แสงจากค่อยๆลาลับขอบฟ้า เงามืดคืบคลานเข้ามาแทนที่ เมฆสีดำปกคลุมท้องฟ้า หิมะสีขาวเย็นยะเยือกค่อยๆตกลงมา ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นสีขาวโพลน
พื้นที่ตะวันออกของเมืองเทียนซู
เป็นเขตพื้นที่ชุมชนขนาดใหญ่ มีบริษัทขนาดกลางและเล็กอยู่จำนวนมาก และมีมหาวิทยาลัยเทียนจง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ของเมืองตั้งอยู่
ทำให้เขตนี้ กลายเป็นพื้นที่มีประชาชนหนาแน่นพลุ่งพล่าน อันดับต้นๆของเมืองเทียนซู
มันจึงทำให้มีอาคารที่พักอาศัยและหอพักจำนวนมากตั้งอยู่ในซอยต่างๆ
รถตู้สีดำขับเข้าไปในถนนเส้นเล็ก ขนาดรถสองคันขับสวนทางกันได้
สองข้างทางเรียงรายไปด้วยตึกสูงหลายสิบชั้น
รถค่อยๆขับลึกเข้าไปเรื่อยๆ อาคารโดยรอบก็ค่อยๆเปลี่ยนไป มีอาคารหลังเล็กตั้งอยู่บางประปราย ยิ่งลึกตัวอาคารก็ยิ่งเก่า เมื่อเข้าไปด้านในก็เริ่มมีซอยหมู่บ้าน หรืออาคารหอพัก
รถตู้สีดำขับเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆอีกทาง สองข้างทางมีต้นไม้รกสูงเรียงราย เสาไฟระหว่างสองข้างทางเสียหาย ติดบ้างไม่ติดบ้าง บางเสาไฟแสงไฟติดๆดับๆ ทำให้บรรยากาศดูวังเวง
รถตู้สีดำค่อยๆมาจอดที่หน้าอาคารหอพักแห่งหนึ่ง
เป็นอาคารสูง 6 ชั้น พื้นที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูง ด้านหน้าเป็นลานสนามหญ้า และตรงกลางลานมีรูปปั้นนางฟ้าสูง 3 เมตร รูปปั่นมองมาด้านหน้าประตูทางเข้า
ประตูรถตู้ค่อยๆเปิดออก
เซี่ยลี่เยว์ ในชุดคลุมสีขาว ปกปิดมิดชิดเดินลงจากรถตู้เป็นคนแรก ตามมาด้วยจิวโมไป๋ในชุดดำ จากนั้นหวังเสี่ยวเปาในชุดคลุมสีน้ำตาลอ่อนและเหยาติงหลงใส่ชุดคลุมสีน้ำตาลเข้มก็เดินตามลงมา
ในมือของทั้งสี่คนต่างก็ถือกล่องสีดำ
“มองจากในรถก็ว่าน่ากลัวแล้ว พอออกมามันน่ากลัวยิ่งกว่าอีก”หวังเสี่ยวเปาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเล่น มองไปรอบๆ
เขาเคยผ่านเหตุการณ์วิญญาณมาแล้ว และเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมจริงๆ ทำให้เขามีความรู้สึกกลัวเรื่องลึบลับสยองขวัญน้อยลงมาก
“รู้สึกไหมว่าที่นี่ อากาศมันหนาวกว่าปรกติหรือเปล่า”หวังเสี่ยวเปาพูดไปพร้อมกับกระชับเสื้อคลุม เขามองไปที่อาคารหอพักตรงหน้า ดูว่ามันมีอะไรน่ากลัวอยู่หรือเปล่า
หลังจากที่เขารู้ว่า พวกเขากำลังทำภารกิจเกี่ยวกับเหตุการณ์วิญญาณ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล จากที่เขาเคยได้ยินมา เหตุการณ์วิญญาณจะเกี่ยวข้องกับภูตผีและปีศาจร้าย ที่สร้างอันตรายให้กับมนุษย์
และวิญญาณพวกนี้ยากที่จะจัดการ
แต่พอเห็นท่าทางของจิวโมไป๋และหวังเสี่ยวเปา ที่ดูไม่หวาดกลัวใดๆ เขาจึงเบาใจลง
