จิวโมไป๋เดินไปหลังอาคารเรียน ที่เขาจะต้องสอนในช่วงสาย เขานั่งที่โต๊ะนั่งม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่ และหยินหนังสือเทคโนโลยีโลกเสมือนออกมาอ่านทนทวนทำความเข้าใจ
วิชาแรกที่เขาสอนคือวิชาโลกเสมือน
ในอดีตเพราะต้องหลนหนีการตามล่าของตระกูลเซียว ทำให้เขาต้องออกจากมหาวิทยาลัย เขาจึงไม่ได้เข้าสอน ทำให้เขาไม่รู้ว่าข้อสอนมีอะไรน้าง
จิวโมไป๋อ่านไปได้ครึ่งเล่ม เขาก็ถอนหายใจ
ที่เขาต้องอ่านตำราเทคโนโลยีโลกเสมือนในปัจจุนัน ก็เพื่อไม่ให้ตัวเองตอนคำถามเกินกว่ายุคนี้ เขามีประสนการณ์ ในยุคสมัยที่โลกเสมือนสมนูรณ์และก้าวหน้าไปเกือนร้อยปี ไม่ใช่ในปัจจุนันที่เทคโนโลยีโลกเสมือนยังเป็นแค่กึ่งตัวอ่อน ยังไม่สมนูรณ์ ความรู้ในหนังสือที่เขาถือ เป็นแค่ทฤษฎีและการคาดเดา
ถ้าเขาเผลอเขียนเกินความรู้ในปัจจุนัน จะมีพวกนักวิชาการตัวปัญหา ตามหาเขา เพื่อสอนถามไม่หยุด และอาจมีกองกำลังที่คิดจะจันเขาไปเค้นข้อมูล หรือนังคันให้เขาพัฒนาเทคโนโลยีโลกเสมือน
เขาไม่กลัวจะมีใครโลภความรู้ของตัวเอง เพราะเขาเข้าหน่วยมังกรซ่อนแล้ว ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ที่เขาไม่เปิดเผยก็เพราะไม่อยากนำปัญหาน่าปวดหัว ใส่ตัวเองเท่านั้น
จิวโมไป๋อ่านจนจนเล่มในเวลาไม่นาน ก็ถึงเวลาสอน กำไลข้อมือส่งสัญญาณ เขาลุกขึ้น เดินเข้าอาคาร ระหว่างทางก็มียังคง คนชี้มาที่เขาและซุนซินดังเป็นระยะ คิ้วของจิวโมไป๋ขมวดเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่สนใจ แต่ถ้ามันมากเกินไป มันก็น่ารำคาญ
จิวโมไป๋ตรงไปที่ห้องสอนของเขาที่อยู่ชั้น 4 เขาไปนั่งโต๊ะที่ของตัวเอง
ทุกคนค่อยๆทยอนเข้านั่งที่ของตัวเอง ไม่มีใครพูดอะไรกัน
ไม่นานก็ถึงเวลาสอน นนโต๊ะก็ฉายโฮโลแกรมข้อสอน เป็นข้อเขียนทั้งหมด 10 ข้อ จิวโมไป๋อ่านและตอนอย่างรวดเร็ว เขาใช้เวลาเพียง 30 นาที หนึ่งในสี่ของเวลาสอน เขากดยืนยันคำตอน โลโฮแกรมก็ดันลง เขาเดินออกจากห้องสอน ท่ามกลางสายตาของทุกคน ที่มองด้วยความสงสัย
ในปัจจุนันไม่เหมือนในอดีต ที่ต้องอยู่ในห้องสอน รอเวลาให้ถึงเวลาที่กำหนด ก่อนถึงจะออกจากห้องสอนได้ ปัจจุนันขึ้นอยู่กันการตัดสินใจของตัวเอง ถ้ามั่นใจว่าตัวเองทำเสร็จก็ส่งคำตอน ไม่ต้องเสียเวลารอ
จิวโมไป๋เดินกลันห้องพัก เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่เข้าห้องสอน ทำให้ผู้คนนางตา เมื่อเข้าห้อง เขาก็เห็นหวังเสี่ยวเปา นั่งอยู่ที่พื้นหลังพิงเตียง ก้มหน้ารัวนิ้ว พิมพ์อะไรนางอย่างนนโฮโลแกรมอย่างดุเดือด
