“เมื่อวิญญาณดีสามารถเลือกที่จะเกิดใหม่ได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา ทำให้ไม่มีทางเลยที่จะกลายเป็นวิญญาณร้ายได้
ส่วนวิญญาณเป็นกลาง พวกเขามีทั้งดีและไม่ดีและพวกเขามีห่วงไม่สามารถไปเกิดได้ มันจะกลายเป็นวิญญาณร้ายในที่สุด”
“แต่มันก็ยังมีวิญญาณดี ที่ติดอยู่บนโลกด้วยเหตุผลพิเศษ ไม่สามารถไปเกิดได้ วิญญาณดีเหล่านี้แม้จะติดอยู่บนโลก ก็จะไม่กลายเป็นวิญญาณร้ายง่ายๆ เพราะความดีที่พวกเขาเคยทำจะคุ้มครองพวกเขา ทำให้ยากที่จะถูกพลังวิญญาณชั่วร้ายกลืนกิน”
หวังเสี่ยวเปา เหยาติงหลงและเซี่ยลี่เยว์มองวิญญาณสาวที่นั่งบนพื้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“แล้วทำไมเมื่อกี้เธอถึง…”หวังเสี่ยวเปาถามอย่างไม่แน่ใจเล็กน้อย เขายังไม่รู้ว่าทำไมวิญญาณสาวถึงแสดงท่าทางดุร้ายเหมือนจะฆ่าพวกเขา แต่ที่จริงแล้วเธอกำลังจะไล่พวกเขา?
จิวโมไป๋ถอนหายใจและไม่ตอบ เขาเดินไปหาวิญญาณสาวอย่างช้าๆ ในมือมียันต์แผ่นหนึ่ง
“เข้ามาอยู่ในนี้ ฉันช่วยหาฆาตกรที่ฆ่าเธอเอง”จิวโมไป็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลังวิญญาณแผ่ซ่ายออกมา ราวกับสายลมฤดูร้อนอันอบอุ่นอ่อนโยน
วิญญาณสาวมองจิวโมไป๋ด้วยดวงตาสีดำที่ไร้อารมณ์ ก่อนที่เธอจะก้มหน้าและส่ายหัวอย่างช้าๆ
จิวโมไป๋ขมวดคิ้ว ก่อนที่สีหน้าของเขาจะแสดงออกถึงความประหลาดใจ
“เธอรู้หรือว่าใครเป็นคนฆ่าเธอ?”
วิญญาณสาวเงียบไม่ตอบ
จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อย วิญญาณดีที่คิดค้างอยู่บนโลกส่วนใหญ่จะเป็นเพราะพวกเขาเสียชีวิตอย่างคาดไม่ถึง และพวกเขาจึงไม่อยากเกิดใหม่
มันเหมือนวิญญาณเป็นกลางที่คิด ที่จะอยู่ที่เดิมรอหาเหตุผลของบ่วงกรรม
แต่วิญญาณดีมีทางเลือกมากกว่านั้น เพราะพวกเขาสามารถไปเกิดใหม่ได้ทุกเมื่อ ไม่เหมือนวิญญาณเป็นกลางที่เมื่อไม่ยอมไปเกิดใหม่ ที่ต้องรับผลของมันด้วยตัวเอง
วิญญาณสาวตรงหน้าถูกพลังความชั่วร้ายค่อยๆกลืนกินไปมากแล้ว แสดงให้เห็นว่าเธออยู่บนโลกมานาน ที่ไม่ยอมไปเกิดใหม่อาจเพราะมีเหตุผลบางอย่าง จึงไม่ยอมเกิดใหม่
เขาจึงคิดว่าเธอกำลังหาคนที่ฆ่าตัวเองอยู่
แต่เขาไม่คิดเลยว่าวิญญาณสาวรู้ตัวฆาตกรอยู่แล้ว
จิวโมไป๋ลูบคางใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะคิดบางอย่างได้
เขามองใบหน้าของวิญญาณสาว และเปิดกำไลข้อมือ กดเข้าระบบค้นหาของหน่วยมังกรซ่อน
เขาวาดรูปโครงหน้าของวิญญาณเพียงไม่นานก็เสร็จ ที่เขาไม่ถ่ายรูปวิญญาณสาวโดยตรง เพราะเขารู้ว่าเทคโนโลยี่ถ่ายภาพในปัจจุบันยังไม่สามารถถ่ายภาพติดวิญญาณได้
