พื้นที่มีพลังธาตุมากกว่าหนึ่ง จะเป็นการร่วมตัวของพื้นที่สองประเภท ตัวอย่างเช่น ภูเขาแร่ที่มีป่าไม้ดึกดำบรรพ พวกมันจะมีพลังธาตุ 2 อย่าง แต่ด้วยการที่มันอยู่ด้วยกันทำให้ เกิดการขัดแย้งของพลังธาตุ ทำให้พลังธาตุทั้งสองอ่อนแอลงอย่างมาก
เพราะเหตุนี้เอง ทำให้ผู้ที่ต้องการก่อสร้างสำนักหรือตระกูล จะเลือกสถานที่ที่มีพลังธาตุเดียวเท่านั้น
จึงไม่แปลกเลยที่สำนักหรือตระกูลเหล่านั้น จะสร้างเคล็ดวิชาที่มีพลังธาตุเดียว
ตัวอย่างเช่นตระกูลฟงที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พลังธาตุลมหนาแน่น วิชาที่พวกเขาฝึกก็มีพลังธาตุลมเป็นส่วนใหญ่
แต่ก็มีวิธีพิเศษในการสร้างพื้นที่พลังธาตุอื่น เหมือนอย่างที่หน่วยมังกรซ่อนสร้างห้องกลั่นธาตุ
และที่นี่ จิวโมไป๋ได้สร้างค่ายกลห้าธาตุหนุนเสริม เพื่อดึงดูดพลังธาตุมาหล่อเลี้ยงเกาะโดดเดี่ยว และเป็นเพราะเหตุนี้เองเขาจึงไม่อยากย้ายออกไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วถึงเช้าวันที่สี่
พวกเขาออกจากเกาะโดดเดี่ยวตั้งแต่เช้า กลับไปที่เมืองเทียนซู
พวกเขามองย้อนกลับไปยังเกาะโดดเดี่ยวที่ค่อยๆไกลออกไป
พวกเขาใช้เวลาที่นี่เพียงไม่กี่วัน พวกเขารู้สึกผูกพันกับที่นี่ ไม่อยากจะกลับไปยังเมือง ไปใช้ชีวิตในสังคมที่วุ่นวายอีก พวกเขาอยู่ที่นี่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ความเร็วในการบ่มเพาะพลังก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ผู้บ่มเพาะพลังมักจะอยู่ในที่ห่างไกลความวุ่นวาย
จิวเสวี่ยเหม่ยไม่อยากกลับไปยังสำนักอีก อยากจะฝึกฝนอยู่ที่นี่
แต่จิวโมไป๋ห้ามเอาไว้ แม้ว่าฝึกที่นี่จะเร็วก็จริง แต่มันทำให้ประสบการณ์เข้าสังคมลดลงด้วยเช่นกัน
เขากังวลว่าน้องสาวที่อ่อนต่อโลกของเขา จะยิ่งไร้เดียงสามากขึ้นไปอีก ถ้าอยู่ที่นี่คนเดี่ยว
การไปอยู่ในสำนัก ที่มีการต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์กัน มันจะค่อยๆหล่อหลอมให้น้องสาวของเขาแข็งแกร่งขึ้นได้ มันมีประโยชน์กว่าการบ่มเพาะพลัง
พวกเขากลับเมืองเทียนซูกันแค่สี่คนกับหนึ่งตัว เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยไม่ได้กลับมาด้วย พวกมันเหมือนจะทะลวงเลื่อนระดับการบ่มเพาะพลังไปอีกขั้นจึงไม่ตามมาด้วย
พวกเขาขับรถไปที่สำนัก ส่งจิวเสวี่ยเหม่ยและเสี่ยวหง ก่อนจะกลับไปที่สำนักงานของบริษัทเนบิวลาที่หมู่บ้านใบไม้ร่วงโดยตรง
จิวโมไป๋ตามไปทักทายหนิงหานเป่ย ก่อนจะกลับไปที่เมืองเทียนซูคนเดียว
เขากลับบ้านนั่งเล่นจนถึงเย็น ก่อนที่เขาจะออกจากบ้านไปที่ร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยเทียนซู
ระหว่างทางเขาก็สังเกตเห็นว่าผู้คน ที่ค่อยๆกลับมาใช้ชีวิตปรกติอีกครั้ง
กลุ่มแก๊งต่างๆหายไปจนหมดสิ้น
พวกเขาคงถูกรัฐบาลใช้โอกาสในระหว่างตรวจสอบกองกำลังที่ขายยาพันธุกรรม กำจัดกลุ่มแก๊งเหล่านี้ไปด้วย
ทำให้เกิดความสงบสุขทั่วประเทศชั่วขณะหนึ่ง
นอกจากนั้นเขายังเห็นกลุ่มคนที่กำลังใช้เกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเสมือน แสดงการต่อสู้อยู่ตามสวนสาธารณะและพื้นที่โล่งต่างๆทั่วเมือง
แสดงให้เห็นว่าความนิยมของเกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเสมือนมากมายขนาดไหน
จิวโมไป๋สั่งอาหารมาวางบนโต๊ะ ไม่นานหวังเสี่ยวเปาและเหยาติงหลงก็เดินเขามา พวกเขาแบกกระเป๋าสีดำไวด้านหลัง
พลังที่แผ่พุ่งออกมาจากร่างของทั้งสอง แข็งแกร่งขึิ้นอย่างมากในเวลาไม่กี่วัน
ผู้คนหลีกทางให้กับทั้งสองโดยไม่รู้ตัว
จิวโมไป๋มองไปยังทั้งสองด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะกลับมาเป็นปรกติอย่างรวดเร็ว
หวังเสี่ยวเปาและเหยาติงหลงมานั่งข้างๆจิวโมไป๋และกล่าวทักทายกัน
“พี่ใหญ่ดูเหมือนว่าวิชาหอกของนายนะก้าวหน้าขึ้นนะ”จิวโมไป๋อดไม่ได้ที่จะถามหวังเสี่ยวเปา
หอกเป็นหนึ่งในศาสตราวุธที่ฝึกฝนยากที่สุดอันดับต้นๆ ทำให้ยากที่จะเชี่ยวชาญได้
แต่จากที่เขาเห็นหวังเสี่ยวเปาได้ก้าวหน้าไปถึงระดับเข้าใจแล้ว
ถ้าเขาพยายามต่อไป เขาอาจบรรลุถึงระดับเจตจำนงก็เป็นได้!
