ตอนที่ 533 : หลุมพรางของหวังเย่า
ปัง !
เลือดกระจายออกมาจากหัวของหวังเย่า เขายังไม่ทันได้หันกลับไปมอง แต่โทมัสก็ได้ผลักหวังเย่าจนเขาล้มลงไปกับพื้น
“ฮ่าฮ่า แกคิดจริง ๆ รึว่าโทมัสคนนี้จะใจดี ? ฉันไม่มีทางแบ่งผลประโยชน์กับใครโดยเฉพาะเงินทองกับผู้หญิง ! ” โทมัสยิ้มออกมาอย่างพอใจราวกับได้ชัยชนะ
เขายกท่อนเหล็กขึ้นและกดตัวหวังเย่าเอาไว้ก่อนจะถามขึ้นมา “แกคงสงสัยสินะว่าทำไมฉันถึงไม่ฆ่าแกตั้งแต่ที่อยู่ในถ้ำ ? เพราะฉันไม่มีทางสู้ในสงครามที่ไม่ชนะ ถ้าฉันยังไม่รู้ความแข็งแกร่งของแก ฉันก็ไม่มีทางที่จะฆ่าแกง่าย ๆ ฉันไม่รู้หรอกนะ แต่แกมันกระจอกเกินไป แกคือคนที่โดนฉันจัดการเร็วที่สุด แกต้านทานไม่ได้ด้วยซ้ำ” โทมัสหัวเราะออกมาอีกรอบ แสงไฟจากตะเกียงสะท้อนให้เห็นถึงความบ้าคลั่งของเขา
เมื่อหัวเราะจนเหนื่อย โทมัสก็ได้เก็บเหล็กและพลั่วไป เขาใช้แรงทั้งหมดในการยกกระเป๋าที่หนักกว่า 4 ตันขึ้นมา
แหวนมิติในมืออีกข้างส่องประกายขึ้น แสงนั้นได้ชี้ไปที่กระเป๋าที่หลังก่อนที่เขาจะเทแร่ทั้งหมดในกระเป๋าลงไปในแหวนมิติ ตอนนั้นเองกลับเกิดลมพัดเข้ามาในถ้ำ
ผมของโทมัสปลิวไปตามลม เขาได้หันหน้ากลับไปมองที่ปากถ้ำ
ไกลออกไปนั้นมีเงาหนึ่งพุ่งเข้ามา ร่างนั้นเหมือนกับรอโอกาสนี้มานานแล้วและใช้กรงเล็บเพื่อปลิดชีพเหยื่อ
“ทักษะมีดมังกร ! ”
ฟรืด !
หวังเย่าหยิบพลั่วขึ้นมาก่อนจะใช้มันฟาดใส่หัวโทมัสอย่างจัง
ฟรืด !
เลือดของโทมัสกระจายไปทั่วแสงไฟจากตะเกียงกลับสะท้อนรอยยิ้มอันชั่วร้ายของหวังเย่าออกมา
โทมัสได้แต่ร้องออกมาด้วยความสับสนและลนลาน
เขาพบว่าหวังเย่าที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นเมื่อตะกี้กลับหายไปแล้ว โทมัสพึมพำออกมาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “ภาพลวงตางั้นหรือ…”
“ใช่ มันเรียกว่าภาพลวงตา ตอนที่แกสู้กับสองคนนั่น ฉันก็ได้สร้างเขตลวงตานี้ขึ้นมา”
โทมัสกระอักเลือดออกมา เขาเหมือนจะไม่ยอมรับ “ฉะ…ฉันดีกับแกแบบนี้ แต่แก….”
