รวยชั่วข้ามคืน?! 350 อย่าคิดจะหนีแม้แต่คนเดียว

ตอนที่ 350 อย่าคิดจะหนีแม้แต่คนเดียว

บทที่ 350 อย่าคิดจะหนีแม้แต่คนเดียว

“อย่าคิดจะหนีแม้แต่คนเดียว……”เสียงที่มืดมนของผู้พิทักษ์ฉานเย่วเหมือนกับว่ายาพิษที่จะเร่งเอาชีวิตคน มันดังก้องอยู่ในใจของผู้คนอย่างเย็นชา

คนในห้องโถงสามร้อยกว่าคน รวมตัวกันอย่างหนาแน่น แต่ว่าในสายตาของผู้พิทักษ์ฉานเย่วนั้นกลับเห็นเป็นแค่มดกองหนึ่งเท่านั้น

หวังเฉินรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาทันที แล้วเอ่ยปากเรียก “ฮัลโหล ฮัลโหล ขอกองกำลังเสริม กำลังเสริม! ”

แต่ว่าฮัลโหลอยู่ตั้งนาน ก็ไม่มีเสียงใดๆ ตอบรับเลย ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ที่นี่ถึงได้ไม่มีสัญญาณไปได้!

มีเพียงแค่การต่อสู้จนตัวตายเท่านั้น สามร้อยกว่าคน ถ้าเกิดว่าคนหนึ่งกัดฝ่ายตรงข้ามหนึ่งครั้ง ก็สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้!

ทันใดนั้นจงเส่นซานก็สงบลง ทางหนีที่ไร่ทั้งหมดก็ถูกปิดผนึกไปแล้ว มีเพียงแค่การรับมือการโจมตีของข้าศึกเพียงเท่านั้น สู้ตาย! ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกโศกเศร้าเล็กน้อย……

“รวมตัวจัดแถวเป็นขั้นบันได! ” จงเส่นซานจ้องมองด้วยตาสีแดงเลือด แล้วก็คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง “บ้านตระกูลจงรุ่นที่สี่อยู่แถวแรก! รุ่นที่สามอยู่แถวที่สอง ผู้หญิง คนแก่ และคนที่อ่อนแออยู่แถวสุดท้าย! ”

สภาพแวดล้อมที่กวดขันกลับทำให้จงเส่นซานมีความสงบบางอย่าง มีเพียงแค่การใช้วิธีฝูงหมาป่าเท่านั้นที่จะจัดการกับพวกปีศาจที่ฆ่าคนไม่แม้แต่กะพริบตาทั้งสี่คนนี้ได้! ”

“ฉินหลั่ง ฉินหลั่ง นายรีบมาเร็ว……” จงเส่นซานคร่ำครวญอยู่ในใจ ถ้าเกิดว่ายังเป็นแบบนี้ต่อไป บ้านตระกูลจงต้องจ่ายราคาที่หนักอย่างแน่นอน

“เดี๋ยวฉินหลั่งก็มาแล้ว ทุกคนมีกำลังใจไว้ ใช้กำลังทั้งหมดขับไล่ศัตรู! ” เพื่อที่จะเรียกความกล้าหาญของผู้คน จงเส่นซานก็จงใจปล่อยข้อความเท็จ!

พอทุกคนได้ยินชื่อของฉินหลั่ง กำลังใจก็เพิ่มขึ้นทันที พุ่งเข้าไปหาผู้พิทักษ์ทั้งสี่เหมือนกับคลื่น

“เหอะๆๆๆๆ …..” เสียงหัวเราะที่น่าขนลุกของผู้พิทักษ์ฉานเย่วดังขึ้นในห้องโถงนี้ แล้วผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็เปิดฉากการโจมตีอย่างรุนแรงในแถวแรก แถวแรกนั้นเป็นคนที่วัยรุ่นที่สุดในบ้านตระกูลจง พวกเขานั้นเป็นหนุ่มสาวที่กระฉับกระเฉงและทรงพลัง และก็ยังมีมือหนึ่งของการฝึกบู๊ แต่ว่าภาพเหตุการณ์กลับเหมือนพลเรือนที่ต้องเจอกับทหารอาวุธครบมือที่บ้าคลั่งยิงกราดไปทั่ว ผู้คนล้มลงเป็นแถว

ไม่นานทั้งห้องโถงก็เต็มไปด้วยศพ ขาหัก มือหัก คอหัก เลือดและเนื้อราวกับสายฝน และก็เป็นเพียงแค่ในเวลาสั้นๆ คนร้อยกว่าคนก็ต้องนอนจมกองเลือด เลือดโชกทั่วทั้งห้องโถง จงเส่นซานเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ก็เจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก!

