ตอนที่ 378 ขั้นห้า (2)
ตอนนี้ฟางผิงรวมสะพานฟ้าดินทั้งห้าเข้าด้วยกันแล้ว นับว่าเข้าสู่ขั้นห้าตอนต้นเป็นที่เรียบร้อย
หากเขาอยากจะทะลวงขั้นห้าตอนกลาง ก็ต้องหลอมอวัยวะกลวงทั้งหก
พลังงานจำนวนมากทะลักออกมาจากสะพานฟ้าดินที่หดลง เริ่มหลอมอวัยวะตันและอวัยวะกลวงของเขา ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร อวัยวะพวกนี้เริ่มเกิดการแปรสภาพเป็นหยกแล้ว
ขั้นตอนนี้รวดเร็วอย่างมาก
ตาเฒ่าหลี่เห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูท่านอกจากสะพานฟ้าดินจะน่าเกลียดไปอยู่บ้าง กลับไม่มีปัญหาอื่นแล้ว
สะพานฟ้าดินของคนอื่นในขั้นห้านั้นเป็นวงแหวนอย่างสวยงาม ฟางผิงกลับแล้วใหญ่ เป็นก้อนตันๆ น่าเกลียดอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ยังนับว่าเป็นแผ่นแป้งได้ พอแผ่นแป้งถูกกดเข้าด้วยกัน ตอนนี้กลายเป็นเหมือนก้อนอึซะแล้ว
เห็นฟางผิงยังใช้พลังงานหลอมอวัยวะภายใน ตาเฒ่าหลี่ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “ระวังหน่อย การหลอมอวัยวะกลวงจะขจัดสิ่งแปลกปลอม…”
พูดไม่ทันขาดคำ จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้นระลอกใหญ่ท่ามกลางป่ารกร้าง
ฟางผิงเผยสีหน้าผ่อนคลายเต็มไปด้วยความพอใจ ครางออกมาอย่างสบายๆ “ฟินจริงๆ ผมแทบไม่ได้เข้าห้องน้ำมาตั้งหลายเดือน ตดยังไม่ตดด้วยซ้ำ…”
ตาเฒ่าหลี่ใบหน้าดำคล้ำ นายแม่งอย่ามาแสดงท่าทีแบบนี้ได้หรือเปล่า!
แค่ตดเท่านั้น คนไม่รู้ยังจะคิดว่านายทำอะไรพิเรนทร์ซะอีก!
อวัยวะกลวงเกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร ก่อนที่ผู้ฝึกยุทธ์จะเข้าสู่ขั้นห้าตอนกลางจะเข้าห้องน้ำน้อยมาก บางครั้งหลายเดือนเข้าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
แต่หลังจากถึงขั้นห้าตอนกลางแทบจะบอกลาห้องน้ำไปได้เลย
เวลานี้กินอะไรไปจะถูกย่อยอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานและปราณ สิ่งตกค้างที่เหลืออยู่จะน้อยมากๆ ไม่นานก็จะขับออกมาทางเหงื่อแทน
ในความเป็นจริงเมื่อถึงขั้นห้าขั้นหก เว้นเสียแต่ว่าผู้ฝึกยุทธ์จะอยากตอบสนองต่อความอยาก ไม่งั้นกินหรือไม่กินอาหารทั่วไปพวกนั้นล้วนเหมือนกัน
ตดเสียงดังลั่นออกไปยาวๆ แล้ว ฟางผิงก็ฟื้นฟูท่าทีเป็นปกติ ถอนหายใจก่อนจะออกห่างจากที่เดิม เหม็นจริงๆ!
แม้เหมือนว่าจะมีพลังงานปะปนอยู่ภายในนั้นบางส่วน แต่ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ เขาก็ไม่มีความคิดจะเก็บมาใช้อีกแล้ว
หลอมรวมสะพานฟ้าดินแล้ว ตอนนี้พลังงานที่ปล่อยออกไปข้างนอกของเขามีน้อยมาก
รอถึงขั้นปิดผนึกประตูซานเจียว ผู้ฝึกยุทธ์แทบจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่พลังปราณหลุดออกไปภายนอกอีก เว้นแต่จะได้รับบาดเจ็บหนักจริงๆ
สิ่งแรกที่ฟางผิงทำต่อจากนั้นคือถอนหญ้าที่งอกเงยอย่างบ้าคลั่งเพราะพลังงานที่กระจายออกมาเมื่อครู่
ตาเฒ่าหลี่เห็นแบบนี้จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟางผิงถอนไปก็พูดไปพลาง “ถึงจะเติบโตเพราะพลังงานที่ผมปล่อยออกมา แต่ก็เป็นของดีเหมือนกัน ผมไม่กิน ขายให้คนอื่นคงไม่ต่างกัน”
หญ้าที่เติบโตใต้น้ำแร่แห่งชีวิต สำหรับหลายคนแล้วเป็นยาวิเศษด้วยซ้ำ
เอากลับไปมหาวิทยาลัย ฟางผิงทำหล่นบนพื้น เกรงว่าจะมีคนนับไม่ถ้วนแย่งเก็บเช่นกัน
เขาไม่เห็นค่า ทั้งไม่อาจกินของที่เติบโตจากก้นของตัวเองได้ คนอื่นไม่ได้รู้เรื่องนี้ ถึงจะรู้อาจจะไม่สนใจเสมอไป ผักผลไม้ที่กินเข้าไปยังใช้อุจจาระรดไปไม่น้อยเลยเถอะ
ตาเฒ่าหลี่ทำหน้าหมดคำพูด ไม่สนใจเขาอีก ถามว่า “รู้สึกยังไงบ้าง?”
