แสงสว่างจากท้องฟ้าค่อยๆลาลับขอบฟ้า ความมืดมิดเข้ามาแทนที่จากอีกด้าน แสงไฟตามอาคารหรือเสาไฟฟ้าค่อยๆปรากฏขึ้น ส่องสว่างท่ามกลางความมืด
หอฝึกฝน ห้องฝึกระดับสูง
ปึง! หมัดของเหยาติงหลงชกใส่กระสอบทรายหนักครึ่งตันที่แขวนอยู่อย่างรุนแรง ถุงกระสอบทรายเกิดคลื่นเป็นวงกลม ก่อนที่มันจะกระเด็นออกไปจนสุด และเหวี่ยงกลับมาอีกครั้ง
เหยาติงหลงสูดลมหายใจแรงๆ เหงื่อไหลอาบร่าง จนชุดฝึกเปียกโชกราวกับว่าเขาพึ่งขึ้นจากน้ำ เหยาติงหลงตั้งสมาธิมองไปยังกระสอบทราย เมื่อมันย้อนกลับมา เขาก็เหวี่ยงหมัดขวาชกไปอีกครั้ง
ปึง! กระสอบทรายกระเด็นออกไปอย่างแรง
“พอได้แล้ว”จิวโมไป๋ที่ยืนอยู่ด้านข้างยกแขนกันกระสอบทรายให้หยุด
เหยาติงหลงถอนหายใจ ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง เขาหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ดวงตาเต็มไปด้วยพลัง หลังจากฝึกฝนวิชาหลอมกายาที่จิวโมไป๋มอบให้ เพียงแค่ครึ่งวัน ร่างกายของเขาดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในอดีตเขาไม่มีทางเลยที่จะชกกระสอบทรายหนักครึ่งตันได้
ร่างกายของเขาในปัจจุบัน สามารถชกกระสอบทรายหนักครึ่งตัน ได้กว่าห้าสิบครั้ง โดยที่ร่างกายไม่เป็นอะไร
ถ้าเขาฝึกฝนวิชาหลอมกายาต่อไป ความแข็งแกร่งของเขาจะพัฒนาขึ้นไปถึงระดับไหน เขาคาดหวังอย่างมาก
“การฝึกในวันนี้ของรุ่นพี่ ถึงขีดกำจัดแล้ว ถ้าฝืนต่อไปร่างกายอาจได้รับบาดเจ็บได้ รุ่นพี่สามารถเข้าห้องสารอาหาร เพื่อพื้นฟูร่างกายได้เลย”
“ขอบใจนายมาก ที่มอบวิชาล้ำค่าให้กับฉัน”เหยาติงหลงมองจิวโมไป๋ด้วยความซาบซึ้ง เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เข้าหน่วยของจิวโมไป๋ ทำให้เขาสามารถแข็งแกร่งขึ้น เขาสามารถปกป้องน้องสาวและคนของเขาได้
“รุ่นพี่ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ เพราะยิ่งรุ่นพี่แข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ หน่วยของเราก็จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่แค่รุ่นพี่เท่านั้น ผมและคนอื่นๆก็ต้องพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งเช่นกัน เพื่อให้หน่วยของเราแข็งแกร่งขึ้น”จิวโมไป๋ยิ้ม
“ตกลง ฉันจะตั้งใจฝึกฝน”เหยาติงหลงพยักหน้าสีหน้าฉาบแววมุ่งมั่น
จิวโมไป๋ออกจากเหยาติงหลง เดินไปหาหวังเสี่ยวเปา ที่กำลังใช้อุปกรณ์ออกกำลังกาย ฝึกฝนกล้ามเนื้อ อยู่อีกด้านของห้องฝึก
หวังเสี่ยวเปาเข้าใจกฎแห่งธาตุดินแล้ว และความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้ต่ำ ในตอนนี้เขาจึงต้องเน้นไปพัฒนาขีดกำจัดของร่างกายและหลอมรวมสายเลือดโลหิตคิงคองศิลาให้เข้ากับร่างกายอย่างสมบูรณ์ เพื่อที่จะได้สร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง ถ้าโชคดีเขาอาจจะสามารถทะลวงขั้นพลังสูงสุดได้ในอนาคต
แม้ว่าการทะลวงขั้นพลังสูงสุดหลังจากขั้นที่ 5 กระดูก จะมีโอกาสน้อย แต่ด้วยโลหิตคิงคองศิลา ทำให้หวังเสี่ยวเปามีโอกาสในการทะลวงขั้นโลหิตสูงสุดได้
จิวโมไป๋บอกให้หวังเสี่ยวเปาหยุดและไปฟื้นฟูร่างกายในห้องสารอาหาร
ก่อนจะเดินไปหาเซี่ยลี่เยว์ ที่กำลังฝึกวิชากระบี่พื้นฐานที่กลางสนามฝึก เธอกวัดแกว่งกระบี่ใช้ 108 กระบวนท่ากระบี่พื้นฐานด้วยสมาธิแน่วแน่ ร่างของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ พื้นที่เธอยืนมีหยดน้ำรวมกันกลายเป็นแอ่งเล็กๆ