“กู กูจะสู้กับมึงเอง! ” จงเส่นซานพุ่งขึ้นไปด้านหน้าอย่างปวดร้าว แต่ว่ามีพวกน้องชายด้านหลังกอดเขาไว้ ทุกคนน้ำตาคลอเบ้า “พี่ใหญ่ พี่จะเข้าไปไม่ได้นะ พ่อไม่อยู่ พี่ก็ต้องเป็นคนออกคำสั่ง……”

“ออกคำสั่งยังงั้นเหรอ?! ” ตอนนี้จงเส่นซานตกอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งแล้ว นี่คือหายนะ ลูกหลานของบ้านตระกูลจงใช้วิธีนี้อย่างอาจหาญและเข้มแข็งแล้วก็ตายหมู่ และท่ามกลางนั้น ก็มีลูกชายเขาอยู่สองคน!

“ทุกแถว อาศัยลักษณะพื้นภูมิที่เอื้ออำนวย เปิดการโจมตี ทุกคนบุกเข้าไป! ” จงเส่นซานปรับกลยุทธ์อย่างทันท่วงที ผู้คนก็เริ่มกระจัดกระจาย อาวุธในมือของผู้หญิง คนแก่ และคนที่อ่อนแอก็เริ่มมีบทบาทเช่นกัน บินเข้าไปตรงหัวของผู้พิทักษ์ทั้งสี่คนนั้น แต่ว่าผลของการอำพรางจู่โจมแบบนี้มันไม่ค่อยได้ผลดีเท่าไหร่นัก เพราะว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป หลายคนทนไม่ได้แม้แต่การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ก็กระอักเลือด แล้วก็ล้มลงที่พื้น!

“ผู้พิทักษ์สาม เร่งความเร็วแผนฆ่ายกโคตร! ”ผู้พิทักษ์ฉานเย่วออกคำสั่งด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง แล้วก็เห็นการโจมตีที่รุนแรงขึ้น

ผู้พิทักษ์สามใช้วิธีการโจมตีแบบยักษ์ใหญ่ ในมือของพวกเขายังมีอาวุธเพิ่มขึ้นบางอย่าง นั่นก็คือโต๊ะอาหารที่อยู่ที่พื้น เห็นว่าทุกคนยกโต๊ะขึ้นมา แล้วก็ปาออกไปอย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง ด้านของโต๊ะแหลมคม ถ้าเกิดว่าใครโดนมันก็จะถูกหั่นขาดเป็นสองท่อน ภาพเหตุการณ์ตอนนี้ดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก

“พี่ใหญ่ ลูกชายผมตายแล้ว! ” น้องชายที่ห้าของจงเส่นซานร้องไห้โฮออกมา กัดฟันสีแดงเลือดแล้วคำรามออกมา “ผมจะสู้กับพวกมันสุดชีวิต! ” หลังจากนั้นน้องชายคนที่ห้าก็พุ่งเข้าไปอย่างกับไซโคลน

บางทีอาจจะเป็นเพราะการฆ่าของผู้พิทักษ์ทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มขึ้น หลังจากที่น้องชายคนที่ห้าพุ่งเข้าไปแล้วนั้น มีดปลายแหลมในมือของเขาพุ่งเข้าใส่ผู้พิทักษ์ฉานเย่ว เสียงดังแคว่ก เสื้อสีดำของผู้พิทักษ์ฉานเย่วนั้นฉีกขาด!

ผู้พิทักษ์ฉานเย่ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธ แต่ว่าน้องชายคนที่ห้าก็ตัดสินใจแล้วว่าต้องตายแน่นอน มีดปลายแหลมของเขาพุ่งเข้าไปที่ผู้พิทักษ์ฉานเย่วอีกครั้ง ผู้พิทักษ์ฉานเย่วไม่แม้แต่หลบด้วยซ้ำ คว้าไปที่ท้องของน้องชายคนที่ห้า แล้วก็กระชากลำไส้ที่เปื้อนเลือดของเขาออกมา

จงเส่นซานตะโกนออกมา “น้องห้า! ” แล้วน้ำตาก็ไหลพรากลงมา! ในบรรดาพรรคพวกพี่น้องของพวกเขานั้น น้องชายคนที่ห้านั้นมีนิสัยที่เข้มแข็งและซื่อตรงที่สุด เห็นน้องชายคนที่ห้ายัดลำไส้กลับเข้าไป กำมีดในมือแน่นไม่ยอมปล่อย แล้วก็แทงไปข้างหน้าอีกครั้ง!

ผู้พิทักษ์ฉานเย่วร้องออกมา เห็นได้ชัดว่าถูกทำให้หวั่นไหวได้ เขาจับแขนของน้องคนที่ห้า เสียงดังแคว่ก ตัดแขนที่ถือมีดของเขาแล้วปาออกไป

ใบหน้าของน้องชายคนที่ห้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่ว่าเขายังคงดิ้นรนถีบไปที่คู่ต่อสู้ ตอนนี้เองขาของเขาก็ถูกตัดออกแล้วโยนทิ้ง!