“ไม่เลวเลย ใช้ได้ทีเดียว…”
เพิ่งจะพูดจบ จู่ๆ ฟางผิงก็หน้าเปลี่ยนสี นั่งขัดสมาธิอย่างรวดเร็ว เอ่ยอย่างยากลำบากว่า “พลังจิตใจเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว คุณออกห่างผมหน่อย!”
พูดไม่ทันขาดคำ รอบกายฟางผิงก็เกิดระลอกคลื่นขึ้นมา!
พลังจิตใจจำนวนมากระเบิดออกมาจากภายในร่างกายฟางผิง ตาเฒ่าหลี่ที่อยู่ด้านข้างไม่ได้รับผลกระทบอะไร บนร่างกลับปรากฏแสงสีทองขึ้นมา
“ไอ้ตัวดี!”
ตาเฒ่าหลี่แววตาวูบไหว พลังจิตใจนี้ไม่อ่อนด้อยเลย!
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าทั่วไป อย่างมากพลังจิตใจอยู่ที่สี่ร้อยกว่าเฮิรตซ์ หลายคนถึงขั้นหกสูงสุดพลังจิตใจยังติดอยู่ที่สี่ร้อยเก้าสิบเก้าเฮิรตซ์เท่านั้น
แต่ฟางผิงตอนนี้พลังจิตใจกลับเกินเจ็ดร้อยเฮิตรซ์ไปแล้ว!
กลางอากาศเกิดระลอกคลื่นเล็กน้อย ต้นหญ้ารอบๆ ถูกฉีกขาด ผิวดินพลิกตลบขึ้นมา
ตาเฒ่าหลี่ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย หากเป็นเขาเมื่อก่อนเกรงว่าตอนนี้จะถอยไปหลายก้าวแล้ว แต่ตอนนี้แม้พลังจิตใจเขาจะอ่อนแอไปเล็กน้อย แต่พลังปราณแข็งแกร่งจนถึงขีดสุด พลังจิตใจแค่นี้ของฟางผิงจึงไม่สร้างผลกระทบกับเขาเท่าไหร่
พอคลื่นพลังจิตใจเข้าใกล้เขาก็จะถูกพลังปราณสั่นสะเทือนออกไป หากไม่กลัวว่าฟางผิงจะได้รับบาดเจ็บ ตาเฒ่าหลี่ระเบิดปราณทั้งหมดคงเพียงพอที่จะฉีกทึ้งพลังจิตใจของเขาแล้ว
การทะลวงด่านยืดออกไปกว่าเจ็ดแปดนาที
ตอนที่ฟางผิงลืมตาอีกครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง แววตาลึกล้ำกว่าเดิม
ดวงตาสดใสเป็นประกายมากขึ้น
ถ้าไม่มองทรงผมและรอยแผลเป็นของเขา ตอนนี้ฟางผิงหล่อขึ้นมากจริงๆ
แต่พอมองทั้งตัวกลับเหมือนมนุษย์โคลน จนถึงตอนนี้ยังสวมแค่กางเกงใน
ฟางผิงไม่ได้สนใจมากมายขนาดนั้น เคลื่อนไหวร่างกายเล็กน้อย โคลนที่ติดอยู่ก็ร่วงลงหมดแล้ว ผิวนั้นปรากฏสีน้ำตาลแก่ กำลังจะค่อนไปทางสีทองอ่อน
“ไอ้หนู ความแข็งแกร่งของร่างกายเธอใกล้จะเท่ากับกึ่งร่างทองแล้วสินะ? ตอนนี้เธอสามารถรองรับพลังปราณได้เท่าไหร่แล้ว?”
