขาก็สีหน้าเครียดขึ้นมาทันที
“เอเดรียนลงมือกับนายแล้วหรือ ? ”
“ใช่ เขาเล่นหนักไปหน่อย เขาเผาบึงด้วยน้ำมัน แค่ก แค่ก..ฉันว่าฉันจะทนไม่ไหวแล้ว”
หวังเย่าทำท่าไอออกมาอยู่หลายครั้ง
“หวังเย่า นายคิดว่านายจะทนได้กี่วัน ? ”
“3 วัน ! แค่ 3 วันเท่านั้น ! ถ้านายไม่มาที่เหมือง ฉันคงตายแน่ ! ”
“แต่ตอนนี้อำนาจของเหมืองกำลังถ่ายโอน เรายังไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง นายเข้าใจรึเปล่า…นายทนไว้สัก 5 วัน ฉันจะหาทางทำให้เอเดรียนหยุดโจมตี ! ”
“แค่ก…เพื่อที่จะร่วมมือกับนาย ฉันเสียเงินไปจำนวนมาก เมื่อฉันออกไปได้ นายต้องชดเชยให้ฉันด้วย ! ”
ตื๊ด…
สัญญาณถูกตัด
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาและพูดขึ้น “นายพล ดูภาพฉากในบึงที่เราได้มาจากดาวเทียมนี่สิ”
เมื่อเห็นภาพนั้น ฟอเนอร์ก็คิ้วขมวดและเงียบไป
“นายพล บึงนี้เป็นปอดของเขตสามเขตของดาวทมิฬ หากมันถูกทำลายไป สภาพแวดล้อมของเมืองโดยรอบก็จะได้รับผลกระทบอย่างมากในอนาคต ผมคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องแจ้งเรื่องนี้ต่อประธานาธิบดี ให้เขากดดันเผ่าจิ้งจอกให้หยุดการทำลายล้างนี้”
ฟอเนอร์พยักหน้า “ตกลงตามนี้ ! ”