เวลาผ่านไป 1 วัน
วันสิ้นปีใหม่ก็มาถึง
ห้องวิจัยลับ
หลังจากนั้นทุกคนยุ่งกับการทดลองข้ามคืน การทดลองก็เสร็จในที่สุด
พวกเขาได้ข้อสรุป ผลกระทบจากความเสียหายของยีนพันธุกรรม จากยาพันธุกรรมกำจัดโรคมะเร็ง น้องกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก
ทำให้พวกเขาวางใจยอมปล่อยให้ยาพันธุกรรมกำจัดโรคมะเร็งออกไป
แต่การจะใช้ยาพันธุกรรมนี้ จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่ใครก็สามารถใช้ได้ เพราะถ้าคนทั่วที่สามารถมีลูกได้ฉีด มันจะส่งผลกระทบต่อลูกหลานในอนาคต
จางฟูระบุข้อห้ามของยาพันธุกรรมอย่างละเอียดก่อนจะส่งออกไปยังหน่วยวิจัยทั่วไป
ทันทีที่ยาพันธุกรรมรักษาโรคมะเร็งถูกส่งมาถึง
เหล่านักวิจัยที่ได้รับต่างก็ต้องตกตะลึง ก่อนที่พวกเขาจะศึกษายาพันธุกรรมกำจัดโรคมะเร็งอย่างหนัก
เพื่อเป็นการตรวจสอบรอบสุดท้ายก่อนที่จะปล่อยมันออกไป
เมื่อการวิจัยจบลง ทุกคนที่เหนื่อยล้าจากการวิจัยก็แทบจะทรุดนอนตรงนั้น พวกเขากลับไปห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน
จิวโมไป๋ถือโอกาสขอตัวกลับไปฉลองวันปีใหม่กับครอบครัว
จางฟูอนุญาต และยังส่ง 1 หมื่นคะแนนเครดิต ให้กับจิวโมไป๋
เพราะจิวโมไป๋ได้ส่งข้อมูลของการค้ายาพันธุกรรมเถื่อนและยังมอบตัวอย่างยาพันธุกรรมเถื่อนให้กับรัฐบาล
จิวโมไป๋ได้ช่วยเหลือประเทศมากมายมหาศาล
ระบบการให้รางวัล จึงต้องรอเวลา เพื่อให้จบการตรวจสอบกองกำลังเบื้องหลังยาพันธุกรรมให้เสร็จก่อน เพื่อวิเคราะห์การมีส่วนรวมของภารกิจ
จางฟูมอบ 1 หมื่นคะแนนเครดิตให้กับจิวโมไป๋ก่อน เพื่อที่เขาจะได้นำไปซื้อของและบ่มเพาะพลัง
จิวโมไป๋ขอบคุณและออกจากห้องวิจัยลับ
เขาขึ้นลิฟต์ออกไป เมื่อไปถึงด้านบนสัญญาณกำไลข้อมือก็เชื่อมต่ออีกครั้ง
เขาก็ได้เห็นข้อความเด้งขึ้นหลายข้อความ
มีข้อความของหวังเสี่ยวเปา ที่ส่งมาหลายข้อความ เป็นข้อความมาบอกว่า เขาและเซี่ยลี่เยว์ เลื่อนระดับการบ่มเพาะพลังถึงขั้นที่ 5 กระดูกปลายแล้ว และเหยาติงหลงอยู่ขั้นที่ 5 กระดูกกลาง ใกล้จะเลื่อนเป็นกระดูกปลาย
เขายังชวนจิวโมไป๋ ถ้าเขากลับมาก่อนวันปีใหม่ เขาสามารถไปหาพวกเขาที่ห้องฝึก บนชั้น 3 ของพื้นที่ฝึกฝนของสำนักงานหน่วยมังกรซ่อน
จิวโมไป๋เห็นดังนั้นก็เดินตรงไปห้องฝึกฝนทันที
ในระหว่างนั้นเขาก็อ่านข้อความอื่นๆ เขาก็เห็นของความเห็นข้อความของเนี่ยฟูหานที่ส่งมาบอกว่า การประชุมหยกหลังปีใหม่ถูกเลื่อนไปเดือนหน้า เหตุผล ไม่ได้ระบุไว้
แต่เขาสามารถคาดเดาได้ เป็นเพราะการตรวจสอบกองกำลังต่างๆทั่วประเทศ ทำให้การจัดประชุมหยกต้องปิดตัวลง
เขายังบอกอีกว่าให้จิวโมไป๋ระวังตัว
จิวโมไป๋อ่านข้อความต่อมา เป็นข้อความจากแม่ของเขาที่ส่งมาหลายสิบข้อความ บอกให้เขากลับไปทานข้าวที่บ้าน แต่เขาไม่ได้ตอบกลับสักข้อความเดียว
โชคดีที่เขาบอกแม่ก่อน ว่าเขาได้ทำงานให้กับรัฐบาล ทำให้บางครั้งเขาไม่สามารถตอบข้อความได้ ทำให้แม่ไม่ได้เป็นห่วงมากนัก
เขารีบโทรไปหาแม่ทันที
“โมไป๋ลูกหายไปไหนหลายวัน รู้ไหมแม่เป็นห่วงลูก”เสียงฮั่นหวูเหยาพูดขึ้นทันทีที่รับสาย น้ำเสียงของเธอแสดงออกให้เห็นว่าเป็นห่วงอย่างชัดเจน
“ขอโทษครับ งานที่ผมกำลังทำเป็นความลับ ผมต้องปิดสัญญาณติดต่อ”จิวโมไป๋พูดปลอบแม่ของเขาพักใหญ่ ก่อนจะสงบลง
“ปีใหม่ลูกว่างหรือเปล่า ตอนนี้เหม่ยเหม่ยกลับจากสำนักแล้ว เธอบ่นถึงลูกทุกวัน”
จิวโมไป๋ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้างอของน้องสาว
“ตอนเย็นผมจะกลับไปครับ”
“ดี แม่จะบอกน้องสาวของลูก และแม่จะทำอาหารของโปรดของลูกไว้รอ”
จิวโมไป๋วางสายก่อนจะถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปที่ห้องฝึกฝน เขาเดินขึ้นไปชั้น 3 เขาจำหมายเลขห้องฝึกของหวังเสี่ยวเปาได้ เขาส่งข้อความไปหาหวังเสี่ยวเปาก่อน
เมื่อไปถึง ประตูห้องฝึกก็เปิดออกพอดี
“น้องเล็ก เข้ามาสิ”หวังเสี่ยวเปายิ้มกว้างต้อนรับ
จิวโมไป๋เดินเข้าไป เขามองไปรอบๆ เป็นห้องต่อสู้ขนาดใหญ่ กว่าห้องฝึกฝนของมหาวิทยาลัยเทียนซู
เขาเห็นเหยาติงหลงที่กำลังฟันดาบไม้ยาวอยู่ แต่ไม่เห็นเซี่ยลี่เยว์อยู่ที่นี่
เขาหันมามองสำรวจพี่ใหญ่ เขาก็ยิ้มออกมา
ในตอนนี้ หวังเสี่ยวเปาสลัดคราบคนอ้วนออกไปอย่างสิ้นเชิง
ใบหน้าของเขาหล่อเหลาคมเข้ม แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง ร่างสูงแต่ไม่บอบบาง กล้ามเนื้อที่โผล่จากเสื้อผ้าคมชัดสมส่วนไม่ใหญ่หรือเล็ก เต็มไปด้วยพลัง
“พี่ใหญ่ นายฝึกฝนหนักมากเลยนะ”จิวโมไป๋กล่าวชื่นชม
“ฮ่าๆ เพราะเกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเสมือนของนายนั้นแหละ ทำให้ฉันต้องฝึกหนัก”หวังเสี่ยวเปามองจิวโมไป๋ด้วยสายตาโกรธเคือง
จิวโมไป๋มองหวังเสี่ยวเปาด้วยความสับสน
“อย่าไปฟังเรื่องไร้สารถที่เขาพูด เขาทำตัวเองทั้งนั้น”เหยาติงหลงเดินเข้ามาพร้อมดาบไม้ในมือ เหงื่อเม็ดใสไหลเต็มใบหน้า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”จิวโมไป๋ถามด้วยความไม่รู้ เพราะเขายุ่งกับการวิจัย และในห้องวิจัยไม่สามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ ทำให้เขาไม่รู้อะไรเลย
“น้องเล็ก นายไม่รู้เหรอว่าเกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเสมือนจริงของนายมีการจัดอันดับการต่อสู้”หวังเสี่ยวเปาพูดอย่างบูดบึ้ง
“อันดับการต่อสู้?”จิวโมไป๋งุนงง เขาไม่รู้จริงๆ เพราะเขาไม่เคยเข้าเกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเสมือนจริงเลย
หวังเสี่ยวเปาเห็นสีหน้าของจิวโมไป๋ เขาก็รู้ว่าน้องเล็กไม่รู้จริงๆ เขาจึงเปิดกำไลข้อมือ ฉายโฮโลแกรมสีม่วงขึ้น
ID : มือหอกผู้หล่อเหลา
อายุ: 19 ปี
เมือง : เทียนซู
อันดับการต่อสู้ : 89
ผลการต่อสู้: ชนะ 116 เสมอ 4 แพ้ 12
จิวโมไป๋อ่านผลการต่อสู้เขาก็ต้องประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดเลยว่าหวังเสี่ยวเปาจะแพ้ถึง 12 ครั้ง
หวังเสี่ยวเปาเห็นสีหน้าของจิวโมไป๋ เขาก็พ้นลมหายใจออกมา
“น้องเล็ก เมืองของเรามีเสือหมอบมังกรซ่อนเยอะจริงๆ”
จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า เขานึกบางอย่างขึ้นมาได้ คนที่สามารถชนะหวังเสี่ยวเปาได้ คงเป็น ศษย์ของสำนักโบราณที่อยู่บริเวณเมืองเทียนซูอย่างแน่นอน
แม้หวังเสี่ยวเปาจะแข็งแกร่ง แต่ประสบการณ์ต่อสู้ของเขายังน้อยเกินไป ศิษย์สำนักโบราณเหล่านี้ จะต้องผ่านการต่อสู้อย่างหนัก ไม่แปลกเลยที่เขาจะเสียเปรียบ
หวังเสี่ยวเปาเหลือบตามองจิวโมไป๋ด้วยความไม่พอใจ
“น้องเล็กระบบการจัดอันดับของบริษัทนาย โหดเหี้ยมเกิน เพราะฉันแพ้ 12 ครั้ง อันดับของฉันก็ตกยับ ฉันต้องใช้เวลาหลายวัน กว่าจะเข้า 100 อันดับแรกของเมืองได้”
จิวโมไป๋ยกมือตบไหล่หวังเสี่ยวเปาเบาๆ เป็นการปลอบใจ ก่อนจะมองไปรอบๆและถาม
“พี่ใหญ่ เซี่ยลี่เยว์ไม่อยู่ที่นี่เหรอ?”