จิวโมไป๋มองสัตว์สีขาวน่ารัก ไม่มีความดุร้ายตรงหน้า ด้วยสีหน้าจริงจัง
คาไมทาจิ ภูติสายลม สิ่งมีชีวิตพิเศษที่สามารถตระหนักกฎแห่งธาตุลมได้ตั้งแต่เกิด ทำให้พวกมันสามารถใช้กฎแห่งธาตุลมได้อย่างคล่องแคล่ว โดยเฉพาะความสามารถในการลอยตัว
คาไมทาจิมักจะอาศัยในป่าลึก ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
เมื่อช่วงเวลาที่พลังธรรมชาติพลุ่งพล่าน เผ่าพันธุ์คาไมทาจิได้พัฒนาความแข็งแกร่ง จนกลายเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของโลก
ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะพบ คาไมทาจิที่ตระกูลฟง
จิวโมไป๋พลันนึกอะไรบางอย่างได้ คาไมทาจิจะอยู่ด้วยกันเป็นสัตว์สังคม เมื่ออกล่าพวกมันจะออกล่าเป็นฝูง!
ในตอนนั้นเอง เคียวสายลมจากรอบทิศทางก็โจมตีเข้าหาจิวโมไป๋ที่ลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกัน!
จิวโมไป๋บิดข้อมือควงพลองสีทองเหวี่ยงพลองไปรอบทิศทางปะทะกับเคียวสายลม
แกร่ง แกร่ง แกร่ง เสียงพลองสีทองปะทะกับเคียวสายลม เหมือนเสียงมีดกระทบเหล็กดังเสียดแก้วหู
ร่างของจิวโมไป๋ถูกกระแทกอย่างแรงหมุนวนหลายตลบ ก่อนจะร่อนลงบนพื้น เขากระโดดไปที่ต้นไม้ด้านข้างและพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาช้าไป
เหล่าคาไมทาจิจำนวน 20 กว่าตัวได้ล้อมเขาไว้แล้ว พวกมันสะบัดหางปล่อยเคียวสายลม ที่บีบอัดมวลอากาศเป็นใบมีดอันแหลมคมโจมตีมาไม่หยุด
จิวโมไป๋ใช้ท่าร่างอันรวดเร็วหลบหลีก และใช้พลองสีทองปัดป้องเคียวสายลมที่ไม่สามารถหลบได้ เขาหลบหลีกไปมาผ่านต้นไม้ ใช้พวกมันรับเคียวสายลม บนต้นไม้สูงใหญ่ปรากฏรอยตัดลึกจำนวนมาก แต่ต้นไม้สูงเหล่านี้ไม่ล้มลง เพราะขนาดอันใหญ่โตของพวกมัน
จิวโมไป๋พยายามจะโจมตีคาไมทาจิ แต่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ เมื่อเขาจะเข้าใกล้ พวกมันก็ลอยขึ้นถอยห่างออกไปไม่ปะทะตรงๆ เอาแต่ลอบโจมตีอยู่ไกลๆ
จิวโมไป๋ กรอกสายตาจับการเคลื่อนไหวของคาไมทาจิทั้งหมด เขาฟาดพลองทำลายเคียวสายลมด้านหน้าและพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว และแทงพลองโจมตีคาไมทาจิที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก่อนที่การโจมตีจะไปถึง คาไมทาจิตัวนั้นก็ลอยไปบนอากาศ
“จิ๊ดดดด”เหล่าคาไมทาจิส่งเสียงร้อง ราวกับเย้ยหยัน
จิวโมไป๋ยืนบนกิ้งไม้เล็กๆ ร่างของเขาโยกไปมา ก่อนจะประคองตัวเอาไว้ได้ เขาสูดลมหายใจ ลึกๆและยิ้มออกมา
“ขอโทษนะที่ต้องทำให้พวกแกผิดหวัง”