ความมุ่งมั่นพยายามของหญิงสาว ทำให้ใครเห็นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย
เซี่ยลี่เยว์สัมผัสได้ว่ามีคนเข้าใกล้ แต่เธอก็ไม่วอกแวกแทงกระบี่ออก คมกระบี่แทงผ่านอากาศอย่างลื่นไหลไม่สั่นคอน แม้ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อย แต่การโจมตีของเธอยังคงมั่นคง ไม่ถูกผลกระทบจากความเหนื่อยล้า
เซี่ยลี่เยว์ดึงกระบี่ไม้กลับ ก่อนจะเบาลมหายใจออกทางปากเบาๆ เธอหันมามองเห็นจิวโมไป๋ยืนอยู่ เธอก็เผลอยิ้มแผ่วเบาอย่างไม่รู้ตัว
“ฉันต้องกลับแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะต้องไปทำธุระ อีกสามหรือสี่วันถึงจะกลับ ในระหว่างนี้ ช่วยดูแลการฝึกของทั้งสองคนนั้น ให้ฉันได้ไหม ถ้าไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไร”จิวโมไป๋ถามความเห็นของเซี่ยลี่เยว์ เขารู้ว่าหญิงสาวไม่ค่อยพูดและไม่อยากร่วมกลุ่มกับใคร เขาคิดว่าที่หญิงสาวเข้าหน่วยของเขา เพราะเขาสอนวิชากระบี่ให้กับเธอ หญิงสาวเลยตอบแทนด้วยการเข้าหน่วยของเขา
เขาจึงไม่อยากจะรบกวนหญิงสาวมากนัก
“ไม่เป็นไร ฉันต้องการคู่ซ้อมต่อสู้อยู่แล้ว”เซี่ยลี่เยว์รีบตอบทันที
“ขอบคุณนะ”จิวโมไป๋ประหลาดใจเล็กน้อย เขาก้มหัวเล็กน้อย มองหญิงสาวด้วยความอ่อนโยน เหมือนกับตอนที่เขามองน้องสาวของเขา
“ไม่เป็นไร”เซี่ยลี่เยว์ก้มหน้าหลบสายตา หูของเธอเริ่มแดงขึ้นจนร้อนฉ่า
“ฉันจะไปบอกคนอื่นก่อน”จิวโมไป๋พูดจบก็หันหลังกลับ เดินไปบอกหวังเสี่ยวเปาและเหยาติงหลง ทั้งสองตอบรับไม่คิดอะไร พวกเขาเห็นการต่อสู้ของจิวโมไป๋และเซี่ยลี่เยว์แล้ว พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของหญิงสาวดี
จากนั้นจิวโมไป๋ก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัว ใส่ชุดเดิม เมื่อออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อฝั่งผู้ชาย เขาก็เห็นเซี่ยลี่เยว์ที่เปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิม ผมของเธอรวบไปด้านหลัง แม้จะใส่แว่น แต่มันก็ไม่สามารถปกปิดใบหน้าอ่อนหวานได้อีก ผมของหญิงสาวยังชื้นอยู่เล็กน้อย แสดงว่าเธอพึ่งผ่านการอาบน้ำมา และเป่าผมไม่แห้งดี
“ไม่เข้าห้องสารอาหารเพื่อฟื้นฟูร่างกายก่อนเหรอ”จิวโมไป๋ถามขณะเดินเข้าไปหา
“ไม่ ฉันจะออกไปข้างนอก”เซี่ยลี่เยว์ตอบ เธอยกมือขึ้นแตะที่ผมของเธอเบาๆ
“อ่อ ฉันก็จะออกไปเหมือนกัน เราไปด้วยกันเถอะ”จิวโมไป๋พยักหน้า และเดินนำออกไป
เซี่ยลี่เยว์ยิ้ม รีบเดินตามเฉียงไปทางซ้ายมือ
ทั้งสองออกจากอาคารฝึกฝน ท้องฟ้าก็มืด ผู้คนด้านนอกหายไปจนหมด บรรยากาศมหาวิทยาลัยเงียบเหงาวังเวง แตกต่างจากวันเวลาปรกติ
จิวโมไป๋มองเซี่ยลี่เยว์ที่เดินด้านข้าง ก่อนจะหันหน้ากลับ
ดีแล้วที่เขากลับพร้อมกับเซี่ยลี่เยว์ เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหญิงสาวออกไปคนเดียว
“ฉันมีรถ ให้ฉันขับรถไปส่งไหม”จิวโมไป๋ถาม
“ไม่ ฉันมีรถของตัวเอง”เซี่ยลี่เยว์ส่ายหน้า
“ตอนนี้ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ฉันจะไปส่งที่รถก็แล้วกัน”
“รถของฉันจอดที่อาคารหอพัก ไปส่งฉันที่นั้นก็พอแล้ว”เซี่ยลี่เยว์ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า และก้มหน้าลงซ่อนความเขินอาย
จิวโมไป๋พาเซี่ยลี่เยว์ไปส่งที่หอพักหญิง ทั้งสองก็แยกจากกัน
เซี่ยลี่เยว์มองตามหลังจิวโมไป๋อยู่ ก่อนจะถอนสายตาออก
“อ๊ะ” เสียงแหลมสูงดังขึ้นกระทันหันด้วยความตกใจ