ผู้อาวุโสถังยืนมองจิวโมไป๋ที่ใช้พลังธาตุไม้ช่วยประคองชีวิตถังเจาจนใบหน้าซีดเผือด เขาสังเกตเห็นลมหายใจของถังเจาค่อยๆกลับคืนมาอย่างช้าๆ เขาก็เบาใจลงเล็กน้อย แม้ว่าลูกบุญธรรมของเขาจะยังไม่พ้นขีดอันตราย แต่ก็ห่างจากประตูผี ถ้านำตัวเข้าเครื่องฟื้นฟู อาจจะมีโอกาสยื้อชีวิตเอาไว้ได้
เขาขอบคุณจิวโมไป๋ในใจ ทั้งๆที่ลูกบุญธรรมของเขาใช้โอสถปีศาจ เพื่อเอาชีวิตของตัวเอง แต่ก็ยังมีใจที่คิดจะช่วยชีวิต ไม่ปล่อยให้ตาย ทั้งๆที่ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเลย
เขามองใบหน้าที่กลายเป็นชิ้นเนื้อบิดเบี้ยวของลูกบุญธรรม ด้วยความผิดหวัง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าลูกชายบุญธรรมของเขากำลังทำอะไร แต่เขาสาบานว่าจะสืบหาความจริง และถ้าเขารู้ว่าใครกำลังบงการลูกบุญธรรมของเขาอยู่ เขาจะทำให้คนๆนั้นได้รู้จักความกลัวที่แท้จริง!
จิวโมไป๋ยังคงแสร้งทำเป็นไม่เห็นผู้อาวุโสถัง ที่ปรากฏตัวด้านข้าง เขาตั้งใจรวบรวมกฎแห่งธาตุไม้เข้าไปที่หัวใจของถังเจา บีบอัดมันให้กลายเป็นเม็ดพลังธาตุ เพื่อทดแทนโลหิตแก่นแท้ที่ถูกเผาผลาญไปจนหมด แม้ว่าวิธีนี้จะไม่ช่วยให้ถังเจากลับมาเป็นปกติ แต่มันสามารถช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ได้อีกสักพัก ถ้าได้รับการรักษาที่ดีพอ อาจจะยื้อชีวิตต่อไปได้อีกหลายปี
เขาจึงไม่กังวลว่าตระกูลฟง จะเอาเรื่องเขาหลังจากนี้ เมื่อถังเจามีชีวิตอยู่ ก็จะสามารถสืบหาสาเหตุจากถังเจาได้โดยตรงและอาจค้นพบสายลับที่ซ่อนอยู่ในตระกูลก็เป็นได้
ถ้าไม่มีใครฆ่าถังเจาปิดปากเสียก่อน
ทั้งสองกำลังให้ความสนใจถังเจา แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่า ข้างๆพวกเขา มีเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยกำลังยืนอยู่ พวกมันอยู่ตรงนี้โดยที่ไม่มีใครสัมผัสถึงการมีตัวตนของพวกมันได้เลย
ถ้าเมื่อครู่นี้ผู้อาวุโสถังโจมตีจิวโมไป๋ เสี่ยวไป๋หรือเสี่ยวเหมยจะเคลื่อนไหวช่วยเหลือทันที
ความแข็งแกร่งของพวกมันในตอนนี้ฟื้นฟูพลังจนถึงขั้นที่ 9 กำเนิดปราณแล้ว
มันสามารถจัดการผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ชีพจรได้อย่างง่ายดาย
พึบ เงาร่างหนึ่งทะยานเข้ามาด้วยความรวดสูง
ผู้อาวุโสชิงมองจิวโมไป๋และผู้อาวุโสถังที่กำลังช่วยเหลือถังเจาอยู่ ดวงตาก็ฉายแววผิดหวัง แต่เขาซ่อนมันอย่างรวดเร็ว เขาเหินร่างไปอยู่ข้างๆผู้อาวุโสถังและถาม
“ผู้อาวุโสถัง ศิษย์ของคุณไม่เป็นอะไรนะ”
ผู้อาวุโสถังส่ายหัว เขาไม่มีอารมณ์จะตอบ
ผู้อาวุโสชิงก็ไม่ถามต่อ เขามองการรักษาของจิวโมไป๋ด้วยความสนใจ
แก่นโลหิตแท้ถูกเผาไหม้ไปจนหมดแล้ว แต่จิวโมไป๋สามารถระงับการล่มสลาย และประคองชีวิตเอาไว้ได้ ความสามารถในการใช้กฎแห่งธาตุไม้ไม่ธรรมดา การฝึกกฎแห่งธาตุไม้จนถึงระดับนี้ต้องใช้เวลาฝึกฝนหลายปี แม้แต่อัจฉริยะก็ไม่สามารถฝึกฝนได้ง่ายๆ มันไม่มีทางเลยที่จะฝึกฝนได้ในเวลาอันรวดเร็วและฝึกฝนกฎแห่งธาตุอื่นพร้อมกัน
เป็นไปได้ไหมหรือไม่ว่า นายท่านจะเข้าใจผิด
เขานิ่งคิดไปเล็กน้อย
ในตอนนั้นเองจิวโมไป๋ถอนมือกลับ ใบหน้าซีดเผือก ร่างกายเซถอยหลังมาหนึ่งก้าว ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปทางที่ผู้อาวุโสถังยืนอยู่ เขาแสดงสีหน้าตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาสงบอย่างรวดเร็ว และประสานมือทำความเคารพ
“คุณคงเป็นฝ่ายตรวจสอบ ผู้อาวุโสผมขอรายงานความผิดปกติครับ”
“ไม่จำเป็น กล้องวงจรปิดได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ถ้านายละเมิดกฎจริง ก็จะถูกตัดสิทธิ์ย้อนหลังก่อนการทดสอบที่สอง ฉันจะพาเขาไปรักษา นายก็รีบทำการทดสอบให้เสร็จ”ผู้อาวุโสถังพูดรอบเดียว ไม่พูดมาด ถ้าเขาช้าลูกบุญธรรมของเขาอาจเสียชีวิต เขาเดินไปจับร่างของถังเจาและใช้ท่าร่างทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง
ทิ้งจิวโมไป๋และผู้อาวุโสชิงไว้ด้านหลัง
ผู้อาวุโสชิงหันมามองจิวโมไป๋และยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
“ขอโทษสำหรับความใจร้อนของเขาด้วย เชิญทำภารกิจต่อไปได้เลย”
“ขอบคุณ”จิวโมไป๋พยักหน้า เหลือบตาดูเวลา เหลือ 6 นาที มีเวลาเหลืออีกมากในการทำภารกิจ แต่เขาไม่เสียเวลา ใช้ท่าร่างทะยานร่างไปทางโซ่เหล็กที่เป็นเส้นทางจริง และหายลับไปในหมอก
ผู้อาวุโสชิงมองตามหลังจิวโมไป๋ กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
จิวโมไป๋วิ่งไปตามโซ่เหล็ก ความเร็วของเขาลดลงอย่างมาก เพราะเหนื่อยล้าและการบาดเจ็บจากการต่อสู้ เขาหยิบโอสถมากินขณะวิ่ง เขาไม่คิดที่จะหยุดพัก ผ่านไป 6 เสาหิน ก็มาถึงลานหินขนาดใหญ่ ตรงกลางมีหญิงสาวร่างเล็ก ใบหน้าอ่อนหวานแต่งดงาม เธอรวบผมหางม้ายาวถึงกลางหลัง ในมือถือกระบี่สั่น แต่เธอดูเหมือนไม่มีสมาธินัก เธอเดินวนไปมา
เมื่อจิวโมไป๋ปรากฏตัว เธอก็ชะงักเล็กน้อย
“นาย…นายคือผู้เข้าทดสอบ”
“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า”จิวโมไป๋ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หญิงสาวส่ายหน้าสายตามองร่างของจิวโมไป๋ เห็นเสื้อผ้าที่ขาดจากการต่อสู้ เธอก็คาดเดาได้ว่าจิวโมไป๋ผ่านการต่อสู้อย่างรุนแรงมา
“ฉันเห็นผู้อาวุโสถังและผู้อาวุโสชิง ไปหานาย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”หญิงสาวถามด้วยความอยากรู้ ดวงตาคู่งามเป็นประกาย
“ไม่มีอะไร”จิวโมไป๋บอกปัดไม่อยากตอบ
หญิงสาวเม้มปากไม่พอใจ เธอพึ่งเคยเห็นผู้ชายที่ไม่ถนอมน้ำใจผู้หญิงอย่างจิวโมไป๋เป็นครั้งแรก เธอเห็นว่าจิวโมไป๋มีบาดแผลจากการต่อสู้ เธอก็คิดว่าจิวโมไป๋ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก เธอชี้กระบี่ไปทางจิวโมไป๋และพูดด้วยน้ำเสียงอันดัง
“ฉัน ฟางหรง ศิษย์หลักอันดับที่ 9 ขอต่อสู้กับนาย!”