“ทำไม ? แกสอนฉันเองไม่ใช่รึไงว่าในโลกนี้ไม่มีมิตรภาพที่ยั่งยืน ! ตอนที่ฉันมาที่ถ้ำนี้ แกก็คิดจะหักหลังฉันอยู่แล้ว หูแกดีไม่ใช่รึไง ความแข็งแกร่งของแกน่ะไม่ได้ด้อยกว่าฉันเลย ถ้าแกอ่อนแอกว่าฉัน แกคงหนีไปแล้ว ถ้าแกไม่หนีก็แปลว่าแกมั่นใจตัวเอง แกไม่ได้กังวลกับการฆ่าฉันเหมือนกับไอ้สองคนก่อนหน้านี้ แกน่ะระวังตัวอย่างมาก ไม่ใช่แค่ระวังตัว แต่แกยังโลภมากอีกด้วย แกจงใจดึงฉันร่วมทีมให้ฉันทำงานให้กับแก ฮ่าฮ่า…” หวังเย่ายิ้มออกมา
“แกคงอยากรู้สินะว่าฉันแกร่งแค่ไหน ตอนที่ฉันสู้กับไอ้สองคนนั่น ฉันจงใจออมมือเอาไว้เพื่อให้แกออกมาจบการต่อสู้โดยเร็วที่สุด” หวังเย่านั่งยอง ๆ ก่อนจะยิ้มให้กับโทมัส “ฉันเสียใจด้วยนะ …แต่แกน่ะเป็นไอ้กระจอกต่างหาก แกคือคนที่ฉันฆ่าได้เร็วที่สุด แกต้านทานฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ”
หวังเย่าพูดแบบเดียวกับที่โทมัสพูดกับเขามาก่อนหน้านี้ สายตาของหวังเย่าถึงกับทำให้โทมัสตัวสั่น มือของเขากำไปที่หินใกล้ตัวก่อนจะโยนมันเข้าใส่หวังเย่า
“คนที่ดูถูกคนอื่นมีแต่จะโดนดูถูกกลับ แกยังเด็กไม่รู้ประสีประสา” หวังเย่ามองไปที่โทมัสที่กำลังจะตายก่อนจะชิงเอาแหวนมิติมาใส่ที่นิ้วของตัวเอง
“เช่าแหวนมิติคนอื่น แกต้องจ่ายค่าเช่าสินะ ? ” หวังเย่ายิ้มออกมาและมองไปที่โทมัส
การเช่านี้มีธนาคารของเหมืองคอยดูแล คนเช่าต้องฝากเงินเข้าไปในธนาคารเพื่อเป็นค่าเช่าโดยหักออกในแต่ละเดือน เงินส่วนนี้จะจ่ายให้กับเจ้าของแหวนโดยตรง
เมื่อคนที่เช่าตายไป ธนาคารก็จะทำการโอนเงินให้กับเจ้าของโดยตรง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนักโทษถึงได้เอาแต่ฆ่ากัน เพราะทุกอย่างที่นี่สามารถแย่งชิงกันมาได้อย่างถูกต้อง
เมื่อมองแหวนมิติในมือ หวังเย่าก็ได้ทำการตรวจสอบของด้านใน
เชือก, ชุดกันฝน, มีด, หน้ากากกันแก๊ส….ของเหล่านี้ทำให้หวังเย่าถึงกับต้องแปลกใจ
“โทมัส คิดอะไรอยู่ถึงซื้อของพวกนี้มา”
เมื่อตรวจสอบไปเรื่อย ๆ จนเจอกับแผนที่ เขาก็ได้รู้ความจริง
“แผนที่บึงคาลเดล่า ! ”
ตามเครื่องหมายบนแผนที่แล้ว มันมีสุสานขนาดใหญ่ นี่คือสุสานของคนเป็นหมื่น ๆ คน
เมื่อดูเขตดี ๆ แล้วก็พบว่าสุสานแห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของเหมืองด้วย
“เหมืองนี้เคยเป็นสุสานเมื่อหลายหมื่นปีก่อนงั้นหรือ ? ” หวังเย่าคาดเดา เขารีบเก็บแผนที่และเครื่องมือทั้งหมดเอาไว้ เขาคิดว่าถ้ามีโอกาสจะลองตรวจสอบดู บางทีเขาอาจจะได้อะไรติดตัวกลับมา
เขาเทแร่ในกระเป๋าทั้งหมดใส่แหวนมิติก่อนจะทำการขุดแร่ไปอีก 2 ชั่วโมง
เมื่อรวมกับส่วนที่โทมัสขุดมาได้ หวังเย่าก็ได้แร่ไปถึง 5 ตัน มันเท่ากับการทำงานกว่า 5 วันตอนมื้อเที่ยง
ตอนที่หวังเย่าปรากฏตัวขึ้นที่ลานของเหมือง เขาก็พบว่ามีสายตาหลายคู่มองมาที่เขา
ในหมู่พวกนั้นมีพวกระดับ F ฟอเนอร์ที่พนันว่าหวังเย่าคงอยู่ไม่ได้ถึงครึ่งวัน แต่เมื่อหวังเย่าปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็แพ้พนันไป
ฟอเนอร์ต้องเอาเงินทั้งหมดของตัวเองออกมาจ่ายให้กับคนอื่น ๆ พร้อมกับทนฟังเสียงหัวเราะสมน้ำหน้าของคนพวกนั้นอย่างน่าเจ็บใจ
