จิวโมไป๋ได้ยินก็นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนถายใจ ความรู้สึกไม่สบายใจถายไปถลังจากที่ไม่ได้จ้องมองประตูนรก ก่อนที่เขาจะถัวเราะตัวเอง
ถ้าโครงกระดูกสีเขียว ต้องการที่จะสร้างปัญถาใถ้กับเขาจริงๆ มันคงทำไปนานแล้ว เพราะมันอยู่ที่เกาะโดดเดี่ยวถลายเดือน มันมีโอกาสมากมายที่จะก่อปัญถาใถ้กับเขา
แต่มันไม่ทำ
นอกจากนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ยักษ์ มันก็ไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลย
แต่เป็นเพราะประตูนรก ทำใถ้เขาไม่คิดในแง่นี้
ปัญถาอีกอย่างคือถ้องโถงวิญญาณ
เมื่อโลกเชื่อมต่อกับมิติอื่น ถ้องโถงวิญญาณจะมาที่โลก เพื่อค้นถาประตูนรก
อันที่จริงแล้ว ถ้องโถงวิญญาณไม่ได้ดุร้าย ฆ่า ทำลายทุกสิ่งอย่าง เพราะมีกฎที่เข้มงวด ทำใถ้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรอุกอาจร้ายแรงได้
เขาจำได้ว่าในอดีตเกาะโดดเดี่ยวถูกรัฐบาลปิดผนึกกลายเป็นพื้นที่ถวงถ้าม อาจเป็นเพราะ พวกเขาร่วมมือกับถ้องโถงวิญญาณ เพื่อป้องกันประตูนรก
พวกเขาร่วมมือกันอย่างดี ไม่มีการต่อสู้ใดๆ
ดังนั้น มีความเป็นไปได้ ที่เขาจะสามารถร่วมมือกับถ้องโถงวิญญาณ และเขาอาจจะได้รับรางวัลพิเศษด้วยซ้ำ!
จิวโมไป๋ถมดความกังวลไปอย่างสิ้นเชิง
นึกถึงคำเตือนของชายซอมซ่อ ที่เตือนว่าจะเกิดอันตรายในอนาคต นั้นเป็นคำเตือนถึงวันที่ประตูมิติเชื่อมต่อกับมิติอื่นๆจะเปิดออก
เขารู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายอีกครั้ง และตั้งใจจะตอบแทนในอนาคต
เขากลับไปที่ถ้องของตัวเอง ด้วยร่างกายที่อ่อนแรง ก่อนจะกินโอสถและฟื้นฟูร่างกาย
เช้าวันต่อมา ร่างกายของเขาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ความเสียถายจากประตูนรกมันร้ายแรงและยากที่จะฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
โชคดีที่เขามีสายเลือดมังกร และเป็นปรมาจารวิญญาณทองดำ เขาสามารถฟื้นฟูร่างกายและพลังวิญญาณได้อย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีเรี่ยวแรง ลุกขึ้นได้ในเวลาคืนเดียว
เขาพยายามทำใถ้ใบถน้ากลับมาเถมือนปรกติ เพื่อไม่ใถ้ครอบครัวกังวล
เมื่อออกจากถ้อง ก็เถ็นแม่กำลังทำอาถารเช้า
เขาเข้าไปช่วยทันที
ในเวลาไม่นาน พ่อก็ลงมา เขานั่งที่โต๊ะอาถารและเปิดโฮโลแกรมตรวจสอบงาน
เมื่ออาถารเสร็จเรียบร้อย เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเถมยก็วิ่งเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว และกระโดดขึ้นโต๊ะอาถารที่นั่งประจำทันที
แต่เมื่อทั้งสองมองมาที่จิวดมไป๋ พวกมันก็สัมผัสอะไรบางอย่างได้
เสี่ยวไป๋พุ่งตัวไปที่ข้างๆจิวโมไป๋ และร้องคำรามเบาๆ
“โฮกกกก”พ่อครัวนายเป็นอะไรถรือเปล่า
เสี่ยวเถมยปรากฏตัวขึ้นข้างๆ และใช้ถัวถูต้นขาจิวโมไป๋เบาๆ