จิวโมไป๋ถอนหายใจ พรสวรรค์ของพี่ใหญ่ของเขาดูเหมือนจะมากกว่าที่เขาคิด
ไม่ว่าจะเป็นหวังเสี่ยวเปา เฉินหู และอูเหวิน พวกเขาทั้งสามล้วนมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ในอดีตเป็นเพราะเขาเอง ทำให้ทุกคนต้องพบกับความเดือดร้อน ทำให้พรสวรรค์ของพวกเขาไม่ถูกใช้อย่างเต็มที่
“ฮ่าๆ ต้องขอบใจนายมากน้องเล็ก เพราะเกมส์ของนาย วิชาหอกของฉันจึงก้าวหน้าอย่าวรวดเร็วอย่างนี้”หวังเสี่ยวเปาตบไหล่จิวโมไป๋พร้อมกับยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
เหยาติงหลงที่อยู่ด้านข้างมองด้วยความอิจฉาและชื่นชม
ทั้งสามคนพูดคุยกันครู่หนึ่ง ในตอนนั้นเอง เซี่ยลี่เยว์ในชุดเสื้อสีดำแขนยาวกางเกงสีดำขายาว ดูทะมัดทะแมง ในมือถือกระเป๋าสีดำ เดินเข้ามาอย่างช้าๆ เธอเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามจิวโมไป๋
“มาพอดี ถึงฉันจะก้าวหน้ายังไง ฉันก็ไม่เก่งเท่าลี่เยว์หรอก”หวังเสี่ยวเปายิ้ม
เซี่ยลี่เยว์ยิ้มตอบอย่างเรียบง่าย
ทั้งสี่ได้ฝึกฝนด้วยกันหลายวัน ทำให้พวกเขาสามารถเข้ากันได้อย่างไม่อึดอัดนัก
“น้องเล็ก เราจะรับภารกิจอะไรดี”เมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้วหวังเสี่ยวเปาก็พูดขึ้น
ทุกคนเงียบทันที พวกเขามองจิวโมไป๋ด้วยความคาดหวัง
จิวโมไป๋วางตะเกียบลงและมองทุกคนก่อนจะพูดขึ้น
“มีภารกิจที่อยู่ใกล้ที่นี่ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ทุกคนสามารถรวมมือกันทำได้”
“รออะไรล่ะไปกันเถอะ!”หวังเสี่ยวเปาพูดด้วยความตื่นเต้น เขารอที่จะเริ่มภารกิจมานานแล้ว
“พี่ใหญ่ใจเย็นๆก่อน”จิวโมไป๋เตือนก่อนจะโบกมือโฮโลแกรมก็ฉายข้อมูลภารกิจ
ภารกิจระดับ 1 ดาว
ชื่อภารกิจ : เหตุการณ์ลึกลับห้องหมายเลข 104 อาคาร...(เมืองเทียนซู)
เนื้อหาภารกิจ : สำรวจและกำจัดอันตราย พื้นที่ภารกิจเมืองเทียนซู ระยะเวลา 7 วัน
รางวัล : 100 คะแนนภารกิจ , 50 คะแนนเครดิต
“รางวัลมากกว่าภารกิจ 0 ดาว ตั้ง 50 เท่า”หวังเสี่ยวเปาพูดขึ้น
จิวโมไป๋มองพี่ใหญ่ของตัวเองที่อีกฝ่ายโฟกัสผิดจุด ด้วยความอ่อนใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะรู้ว่าพี่ใหญ่แค่พูดล้อเล่นเท่านั้นก็ตาม
“เหตุการณ์ลึกลับ?”เซี่ยลี่เยว์ดูเหมือนจะพบบางอย่าง
“ใช่”จิวโมไป๋พยักหน้า
“ภารกิจที่เราจะทำคือภารกิจ ที่อาจเกี่ยวของกับเหตุการณ์วิญญาณ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก!”