ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) 533 : หลุมพรางของหวังเย่า

ตอนที่ 533 : หลุมพรางของหวังเย่า

    ตอนที่ 533 : หลุมพรางของหวังเย่า

    ปัง !

    เลือดกระจายออกมาจากหัวของหวังเย่า เขายังไม่ทันได้หันกลับไปมอง แต่โทมัสก็ได้ผลักหวังเย่าจนเขาล้มลงไปกับพื้น

    “ฮ่าฮ่า แกคิดจริง ๆ รึว่าโทมัสคนนี้จะใจดี ? ฉันไม่มีทางแบ่งผลประโยชน์กับใครโดยเฉพาะเงินทองกับผู้หญิง ! ” โทมัสยิ้มออกมาอย่างพอใจราวกับได้ชัยชนะ

    เขายกท่อนเหล็กขึ้นและกดตัวหวังเย่าเอาไว้ก่อนจะถามขึ้นมา “แกคงสงสัยสินะว่าทำไมฉันถึงไม่ฆ่าแกตั้งแต่ที่อยู่ในถ้ำ ? เพราะฉันไม่มีทางสู้ในสงครามที่ไม่ชนะ ถ้าฉันยังไม่รู้ความแข็งแกร่งของแก ฉันก็ไม่มีทางที่จะฆ่าแกง่าย ๆ ฉันไม่รู้หรอกนะ แต่แกมันกระจอกเกินไป แกคือคนที่โดนฉันจัดการเร็วที่สุด แกต้านทานไม่ได้ด้วยซ้ำ” โทมัสหัวเราะออกมาอีกรอบ แสงไฟจากตะเกียงสะท้อนให้เห็นถึงความบ้าคลั่งของเขา

    เมื่อหัวเราะจนเหนื่อย โทมัสก็ได้เก็บเหล็กและพลั่วไป เขาใช้แรงทั้งหมดในการยกกระเป๋าที่หนักกว่า 4 ตันขึ้นมา

    แหวนมิติในมืออีกข้างส่องประกายขึ้น แสงนั้นได้ชี้ไปที่กระเป๋าที่หลังก่อนที่เขาจะเทแร่ทั้งหมดในกระเป๋าลงไปในแหวนมิติ ตอนนั้นเองกลับเกิดลมพัดเข้ามาในถ้ำ

    ผมของโทมัสปลิวไปตามลม เขาได้หันหน้ากลับไปมองที่ปากถ้ำ

    ไกลออกไปนั้นมีเงาหนึ่งพุ่งเข้ามา ร่างนั้นเหมือนกับรอโอกาสนี้มานานแล้วและใช้กรงเล็บเพื่อปลิดชีพเหยื่อ

    “ทักษะมีดมังกร ! ”

    ฟรืด !

    หวังเย่าหยิบพลั่วขึ้นมาก่อนจะใช้มันฟาดใส่หัวโทมัสอย่างจัง

    ฟรืด !

    เลือดของโทมัสกระจายไปทั่วแสงไฟจากตะเกียงกลับสะท้อนรอยยิ้มอันชั่วร้ายของหวังเย่าออกมา

    โทมัสได้แต่ร้องออกมาด้วยความสับสนและลนลาน

    เขาพบว่าหวังเย่าที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นเมื่อตะกี้กลับหายไปแล้ว โทมัสพึมพำออกมาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “ภาพลวงตางั้นหรือ…”

    “ใช่ มันเรียกว่าภาพลวงตา ตอนที่แกสู้กับสองคนนั่น ฉันก็ได้สร้างเขตลวงตานี้ขึ้นมา”

    โทมัสกระอักเลือดออกมา เขาเหมือนจะไม่ยอมรับ “ฉะ…ฉันดีกับแกแบบนี้ แต่แก….”

    “ทำไม ? แกสอนฉันเองไม่ใช่รึไงว่าในโลกนี้ไม่มีมิตรภาพที่ยั่งยืน ! ตอนที่ฉันมาที่ถ้ำนี้ แกก็คิดจะหักหลังฉันอยู่แล้ว หูแกดีไม่ใช่รึไง ความแข็งแกร่งของแกน่ะไม่ได้ด้อยกว่าฉันเลย ถ้าแกอ่อนแอกว่าฉัน แกคงหนีไปแล้ว ถ้าแกไม่หนีก็แปลว่าแกมั่นใจตัวเอง แกไม่ได้กังวลกับการฆ่าฉันเหมือนกับไอ้สองคนก่อนหน้านี้ แกน่ะระวังตัวอย่างมาก ไม่ใช่แค่ระวังตัว แต่แกยังโลภมากอีกด้วย แกจงใจดึงฉันร่วมทีมให้ฉันทำงานให้กับแก ฮ่าฮ่า…” หวังเย่ายิ้มออกมา

    “แกคงอยากรู้สินะว่าฉันแกร่งแค่ไหน ตอนที่ฉันสู้กับไอ้สองคนนั่น ฉันจงใจออมมือเอาไว้เพื่อให้แกออกมาจบการต่อสู้โดยเร็วที่สุด” หวังเย่านั่งยอง ๆ ก่อนจะยิ้มให้กับโทมัส “ฉันเสียใจด้วยนะ …แต่แกน่ะเป็นไอ้กระจอกต่างหาก แกคือคนที่ฉันฆ่าได้เร็วที่สุด แกต้านทานฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ”

    หวังเย่าพูดแบบเดียวกับที่โทมัสพูดกับเขามาก่อนหน้านี้ สายตาของหวังเย่าถึงกับทำให้โทมัสตัวสั่น มือของเขากำไปที่หินใกล้ตัวก่อนจะโยนมันเข้าใส่หวังเย่า

    “คนที่ดูถูกคนอื่นมีแต่จะโดนดูถูกกลับ แกยังเด็กไม่รู้ประสีประสา” หวังเย่ามองไปที่โทมัสที่กำลังจะตายก่อนจะชิงเอาแหวนมิติมาใส่ที่นิ้วของตัวเอง

    “เช่าแหวนมิติคนอื่น แกต้องจ่ายค่าเช่าสินะ ? ” หวังเย่ายิ้มออกมาและมองไปที่โทมัส

    การเช่านี้มีธนาคารของเหมืองคอยดูแล คนเช่าต้องฝากเงินเข้าไปในธนาคารเพื่อเป็นค่าเช่าโดยหักออกในแต่ละเดือน เงินส่วนนี้จะจ่ายให้กับเจ้าของแหวนโดยตรง

    เมื่อคนที่เช่าตายไป ธนาคารก็จะทำการโอนเงินให้กับเจ้าของโดยตรง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนักโทษถึงได้เอาแต่ฆ่ากัน เพราะทุกอย่างที่นี่สามารถแย่งชิงกันมาได้อย่างถูกต้อง

    เมื่อมองแหวนมิติในมือ หวังเย่าก็ได้ทำการตรวจสอบของด้านใน

    เชือก, ชุดกันฝน, มีด, หน้ากากกันแก๊ส….ของเหล่านี้ทำให้หวังเย่าถึงกับต้องแปลกใจ

    “โทมัส คิดอะไรอยู่ถึงซื้อของพวกนี้มา”

    เมื่อตรวจสอบไปเรื่อย ๆ จนเจอกับแผนที่ เขาก็ได้รู้ความจริง

    “แผนที่บึงคาลเดล่า ! ”

    ตามเครื่องหมายบนแผนที่แล้ว มันมีสุสานขนาดใหญ่ นี่คือสุสานของคนเป็นหมื่น ๆ คน

    เมื่อดูเขตดี ๆ แล้วก็พบว่าสุสานแห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของเหมืองด้วย

