“ไม่เป็นไร ฉันใช้พลังเวทย์ทำให้หินอ่อนลงแล้ว เขาไม่ถูกหินบดขยี้จนตายแน่ๆ”คังหรงตอบตอบพร้อมกับพยายามฟื้นฟูพลังธาตุดิน
“ถ้าเขาแพ้ การท้าทายก็จะล้มเหลว พวกเราก็จะไม่ได้เป็นผู้ติดตามของเขาใช่ไหม”ฮั่วอวี่หลินถามอีกครั้ง เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอคิดว่าเธอจะพบกับผู้ที่คู่ควรที่เธอจะรับใช้แล้ว
คังหรงเหลือบตามองหญิงสาวด้วยแววตาแปลกๆ
ฮั่วอวี่หลินหันไปมองตอบด้วยแววตาแข็งกร้าว
“สายตาของนายมันทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี นายอยากจะต่อสู้กับฉันใช้ไหม”หอกที่พาดไหล่ค่อยๆลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิง
คังหรงถอนสายตาออก ไม่อยากจะพูดอีก แต่นี้เขาก็เหนื่อยมากแล้ว เขาไม่อยากจะต่อสู้กับผู้หญิงบ้านี้อีก
ฮั่วอวี่หลินพ้นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ สายตามองคังหรงด้วยความดูถูก เธอมีความไม่พอใจคังหรงอยู่มาก เพราะในการต่อสู้ระหว่างเธอและเขา ในการชิงอันดับ 3 ศิษย์ใน คังหรงใช้เวทย์ทำลายพื้นสนามประลอง ทำให้เธอตกจากสนามประลอง และแพ้ กลายเป็นอันดับที่ 3 ของศิษย์ใน การต่อสู้ในครั้งนั้นมันทำให้เธอโกรธมากจนถึงตอนนี้
“ระวังพื้น!”ฟูชวนหยุนตะโกนเสียงจากอีกด้าน
เปรั้ยะ! ก่อนที่ทั้งสองจะทันได้ตอบสนอง พื้นที่พวกเขายืนอยู่ก็แตก จิวโมไป๋พุ่งขึ้นมาในสภาพสะบักสะบอม แต่ดวงตาเป็นประกายไม่แสดงความอ่อนแอ พลองสีทองเปล่งประกายเจิดจ้า
“ตาย!”คังหรงร้องตะโกนเสียงดังก้องมือขวายกดาบใหญ่ขึ้นสูงก่อนจะฟันไปที่หัวของจิวโมไป๋ด้วยพลังทั้งหมดของเขา
ฮั่วอวี่หลินควงหอกและแทงออกไปโดยไม่มีความลังเล
จิวโมไป๋ฟาดพลองปะทะกับการโจมตีของทั้งทอง
เคร้ง! พลองสีทอง ดาบใหญ่และหอกปะทะกันและหยุดกลางอากาศ ร่างของจิวโมไป๋ที่พึ่งขึ้นจากพื้นจมลึกลงไปถึงหัวเข่า
ฮั่วอวี่หลินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหอกดึงกลับและโจมตีจิวโมไป๋อีกครั้ง คมหอกแทงไปที่อกขวา
จิวโมไป๋จะดึงพลองกลับแต่คังหรงไม่ยอมเขาออกแรงกดดาบใหญ่ บังคับให้จิวโมไป๋ต้องยกพลองสีทองต้านเอาไว้
ในชั่ววินาทีเป็นตาย จิวโมไป๋ก็เกร็งกล้ามเนื้อจนเส้นเอ็นสีเขียวปูดโปน
“ย๊าาาาก!”จิวโมไป๋ร้องตะโกนก่อนจะพลิกตัวดันดาบใหญ่ไปด้านข้าง พร้อมกับก้มลงหลบหอก และกลิ้งตัวไปข้างหน้าและเตะกวาดไปที่ขาของคังหรงอย่างแรง จนร่างใหญ่ล้มลง
โครม คังหรงกลิ้งบนพื้น แต่เขาไม่ตกใจ เขาม้วนตัวหลายตลบก่อนจะเหวี่ยงตัวลุกขึ้น