เขากดหน้าจอโฮโลแกรมไม่นาน ก็สามารถค้นพบตัวตนของวิญญาณสาวตรงหน้าได้สำเร็จ
“จางอี้เหริน ครูโรงเรียนประถมเทียนจิง หายตัวไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว สถานที่น่าจะหายตัวไป คือห้อง 104 หอพัก…”จิวโมไป๋พูดอย่างช้าๆ
วิญญาณสาวนิ่งไม่ขยับ
“ในวันที่จูหวังเถินหายตัวไป คู่สมรศของเธอ จูหวังเถิง ได้ให้การกับตำรวจว่า ภรรยาของเขาออกไปซื้อของและไม่ได้กลับมาอีกเลย”
วิญญาณสาวยังคงนิ่ง
จิวโมไป๋แน่ใจแล้วว่าฆาตกรคือสามีของวิญญาณสาวอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร วิญญาณสาวจึงไม่มีความแค้นใดๆเลย
ผิดกับวิญญาณส่วนใหญ่ที่ถูกฆาตกรรม พวกมันจะเก็บความแค้นมหาศาล รอวันที่จะฆ่าผู้ที่ฆ่าตัวเอง
เมื่อเห็นว่าวิญญาณสาวไม่ตอบสนอง เขาก็ต้องหาวิธีจัดการให้ได้ เพราะเขาไม่สามารถปล่อยวิญญาณสาวอยู่ที่นี่ได้ เพราะพวกเขารับภารกิจนี้แล้ว
จิวโมไป๋เก็บแผนยันต์และหันมาบอกคนอื่นๆ”ออกไปข้างนอกกันเถอะ”
ทั้งสามพยักหน้าและเดินตามกันออกไป
จิวโมไป๋ผลักประตูเปิดอย่างง่ายดาย ไม่มีอะไรปิดทางเข้า
เมื่อออกจากห้อง
ยามรักษาความปลอดภัยก็เดินเข้ามาหาและถามด้วยท่าทางตื่นเต้น
“พวกคุณแก้ไขวิญญาณในห้องนั้นได้แล้วเหรอครับ”
“คุณเห็นวิญญาณด้านในด้วยเหรอ?”หวังเสี่ยวเบาถามขึ้น พร้อมกับจ้องยามรักษาความปลอดภัยเขม่ง
ยามรักษาความปลอดภัยหัวเราะแห้งๆ
“ผมต้องขอโทษพวกคุณจริงๆที่ไม่ได้บอก อันที่จริงแล้วผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่เพราะพวกเราได้รับรายงานหลายครั้ง พวกเราจึงให้ความสนใจห้องนั้นเป็นพิเศษ และในสุดที่พวกเราจะเห็นเงาบางอย่างลอยเข้าไปในห้องหมายเลข 104 และพวกเรายังพบอีกว่าว่าวิญญาณนี้จะปรากฎตัวทุกๆช่วงหัวค่ำ”
หวังเสี่ยวเปาไม่ได้โกรธจริงๆ เขาจึงปล่อยไป หันไปทางจิวโมไป๋
“น้องเล็ก เราจะไม่ทำอะไรกับวิญญาณในห้องจริงๆนั้นเหรอ?”
“เธอเป็นวิญญาณดี เราทำอะไรรุนแรงไม่ได้ เพราะมันจะทำให้เราได้รับกรรมร้ายได้”จิวโมไป๋ส่ายหน้า
“แล้วเราจะทำยังไง”
“ตามผมมาที่นี่”จิวโมไป๋นำทุกคนไปที่รูปปั้นเทพธิดา
หวังเสี่ยวเปาและคนอื่นๆ เดินตามจิวโมไป๋ ด้วยความสงสัย ว่าจิวโมไป๋พาพวกเขามาที่นี่ทำไม ทำไมไม่รีบทำอะไรกับวิญญาณสาว
แต่ทันทีที่หวังเสี่ยวเปาเข้าใกล้รูปปั้นเทพธิดา ขนทั่วร่างของเขาก็ลุกชูชัน
เขาเผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เขามองรูปปั้นด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“นี้มันอะไร?”
“รูปปั้นนี้มีอะไรเหรอ”เหยาติงหลงถามด้วยความสงสัย เขาไม่พบอะไรผิดปรกติเลย