เซี่ยลี่เยว์ยืนนิ่งอยู่ข้างๆจิวโมไป๋ เธอไม่แสดงท่าทางอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าสายตาของเธอมองหุบต่ำกว่าปรกติ
จิวโมไป๋มองไปรอบๆ ก่อนที่จะมาหยุดที่รูปปั้นนางฟ้า คิ้วของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเหมือนเดิม ราวกับไม่เกิดอะไรขึ้น เขาก็หันมาที่คนอื่นๆ
“เอาล่ะ พวกเราเริ่มทำภารกิจได้แล้ว”จิวโมไป๋พูดเสียงดังเรียกสติทุกคน ก่อนจะพูดต่อ”ภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจครั้งแรกของพวกเรา ภารกิจของเรามีแค่เข้าไปตรวจสอบ และหาสาเหตุของเหตุการณ์ลึกลับเท่านั้น ถ้าพบวิญญาณร้าย ก็ใช้วิธีที่ฉันบอกไปก่อนหน้านั้น กำจัดวิญญาณร้ายนั้น ภารกิจของเราก็จะสำเร็จ”
เมื่อทุกคนได้ยินก็พยักหน้ารับ ความกังวลก็หายไปทันที
พวกเขาทั้งาี่ จึงเข้าไปในพื้นที่หอพัก
แต่เมื่อพวกเขากำลังจะเข้าไป
ยามรักษาความปลอดภัยในป้อมยาม ก็เข้ามาขวางก่อน มือของเขาแตะปืนสั้นตรงเอว เตรียมที่จะชักออกมาได้ทุกเมื่อ เขาสังเกตเห็นพวกเขาทั้งสี่ตั้งแต่ลงจากรถตู้แล้ว ทั้งสี่คนใส่ชุดคลุมปิดปังใบหน้าดูไม่น่าไว้วางใจ
เขาจึงต้องหยุดก่อนเพื่อสอบถาม
“พวกเรามาจาก ‘หน่วยปฏิบัติการพิเศษ’ เพื่อจัดการเหตุการณ์ลึกลับ”เหยาติงหลงเป็นคนเข้าไปพูด เขาเปิดโฮโลแกรมโชว์ บัตรประจำตัวให้ยามรักษาความปลอดภัยดู
แน่นอนว่าบัตรนี้ เป็นบัจรประจำตัว ในเวลาที่พวกเขาทำภารกิจเกี่ยวกับเหตุการณ์ลึกลับที่หน่วยมังกรซ่อนได้ออกให้
บัตรนี้สามารถใช้ได้จริง ไม่ได้เป็นของปลอม
ยามรักษาความปลอดภัยได้ยินดวงตาก็เป็นประกาย ก่อนหน้านั้นเขาได้รับแจ้งจากเจ้าของหอพักแล้ว ว่าจะมีหน่วยพิเศษมาที่นี่
เขาเปิดกำไลข้อมือทำการสแกนบัตรประจำตัว
เขาก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นของจริง
ท่าทางของเขาก็อ่อนลงและมีความเคารพมากขึ้น เพราะคนที่สามารถเข้าหน่วยพิเศษของรัฐบาลได้ จะต้องไม่ใช้คนธรรมดาอย่างแน่นอน
“เชิญพวกคุณเข้ามาได้เลยครับ”ยามรักษาความปลอดภัยพาพวกเขาเข้ามาอย่างสุภาพ
“ขอถามได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”หวังเสี่ยวเปาแสดงท่าทางจริงจัง พร้อมกับเปิดโฮโลแกรมเพื่อบันทึกวีดีโอ
สีหน้าของยามรักษาความปลอดภัยเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามีท่าทางหวาดกลัวออกมา สายตาเหลือบมองไปที่หน้าหอพัก
หอพักที่นี่ประตูห้องจะอยู่ด้านหน้าส่งระเบียงทางเดินยาว ทำให้สามารถมองเห็นประตูห้องทั้งหมดของหอพักได้
ห้องที่อยู่ชั้น 1 จะอยู่ด้านล่างสุด อยู่ดินกับพื้น สามารถเดินตรงเข้าห้องไปได้เลย ไม่ต้องขึ้นบันไดด้านข้างเหมือนห้องชั้นบนๆ
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ในตอนนี้ไฟของห้องชั้นที่ 1 มืดสนิท เหมือนไม่มีใครอยู่เลย