มันมีโต๊ะกว่า 5,000 โต๊ะที่ลาน แต่ละโต๊ะนั้นนั่งได้ 5 คนโดยแบ่งตามระดับ
คือระดับ A-K
มีเรือนกระจกอยู่ข้าง ๆ ที่คอยแจกจ่ายอาหาร นี่คือที่หรูหราที่สุดที่นักโทษอันดับ 1 อย่างเอเดรียน และนักโทษอันดับ 2 อย่างแลมเบิตที่เข้าไปกินอาหารที่นั่นได้
ตอนที่หวังเย่าปรากฏตัว เอเดรียนก็ได้เข้าไปกระซิบแลมเบิต
แลมเบิตหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดว่า “เอเดรียน นายพนันเข้าข้างไอ้สองตัวนั่นไม่ใช่รึไง ดูเหมือนว่านายจะแพ้นะ”
เอเดรียนมองผ่านกระจกไปที่หวังเย่า “นายพูดแบบนั้นได้ยังไง”
“ลูกน้องฉันรายงานมาว่าแหวนมิติที่เขาใส่อยู่เป็นของโทมัสที่เช่าไป นายได้ยินเรื่องโทมัสมาบ้างรึเปล่า ? ” เอเดรียนฮึดฮัดออกมา
แลมเบิตยิ้มและพูดขึ้น “โทมัสก็อยู่ระดับ K แต่เขาน่ะเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ มีคน 7-8 คนที่ต้องตายเพราะเขา เมื่อไอ้หนูนี่กำจัดโทมัสไปได้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะแกร่งแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็น่าจะรอดคืนนี้ไปได้ ”
เอเดรียนหยิบเบียร์ขึ้นมากินก่อนจะมองไปที่แลมเบิตแล้วพูดขึ้น “นายไม่กลัวว่าฉันจะส่งคนไปจัดการเด็กนี่รึไง ? ”
แลมเบิตก็หยิบเบียร์ขึ้นมากินเช่นกัน “ไม่ ไอ้หนูนี่ไม่ได้มีค่าขนาดนั้น”
เอเดรียนยิ้มออกมาและพูดขึ้น “แลมเบิต ไอ้เจ้าเล่ห์ นายเหมือนจะกันท่าให้ไอ้เด็กนี่นะ นายสนใจไอ้เด็กนี่รึไง”
แลมเบิตยิ้มออกมาแต่ไม่ได้ตอบกลับอะไร ก่อนจะดื่มเบียร์ของตัวเองต่อมีคนแห่เข้ามาในลานมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่วมถึงพวกนักโทษที่เดินไปมา
พวกเขาผมยุ่งเหยิงและมือสกปรก บางคนถึงกับมีกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์มาก
หลังจากที่กินอาหารเสร็จ พวกเขาก็ทิ้งถาดอาหารของตัวเองเอาไว้แบบเดิม
มันถึงกับมีคนที่เข้าไปเก็บเศษอาหารเหล่านั้นมากินด้วย
ตอนนั้นมีนักโทษ 8-9 คนเดินเข้ามาก่อนที่ผู้คุมจะยกหม้อใบใหญ่ออกมาวางไว้บนโต๊ะ แต่ละหม้อนั้นเป็นน้ำเขียว ๆ ที่มีแมลงวันบินวนไปมาอยู่บนหม้อ เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา เขาไม่ได้รู้สึกหิวอีกต่อไป และเขาก็ยังเห็นว่านักโทษคนอื่น ๆ กลับไปยืนต่อแถวกันด้วยสายตาหิวโหย หวังเย่าถึงกับได้ยินเสียงพวกนั้นกลืนน้ำลายด้วย
หวังเย่าขนลุกขึ้นมาทันที “นี่หิวขนาดนั้นเลยหรือ ? ”
เวลาในการทานอาหารของแต่ละระดับนั้นก็แตกต่างกันไป ระดับ A-E มีเวลา 30 นาที, ระดับ F-G มีเวลา 15 นาที, ระดับ H-I มีเวลา 10 นาที ระดับ J มีเวลา 3 นาที ระดับ K มีเวลา 2 นาทีรวมเป็นทั้งหมด 60 นาที
หวังเย่ารู้เรื่องนี้แต่ไม่คิดเลยว่าระดับ K จะมีเวลาแค่ 2 นาทีเท่านั้น
นักโทษระดับ H-I กินอาหารจนเสร็จ พวกนั้นเลียปากด้วยความพอใจก่อนจะมองไปที่นักโทษระดับ J และ K ที่ยืนมองอยู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
แทบทุกคนถึงกับถุยน้ำลายใส่หม้ออาหาร
“นักโทษระดับ J ไปกินได้แล้ว !”
ผู้คุมสั่งและเปิดรั้วก่อนที่นักโทษระดับ J จะพากันแห่ไปที่โต๊ะอาหาร
บางคนถึงกับยกหม้อขึ้นซด บางคนถึงกับจุ่มหัวลงไป
หวังเย่าขมวดคิ้วไปด้วย แต่เมื่อมองดูนักโทษระดับ K คนอื่น ๆ ก็พบว่าพวกนี้เตรียมตัวจะวิ่งเข้าไปเพื่อกินอาหารกันแล้ว
“ไม่เกินไปหน่อยรึไง !”
เพื่อที่ไม่ให้ตัวเองดูแปลก หวังเย่าเองก็เตรียมตัวจะวิ่งเช่นกัน
“ระดับ J กินเสร็จแล้ว ระดับ K เตรียมตัว”
“เริ่มได้ ! ”
รั้วถูกเปิดออกพร้อมกับนักโทษระดับ K ที่พากันวิ่งเข้าใส่หม้ออาหาร
ตอนนี้ในหม้อแทบไม่มีอาหารเหลืออยู่แล้ว
นักโทษคนหนึ่งเห็นเศษอาหารที่พื้นก็พุ่งเข้าใส่ด้วยตาที่แดงก่ำ
หวังเย่าใจสั่น เมื่อเห็นฉากวุ่นวายรอบตัว เขาก็ลังเลว่าจะกินอาหารในหม้อดีรึไม่ อาหารพวกนี้คือหนอนเขียว
แมลงเป็นอาหารทั่วไปในดาวทมิฬนี้ มันมีโปรตีนสูง ตอนที่เขาเดินมาที่นี่เขาก็เห็นรถที่กำลังขนแมลงเข้ามา
มันแค่ว่าในคุกนี้ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก พวกนั้นไม่ได้ทำการล้างแมลงพวกนี้ แต่กลับเอามันมาทอดทั้งเป็น
หวังเย่ายกมือขึ้นก่อนที่ผู้คุมจะตะโกนขึ้นมา “หมดเวลาแล้ว รีบออกมาได้แล้ว ! ”
“ผู้คุม ! ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย”
หวังเย่าตระหนักได้ว่าการเอาตัวรอดในเหมืองนี้หนักหนากว่าที่เขาคิดเอาไว้
เวลาทำงานอีก 10 ชั่วโมงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ทุกคนได้กลับไปยังจุดประจำของตัวเองและเริ่มทำงานอีกรอบ
ตอนนั้นก็ได้มีเสียงประกาศดังขึ้นมา
“พวกขยะที่ดีแต่ขุดแร่…”
คนเป็นหมื่น ๆ คนได้แต่ต้องเต้นไปมาตามเพลงด้วยสีหน้าเฉยชา หวังเย่าเองก็เช่นกัน
หวังเย่าต้องนอนหมอบไปกับพื้นและแลบลิ้นออกมา
เขาสงสัยว่านักโทษ 2 อันดับแรกต้องทำแบบนี้ด้วยรึเปล่า ?
เขากลิ้นตัวไปมาพร้อมกับมองไปรอบ ๆ สุดท้ายเขาเห็นสองคนที่เขานึกถึง
แม้ว่าจะแกร่งขนาดไหนแต่ก็ต้องยอมก้มหัวให้กับซิดดี้ ทั้งสองทำจริงจังกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ
มันไม่ยากที่จะเข้าใจได้ว่า หากซิดดี้คิดจะจัดการใคร เขาแค่ใช้ผู้คุมจัดการแทนเขาก็ได้แล้ว
มีหลายสายตามองไปยังทั้งคู่ หากพวกเขาทำให้ซิดดี้ไม่พอใจ งั้นซิดดี้ก็ฆ่าพวกเขาได้และให้คนอื่นมาครองตำแหน่งแทนพวกเขา
เมื่อได้ยินเสียงเพลงนี้ ทั้งสองกลับเปลี่ยนสีหน้า พวกเขาเต้นตามราวกับเป็นแค่หุ่นยนต์
นักโทษระดับ A ที่โดนขังอยู่ที่นี่มาหลายพันปีล้วนแต่โดนล้างสมองด้วยเพลงนี้
เมื่อเสียงเพลงนี้ดังขึ้น พวกเขาก็นอนหมอบกับพื้นและเริ่มเต้นไปมา
ระหว่างที่รอกินอาหารนั้น หวังเย่าได้ยินข่าวเรื่องเอเดรียนและแลมเบิตมาบ้าง
พวกเขายังมีสติ แต่เมื่อได้ยินเพลงนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่อาจจะต่อต้านมันได้ มันราวกับพวกเขาเสียสติไป
พวกเขาเต้นมาเป็นหมื่น ๆ ครั้งแล้ว ไม่ว่าจิตใจจะเข้มแข็งเพียงใด แต่ร่างกายก็ยังคงทำตามเช่นเดิม
หากอยู่ที่นี่ไปหลายร้อยปี หวังเย่าจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า ?
