ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) 489 : การพบกันอีกครั้ง

ตอนที่ 489 : การพบกันอีกครั้ง

    ตอนที่ 489 : การพบกันอีกครั้ง

    หวังเย่าหงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่เห็นเฉี่ยนเจินเฉียนในสภาพเป็นแบบนี้ เขาได้มองไปที่หัวหน้าเผ่าโดยคิดจะเอาเรื่อง สำหรับการให้ความสำคัญกับคนเผ่านี้ หวังเย่าไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว เขาแค่อยากเอาคืนให้กับเฉี่ยนเจินเฉียนก็เท่านั้น

    “หวังเย่าหยุดก่อน” ตอนนั้นเฉี่ยนเจินเฉียนก็ได้ห้ามปรามหวังเย่าเอาไว้

    “ลุงเฉียน ลุงเป็นแบบนี้…” หวังเย่าสับสน

    เฉี่ยนเจินเฉียนถอนหายใจออกมาและพูดขึ้นช้า ๆ “ การที่ฉันบาดเจ็บไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเขา”

    “หือ..” เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที

    “นายน่าจะมีเรื่องสำคัญต้องไปทำ นายรีบไปจัดการก่อน” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้นมา

    หวังเย่าลังเลอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

    หลังจากที่บอกลาชาโรน่าแล้ว หวังเย่าก็พาทั้งสามคนเดินหน้าไปยังที่ที่ตกลงกับเชินสิ่วเอาไว้

    เชินสิ่วคือชายลึกลับเมื่อตะกี้

    ในตอนที่เดินทางนั้น หวังเย่าก็ได้ถามขึ้นมา “ลุงเฉียน เกิดอะไรขึ้นกับลุงหลังจากที่เข้ามาในโลกนี้ ? แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ ?”

    “อย่าเพิ่งรีบ เอาทีละอย่าง”

    เฉี่ยนเจินเฉียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดขึ้น “ ฉันไม่ได้ข่าวของใครเลย หลังจากที่เข้ามาในโลกนี้ ฉันก็แยกตัวจากทุกคน ฉันโชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เดินทางได้ไม่นานก็พบกับสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ฉันพยายามจะหนีแล้ว การที่ฉันบาดเจ็บก็เพราะถูกสัตว์อสูรนั่นโจมตี สุดท้ายฉันก็โชคดีที่หนีมาที่บึงนี้ได้ พวกนั้นได้ช่วยชีวิตฉันไว้ แต่ก็เพราะฉันเองคิดว่าพวกเขาเป็นอสูรที่จะเข้ามาโจมตี เลยโจมตีพวกเขาก่อน ฉันเลยตกอยู่ในสภาพนี้..”

    เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทันที

    เมื่อได้เจอเฉี่ยนเจินเฉียนแล้ว ความกังวลในใจเขาก็ลดลงไปอย่างมาก หวังเย่าได้เอาน้ำยาฟื้นฟูทั้งหมดมาให้เฉี่ยนเจินเฉียนดื่ม ถึงเฉี่ยนเจินเฉียนจะดื่มยาเข้าไปจนเริ่มฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้บ้างแล้ว แต่เขาก็ไม่อาจจะสู้ได้ในตอนนี้

    ตอนนั้นหวังเย่าก็นึกถึงเชินสิ่วและอสูรของอีกฝ่ายก่อนจะถามขึ้นมา “ลุงเฉียน ลุงเคยได้ยินเรื่องสัตว์เทพในตำนานรึเปล่า ? ผมเจอเสือขาวที่เหมือนหนึ่งในสี่ของสัตว์เทพ ! ”

    หลังจากที่คิดสักพัก เฉี่ยนเจินเฉียนก็ส่ายหน้า ถ้าเขารู้เขาคงไม่ปิดบัง แต่เขาน่ะไม่รู้จริง ๆ…

    มันทำให้หวังเย่าหมดหนทาง

    ทางเดียวที่เขาจะรู้เรื่องสัตว์เทพได้ก็คงต้องเอาคำตอบจากเชินสิ่วเท่านั้น

    ตอนนี้หวังเย่าได้แต่ต้องรีบเดินทางไปยังที่ที่ตกลงกับเชินสิ่วเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยถามเรื่องทั้งหมดจากอีกฝ่าย

    “เยี่ยม !” เมื่อเดินทางมาถึงที่หมาย หวังเย่าก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมาเพราะเชินสิ่วยังมาไม่ถึง

    ต้องบอกว่าเขาชนะการพนันในครั้งนี้แล้ว

    “โชคร้ายจริง ๆ ฉันพลาดไปนิดเดียวเอง” ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมา

    เมื่อหันกลับไปมองก็พบกับเชินสิ่ว พร้อมกับชาวตะวันตกที่อยู่ด้านหลังของเขาอีก 3 คน

    เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา

    “ฉันจะตอบคำถามนายก็ได้ 1 คำถาม นายถามมาสิ” เชินสิ่วพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเย็นชา

    บอกได้ว่าหวังเย่าอยากจะถามคำถามมากมาย แต่อีกฝ่ายให้เวลาเขาไม่กี่นาที มันทำให้หวังเย่าตัดสินใจได้ยากว่าจะถามอะไรดี

    หวังเย่ายิ้มและถามขึ้นมา “ฉันอยากถามนายเรื่องเสือขาว”

    “ฉันไม่รู้ ฉันไม่อยากพูด นายถามเรื่องอื่นสิ” เชินสิ่วแสดงท่าทีลังเลก่อนจะตอบกลับ

    ไม่รู้รึบอกไม่ได้ ?