ตาเฒ่าหลี่อดถามออกไปไม่ได้
ขั้นสามทั่วไปขีดจำกัดอยู่ที่หนึ่งพันแคล
ขั้นสี่สองพันแคล
ขั้นห้าน่าจะประมาณสี่พันแคล
ขั้นหกขีดจำกัดแตะถึงหนึ่งหมื่นแคล
แน่นอนว่าถึงขั้นนั้นแล้ว อันที่จริงขีดจำกัดปราณแทบไม่มีความหมายอะไร น้อยครั้งที่จะต่อสู้จนหมดแรง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามปราณหนึ่งพันแคลสิบคนก็มีปราณหนึ่งหมื่นแคลเหมือนกัน เจอกับขั้นหกสูงสุด ถูกซัดด้วยฝ่ามือเดียวตายทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ในขั้นนี้ขีดจำกัดของปราณ บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของรากฐาน ระดับหลอมของร่างกาย และอานุภาพของวิชาต่อสู้
พื้นฐานร่างกายของฟางผิง มองจากภายนอกไม่ได้อ่อนด้อยเลย
ขั้นห้าสูงสุดทั่วไปอาจไม่แข็งแกร่งกว่าเขาเสมอไป
ฟางผิงไม่ได้ตอบกลับ มองตัวเลขด้านหน้าอย่างละเอียด
ค่าทรัพย์สิน : 1,920,000,000
ปราณ : 1800 แคล (3999 แคล)
จิตใจ : 560 เฮิรตซ์ (725 เฮิรตซ์+)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 6 ชิ้น (90%) , 23 ชิ้น (30%+)
ปราณเกือบสี่พันแคล!
พลังจิตใจทะลุหกร้อยเก้าสิบเก้าเฮิรตซ์ไปแล้ว เกินกว่าเจ็ดร้อยเฮิรตซ์
ปราณสามพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแคลหมายความว่าพื้นฐานร่างกายของฟางผิงตอนนี้แทบไม่ต่างจากขั้นห้าสูงสุดทั่วไป
แต่เขายังไม่ได้หลอมอวัยวะกลวงทั้งหก เส้นเลือดและเลือดเนื้อยังไม่ได้ขึ้นรูปใหม่ ขั้นตอนพวกนี้ต่างเป็นขั้นตอนถอดเอ็นเปลี่ยนกระดูก
ข้างหลังพลังจิตใจยังมีเครื่องหมายบวกปรากฏขึ้นอีกครั้ง นี่หมายความว่ายังสามารถเพิ่มต่อได้
แน่นอนว่าเวลานี้ฟางผิงยังไม่คิดจะเพิ่ม หากสูญเสียการควบคุมในถ้ำใต้ดิน นั่นก็อันตรายเกินไปแล้ว กลับไปค่อยลองดูก็ไม่สาย
“บางทีเขาอาจจะเป็นขั้นห้าที่แข็งแกร่งที่สุด ขั้นหกที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยมีมาตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบันก็ได้…”
ตอนนี้ฟางผิงมั่นใจในตัวเองถึงขั้นที่ไม่มีใครเทียบได้แล้ว!
พวกเหยาเฉิงจวินเพิ่งจะทะลวงด่านได้ไม่นาน
หวังจินหยางยังทะลวงด่านหลังจากกลับไปหนานเจียง ระยะห่างไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์
แต่ฟางผิงติดตามไปทีหลัง ความแตกต่างแทบสามารถมองข้ามไปได้
ทั้งน้ำแร่พลังงานจำนวนมากหลอมอวัยวะกลวงและอวัยวะตันของเขา เจ้าพวกนั้นอาจหลอมได้ไม่ลึกล้ำเท่าเขาเสมอไป
มองแค่เรื่องนี้การทะลวงขั้นห้าตอนต้นของเขาน่าจะล้ำหน้าสามคนนี้ไปแล้ว
“นึกไม่ถึงจริงๆ!”
“คนพวกนี้นอกจากพลังต่อสู้เอาชนะฉันไม่ได้แล้ว ตอนนี้แม้แต่ลำดับขั้นก็ยังถูกฉันทิ้งห่าง!”
ฟางผิงทำหน้าสะท้อนใจ เวลายี่สิบเดือน เขาล้ำหน้าคนพวกนี้ในเวลานั้นไปแล้ว
อดหันมองตาเฒ่าหลี่ไปแวบหนึ่งไม่ได้ ราวกับกำลังบอกว่าถ้าคุณไม่พยายาม ไม่นานจะถูกผมล้ำหน้าแล้ว
ตาเฒ่าหลี่ใบหน้าดำคล้ำ ไม่สนใจเขาเช่นกัน
มีอะไรให้ชื่นชมนักกัน!
แค่ขั้นห้าเท่านั้น!
ตอนนี้ฉันสำเร็จกึ่งร่างทองแล้ว บ่มเพาะพลังจิตใจไม่กี่เดือนบางทีอาจจะถึงขั้นเจ็ดจริงๆ แล้ว บ่มเพาะต่ออีกปีสองปี ไม่แน่ว่าจะทะลวงขั้นแปดได้ ต่อให้เธอเร็วจะเร็วสู้ฉันได้อย่างนั้นเหรอ?
แม้ในใจจะนึกเรื่องพวกนี้ แต่พอคิดได้ว่ากลางเดือนสิงหาคมฟางผิงอยู่ขั้นสี่ ปลายเดือนธันวาคมทะลวงขั้นห้า…
ตาเฒ่าหลี่ก็จิตใจไม่เป็นสุขอยู่บ้าง แม่งเหอะ ใช้เวลาไม่กี่เดือนทะลวงหนึ่งขั้น เขายังไม่ถึงขั้นแปด เจ้าเด็กนี้จะทะลวงขั้นแปดก่อนเขาอย่างนั้นเหรอ?
———————-