เหล่าคาไมทาจิที่เห็นก็สงสัย ก่อนที่พวกมันจะรู้ตัว เถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็พุ่งจากพื้น บนต้นไม้ หรือแม้แต่บนร่างของพวกมันเอง เข้ารัดร่างของพวกมันอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะส่วนหางที่ถูกมัดเป็นบ๊ะจ่าง ไม่สามารถขยับได้
จิวโมไป๋โบกมือแขวนพวกมันทั้งหมดบนต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันถูกสัตว์ตัวอื่นกิน
“จิ๊ดดดดด”เหล่าคาไมทาจิกรี๊ดร้องด้วยความโกรธ
“ขอโทษนะที่ต้องรัดพวกแกแน่น ฉันไม่อยากให้พวกแกหลุดออกมา”จิวโมไป๋ยิ้มปลอบโยนพวกมัน
แต่เหมือนกับเขาราดน้ำมันเข้ากองไฟ เหล่าคาไมทาจิกรีดร้องเสียงดังดิ้นรนมากกว่าเดิม
ทำให้จิวโมไป๋รู้สึกผิดเล็กน้อย
เขามองเห็นว่าเหล่าคาไมทาจิได้เปิดสติปัญญาแล้ว ทำให้เขาไม่ลงมือรุนแรงกับพวกมันมากนัก
“ไม่ต้องกลัว อีกสิบนาที เถาวัลย์ก็จะคลายออก”จิวโมไป๋ปลอบพวกมันอีกครั้ง ก่อนจะมุ่งหน้าลึกเข้าไป ไม่สนใจเหล่าคาไมทาจิที่กรีดร้อง
จิวโมไป๋ทะยานร่างไปครึ่งกิโลเมตร ก็เห็นพื้นที่ปกคลุมไปด้วยทรายและหิน มีเสาหินหลายร้อยต้นสูงต่ำสลับซับซ้อน กินพื้นที่เป็นวงกว้าง บริเวณนี้สายลมรุนแรงขึ้นอย่างมาก พายุสายลมเล็กๆไม่นานก็กลายเป็นพายุลูกใหญ่ เข้าชนกับเสาหิน ทำให้เสาหินมีร่องรอยมากมาย
“จี๊ดดด”เสียงร้องของคาไมทาจิดังระงม ก่อนที่คาไมทาจินับร้อยจะโผล่หน้าออกมาจากเสาหิน สายตาของพวกมันมองมาที่จิวโมไป๋เป็นตาเดียว
จิวโมไป๋สัมผัสได้ถึงอันตรายเขารีบชักเท้าถอยทันที
ในตอนนั้นเองคาไมทาจินับร้อยก็ปล่อยเคียวสายลมออกมาพร้อมกัน
เคียวสายลมขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากันหมุนผ่านเสาหิน มันหมุนเร็วขึ้นแรงขึ้นจนเกิดเสียงหวีดร้องในอากาศ ดูน่าสะพรึงกลัว
จิวโมไป๋หรี่ตาลงก่อนจะใช้พลองสีทองแทงที่พื้น ก่อนจะงัดหน้าดินแผ่นใหญ่ขึ้นมา เขาใช้พละกำลังทั้งหมดเหวี่ยงหน้าดินไปด้านหน้า ชนกับเคียวสายลมนับร้อย
ฉัวะฉัวะฉัวะฉัวะฉัวะฉัวะ
เสียงโจมตีดังกระหึม เศษดินเศษฝุ่นหมุนวนเป็นพายุลูกใหญ่ก่อนจะแตกออก ผุ่นควันปกคลุมโดยรอบ
คาไมทาจิมองไปที่กลุ่มฝุ่นควัน
ในตอนนั้นเองจิวโมไป๋ก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบงัน เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเข้ารัดคาไมทาจิทุกตัวอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษนะฉันต้องรีบ”จิวโมไป๋พูดก่อนจะเดินลึกเข้าไป จิตสัมผัสของเขาสังเกตเห็นสมุนไพรล้ำค่ามากมายตามเสาหิน