    หวังเย่าหงุดหงิดขึ้นมานิด ๆ

    การที่บอกว่าไม่รู้มันก็บอกความหมายชัดเจนอยู่แล้ว

    เมื่อเชินสิ่วแสดงท่าทีแบบนี้ออกมา หวังเย่าจะถามอะไรได้อีก ?

    “นายมีเพื่อนที่เข้ามานี่กี่คนกัน ? ” หวังเย่ารีบเปลี่ยนเรื่อง

    ด้วยนิสัยของเชินสิ่วแล้ว หวังเย่ารู้ว่ามันยากที่จะได้คำตอบจากอีกฝ่าย

    แต่หลังจากที่ได้ยินคำถามของหวังเย่า เชินสิ่วกลับเงียบไป

    เขาเหมือนจะคิดว่าจะตอบมันดีรึไม่ หากตอบได้ควรจะตอบยังไงดี

    “ถ้าไม่สะดวกก็ช่างเถอะ” หวังเย่าถอนหายใจออกมา

    ด้วยนิสัยของเชินสิ่วแล้ว แม้ว่าหวังเย่าจะไม่ได้รู้จักอีกฝ่ายมากนัก แต่ก็พอเดาใจได้อยู่ หากเขาไม่อยากจะพูดจริง ๆ งั้นเขาก็จะปฏิเสธทันที เมื่อไม่ปฏิเสธ งั้นก็แสดงว่ามันต้องมีเรื่องซับซ้อนเกิดขึ้น

    เชินสิ่วส่ายหน้าและพูดขึ้น “นายถามได้”

    หวังเย่าไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาแค่ยิ้มและรอฟังคำตอบ

    หลังจากนั้นสักพัก เชินสิ่วก็เหมือนจะเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมาและพูดขึ้น “เรามีกันทั้งหมด 5 คน ชื่อว่าทีมเทพสวรรค์ ฉันเป็นหัวหน้า”

    ทีมเทพสวรรค์งั้นหรือ

    เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าและเฉี่ยนเจินเฉียนก็พากันแปลกใจขึ้นมา

    โชคร้ายที่พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกลุ่มนี้เลย

    “การพนันจบแล้ว นายเอาคนพวกนี้ไปสิ” เชินสิ่วพูดขึ้นมา

    การที่เชินสิ่วแพ้ก็ทำให้เขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อ

    “ก็ได้ แล้วเจอกันใหม่” หวังเย่าเองก็บอกลา

    เพราะนิสัยของเชินสิ่ว มันจึงทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงเชินสิ่วนิด ๆ

    เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า เชินสิ่วก็หันกลับมามองและพูดขึ้น “ได้เจอกันอีกแน่ ! ”

    “นายมั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ ? ”

    เชินสิ่วยังคงเดินจากไปโดยไม่คิดจะตอบกลับแต่อย่างใด

    “หวังเย่า นายลองบอกทีว่านายเจอเขาได้ยังไง” หลังจากที่เชินสิ่วหายตัวไปแล้ว เฉี่ยนเจินเฉียนก็ถามขึ้นมา เพราะเขาสนใจในตัวเชินสิ่วเป็นอย่างมากในตอนนี้

    หวังเย่าพยักหน้าและบอกเรื่องทั้งหมดให้เฉี่ยนเจินเฉียนฟัง

    แต่จากข้อมูลที่หวังเย่าให้มานั้น เฉี่ยนเจินเฉียนเองก็ไม่อาจจะคิดหาข้อมูลอะไรต่อได้

    หลังจากที่นึกอยู่สักพัก เฉี่ยนเจินเฉียนก็ส่ายหน้าและพูดขึ้น “ฉันเองก็ไม่รู้อะไรเรื่องนี้จริง ๆ ”

    “เขาบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก” หวังเย่ายิ้มออกมา

    ตอนนี้มีหลายเรื่องให้คิด พวกเขาไม่อาจจะเสียเวลากับเรื่องนี้ได้

    “งั้นเราจะไปไหนกันต่อ ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนถามขึ้นมา

    ตอนนี้เฉี่ยนเจินเฉียนบาดเจ็บอยู่ ถ้าเขาอยากรอดในโลกนี้ก็ได้แต่ต้องพึ่งหวังเย่า

    

    หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “แน่นอนว่าเป็นที่ที่เราเพิ่งเดินทางออกมา ผมยืมพวกลุงมาก็ต้องเอาไปคืน ยังไงซะถ้าลุงอยู่ที่นั่น ลุงก็จะปลอดภัยกว่า”

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Score 10
Status: Completed

นี่คือโลกของสัตว์อสูร !

หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา !

เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่

ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้

ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป…

หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ?

โทษทีนะพวก !

มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม


นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Options

not work with dark mode
Reset