คลื่นพลังธาตุกลายเป็นละอองแสงคล้ายหยดน้ำสีฟ้ากระจายออกไปทั่วห้อง
ในตอนนั้นเอง ละอองแสงสีฟ้าเกือบทั้งหมด กระทบถูกอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น
เซี่ยลี่เยว์เห็นดังนั้น เธอก็เร่งพลังธาตุน้ำ ละอองแสงพลั่งพลูออกมาอย่างดูเดือดปกคลุมทั้งห้อง
ในที่สุดก็เห็นหมอกสีเทาที่อันแน่นอยู่ทั่วห้องไปหมด
ใบหน้าของทั้งสามเปลี่ยนไปทันที
เหยาติงหลงตกใจอย่างมาก เขาถอยไปยืนข้างๆเซี่ยลี่เยว์ หวังเสี่ยวเปาตั้งสติได้มากกว่า เขานึกถึงสิ่งที่จิวโมไป๋สอน เขาก็อยากจะตบตัวเอง
ดวงตาของเขาพลันเปล่งแสงสีทองแดง ก่อนที่ภาพเบื้องหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป
ห้องธรรมดา ได้มีหมอกสีเทาปกคลุมอยู่เต็มห้อง บ่งบอกว่าห้องแห่งนี้ได้เป็นสถานที่ของวิญญาณอาศัยอยู่และมันไม่ได้อาศัยอยู่เพียงไม่กี่วัน
“ออกไปเร็ว!”อยู่ๆหวังเสี่ยวเปาก็สัมผัสได้ถึงอันตราย ตะโกนเสียงดังก้อง
ปัง! ประตูห้องปิดเสียงดัง ขัดขวางไม่ให้ใครสามารถหนีออกไปได้
บรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก ขนทั่วร่างลุกชูชันด้วยความกลัว
“บัดซบ!”เหยาติงหลงสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาตบไปที่กล่องสีดำ กล่องก็เปิดออก เป็นดาบยาวสีเงิน เขาหยิบดาบยาวออกไป และชี้ไปด้านบน
ในตอนนั้นเองคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวกดทับลงมาอย่างรุนแรง
ก่อนที่ร่างวิญญาณสีเทาจะปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
มันคือหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงาม ราวกับเทพธิดา รูปร่างของเธอสมบูรณ์แบบราวกับ ถูกสร้างจากพระเจ้า
เพราะรูปลักษณะของเธอทำให้ชายหนุ่งทั้งสองตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เพราะวิญญาณสาวตรงหน้าสวยอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าจะเปรียบเทียบ ก็น่าจะมีความงามเทียบเท่ากับดาวมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ดาราสาวชื่อดัง
แม้ว่าเธอจะเป็นร่างวิญญาณ ที่ทำให้ความสวยของเธอลดลงไปอย่างมาก แต่มันก็ไม่สามารถลดความงดงามของเธอได้
ในขณะที่ชายหนุ่มทั้งสองกำลังตกตะลึง
อยู่ๆ ดวงตาสีดำของวิญญาณสาวก็มีหยดเลือดสีดำไหลออกมา ก่อนที่ร่างกายที่งดงามก็ค่อยๆปริออกเลือดสีดำไหลทะลักอย่างน่ากลัว คลื่นสีดำในห้องหมุนวนราวกับพายุบ้าคลั่ง
“ออกไป ออกไป ออกไป ออกไป”เสียงแหบแห้งดังออกมาจากปากของวิญญาณสาว คลื่นพลังวิญญาณอันหนากลัวแผ่ซ่านออกมา
ก่อนที่พวกเขาจะสามจะทันตั้งตัว เธอก็พุ่งไปหาพวกเขา
คลื่นพลังอันมืดมนผลักทั้งสามอย่างรุนแรง
แต่ทั้งสามคนฝืนต้านเอาไว้ได้
เหยาติงหลงที่ชี้ดาบไปอยู่แล้วได้ ก็ระเบิดกฎแห่งธาตุทองอาบไปที่ดาบและฟันใส่วิญญาณสาวที่กำลังจะเข้ามา
เคร้ง!
แต่ดาบของเขาถูกกระบี่ของเซี่ยลี่เยว์หยุดเอาไว้ก่อน
เหยาติงหลงหันไปมองเซี่ยลี่เยว์ คิ้วของเขาขมวดแน่น
“เธอกำลังทำอะไร?”