    “เหมืองนี้เคยเป็นสุสานเมื่อหลายหมื่นปีก่อนงั้นหรือ ? ” หวังเย่าคาดเดา เขารีบเก็บแผนที่และเครื่องมือทั้งหมดเอาไว้ เขาคิดว่าถ้ามีโอกาสจะลองตรวจสอบดู บางทีเขาอาจจะได้อะไรติดตัวกลับมา

    เขาเทแร่ในกระเป๋าทั้งหมดใส่แหวนมิติก่อนจะทำการขุดแร่ไปอีก 2 ชั่วโมง

    เมื่อรวมกับส่วนที่โทมัสขุดมาได้ หวังเย่าก็ได้แร่ไปถึง 5 ตัน มันเท่ากับการทำงานกว่า 5 วันตอนมื้อเที่ยง

    ตอนที่หวังเย่าปรากฏตัวขึ้นที่ลานของเหมือง เขาก็พบว่ามีสายตาหลายคู่มองมาที่เขา

    ในหมู่พวกนั้นมีพวกระดับ F ฟอเนอร์ที่พนันว่าหวังเย่าคงอยู่ไม่ได้ถึงครึ่งวัน แต่เมื่อหวังเย่าปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็แพ้พนันไป

    ฟอเนอร์ต้องเอาเงินทั้งหมดของตัวเองออกมาจ่ายให้กับคนอื่น ๆ พร้อมกับทนฟังเสียงหัวเราะสมน้ำหน้าของคนพวกนั้นอย่างน่าเจ็บใจ

    มันมีโต๊ะกว่า 5,000 โต๊ะที่ลาน แต่ละโต๊ะนั้นนั่งได้ 5 คนโดยแบ่งตามระดับ

    คือระดับ A-K

    มีเรือนกระจกอยู่ข้าง ๆ ที่คอยแจกจ่ายอาหาร นี่คือที่หรูหราที่สุดที่นักโทษอันดับ 1 อย่างเอเดรียน และนักโทษอันดับ 2 อย่างแลมเบิตที่เข้าไปกินอาหารที่นั่นได้

    ตอนที่หวังเย่าปรากฏตัว เอเดรียนก็ได้เข้าไปกระซิบแลมเบิต

    แลมเบิตหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดว่า “เอเดรียน นายพนันเข้าข้างไอ้สองตัวนั่นไม่ใช่รึไง ดูเหมือนว่านายจะแพ้นะ”

    เอเดรียนมองผ่านกระจกไปที่หวังเย่า “นายพูดแบบนั้นได้ยังไง”

    “ลูกน้องฉันรายงานมาว่าแหวนมิติที่เขาใส่อยู่เป็นของโทมัสที่เช่าไป นายได้ยินเรื่องโทมัสมาบ้างรึเปล่า ? ” เอเดรียนฮึดฮัดออกมา

    แลมเบิตยิ้มและพูดขึ้น “โทมัสก็อยู่ระดับ K แต่เขาน่ะเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ มีคน 7-8 คนที่ต้องตายเพราะเขา เมื่อไอ้หนูนี่กำจัดโทมัสไปได้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะแกร่งแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็น่าจะรอดคืนนี้ไปได้ ”

    เอเดรียนหยิบเบียร์ขึ้นมากินก่อนจะมองไปที่แลมเบิตแล้วพูดขึ้น “นายไม่กลัวว่าฉันจะส่งคนไปจัดการเด็กนี่รึไง ? ”

    แลมเบิตก็หยิบเบียร์ขึ้นมากินเช่นกัน “ไม่ ไอ้หนูนี่ไม่ได้มีค่าขนาดนั้น”

    เอเดรียนยิ้มออกมาและพูดขึ้น “แลมเบิต ไอ้เจ้าเล่ห์ นายเหมือนจะกันท่าให้ไอ้เด็กนี่นะ นายสนใจไอ้เด็กนี่รึไง”

    แลมเบิตยิ้มออกมาแต่ไม่ได้ตอบกลับอะไร ก่อนจะดื่มเบียร์ของตัวเองต่อมีคนแห่เข้ามาในลานมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่วมถึงพวกนักโทษที่เดินไปมา

    พวกเขาผมยุ่งเหยิงและมือสกปรก บางคนถึงกับมีกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์มาก

    หลังจากที่กินอาหารเสร็จ พวกเขาก็ทิ้งถาดอาหารของตัวเองเอาไว้แบบเดิม

    มันถึงกับมีคนที่เข้าไปเก็บเศษอาหารเหล่านั้นมากินด้วย

    ตอนนั้นมีนักโทษ 8-9 คนเดินเข้ามาก่อนที่ผู้คุมจะยกหม้อใบใหญ่ออกมาวางไว้บนโต๊ะ แต่ละหม้อนั้นเป็นน้ำเขียว ๆ ที่มีแมลงวันบินวนไปมาอยู่บนหม้อ เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา เขาไม่ได้รู้สึกหิวอีกต่อไป และเขาก็ยังเห็นว่านักโทษคนอื่น ๆ กลับไปยืนต่อแถวกันด้วยสายตาหิวโหย หวังเย่าถึงกับได้ยินเสียงพวกนั้นกลืนน้ำลายด้วย

    หวังเย่าขนลุกขึ้นมาทันที “นี่หิวขนาดนั้นเลยหรือ ? ”

    เวลาในการทานอาหารของแต่ละระดับนั้นก็แตกต่างกันไป ระดับ A-E มีเวลา 30 นาที, ระดับ F-G มีเวลา 15 นาที, ระดับ H-I มีเวลา 10 นาที ระดับ J มีเวลา 3 นาที ระดับ K มีเวลา 2 นาทีรวมเป็นทั้งหมด 60 นาที

    หวังเย่ารู้เรื่องนี้แต่ไม่คิดเลยว่าระดับ K จะมีเวลาแค่ 2 นาทีเท่านั้น

    นักโทษระดับ H-I กินอาหารจนเสร็จ พวกนั้นเลียปากด้วยความพอใจก่อนจะมองไปที่นักโทษระดับ J และ K ที่ยืนมองอยู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

    แทบทุกคนถึงกับถุยน้ำลายใส่หม้ออาหาร

    “นักโทษระดับ J ไปกินได้แล้ว !”

    ผู้คุมสั่งและเปิดรั้วก่อนที่นักโทษระดับ J จะพากันแห่ไปที่โต๊ะอาหาร

    บางคนถึงกับยกหม้อขึ้นซด บางคนถึงกับจุ่มหัวลงไป

    หวังเย่าขมวดคิ้วไปด้วย แต่เมื่อมองดูนักโทษระดับ K คนอื่น ๆ ก็พบว่าพวกนี้เตรียมตัวจะวิ่งเข้าไปเพื่อกินอาหารกันแล้ว

    “ไม่เกินไปหน่อยรึไง !”

    เพื่อที่ไม่ให้ตัวเองดูแปลก หวังเย่าเองก็เตรียมตัวจะวิ่งเช่นกัน

    “ระดับ J กินเสร็จแล้ว ระดับ K เตรียมตัว”

    “เริ่มได้ ! ”

    รั้วถูกเปิดออกพร้อมกับนักโทษระดับ K ที่พากันวิ่งเข้าใส่หม้ออาหาร

    ตอนนี้ในหม้อแทบไม่มีอาหารเหลืออยู่แล้ว

    นักโทษคนหนึ่งเห็นเศษอาหารที่พื้นก็พุ่งเข้าใส่ด้วยตาที่แดงก่ำ

    หวังเย่าใจสั่น เมื่อเห็นฉากวุ่นวายรอบตัว เขาก็ลังเลว่าจะกินอาหารในหม้อดีรึไม่ อาหารพวกนี้คือหนอนเขียว

    แมลงเป็นอาหารทั่วไปในดาวทมิฬนี้ มันมีโปรตีนสูง ตอนที่เขาเดินมาที่นี่เขาก็เห็นรถที่กำลังขนแมลงเข้ามา

    มันแค่ว่าในคุกนี้ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก พวกนั้นไม่ได้ทำการล้างแมลงพวกนี้ แต่กลับเอามันมาทอดทั้งเป็น

    หวังเย่ายกมือขึ้นก่อนที่ผู้คุมจะตะโกนขึ้นมา “หมดเวลาแล้ว รีบออกมาได้แล้ว ! ”

    “ผู้คุม ! ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย”

    หวังเย่าตระหนักได้ว่าการเอาตัวรอดในเหมืองนี้หนักหนากว่าที่เขาคิดเอาไว้

    เวลาทำงานอีก 10 ชั่วโมงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

    ทุกคนได้กลับไปยังจุดประจำของตัวเองและเริ่มทำงานอีกรอบ

    ตอนนั้นก็ได้มีเสียงประกาศดังขึ้นมา

    “พวกขยะที่ดีแต่ขุดแร่…”

    คนเป็นหมื่น ๆ คนได้แต่ต้องเต้นไปมาตามเพลงด้วยสีหน้าเฉยชา หวังเย่าเองก็เช่นกัน

    หวังเย่าต้องนอนหมอบไปกับพื้นและแลบลิ้นออกมา

    เขาสงสัยว่านักโทษ 2 อันดับแรกต้องทำแบบนี้ด้วยรึเปล่า ?

    เขากลิ้นตัวไปมาพร้อมกับมองไปรอบ ๆ สุดท้ายเขาเห็นสองคนที่เขานึกถึง

    แม้ว่าจะแกร่งขนาดไหนแต่ก็ต้องยอมก้มหัวให้กับซิดดี้ ทั้งสองทำจริงจังกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ

    มันไม่ยากที่จะเข้าใจได้ว่า หากซิดดี้คิดจะจัดการใคร เขาแค่ใช้ผู้คุมจัดการแทนเขาก็ได้แล้ว

    มีหลายสายตามองไปยังทั้งคู่ หากพวกเขาทำให้ซิดดี้ไม่พอใจ งั้นซิดดี้ก็ฆ่าพวกเขาได้และให้คนอื่นมาครองตำแหน่งแทนพวกเขา

    เมื่อได้ยินเสียงเพลงนี้ ทั้งสองกลับเปลี่ยนสีหน้า พวกเขาเต้นตามราวกับเป็นแค่หุ่นยนต์

    นักโทษระดับ A ที่โดนขังอยู่ที่นี่มาหลายพันปีล้วนแต่โดนล้างสมองด้วยเพลงนี้

    เมื่อเสียงเพลงนี้ดังขึ้น พวกเขาก็นอนหมอบกับพื้นและเริ่มเต้นไปมา

    ระหว่างที่รอกินอาหารนั้น หวังเย่าได้ยินข่าวเรื่องเอเดรียนและแลมเบิตมาบ้าง

    พวกเขายังมีสติ แต่เมื่อได้ยินเพลงนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่อาจจะต่อต้านมันได้ มันราวกับพวกเขาเสียสติไป

    พวกเขาเต้นมาเป็นหมื่น ๆ ครั้งแล้ว ไม่ว่าจิตใจจะเข้มแข็งเพียงใด แต่ร่างกายก็ยังคงทำตามเช่นเดิม

    หากอยู่ที่นี่ไปหลายร้อยปี หวังเย่าจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า ?

    ภายนอกหวังเย่าก็ยังเต้นตามอย่างจริงจัง แต่ในใจเขากลับคิดว่าเขาจะไม่ให้ตัวเองทำตามท่านี้ไปตามสัญชาตญาณอย่างแน่นอน เขาไม่อยากอยู่ภายใต้การควบคุมของซิดดี้

    สุดท้ายเพลงก็จบลงก่อนที่หวังเย่าจะเดินออกไป

    เมื่อเงยหน้าขึ้นมองจอคะแนน เขาก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเจอรายชื่อตัวเอง

    2020423 ระดับ K คะแนน 0

    ตอนนี้หวังเย่าอยู่อันดับท้ายสุดในหมู่นักโทษ 42,323 คนในเหมืองแห่งนี้

    ตามระบบคะแนนของเหมืองแล้ว นักโทษแต่ละคนต้องทำงานประจำของตัวเองให้เสร็จถึงจะได้ 1 คะแนนสำหรับแร่แต่ละตัน

    ตอนนี้หวังเย่ามีถ้ำลับแล้ว ถ้าเขาขุดที่นั่นคนเดียว เขาคงขุดแร่ได้ 5-6 ตันต่อวัน

    ดาวทมิฬนี้มี 300 วันต่อปีรึแค่ 10 เดือนเท่านั้น

    แม้ว่าหวังเย่าขุดแร่ 6 ตันต่อวันซึ่งเท่ากับ 1,800 ตันต่อปีแต่เขาก็ต้องขุดกว่า 10 ปีกว่าจะเลื่อนขึ้นไประดับ J ได้

    บอกได้ว่าการเลื่อนระดับในเหมืองนี้นั้นยากไม่ต่างจากการขึ้นสวรรค์เลย

    10 ปีที่ว่านี้คือการที่หวังเย่าไม่ได้ใช้เงินไปกับอย่างอื่นด้วย

    เมื่อคิดถึงเรื่องการใช้เงิน หวังเย่าก็รู้สึกหิวขึ้นมา

    หวังเย่าได้ออกจากหอคอยและพบว่ามีคนอย่างน้อย 20-30 คนตามเขามา ในหมู่คนพวกนี้มีพวกระดับ I-J อยู่ด้วย

    ดูเหมือนว่าคนพวกนี้คิดจะฆ่าเขาในตอนบ่ายนี้

    “ถ้าอย่างนั้นก็เสี่ยงไปที่บึงคาลเดล่า มาดูกันว่าพวกนี้จะกล้ากันแค่ไหน ฉันยินดีใช้พวกนี้เป็นหนูทดลอง”

    หวังเย่าทำท่าไม่รู้ตัวว่าโดนตาม เขาจงใจเปิดเผยเส้นทางตัวเอง

    ระหว่างทางที่ตามหวังเย่ามา คนอื่น ๆ ก็เห็นคนพวกนี้ที่เลือกจะตามเด็กใหม่ไป ซึ่งหมายความว่าเด็กใหม่นี่จะต้องเจอกับถ้ำลับ

    พวกคนโลภมากจึงเลือกตามพวกนั้นไปอีก

    หวังเย่าแอบยิ้มออกมา ตอนนี้มีคนตามเขามาอย่างน้อย 150 คน ระดับสูงสุดคือระดับ F

    “น่าสนใจดีนี่” หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะเดินเข้าไปที่ป่า

    “ไอ้เด็กใหม่นี่คิดจะทำอะไร ? ”

    “มันมีบึงอยู่ตรงหน้า มันไม่ได้มีแร่ที่นั่น”

    “ใครจะไปรู้ เราต้องตามมันไปต่อ”

    “แกนี่ก็แปลก แกอยู่ระดับ F แต่กลับต้องมาตามคนระดับ K”

    “ฉันรู้ ฉันเห็นว่ามีหลายคนตามมันมา ฉันเลยตามมาด้วย”

    “ก็ไม่แปลกหรอก…”

    บางคนพึมพำออกมาและเลือกที่จะเดินตามหวังเย่าเข้าไปในป่าต่อ

    

    

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Score 10
Status: Completed

นี่คือโลกของสัตว์อสูร !

หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา !

เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่

ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้

ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป…

หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ?

โทษทีนะพวก !

มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม


นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Options

not work with dark mode
Reset