ดวงตาของเขาพลันเป็นประกาย ก่อนที่จะสงบลง เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบสมุนไพรหายาก ที่เขาต้องการจริงๆ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปเก็บ และทำเป็นเก็บพวกมันในเสื้อคลุม แต่ที่จริงแล้วใส่ลงไปในแหวนมิติเก็บของ
เขาเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ เก็บเกี่ยวสมุนไพรล้ำค่ามากมาย กฎแห่งธาตุลมก็หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ หน้าแปลกที่ไม่มีอะไรมาโจมตีเขาเลย เหมือนพื้นที่ด้านในถูกคนอื่นเป็นเจ้าของ
“จิ๊ดดดดด”อยู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องดังสนั่น พลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมพื้นที่ทั้งหมด สายลมกรรโชกอย่างรุนแรงเกิดเป็นพายุล้อมรอบจิวโมไป๋ตรงกลาง
ใบหน้าของจัวโมไป๋พลันเปลี่ยนไป เพราะจิตสัมผัสของเขาไม่สามารถมองเห็นเจ้าของเสียงร้องได้
ในตอนนั้นเอง ร่างสีดำขนาดใหญ่กว่า หนึ่งครึ่งเมตร ก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้า เงาสีดำฟาดใส่หัวของจิวโมไป๋อย่างฉับพลัน กว่าจะรู้ตัวมันก็เกือบจะถึงหัวของเขาแล้ว
จิวโมไป๋ยกพลองสีทองขึ้นป้องกันไม่ทัน เขาจึงใช้แขนซ้ายขึ้นรับ พลังกดดันและกฎแห่งธาตุไม้ห่อหุ้มที่แขน กลายเป็นม่านพลังป้องกัน
เปรี้ยง! คลื่นพลังระเบิดออกโดยรอบ พายุแตกออกเกิดสายลมพัดอออกไป
ร่างจิวโมไป๋จมลงไปในดินหนึ่งข้อขา มือซ้ายของเขาชาและเจ็บแปลบ เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นตัวผู้ลงมือ มันคือคาไมทาจิดำ ขนสีดำของมันดำสนิทไม่มีสีใดเจือปน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉาบแววฉลาด เหนือกว่าคาไมทาจิคนอื่นๆ
หางสีดำของคาไมทาจิดำ กดที่แขนซ้ายของจิวโมไป๋ มันใช้พลังกดดันอันหนักหน่วง กดทับร่างของจิซโมไป๋ให้จมลงไป
ขั้นที่ 7 ไขกระดูก!
จิวโมไป๋อ่านระดับความแข็งแกร่งของคาไมทาจิสีดำตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เขากระชับพลองสีทองจะโจมตี
“จิ๊ดดดดด!”คาไมทาจิสีดำสนิทกรีดร้องด้วยความโกรธ บิดตัวหางหมุนเป็นกงจักรฟาดซ้ำเข้าใส่จิวโมไป๋อีกครั้ง
จิวโมไป๋รีบยกพลองสีทองรับด้วยสองมือ
เคร้งงงง เสียงหางปะทะพลองสีทอง ดังกึกก้อง
จิวโมไป๋สูดลมหายใจดวงตาเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาไม่สามารถต่อสู้ยืดเยื้อได้อีก เขาต้องรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด
เขากระทึบเท้ากระทืบลงพื้นอย่างแรง ส่งแรงไปที่มือก่อนจะฟาดพลองสีทองออกไป พลังกดดันอันทรงพลังกระเบิดออก เกิดเงาพลองเลือนลางขยายออกเป็นเท่าตัว ฟาดที่คาไมทาจิสีดำ
คาไมทาจิดำตกใจ มันไม่คิดว่าอยู่ๆจิวโมไป๋ จะระเบิดพลังออกมากระทันหันแบบนี้ แม้ว่ามันจะเปิดปัญญาแล้วก็ตาม แต่สติปัญญาของมันก็อยู่ที่เด็กอายุ 10 ขวบ ทำให้มันไม่ทันระวัง ถูกจิวโมไป๋ฉวยโอกาสโจมตีฉับพลัน
คาไมทาจิดำตัดสินใจใช้ทักษะลอยตัวโยกตัวหลบ
พลองสีทองฟาดผ่านร่างของมันอย่างหวุดหวิด แต่ในตอนนั้นเอง เข่าของจิวโมไป๋ก็แทงไปที่ท้องของมันอย่างรุนแรง
ปัง!ร่างของคาไมทาจิดำกระเด็นออกไปชนกับเสาหินด้านหลัง
โครม! เสาหินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จิวโมไป๋ไม่ปล่อยโอกาสให้มันได้พัก เขาเงื้อแขนไปด้านหลังและเหวี่ยงพลองสีทองปาออกไป พลังกดดันทั้งหมดรวมไปที่พลองสีทอง เสียงแหวกอากาศดังกระหึม
คาไมทาจิดำที่พึงตั้งสติได้ ก็จะเอียงตัวหลบ อยู่ๆเถาวัลย์เส้นหนาเท่าข้อมือก็ผุดขึ้นมาจากพื้นขวางทางซ้ายและขวาของมัน ปิดทางหลบหนีอย่างสมบูรณ์!
“จิ๊ดดดด”คาไมทาจิดำกรีดร้องเสียงดัง ระเบิดพลังกดดันออกมา พร้อมกับยกกรงเล็บที่ห่อหุ้มกฎแห่งธาตุลมขึ้น แต่แทนที่มันจะป้องกันพลองสีทองที่พุ่งเข้ามา มันกับตบลงที่พื้นส่งร่างตัวเองลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตูม! พลองสีทองกระแทกเข้ากับเสาหินอย่างรุนปรง จนมันโยกเยกไปมาราวกับจะถล่ม
พลองสีทองปักลึกเข้าไปในเสาหินเกือบครึ่ง
คาไมทาจิดำก้มลงมองด้วยความหวาดกลัว สัญชาตญาณของมันร้องเตือน ว่ามนุษย์ที่ดูเหมือนจะอ่อนแอตรงหน้าไม่ธรรมดา มันเริ่มคิดที่จะหาทางกำจัดจิวโมไป๋
แต่ในตอนนั้นเอง เถาวัลย์เส้นเล็กๆ อยู่ๆก็ขยายบนร่างของมันอย่างรวดเร็ว โดยที่มันยังไม่ทันได้ตอบสนอง เพียงไม่กี่วินาทีร่างของมันก็ถูกเถาวัลย์รัดแน่น
ปรากฏว่าเป้าหมายที่แท้จริงของจิวโมไป๋ ไม่ได้อยู่ที่พลองสีทองตั้งแต่แรก เขาใช้มันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น เป้าหมายหมายที่แท้จริงคือ การลอบปล่อยเมล็ดเถาวัลย์บนร่างของคาไมทาจิ ในตอนที่เขาใช้เถาวัลย์ป้องกันการหลบหนี ก่อนที่เขาจะกระตุ้นเมล็ดเถาวัลย์ ให้เถาวัลย์จับร่างของคาไมทาจิดำเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว
วูบ จิวโมไป๋ปรากฏตัวขึ้นบนอากาศ จากนั้นเขาก็ยกเท้าขึ้นสูงก่อนจะใช้ส้นเท้าทุบที่หัวของคาไมทาจิดำอย่างรุนแรง ส่งร่างของมันพุ่งลงพื้น
ตูม! พื้นดินยุบลงไปครึ่งเมตรอย่างน่ากลัว ร่างของคาไมทาจิถูกฝั่งในพื้น
จิวโมไป๋ไม่กังวลว่ามันจะตาย สัตว์ที่มีระดับการบ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูก พวกมันมีความแข็งแกร่งของร่างกาย เหนือกว่ามนุษย์ระดับเดียวกันหลายเท่า การโจมตีเพียงแค่นี้ทำอะไรมันไม่ได้
จิวโมไป๋หยิบเมล็ดเถาวัลย์หลายสิบเมล็ด ออกมาและโยนลงหลุม ก่อนจะประกบมือรวบรวมพลังธาตุไม้ และตบลงพื้น ในตอนนั้นเองเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็ผุดออกจากเหล็ด เข้ารัดร่างของคาไมทาจิดำในหลุมอย่างแน่นหนา ไม่มีทางที่มันหลุดออกได้ในเวลาอันสั้น
เขาถอนหายใจมองคาไมทาจิดำที่ดิ้นร้นด้วยสายตาขอโทษ
“ขอโทศจริงๆ ที่ฉันบุกรุกบ้านของนาย”จิวโมไป๋พูดขอโทษ
ไม่รอให้คาไมทาจิดำตอบ เขารีบไปทันที เขาเสียเวลาไปกว่า 7 นาทีแล้ว
เขาไปไม่ไกล ก็เห็นพื้นที่ใจกลางของอาณาเขตเสาหิน เป็นพื้นที่ปลูกสมุนไพรล้ำค่าขนาดใหญ่ มีสมุนไพรหลากหลายชนิด กลิ่นสมุนไพรเข้มข้นลอยไปในอากาศจนเกิดภาพลวงตา
เขามองเข้าไปด้วยความแปลกใจ ว่าทำไมสมุนไพรสามารถปลูกที่นี่ได้ เมื่อเดินเข้าไป เขาก็เข้าใจ เพราะพื้นที่ตรงนี้ไม่มีสายลมรุนแรง พื้นที่แยกออกจากกันอย่างน่าประหลาดใจ เหมือนมีอะไรบางอย่างขวางไม่ให้สายลมรุนแรงผ่านเข้ามา
และพื้นที่ตรงนี้มีความหนาแน่นของกฎแห่งธาตุลม มากกว่าด้านนอกถึง 10 เท่า ทำให้สมุนไพรที่มีคุณสมบัติเกี่ยวกับธาตุลม สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบ ก็พบสมุนไพรล้ำค่ามากมาย แต่พวกมันไม่ใช่เป้าหมายที่เขาตามหา
เขาค้นหาแหล่งพลังธาตุลมที่หนาแน่น แต่เพราะพื้นที่ตรงนี้มีพลังธาตุลมจำนวนมาก ทำให้เขาหาไม่พบง่ายๆ
เพราะมีเวลาน้อย เขาจึงไม่สามารถค้นหาอย่างละเอียด
ขณะที่เขากำลังถอดใจ จิตสัมผัสของเขาก็ไปกระทบกับเศษก้อนหิน ที่ฝังอยู่ีในดินลึก 5 เมตร บนตัวก้อนหินมีการแกะสลักตัวอักษรบางอย่าง ที่เจือจางแทบจะมองไม่เห็น เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขารีบซ่อนสีหน้าและทำเป็นเดินไปรอบๆสวนสมุนไพร แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็ใช้จิตสัมผัสมองทะลุพื้นดินด้านล่างของก้อนหิน เมื่อเขาใช้จิตสัมผัสมองลึกลงไปกว่า 11 เมตร ในที่สุดเขาก็พบอะไรบางอย่าง
มันเป็นเศษซากแท่นหินสี่เหลี่ยม ที่อยู่ในสภาพแตกหัก
จิวโมไป๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เพราะเขารู้จักมันดี มันคือ แท่นเคลื่อนย้าย และมันเป็นแท่นเคลื่อนย้ายโบราณสถานระดับ A!