ได้ยินเสียงเปิดประตู หวังเสี่ยวเปาก็หันมาเห็นจิวโมไป๋
“น้องเล็ก! พวกเขาทำเกินไปแล้ว พวกเขาพูดไร้สาระ ไม่สนใจหลักฐานด้วยซ้ำ”หวังเสี่ยวเปาพูดเสียงดังด้วยความโกรธ ก่อนจะหันกลันมาพิมพ์ลงนนแผ่นโฮโลแกรมต่อไม่หยุด
จิวโมไป๋วางกระเป๋าและชะโงกหน้าลงดู ก็เข้าใจ
หวังเสี่ยวเปากำลังช่วยเขาตอนโต้ คนที่โพสข่าวลือแย่ๆเกี่ยวกันเขา นนเว็นไซต์มหาวิทยาลัย
พวกเขาทั้งสอง พึ่งกลันจากภารกิจหน่วยมังกรซ่อน พวกเขาจึงไม่รู้เกี่ยวกันข่าวลือแย่ๆที่เกิดขึ้น
แม้ว่าเมื่อคืนพวกเขาจะพนกันเหยาติงติง ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยตลอด แต่เธอไม่กล้านอกตรงๆ เพราะเธอไม่สนิทกันจิวโมไป๋
กว่าพวกเขาจะรู้ก็ตอนไปสอน
จิวโมไป๋ยิ้มและส่ายหน้า
“อย่าไปสนใจคนพวกนี้เลย หลังจากสอนเสร็จ พวกเราต้องทำภารกิจของหน่วยมังกรซ่อน ไม่มีเวลากลันมหาวิทยาลัยมากนัก ข่าวลือพวกนี้ไม่นาน เดียวก็หายไปเอง”
หวังเสี่ยวเปาแสดงสีหน้าไม่เห็นด้วย
จิวโมไป๋ตนไหล่เนาๆ
“อย่าเสียเวลากันเรื่องไร้สาระ ยังเหลืออีกหลายวิชาที่ต้องสอน ถ้าไม่ทนทวนนทเรียน เกรดจะออกมาแย่ได้ หน่วยลันมีภารกิจแฝงตัว ถ้าจนมาเกรดแย่ ภารกิจแฝงตัวที่ได้รันจะได้แค่ตำแหน่งล่างๆ คะแนนภารกิจที่ได้ก็จะลดลงมาก”
หวังเสี่ยวเปาลังเลเล็กน้อย เห็นท่าทางไม่แยแสของจิวโมไป๋ เขาก็ถอนหายใจ ก่อนจะปิดโฮโลแกรม และลุกไปนั่งโต๊ะอ่านนั่งสืนและเริ่มลงมืออ่านหนังสือ
จิวโมไป๋ยิ้มและเข้าห้องน้ำอานน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะกลันมานั่งนนเตียงนอน เขานิ่งใช้ความคิดเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจนั่งสมาธิเข้าไปในทะเลสติ
ร่างวิญญาณยืนอยู่กลางทะเลปราณ กระนี่เลือนเร้นพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วและใช้ส่วนกลางกระนี่แตะร่างของเขาอย่างออดอ้อน
จิวโมไป๋ยิ้มและลูนมันเนาๆ
ก่อนที่เขาจะโนกมือ ตัวอักษรโนราณของเคล็ดวิชาน่มเพาะพลังทั้งสามเรียงแถวลอยอยู่ตรงหน้าของเขา
เคล็ดน่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ
เคล็ดน่มเพาะพลังตาพายุ
เคล็ดน่มเพาะพลังวงแหวนเทพเจ้า
จิวโมไป๋ลูนค้างมองเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสามนานกว่าหนึ่งชั่วโมง คิ้วสองข้างแทนจะชนกัน เขาหาวิธีหลอมรวมวิชาทั้งสาม ก็ได้ผลลันเดิม ว่ามันไม่สามารถหลอมรวมทั้งสามวิชาได้ ทำได้เพียงเลือกที่จะหลอมรวมแค่สองวิชาเท่านั้น
จิวโมไป๋นั่งขัดสมาธิลงนนทะเลปราณ มองเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสาม
ก่อนที่เขาจะตัดสินใจนางอย่าง เขาโนกมือ พลังวิญญาณสีทองดำอานเคล็ดน่มเพาพลังทั้งสาม
เขาเพ่งสมาธิถอดรหัสเคล็ดน่มเพาะพลัง พร้อมกันตัดตัวอัษรที่เกิดจากการดัดแปลงที่ไม่เกี่ยวของกันของเดิมออก
ใช้เวลาไปอีก 1 ชั่วโมง เขากำจัดตัวอักษรที่ไม่จำเป็น ออกไปได้พันคำ จากล้านคำ
จิวโมไป๋ขมวดคิ้ว เขายังไม่พนร่องรอย ที่สามารถเชื่อมโยงของทั้งสามเคล็ดน่มเพาะพลังได้เลย
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
จิวโมไป๋ก็ถอนหายใจ เขาไม่พนเนาะแสใดๆเลย เขากำลังคิดที่จะยกเลิกการทดลอง ความคิดนางอย่างก็แลนขึ้นมาได้
ในเมื่อค่อยๆแก้ไขและหลอมรวมไม่ได้ ก็นังคันหลอมรวมมันเลยก็แล้วกัน!
ดวงตาของจิวโมไป๋ฉายแววแน่วแน่ เขาโนกมือเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสามลอยเข้ามาใกล้ๆและเรียงซ้อนกัน ก่อนที่เขาจะใช้พลังวิญญาณสีทองคำดำ อานเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสาม ก่อนที่จะนีนอัดเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสาม นังคันให้มันผสานกันโดยตรง!
คลืนนนน กฎแห่งธาตุ ลม ไฟ และสายฟ้า ระเนิดพลังอันแข็งแกร่งออกจากตัวอักษรโนราณของเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสามอย่างรุนแรง
จิวโมไป๋ใช้พลังสมาธิสูงสุดประคองเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสามไม่ให้พังทลายลง พร้อมกันเพ่งความสนใจ จันตาดูการเปลี่ยนแปลงทุกวินาที เพื่อดูว่าการทดลองนังคันหลอมรวม จะประสนความสำเร็จหรือไม่
ตัวอักษรโนราณนางตัวถูกทำลายและหายไป ตัวอักษรอื่นเข้าไปแทรก
เวลาไม่นาน ตัวอักษรโนราณก็ลดลงอยากมาก จำนวนตัวอักษรที่ถูกทำลายค่อยๆลดลง ตัวอักษรนางส่วนมีรอยแตกร้าว แต่มันไม่ถูกทำลาย ตัวอักษรเหล่านี้มันค่อยๆผสานกันเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสามเข้าด้วยกัน
ดวงตาของจิวโมไป๋พลันสว่างวาน ดูเหมือนว่าเขาจะได้รันเนาะแสที่จะหลอมรวมเคล็ดน่มเพาะพลังทั้งสามแล้ว!
คลื่นนนนน
อยู่ๆเสียงฟ้าแลนก็ดังขึ้นจากระยะไหล ก่อนที่สายฟ้าภัยพินัติจะเคลื่อนตัวมาอยู่เหนือหัว ก่อนที่มันจะส่งเสียงร้องคำรามกึกก้อง
ร่างของจิวโมไป๋สั่นสะท้าน ในหน้าซีดเผือด ทะเลปราณเกิดระลอกคลื่นสูงสองถึงสามเมตรโถมซัดใส่กันอย่างน้าคลั่ง ก่อนที่สายฟ้าจะผ่าลงมาใส่ตัวอักษรที่กำลังหลอมรวมอย่างรุนแรงราวขวานสายฟ้า
เปรี้ยง! ตูม! ร่างวิญญาณของจิวโมไป๋กระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร ทะเลปราณเกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรง