จิวโมไป๋สงบสติอารมณ์ซ่อนสีหน้า เขาแสร้งเดินไปรอบๆ ทำเป็นก้มลงตรวจสอบสมุนไพรล้ำค่า ในเวลาเดียวกัน เขาก็แบ่งสมาธิ ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบแท่นเคลื่อนย้าย ที่ฝั่งอยู่ใต้แปลงสมุนไพร
แท่นเคลื่อนย้าย คือประตูเชื่อมต่อกับโลกขนาดเล็ก ที่สร้างขึ้นจากผู้บ่มเพาะพลังอันทรงพลังหรือกองกำลังที่แข็งแกร่ง
โลกขนาดเล็กเหล่านี้ ถูกแยกออกจากพื้นที่มิติหลักอย่างสิ้นเชิง ทำให้ไม่สามารถเข้าโลกขนาดเล็กในเส้นทางอื่นได้ จะเข้าโลกขนาดเล็กต้องผ่านแท่นเคลื่อนย้ายที่เชื่อมต่อเท่านั้น ทำให้มีความปลอดภัยสูง
โลกขนาดเล็กถูกใช้เป็นพื้นที่เก็บของล้ำค่า พื้นที่ฝึกฝน พื้นที่ปลูกสมุนไพร หรือใช้เป็นที่ตั้งของเมืองหรือดินแดนของตัวเอง ที่ไม่ต้องการให้ใครเข้ามา
การจัดอันดับโบราณสถานในปัจจุบัน โบราณสถานในโลกขนาดเล็กจะถูกจัดอันดับ A ขึ้นไป แต่ก็มีโลกขนาดเล็กที่อยู่อันดับ B อยู่บ้าง แต่พวกมันส่วนใหญ่จะเป็นโลกขนาดเล็กที่มีไว้สำหรับเก็บของ
แท่นเคลื่อนย้ายที่เขาพบ เป็นแท่นเคลื่อนย้ายที่ถูกทอดทิ้ง เจ้าของอาจเสียชีวิต หรือมีการย้ายออก มันจึงถูกทิ้งร้าง กลายเป็นโบราณสถาน
จิวโมไป๋ตรวจสอบแท่นเคลื่อนย้าย จนเขามั่นใจ ว่ามันเป็นแท่นเคลื่อนย้ายสำหรับโบราณสถานระดับ A จริงๆ แต่น่าเสียดายที่มันเสียหายไปกว่าหนึ่งในสี่ ทำให้แท่นเคลื่อนย้ายไม่สามารถใช้งานได้
ถ้าจะซ่อมแซมให้แท่นเคลื่อนย้ายกลับมาใช้งานได้ใหม่ จะต้องใช้แร่หายากชนิดหนึ่ง ที่ในปัจจุบัน แร่ชนิดนั้นยังไม่ปรากฏ หรือปรากฏแล้วแต่ยังไม่มีการค้นพบ
ถ้าเขาต้องการหามัน อาจต้องรอให้พลังธรรมชาติในโลกเพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่งก่อน หรือรอให้ถึงวันที่พลังธรรมชาติพลุ่งพล่าน ถึงจะหาแร่ชนิดนั้นได้ง่ายๆ
จิวโมไป๋รู้ถึงผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะคิดอะไรได้ ดวงตาของเขาพลันเป็นประกาย
แม้จะไม่สามารถเข้าไปในโลกขนาดเล็กได้ แต่พลังงานธรรมชาติและพลังธาตุลม ที่แผ่ซ่านออกมาจากแท่นเคลื่อนย้าย มันมีความหนาแน่นสูงกว่าสมบัติธาตุซะด้วยซ้ำ ถ้าเขานำมันกลับไปที่เกาะโดดเดี่ยว เกาะของเขาอาจพัฒนาขึ้นไปอีกหลายขั้น!
จิวโมไป๋ถอนจิตสัมผัสกลับ ข่มความตื่นเต้นของตัวเอง เขาหยุดเดินและก้มลงเก็บสมุนไพรล้ำค่ามาใส่ในเสื้อคลุม เขาหยิบมาสิบต้นก่อนจะหยุด
เขารู้ว่ามีกล้องจับภาพของเขาอยู่ เขาจึงไม่ทำอะไรเกินควร จนถูกเพ่งเล็ง
สำหรับแท่นเคลื่อนย้าย ถ้ามีโอกาส เขาจะมารับมันไปพัฒนาเกาะโดดเดี่ยว และถ้าเขามีโอกาสได้รับแร่ที่ใช้ในการซ่อมแท่นเคลื่อนย้าย เขาจะซ่อมแซมมัน ถ้าเขาเปิดโลกใบเล็กได้ เขาจะได้รับทรัพยากรจำนวนมาก
จิวโมไป๋หันหลังกลับ และใช้ท่าร่างพุ่งออกจากพื้นที่สมุนไพรล้ำค่า
เวทีประลอง
เหล่าผู้ดูการทดสอบต่างโล่งใจ ที่เห็นว่าจิวโมไป๋ไม่เอาสมุนไพรล้ำค่าไปจนหมด จากนั้นก็เริ่มมีการพูดเสียงดัง ด้วยความไม่พอใจ ที่จิวโมไป๋เอาทรัพยากรบ่มเพาะพลังของพวกเขาไป
พวกเขารายงานกับฟงอี้หยุน ให้จบการทดสอบ และไปนำสมุนไพรล้ำค่าคืน
“เงียบ!”ฟงอี้หยุนพูดเสียงดัง พลังกดดันอันทรงพลังแผ่ขยายปกคลุมพื้นที่สนามประลองทั้งหมด
สายลมโดยรอบหยุดชะงักลง พร้อมกับทุดคนเงียบ ไม่มีใครกล้าพูด
ฟงอี้หยุนกวาดตามองทุกคน ก่อนจะปลดปล่อยพลังกดดัน สายลมก็พัดอีกครั้ง ทุกคนต่างถอนหายใจก้มหน้าเงียบๆไม่กล้าพูดอะไร แต่ในใจมีความโกรธเคืองเล็กน้อย
ฟงอี้หยุนรู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไร เขาจึงกล่าวเสียงเย็น
“กฎของระบุเอาไว้แล้ว ว่าในระหว่างการทดสอบ ถ้าผู้ทดสอบได้รับทรัพยากรหรือสิ่งของในระหว่างการทดสอบ ของเหล่านั้นจะเป็นของเขา เมื่อเขาสามารถผ่านการทดสอบ”
ฟงอี้หยุนหยุดพูด มองไปยังจิวโมไป๋ ที่กำลังออกจากพื้นที่สมุนไพร ตอนนี้เวลาผ่านไป 9 นาทีแล้ว
ทุกคนต่างเข้าใจ ความหมายที่ฟงอี้หยุนต้องการจะบอกว่า ถ้าจิวโมไป๋ไม่ผ่านการทดสอบ สมุนไพรเหล่านั้นก็ยังเป็นของตระกูล
แต่พวกเขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
จากที่พวกเขาเห็นความแข็งแกร่งของจิโมไป๋ พวกเขาต่างก็คิดว่าจิวโมไป๋สามารถผ่านการทดสอบได้แน่ๆ
พวกเขาได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้
ฟงอี้หยุนไม่ได้พูดอะไรอีก
ฟงอี้เฟยยืนมองการโต้เถียงเงียบๆ แต่เขาไม่พูดแทรก เพราะไม่จำเป็น ตระกูลของเขาเคารพกฎอย่างมาก แม้จะไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับกฎของตระกูล
ป่าพายุคลั่ง
จิวโมไป๋กระโดดไปตามกิ่งไม้ ผ่านป่าที่รกชันราวกับภูตผี ความเร็วของเขาไม่ตกลงเลย ไม่นานเขาก็ผ่านไปสามในสี่ ของป่า เวลาที่เขาใช้ไปเพียงแค่ 13 นาที เท่านั้น
แต่อยู่จิวโมไป๋กลับค่อยๆลดความเร็วลงอย่างช้าๆ เมื่อเขาไปถึงระยะ 1 กิโลเมตรสุดท้าย มือขวาที่กำพลองสีทองก็กระชับขึ้น ในอีกสองชั่วอึดใจ ในขณะที่เขากำลังกระโดดข้ามไปยังต้นไม้อีกต้น
เงาสีเงินก็สว่างวาบ พุ่งเข้าหาเขาจากด้านล่าง ในระยะ 8 เมตร
จิวโมไป๋ขยับแขนขวามาข้างหน้าอย่างใจเย็น เขาไม่ตกใจกับการลอบโจมตีแม้แต่น้อย
เคร้ง! ดาบยาวถูกหยุดไว้ได้ ปรากฏร่างของชายหนุ่มในชุดสีเขียวอยู่ฝั่งตรงข้าม ชายชุดเขียวแสดงสีหน้าตกใจ ก่อนจะกลับมาเป็นปรกติ
จิวโมไป๋ถูกหยุดไว้กลางคัน ร่างของเขาจึงร่วงลงพื้น
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เงาสีเงินโจมตีเข้ามาจากอีกสามด้าน
ชายชุดเขียวดึงดาบยาวกลับ พร้อมกับเหวี่ยงตัวกลางอากาศ ร่างเอนไปด้านหลัง และก็ถีบไปที่ท้องของจิวโมไป๋อย่างรุนแรง
จิวโมไป๋หรี่ตาลง เขาบิดร่างกายกลางอากาศอย่างน่าเหลือเชื่อ เท้าขวายกขึ้นและยันไปที่เท้าของชายชุดเขียว ก่อนจะใช้แรงของอีกฝ่ายผลักตัวเองให้ลอยขึ้นไป
แสงสีเงินทั้งสามฟันพลาด ก่อนที่จะฟันใส่กันตรงที่จิวโมไป๋เคยอยู่
เคร้ง! สะเก็ดไฟสีส้มสาดออก ชายชุดเขียวสามคนปรากฏขึ้นพร้อมกัน ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป
“แย่แล้ว!”
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ขยับ
จิวโมไป๋ที่ลอยอยู่ก็เหวี่ยงพลองสีทอง ที่ห่อหุ้มพลังกดดันอันทรงพลัง ฟาดจากซ้ายไปขวา กวาดร่างของทั้งสามคนพร้อมกัน ส่งพวกเขากระเด็นลงไปใส่ร่างของชายชุดเขียวคนแรกที่โจมตี
โครม! ร่างของทั้งสี่กระแทกลงพื้นอย่างหนักหน่วง ฝุ่นควันตะหลบอบอวลไปทั่วบริเวณ