ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) 520 : ศึกษาค่ายกล

ตอนที่ 520 : ศึกษาค่ายกล

    ตอนที่ 520 : ศึกษาค่ายกล

    พลังที่แข็งแกร่งนี้เป็นสิ่งที่สัตว์อสูรระดับสวรรค์ขั้นสูงทั่วไปไม่อาจจะมีได้ หวังเย่าไม่อาจจะโทษมันได้เลย

    คนที่หวังเย่าต้องโทษนั้นคือฉิงจี ตลอดหลายปีมานี้เพราะความเบื่อหน่ายของเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีเวลา เขาจะทำการศึกษาเพื่อหาทางเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอสูรของเขา เขาได้ทำการศึกษาสัตว์อสูรมามากมาย การป้องกันคือหนึ่งในสิ่งที่เขาศึกษามา

    หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา เขามองไปทางที่ชูหยุนที่ถูกเอาตัวไปด้วยความกังวล แต่เขาก็ไม่อาจจะออกจากที่นี่ไปได้ เว้นแต่ว่าเขาจะต้องกำจัดงูนี่ให้ได้เสียก่อน

    โซ่มิติกลับถูกพังลง ครั้งนี้หวังเย่าไม่กล้ายั้งการโจมตีเอาไว้อีก

    พลังการป้องกันที่สูงพอ ๆ กับจระเข้นั้น แน่นอนว่าไม่อาจจะประมาทได้

    จุดอ่อนของงูนี่ก็ยังหาได้ยาก

    ตัวของมันมีแต่เกล็ดและมีความสามารถในการฟื้นฟูที่สูง มันเกือบทำให้หวังเย่าต้องยอมแพ้ !

    งูนี่ยังคงพุ่งเข้าหาหวังเย่าอยู่ มันแสดงท่าทีราวกับดูถูกว่าความแข็งแกร่งของหวังเย่า ที่ยังมีไม่เพียงพอ

    แต่งูนี่ก็ไม่ได้คิดเปิดฉากโจมตีหลังจากที่ฉิงจีเดินทางออกไป มันเหมือนแค่ยื้อไม่ให้หวังเย่าออกไปจากที่นี่ก็เท่านั้น

    มันมองมาที่หวังเหยด้วยสายตาที่ราวกับมองดูเหยื่อ

    หวังเย่ากวาดตามองไปทั่วตัวมันและก็ต้องปวดหัวขึ้นมา

    หากฉิงจีอยู่ที่นี่ หวังเย่าคงวิ่งเข้าไปกำคอเสื้ออีกฝ่ายและถามขึ้น “แกมาจากไหนกัน ทำไมอสูรถึงได้แกร่งแบบนี้ได้ ! ”

    เมื่อหวังเย่าหยุดคิดหาทางรับมือ งูเองก็หยุดใช้หมอกพิษเช่นกัน

    “คิดสิ” มีหลายเรื่องโผล่มาในหัวของหวังเย่า แต่อยู่ ๆ ก็มีคำหนึ่งโผล่ขึ้นมา

    คำนี้คือกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหา แต่ตอนนั้นเองก็มีหางฟาดเข้าใส่เขา

    กลับเป็นว่างูนี่รู้สึกว่าหมอกพิษไม่อาจจะทำอะไรหวังเย่าได้ ดังนั้นมันจึงไม่คิดจะใช้หมอกพิษต่อและใช้หางโจมตีแทน

    ด้วยการที่งูโจมตีมา หวังเย่าก็ต้องหาทางรับมือกับการโจมตีนี้ไว้ก่อน ตอนนั้นเขาถึงกับลืมสิ่งที่เขาคิดได้เมื่อตะกี้ไป มันทำให้หวังเย่าโกรธขึ้นมาอย่างมาก

    ชูหยุนไม่รู้ว่าเป็นตายยังไง สุดท้ายหวังเย่าก็หมดความอดทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาวิธีจัดการกับงูนี่ เขาสลัดความคิดทุกอย่างทิ้งไปเพราะความโกรธ

    หวังเย่ายอมแพ้แล้ว ! เขาหลบหางที่ฟาดมาและกระโดดขึ้นไปที่ตัวงูก่อนจะทำการโจมตีอย่างบ้าคลั่งราวกับคนขาดสติ

    “ฉันจะสั่งสอนแกว่าการรบกวนความคิดของคนอื่นมันเสียมารยาท ! ” หวังเย่าต่อยเข้าใส่เกล็ดงูอย่างแรง

    แต่มันเหมือนไม่ได้ผลอะไรนัก

    “ตายซะ ! ” หวังเย่าตะโกนออกมาอีกครั้ง “ฉันจะต่อยแกจนตายนี่แหละ !”