เซี่ยลี่เยว์ไม่ตอบ เธอมองไปที่วิญญาณสาวที่กำลังจะพุ่งเข้ามาโจมตี แต่เหมือนว่าเธอไม่โจมตีซะที
“นายไม่สังเกตเหรอว่า วิญญาณตนนี้เหมือนกับว่ากำลังพยายามจะขับไล่เรา ไม่ได้ต้องการที่จะโจมตีพวกเราเลย”
เมื่อได้ยินที่เซี่ยลี่เยว์บอก ทั้งสองก็ได้สติ หันมามองวิญญาณสาวด้วยสายตาแปลกๆ
เพราะพวกเขาพบว่าวิญญาณสาวพยายามใช้คลื่นพลังวิญญาณ ผลักพวกเขาไปที่ประตูห้อง เหมือนพยายามจะไล่พวกเขาออกไปจริงๆ
วิญญาณตัวนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอะไรพวกเขาจริงๆ
วิญญาณสาวเห็นว่าทั้งสามคนสามารถต้านคลื่นวิญญาณของเธอได้ ก็เริ่มโจมตีรุนแรงขึ้น
“หยุด!”เซี่ยลี่เยว์โบกมือคลื่นพลังธาตุน้ำ ที่ปกคลุมทั่วห้องระเบิดออกคลืนพลังธาตุน้ำสลายพลังวิญญาณไปจนหมด
แม้เธอจะพึ่งตระหนักกฎแห่งธาตุน้ำไม่นาน แต่เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชากระบี่พื้นฐานระดับเจตจำนง ซึ่งมันช่วยให้เธอเพิ่มพลังความคิดและสมาธิอย่างมาก
เพียงฝึกฝนไม่กี่ครั้ง เธอก็สามารถควบคุมพลังธาตุน้ำ ได้อย่าง่ายดาย
ถ้าเธอสะสมพลังธาตุน้ำเพียงพอ เธอคงเพิ่มระดับกฎแห่งธาตุน้ำได้อย่างรวดเร็ว
วิญญาณสาวเมื่อสูญเสียหมอกสีดำไปแล้ว ร่างของเธอก็กลับมาเป็นปรกติ ไม่ได้น่าเกลียดน่าสะพรึงกลัวเหมือนเดิม
และพวกเขาทั้งสามก็สังเกตเห็นว่า ร่างวิญญาณของหญิงสาวเป็นสีเทาขาว
ไม่ได้เป็นร่างวิญญาณสีเทา เหมือนวิญญาณร้ายตัวอื่นๆ
พวกเขาก็ชมวดคิ้วทันที
เพราะตามที่จิวโมไป๋ได้บอกพวกเขา
วิญญาณแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือวิญญาณดี วิญญาณเป็นกลาง และวิญญาณร้าย
วิญญาณดีและวิญญาณเป็นกลางจะเป็นสีขาว วิญญาณดีส่วนมากจะได้ไปเกิดใหม่ทันทีที่เสียชีวิต วิญญาณเป็นกลางจะยังคงมีห่วง พวกเขาจึงยังติดอยู่ที่โลก ไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้
วิญญาณร้ายจะเป็นสีเทา และยิ่งมันทำชั่วสีจะยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนเปลี่ยนเป็นสีดำและแดงเลือดในเวลาต่อมา
แต่จิวโมไป๋ไม่เคบบอกพวกเขาว่า วิญญาณที่มีสองสีในเวลาเดียวกันคือวิญญาณอะไร
“เธอคือวิญญาณดี”
เสียงของจิวโมไป๋ดังขึ้น พวกเขาทั้ง 3 ก็หันไปเห็นจิวโมไป๋ที่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา
จิวโมไป๋มองวิญญาณสาวด้วยสายตาสงสารเห็นใจ
“ฉันเคยบอกพวกนายมาก่อนว่า วิญญาณแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ แต่เหตุผลที่จัดเป็นแบบนั้นก็เพราะว่า วิญญาณดี ไม่ใช้คนที่ทำความดีและเสียชีวิตธรรมดา คนๆนั้นจะต้องสร้างความดีมหาศาลเช่นช่วยชีวิตผู้คน วิญญาณดีเหล่านี้ จะได้รับการเกิดใหม่เมื่อตาย ไม่ติดอยู่บนโลก และถ้าเลือกที่จะอยู่บนโลกต่อ พวกเขาสามารถเลือกที่จะเกิดใหม่ตอนไหนก็ได้ ไม่เหมือนวิญญาณเป็นกลาง ที่ถ้าปฏิเสธไม่เกิดใหม่ จะถูกทิ้งให้อยู่บนโลกทันที”