ภายนอกหวังเย่าก็ยังเต้นตามอย่างจริงจัง แต่ในใจเขากลับคิดว่าเขาจะไม่ให้ตัวเองทำตามท่านี้ไปตามสัญชาตญาณอย่างแน่นอน เขาไม่อยากอยู่ภายใต้การควบคุมของซิดดี้
สุดท้ายเพลงก็จบลงก่อนที่หวังเย่าจะเดินออกไป
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองจอคะแนน เขาก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเจอรายชื่อตัวเอง
2020423 ระดับ K คะแนน 0
ตอนนี้หวังเย่าอยู่อันดับท้ายสุดในหมู่นักโทษ 42,323 คนในเหมืองแห่งนี้
ตามระบบคะแนนของเหมืองแล้ว นักโทษแต่ละคนต้องทำงานประจำของตัวเองให้เสร็จถึงจะได้ 1 คะแนนสำหรับแร่แต่ละตัน
ตอนนี้หวังเย่ามีถ้ำลับแล้ว ถ้าเขาขุดที่นั่นคนเดียว เขาคงขุดแร่ได้ 5-6 ตันต่อวัน
ดาวทมิฬนี้มี 300 วันต่อปีรึแค่ 10 เดือนเท่านั้น
แม้ว่าหวังเย่าขุดแร่ 6 ตันต่อวันซึ่งเท่ากับ 1,800 ตันต่อปีแต่เขาก็ต้องขุดกว่า 10 ปีกว่าจะเลื่อนขึ้นไประดับ J ได้
บอกได้ว่าการเลื่อนระดับในเหมืองนี้นั้นยากไม่ต่างจากการขึ้นสวรรค์เลย
10 ปีที่ว่านี้คือการที่หวังเย่าไม่ได้ใช้เงินไปกับอย่างอื่นด้วย
เมื่อคิดถึงเรื่องการใช้เงิน หวังเย่าก็รู้สึกหิวขึ้นมา
หวังเย่าได้ออกจากหอคอยและพบว่ามีคนอย่างน้อย 20-30 คนตามเขามา ในหมู่คนพวกนี้มีพวกระดับ I-J อยู่ด้วย
ดูเหมือนว่าคนพวกนี้คิดจะฆ่าเขาในตอนบ่ายนี้
“ถ้าอย่างนั้นก็เสี่ยงไปที่บึงคาลเดล่า มาดูกันว่าพวกนี้จะกล้ากันแค่ไหน ฉันยินดีใช้พวกนี้เป็นหนูทดลอง”
หวังเย่าทำท่าไม่รู้ตัวว่าโดนตาม เขาจงใจเปิดเผยเส้นทางตัวเอง
ระหว่างทางที่ตามหวังเย่ามา คนอื่น ๆ ก็เห็นคนพวกนี้ที่เลือกจะตามเด็กใหม่ไป ซึ่งหมายความว่าเด็กใหม่นี่จะต้องเจอกับถ้ำลับ
พวกคนโลภมากจึงเลือกตามพวกนั้นไปอีก
หวังเย่าแอบยิ้มออกมา ตอนนี้มีคนตามเขามาอย่างน้อย 150 คน ระดับสูงสุดคือระดับ F
“น่าสนใจดีนี่” หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะเดินเข้าไปที่ป่า
“ไอ้เด็กใหม่นี่คิดจะทำอะไร ? ”
“มันมีบึงอยู่ตรงหน้า มันไม่ได้มีแร่ที่นั่น”
“ใครจะไปรู้ เราต้องตามมันไปต่อ”
“แกนี่ก็แปลก แกอยู่ระดับ F แต่กลับต้องมาตามคนระดับ K”
“ฉันรู้ ฉันเห็นว่ามีหลายคนตามมันมา ฉันเลยตามมาด้วย”
“ก็ไม่แปลกหรอก…”
บางคนพึมพำออกมาและเลือกที่จะเดินตามหวังเย่าเข้าไปในป่าต่อ