ฮั่วอวี่หลินเห็นว่าคังหรงล้มลง เธอก็ควงหอกเป็นวงกลมเหนือหัว เปลวเพลิงสีแดงลมหมุนวนเป็นวงกล้ม ก่อนที่เธอจะเหวี่ยงลงมา เปลวเพลิงหมุนวนเป็นกรงจักรพุ่งเขาหาจิวโมไป๋ ก่อนที่เธอจะกระโดดถอยหลังสร้างระยะห่าง
จิวโมไป๋ทีกำลังจะเข้าไปจัดการกับคังหรง สัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนทางด้านหลังก็หันกลับมาและยกพลองสีทองขึ้นป้องกัน
ตูม! กรงจักรเพลิงระเบิดออก คลื่นความร้อนเผาไหม้จิวโมไป๋อย่างรุนแรง แต่จิวโมไป๋ใช้พลังกดดันปกคลุทร่างกายลดพลังทำลายไปส่วนใหญ่ ทำให้มีเพียงเสื้อผ้าบางส่นที่ถูกเผาไหม้
คังหรงเห็นว่าได้โอกาส เขาไม่รอช้ายกมือซ้ายขึ้น พลังธาตุดินไหลเวียนไปที่มือซ้าย วงแหวนเวทย์สีน้ำตาลปรากฏขึ้นและขยายออกเป็นสิบเมตร
สนามทราย
ตูม! คลื่นพลังเวทย์ระเบิดออก พื้นสนามประลองกว่าครึ่ง ถูกพลังธาตุดินทำลายกลายเป็นเม็ดทรายระเอียดในพริบตา
เท้าของจิวโมไป๋จมลึกลงไปในทราย
คังหรงแทงดาบใหญ่ลงพื้น และนำสองมือมาประกบกันที่กลางอก วงแหวนเวทย์สีน้ำตาลสองวงหมุนวนที่แขนสองข้าง ก่อนที่เขาจะผลักฝ่ามือออก วงแหวนเวทย์สีน้ำตาลทั้งสองผสานกันกลายเป็นวงแหวนเวทย์ที่สลับซับซ้อน ก่อนจะตรงลงไปที่สนามทราย
คลื่นนนน พื้นทรายสั่นสะเทือน ก่อนที่ทลายจะรวมตัวกันเป็นมือขยายใหญ่นับสิบ เข้าโจมตีจิวโมไป๋
เพราะเท้าจมลึกลงไปในทราย ทำให้จิวโมไป๋ได้ยากลำบากมากขึ้น เขาจึงไม่สามารถใช้ท่าร่างหลบได้ เขาจึงต้องควงพลองสีทองต้านการโจมตีของมือทรายทั้งสิบ
พลองสีทองฟาดทำลายมือทรายอย่างง่ายดาย
แต่ไม่นานเขาก็ค้นพบว่า มือทรายพวกนี้ ไม่มีวันถูกทำลาย เมื่อทำลายพวกมัน มันก็จะรวมตัวขึ้นมาใหม่ ในทันที
จิวโมไป๋กระโดดขึ้นและใช่ท่าร่างย่างก้าวประกายภูต แยกร่างเป็นสี่ร่างพุ่งไปสี่ทิศทาง ดึงความสนใจมือทราย ก่อนที่ร่างจริงจะดีดตัวพุ่งตรงเข้าหาคังหรง
คังหรงใบหน้าซีด ร่างกายยืนไม่มั่นคง เขาใช้มือขวาถือดาบใหญ่ มือซ้ายยกขึ้นและชี้ไปข้างหน้า วงแหวนเวทย์สีน้ำตาลเข้มปรากฏขึ้นก่อนจะพุ่งลงไปที่พื้น ในทันทีพื้นทรายก็จับตัวเป็นหินแข็งและลามออกไปอย่างรวดเร็ว
มือทรายสามมือที่ไล่ตามพัวพันร่างจริงของจิวโมไป๋ พลันกลายเป็นมือหินแข็งล้อมจิวโมไป๋เอาไว้ข้างใน
เพราะระยะกระชั้นชิด ทำให้จิวโมไป๋ไม่สามารถหลบได้ทัน ทำให้ตัวเองติดอยู่ในกรงหิน เพราะกรงหินแคบ มันจำกัดการเคลื่อนไหวของเขา ทำให้ไม่สามารถควงพลอง สร้างแรงเหวี่ยงได้ ทำให้พลังโจมตีของเขาลดลงมาก
วูบ เสียงแหวกอากาศดังขึ้นจากทางด้านซ้ายและขวา
ฮั่วอวี่หลินและฟูชวนหยุนทะยานร่างเข้ามาพร้อมกันจากสองทิศทาง ร่างของทั้งสองปกคลุมด้วยพลังกดดันและกฎแห่งธาตุ พลังงานสีเขียวอ่อนและสีแดงพุ่งสู่ท้องฟ้าจนชั้นบรรยากาศบิดเบี้ยว