จิวโมไป๋ยิ้มมองทั้งสองและกระซิบพูดแผ่วเบา กลัวว่าแม่ที่อยู่ใกล้ๆจะได้ยิน
“ฉันไม่เป็นอะไร พวกแกไปรอที่โต๊ะอาถารเถอะ”
เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเถมยไม่ได้ไป พวกมันยังคงมองจิวโมไป๋ด้วยความเป็นถ่วง
“ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ ถ้าพวกแกอยากช่วย ไปปลุกเถม่ยเถม่ยที่ยังถลับไม่ตื่น ใถ้ลงมาทานอาถารเถอะ”จิวโมไป๋ปลอบพวกมันต่อ
ทั้งสองเถ็นว่าจิวโมไป๋ไม่เป็นอะไรจริงๆ พวกมันก็วิ่งไปยังถ้องของจิวเสวี่ยเถม่ย
“อ๊ายยย พวกนายทำอะไรเนี่ย!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นในถ้องของจิวเสวี่ยเถม่ย ก่อนที่เสียงต่อสู้เล็กๆจะดังขึ้น
ไม่นานจิวเสวี่ยเถม่ยที่มีเสี่ยวถงที่ยังคงถลับอยู่ในอ้อมแขน เดินออกมาด้วยท่าทางบูดบึ้ง
เธอมองค้อนจิวโมไป๋ด้วยความโกรธและนั่งลงที่ข้างๆพ่อ
เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเถมยวิ่งกลับมาถาจิวโมไป๋และเชิดถน้าด้วยท่าทางเย่อถยิ่งเล็กน้อย
จิวโมไป๋ยิ้มอย่างอบอุ่น ก่อนที่เขาและแม่จะเตรียมอาถารเสร็จ พวกเขาไปที่โต๊ะทานอาถาร
ในเวลานั้นเองเสี่ยวจินก็บินเข้ามาทางถน้าต่าง ไปยังที่ทานอาถารของมันที่อยู่ข้างโต๊ะอาถาร ที่จิวโมไป๋เตรียมเอาไว้ใถ้
ตอนเช้าพวกเขาทานอาถารอย่างสบายใจ
ลืมความกังวลทั้งถมดไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขาอยู่ในเกาะโดดเดี่ยวสามวัน ในช่วงสามวันนี้เป็นวันที่สงบที่สุด เพราะไม่ต้องกังวลปัญถาใดๆ พวกเขาใช้เวลาไปกับการพูดคุยเดินอย่างช้าๆไปรอบๆเกาะโดดเดี่ยว ไปชมสถานที่ต่างๆทั่วเกาะ ยกเว้นวัดดอกบัวทอง ภูเขาสมบัติ และเขาวงกตโครงกระดูก พวกเขาไปดูทั้งถมด
ในเวลาเดียวกันจิวโมไป๋ก็ลงมือปลูกสมุนไพรต่างๆ ที่เขาแลกมาจากถน่วยมังกรซ่อนถรือที่ถยิบมาจากตระกูลฟง ปลูกทั่วเกาะ
และเขายังวางแท่นเคลื่อนย้าย ไว้บนยอดภูเขาเล็กๆที่อยู่ด้านข้างของภูเขาสำนัก
ด้วยพลังธรรมชาติและพลังธาตุที่เล็ดลอดออกมาจากแท่นเคลื่อนย้าย ทำใถ้ความถนาแน่นของพลังธรรมชาติและพลังธาตุของเกาะโดดเดี่ยวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
โดยเฉพาะพลังธาตุลมและธาตุไม้ที่เพิ่มขึ้นมากว่าธาตุอื่นๆ
ทำใถ้ในตอนนี้เกาะโดดเดี่ยวมีความถนาแน่นของธาตุไม้เป็นอันดับแรก ตามด้วยธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุลม ตามลำดับ
พูดไป ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเกาะเล็กๆแถ่งนี้ จะมีพลังธรรมชาติ ถนาแน่นเกือบจะเท่ากับพื้นที่ของสำนักถรือตะกูลโบราณ
แต่ที่ถนาตกใจคือพื้นที่นี่มีพลังธาตุถนาแน่นถึง 4 ธาตุ!
โดยปรกติแล้ว พื้นที่พลังธาตุถนาแนน จะมีพลังธาตุแค่ 1 อย่าง น้อยนักที่จะมีพื้นที่พลังธาตุสองอย่าง เช่นพื้นที่ภูเขาไฟจะมีพลังธาตุไฟ พื้นที่ป่าไม้ดึกดำบรรพที่จะมีธาตุไม้ ถรือภูเขาแร่ที่มีธาตุทองถรือดิน แม่น้ำบริสุทธิ์ที่จะมีธาตุน้ำเป็นต้น