    หวังเย่าเป็นห่วงชูหยุนอย่างมาก จนเริ่มหมดความอดทนกับทุกสิ่งตรงหน้าแล้ว

    หลังจากที่เห็นว่าหมัดของเขาทำอะไรงูไม่ได้ สุดท้ายหวังเย่าก็หยุดมือ

    “ใจเย็น ๆ ก่อน” หวังเย่าพยายามควบคุมสติของตัวเอง

    ร้อนรนไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

    หวังเย่ารวบรวมสติขึ้นมาได้และเริ่มคิดมองภาพรวมทั้งหมด

    “ชูหยุน ไม่น่าจะอยู่ในอันตราย” นี่คือข้อสรุปแรกที่ได้มาหลังจากที่รวบรวมสติได้ ถ้าชายแก่คิดจะทำอะไรชูหยุน เขาก็ไม่จำเป็นต้องพาชูหยุนออกจากที่นี่ ตอนนี้ชูหยุนคงไม่ได้อยู่ในอันตราย

    เมื่อคิดแบบนั้น หวังเย่าก็ใจเย็นขึ้นมาบ้าง

    งูได้ฟาดหางเข้ามาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หวังเย่าหลบได้ เขาไม่คิดจะทำการโจมตีไร้ประโยชน์แบบที่ทำเมื่อที่ผ่านมา เขาต้องหาจุดอ่อนของมัน ไม่งั้นแล้วก็มีแต่จะเสียเวลาอยู่ที่นี่

    “ค่ายกล ! ” หวังเย่านึกถึงค่ายกลบนเกราะของจระเข้ทันที

    ไม่แปลกใจเลย !

    สุดท้ายหวังเย่าก็นึกเรื่องนี้ออก

    ชายแก่คงใช้ค่ายกลกับงูนี่ด้วย มันถึงแกร่งได้ขนาดนี้

    เมื่อมันมีค่ายกล งั้นก็ต้องมีรอยต่อค่ายกล

    หวังเย่าคิดและดึงเอาเกราะของจระเข้เกราะเพชรออกมาศึกษา

    แม้ว่างูจะใช้หมอกพิษออกมาอย่างต่อเนื่องและใช้หางโจมตี แต่หวังเย่าก็คอยหลบพร้อมกับศึกษาเกราะนั้นไปด้วย

    เมื่องูเห็นว่าหวังเย่าทำการศึกษาเกราะอยู่ มันก็เริ่มลนลาน งูที่ดูเยือกเย็นกลับแสดงท่าทีลนลานออกมาเป็นครั้งแรกตอนนี้มันเริ่มอยู่ไม่สุข

    สุดท้าย หวังเย่าก็รู้ว่าทำไมมันถึงถูกเรียกว่างูปีกเงิน แต่งูนี่กลับไม่ใช้ปีกของมันเลย !

    เมื่องูกางปีกออก ปีกของมันจะกว้างกว่าตัวถึงสองเท่า

    หวังเย่าไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงของงู เขารู้ว่าตราบใดที่เขาหาจุดอ่อนของมันเจอ งั้นมันก็เท่ากับการตายของงูนี่ !

    แต่มันง่ายรึไงที่จะทำการศึกษาค่ายกลของฉิงจีในสถานการณ์แบบนี้ ?

    หวังเย่าเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับค่ายกลตอนที่เบื่อ ๆ แต่เป็นเพราะเขาเบื่อเลยเลือกที่จะอ่านมัน แต่ถ้าให้ศึกษาจริง ๆ เขาคงไม่คิดที่จะทำ

    

    นี่คือความคิดของหวังเย่า แต่ตอนนี้เขากลับเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ต้องศึกษามัน

    “งั้นก็ต้องหาค่ายกลของมันก่อน” หวังเย่าคิด

    นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุดของค่ายกล ถ้าเชี่ยวชาญค่ายกล งั้นก็ต้องเป็นไปได้ที่จะรู้ถึงการทำงานของค่ายกล แต่จากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว การศึกษาค่ายกลนั้นเป็นปัญหาเพราะงูตรงหน้าเขา !

    “พลังมันไหลไปทางไหน ? ” หวังเย่าหลบการโจมตีพร้อมกับสังเกตงูนั่น และพยายามสังเกตหาตำแหน่งของค่ายกล

    “ต้องไม่ได้อยู่ที่หางแน่ ! ” หวังเย่าตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้ง

    ยังไงซะงูนี่แม้ว่าจะตัวใหญ่ แต่ก็คงไม่มีใครโง่พอที่จะเอาจุดอ่อนไปไว้ที่หางมัน แต่เมื่อตัดหางออกไปแล้ว งูนี่ก็ยังตัวใหญ่อยู่ดี ที่หัวของมันก็ไม่น่าจะมีค่ายกลอยู่

    เมื่อไม่อาจจะหาตำแหน่งได้ หวังเย่าก็ไม่คิดจะหามันต่อ แต่เลือกที่จะเดาแทน !

    

    เขาต้องทดสอบก่อนจะตัดความเป็นไปได้ในส่วนนั้น ๆ ออกไป !

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Score 10
Status: Completed

นี่คือโลกของสัตว์อสูร !

หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา !

เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่

ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้

ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป…

หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ?

โทษทีนะพวก !

มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม


นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Options

not work with dark mode
Reset