“แกยังจะต่อต้านอีกเหรอ? ” ผู้พิทักษ์ฉานเย่วพูดอย่างเยือกเย็น แล้วก็โน้มตัวไปมองลูกชายคนที่ห้าของบ้านตระกูลจงที่ดวงตาเบิกกว้างอย่างหยอกล้อ

ลูกชายคนที่ห้าถ่มน้ำลายใส่หน้าผู้พิทักษ์ฉานเย่ว ผู้พิทักษ์ฉานเย่วเช็ดน้ำลายที่เปื้อนเลือด ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็บูดเบี้ยวอย่างมาก หลังจากนั้นก็กระทืบลงไปอย่างแรง น้องชายคนที่ห้าเหมือนกับถุงผ้าเป่าลม มีเสียงแตกร้าวที่น่าเศร้า หลังจากนั้นก็คอพับ แล้วก็เสียชีวิตลง

เหลือเพียงแค่ลมหายใจสุดท้าย ฉันก็จะต่อสู้กับนายให้ถึงที่สุด! น้องห้า นายสร้างคุณงามความดีให้กับบ้านตระกูลจง สร้างปณิธานที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่! จงเส่นซานอดกลั้นความเจ็บปวด และไว้อาลัยให้ลูกชายคนที่ห้าในใจ

“ต้องหาเครื่องบอกสัญญาณเตือนภัยให้เจอ นี่คือความหวังสุดท้ายแล้ว” จงเส่นซานเห็นศพที่กองเยอะขึ้นเรื่อยๆ สายตาของเขาก็เริ่มกวาดหาไปทั่วห้องโถง

สังหาร การสังหารที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่สนใจว่าจะแก่หรือเด็ก หรือจะเป็นผู้หญิง ในสายตาของสำนักช้างจันทราแล้วนั้นก็เป็นเพียงแค่มดเท่านั้น หลังจากนั้นก็โยนศพทิ้งแบบลวกๆ จากสามร้อยคนเหลืออยู่สี่สิบหรือห้าสิบคนเท่านั้น นี่คืองานเลี้ยงแห่งความตายที่แท้จริง

ทันใดนั้นในห้องโถงก็เงียบลงอย่างน่ากลัว เพราะว่าจู่ๆ ก็มีเสียงกริ๊งดังขึ้น….

กริ๊ง กริ๊ง……

จงจิ่วเจินได้รับสัญญาณแจ้งเตือน

“พ่อ! พ่อมาแล้ว! ”

จงเส่นซานน้ำตาไหลอาบใบหน้าด้วยความตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะกอดอุปกรณ์นั้นแล้วก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ นอกจากเขาแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีเสียงอะไร พวกเขากำลังสั่น มองไปที่ผู้พิทักษ์ของสำนักช้างจันทราที่กำลังใกล้เข้ามาด้วยสายตาที่เกลียดชัง……

“นี่คือเสียงอะไร? ” ผู้พิทักษ์ฉานเย่วมองไปที่จงเส่นซาน “แจ้งตำรวจงั้นเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันตัดสัญญาณที่อยู่ใกล้เคียงที่นี่ทั้งหมดแล้ว”

จงเส่นซานยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ ผู้พิทักษ์ฉานเย่วก็พุ่งเข้าไป แล้วก็จับจงเส่นซานไว้

“เทคโนโลยีชั้นสูงยังงั้นเหรอ? ” ผู้พิทักษ์ฉานเย่วอึ้งไป หลังจากนั้นเขาก็ดีดนิ้ว อุปกรณ์ที่กะพริบไฟสีแดงในมือของจงเส่นซานก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ทันที เสียงนั้นก็หยุดไป

“ไม่มีอะไรรอดพ้นจากการลงโทษของเทพเจ้าช้างได้หรอก……”สีหน้าของผู้พิทักษ์ฉานเย่วกลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม ยื่นแขนออกไปเหมือนกับลิงวานร แต่ว่าจงเส่นซานนั้นว่องไวมาก เขาม้วนตัว แล้วก็หลุดออกมา

“เอ้ะ? กล้าหลบยังงั้นเหรอ? ” ผู้พิทักษ์ฉานเย่วเดินเข้าไป “แกคือหัวหน้าของที่นี่ พูดมาซิ จงจิ่วเจินอยู่ที่ไหน? ”

จงเส่นซานปิดปากแน่นไม่ยอมพูดอะไร ตอนนี้ความคิดของเขาขัดแย้งกันมาก ที่เรียกพ่อไปนั้นมันถูกต้องรึเปล่า? ถ้าเกิดว่าฉินหลั่งไม่สามารถเอาชนะไอ้ปีศาจทั้งสี่ตัวนี้ พวกเขาก็จะตายหมด……

“ฉันจะสู้กับพวกแก! ”

จงเส่นซานพุ่งไปข้างหน้าทันที ตอนนี้เขาทำได้แค่ต่อสู้กับโชคชะตาแล้ว!

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

Score 10
Status: Completed
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset