นับตั้งแต่วันนั้น วันวานสุดแสนจะเลวร้ายที่ต้องมานั่งดูหนังโป๊หนึ่งเรื่องยาวสองชั่วโมงทุกวันก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ในทุกๆวันตอนที่ฉันกำลังดูหนังเลสเบี้ยนพวกนั้นอยู่ เธอก็จะชอบเอามือมาหยอกล้อฉันอยู่เรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะคำพูดที่ฉันได้เผลอพูดออกไปอย่างไม่ยั้งคิดในวันแรกที่ทำให้นิ้วของเธอเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม เธอได้ทำการลูบคลำหน้าอกและเล่นกับส่วนปลายอย่างไม่หยุดพักจนทำให้รู้สึกชาไปหมดและรู้สึกราวกับว่าหน้าอกคู่นี้ไม่ได้เป็นของฉันอีกต่อไป
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ฉันสามารถเอาชนะเธอในวันที่ผ่านมาได้
ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกดีมากซะจนเผลอกอดแขนเธอแน่นไปหลายครั้งก็ตามที แต่ฉันก็ยังคงความเป็นตัวเองให้อยู่เอาไว้ได้ นี่อาจจะเป็นเพราะว่าฉันเริ่มคุ้นชินกับการสัมผัสตัวจากเธอแล้วก็เป็นได้
และในที่สุดพวกเราก็ผ่านมาถึงวันเสาร์จนได้
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้วฟุวะได้ติดธุระ ดังนั้นเธอจึงให้ฉันขนมังงะของเธอกลับไปอ่านที่บ้านแทนการมายังบ้านของเธอ และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมวันนี้ถึงเป็นวันแรกที่ได้ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่บ้านของเธอ ในตอนแรกที่พวกเราได้ทำข้อตกลงกัน พวกเราได้ตกลงกันไว้ว่าในวันที่มีเรียนจะใช้เวลาว่างในช่วงสองชั่วโมงหลังเลิกเรียน แต่เพื่อชดเชยเรื่องนั้นทำให้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดอื่นๆนั้นจะตกเป็นของเธอทั้งวัน นอกจากว่าในวันนั้นจะมีเรื่องสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
พูดง่ายๆก็คือตราบใดที่ฉันไม่มีเรื่องด่วนอะไรที่พอจะเอามาอ้างได้ ฉันก็จำเป็นต้องมาติดแหงกอยู่กับเธอนั่นเองและในวันนี้เธอก็เปิดฉากวันด้วยคำพูดที่แสนจะโหดร้าย
“วันนี้พวกเราจะมาดูหนังโป๊สามเรื่องกัน”
เธอยังเป็นผู้เยาว์อยู่ไม่ใช่เรอะ แล้วเธอใช้วิธีไหนในการสรรหาหนังโป๊มามากขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าเธอรวยมากซะจนสามารถเข้าถึงตลาดมืดหรืออะไรทำนองนั้นได้รึไงกัน แต่ยังไงเรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นก็คือคำที่เธอได้พูดออกมาสำหรับฉันแล้วเปรียบเสมือนคำสั่งให้นำตัวไปประหารเลยต่างหาก
“ไม่ไหวหรอก ไม่ไหวหรอก ไม่ไหวหรอก! เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ขอร้องล่ะ ได้โปรดเถอะนะฟุวะ!”
กลับกลายเป็นว่าเธอได้อดทนรอช่วงเวลานี้มาโดยตลอด เก็บงำทุกอย่างไว้เพื่อโอกาสนี้เท่านั้น ในวันนี้เธอได้คิดที่จะทำลายฉันให้สิ้นซาก ราวกับว่าฉันนั้นได้เต้นอยู่ในฝ่ามือของเธอมาตั้งแต่ต้นแล้ว
วันนี้เธอได้เคล้าคลึงร่างกายฉันดุเดือดมากกว่าปกติและในช่วงหกชั่วโมงที่ผ่านมานี้เธอก็ได้ลูบคลำไปทั่วทั้งหน้าอกและกอดรัดร่างกายของฉันจนหัวสมองฉันมึนทึบไปหมด ผลกระทบมันรุนแรงมากซะจนฉันจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เท่าที่ฉันจำได้ก็คือฉันสิ้นหวังมากซะจนยอมจูบกับฟุวะด้วยแรงที่ฉันมีเหลืออยู่ทั้งหมด ถึงแม้ว่านั่นจะถือว่าเป็นจูบแรกของฉันก็เถอะแต่มันก็รู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
ทั้งสิ่งที่ฉันได้พูดออกไปหรือสิ่งที่ฟุวะได้ตอบกลับมา ฉันจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้เลยแม้แต่นิด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันจำได้แม่นก็คือดวงตาของฟุวะในตอนนั้นได้กลายเป็นดวงตาของสัตว์ร้ายที่ฉันไม่อาจจะลืมได้ลง
ฉันไม่ได้มีความทรงจำพิเศษใดๆกับจูบแรกของฉันเพราะว่าโดนความรู้สึกตอนที่ร่างกายพวกเรากำลังหลอมรวมเข้าด้วยกันกลบไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นที่ไหนซักแห่งในหัวใจของฉันก็ได้ยอมรับเรื่องนี้ไปแล้วโดยไร้การต่อต้านใดๆ ไม่ใช่ว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องพิเศษสำหรับใครหลายๆคนหรอกเหรอ
“อ๊ะ…อุฟ…อื้มมม”
ในตอนแรกฉันก็แค่รู้สึกได้ถึงริมฝีปากของพวกเราที่ได้ประกบเข้าด้วยกัน แต่หลังจากนั้นซักพักการจูบก็เริ่มรุนแรงขึ้น ฟุวะได้เลียลิมฝีปากของฉันและเกี่ยวพันลิ้นของฉันเข้ากับของเธอซึ่งมันให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลเป็นอย่างมาก
ฟุวะได้จูบฉันอย่างดูดดื่มราวกับว่าเธอกำลังลิ้มรสทุกบริเวณภายในปากของฉัน การรุกของฟุวะนั้นรุนแรงมากซะจนทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าจะเสียสติไปได้ทุกเมื่อ
พอฉันลืมตาขึ้นก็ได้พบเห็นกับผิวที่ขาวบริสุทธ์ผุดผ่องราวกับไข่มุก และดวงตาสุกวาวทั้งสองข้างที่กำลังมองตรงมาที่ฉัน
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าหมาป่าเดียวดายในชั้นเรียนที่ฉันอยู่ สาวงามผู้ที่อยู่แต่ในโลกของตัวเองและไม่เคยสนใจสิ่งรอบตัวนั้นกำลังใช้สายตาที่น่าหลงใหลนั้นมองมาทั่วร่างกายของฉัน การที่ได้เห็นเธอเป็นแบบนี้ทำให้ฉันเกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้คิดไว้ว่าการจูบนั้นก็เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนน้ำลายระหว่างสองฝ่ายเท่านั้น แต่หลังจากที่ฉันได้ลองทำดูแล้วก็รู้สึกว่าการจูบนั้นเหมือนกับการที่คนสองคนได้หลอมรวมกลายเป็นหนึ่งเดียวและใช้เวลาร่วมแบ่งปันความรู้สึกเดียวกันซะมากกว่า
จากนั้นพักหนึ่งฟุวะก็ได้ยกหัวขึ้นและมองลงมาที่ฉัน เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ฉันได้ยินเพียงแต่เสียงลมหายใจของพวกเราที่ดังก้องไปทั่วภายในห้อง พอผ่านไปซักพักฟุวะก็เผยรอยยิ้มออกมา
“อืม พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”
“…หา”
ฟุวะหยิบขวดพลาสติกออกมาและดื่มน้ำที่อยู่ภายในขวด พอฉันได้มองไปที่เธอก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่อาจต้านทานความร้อนที่กำลังเผาไหม้อยู่ในร่างกายของฉันได้อีกต่อไป พอฟุวะเห็นสภาพของฉัน เธอก็ได้แตะหน้าผากของฉันเบาๆพลางเผยรอยยิ้มที่ขี้เล่นออกมา
“เดี๋ยวฉันจะเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้วันพรุ่งนี้นะ”
และนั่นทำให้ฉันรู้สึกกลัดกลุ้มไปทั้งวัน
อย่างแรกเลยการที่ยินยอมยกตัวเองให้กับฟุวะซึ่งเป็นคนที่ฉันไม่ชอบแล้วเนี่ยเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุด อย่างต่อมาก็คือความรู้สึกดีที่ฟุวะได้ทำกับฉันไว้ไม่ยอมจางหายไปซักทีก็ทำให้เรื่องนี้แย่ที่สุดเหมือนกัน และอย่างสุดท้ายมันมีด้านหนึ่งของฉันที่ได้คาดหวังกับวันพรุ่งนี้เป็นอย่างมากอยู่ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดจากทั้งหมดเลย
ในตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะให้เธอรู้ก็คือ ถึงฉันจะต้องการมีความสัมพันธ์ทางร่างกายแต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะโหยหาผู้หญิงหรืออะไรทำนองนั้นซักหน่อย ฉันอยากจะบอกให้เธอเข้าใจจริงๆว่าสิ่งที่เธอได้ทำไปนั้นได้แต่ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดเท่านั้นแหละ มันไม่ได้มีอะไรที่สื่อถึงเรื่องเพศหรือความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย
อีกทั้งสิ่งที่ฟุวะได้ทำกับฉันจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงวิธีที่ฉันมองเธอแน่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงรับมือกับเธอไม่ไหว แม้แต่ตอนที่โรงเรียนพวกเราก็ไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ และนั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมเมื่อฉันได้ย่างเท้าเข้าไปในห้องของฟุวะในวันอาทิตย์แล้วถึง…
“อุฟฟฟ…จุ๊บ…อืมมม…เดี๋ยวสิ…ฟุว้าาา…อื้มมมม”
เธอได้ผลักร่างของฉันลงบนเตียงของเธอโดยทันทีและทำการจูบฉันอย่างไม่หยุดพัก ลิ้นของพวกเราได้ประสานเข้าด้วยกันเป็นจูบที่แสนจะดูดดื่ม นี่น่ะก็เป็นเพียงแค่การเติมเต็มความต้องการทางเพศของพวกเราเท่านั้นแหละ
พวกเราไม่ได้สนใจว่าได้เกิดอะไรขึ้นในจอภาพอีกต่อไปแล้ว พวกเรากำลังให้ความสำคัญไปกับการลิ้มรสความรู้สึกกับการสัมผัสริมฝีปากของอีกฝ่ายพลางกอดรัดกันอย่างสนิทแน่น พวกเราได้ทำการเปิดเผยความต้องการของอีกฝ่ายและได้จมลงไปในทะเลแห่งความสุขสำราญ
สิ่งที่ได้เข้ามาในหูฉันก็มีเพียงแต่เสียงเปียกแฉะที่ฟังดูลามก เสียงครางของฉัน และเสียงของร่างกายพวกเราได้เกี่ยวพันเข้าด้วยกัน พวกเราได้เคล้าคลึงไปยังตัวของอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อนและแบ่งปันความร้อนของร่างกายที่มีต่อกัน
หลังจากที่หนังโป๊สามเรื่องและหกชั่วโมงได้สิ้นสุดลง ฟุวะก็ได้ประสบความสำเร็จในการฝึกฝนร่างกายของฉัน
“งั้นนี่ก็เป็นวิธีการที่ผู้หญิงเขามีเซ็กส์กันสินะ…”
“สนใจงั้นเหรอ”
“…อย่ามาล้อเล่นกันไปหน่อยเลยน่า ถ้าจะต้องถูกจับที่ตรงๆนั้นหรือถูกเย้าแหย่แบบนั้นล่ะก็… เป็นไปไม่ได้หรอก”
หลังจากที่พวกเราได้ทำทุกอย่างเสร็จ ฉันก็ได้เอนอิงร่างกายลงข้างกายฟุวะ และเธอเองก็ลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
“มาริกะนี่น่ารักจังเลยนะ”
ฉันจะพูดอะไรได้กันล่ะ ถ้าเธอเล่นพูดออกมาแบบนั้น
ในวันจันทร์และวันอังคารหน้า พวกเราก็ยังคงนั่งดูหนังโป๊เต็มเรื่องกันต่อพร้อมกับเพียงแค่ลูบไล้ร่างกายของฉันไปด้วยเท่านั้น ฉันคิดว่าพวกเราจะทำซ้ำเหมือนตอนที่…พวกเราได้ทำกันในวันอาทิตย์ซะอีก และก็สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดในสัปดาห์นี้ก็คือทุกอย่างมันตรงไปตามแผนของอายะทั้งหมด ซึ่งทำให้ฉันไม่ค่อยอยากที่จะยอมรับซักเท่าไหร่
และเหลืออีก 85 วันก่อนจะถึงศึกตัดสิน
“วันนี้เองก็หนังโป๊เหมือนกันเหรอ”
“ใช่แล้ว”
“ก็ได้ เห้อ”
หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเครื่องเล่นดีวีดีและหนังก็เริ่มฉาย และครั้งนี้ก็เป็น…3P งั้นเรอะเนี่ย มีหญิงสาวสองคนกำลังรุมเข้าใส่หญิงสาวที่ดูไร้เดียงสาคนหนึ่งอยู่
“ฉันว่าหนังโป๊ที่ฉันได้ดูในสัปดาห์นี้มากกว่าทั้งช่วงชีวิตที่เหลือมารวมกันซะอีกนะเนี่ย”
“งั้นก็ยินดีด้วยนะที่สะสม XP ได้ตั้งเยอะขนาดนี้น่ะ”
“ถ้าฉันมาเลเวลอัพกับการทำเรื่องอะไรแบบนี้ ไม่ใช่ว่าการเติบโตของฉันมันจะออกไปทางแนวพิลึกกึกกือหรอกเรอะ”
ขณะที่นั่งชิดติดกับอีกฝ่าย ฉันก็รู้สึกได้ถึงฟุวะที่ได้ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้กับฉัน
“อื้มมมม”
เธอได้จูบฉันและฉันเองก็จูบเธอกลับไปเองโดยอัตโนมัติ เหมือนว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของฉันได้ไปในทางที่พิลึกกึกกือซะแล้วสิ
ฟุวะวางหัวของเธอลงบนไหล่ของฉัน เธอยังคงกุมมือของฉันพร้อมกับประสานนิ้วมือของพวกเราเข้าด้วยกันเหมือนกับพวกคู่รัก บางทีในวันนี้เธออาจรู้สึกอยากจะเอาแต่ใจขึ้นมาก็ได้
“หัวของเธอมันหนักนะ”
“หัวของมนุษย์นั้นก็มีน้ำหนักเทียบเท่าได้กับประมาณลูกโบว์ลิ่ง ทำให้มันก็ค่อนข้างที่จะหนักละนะ”
“ถ้าเธอรู้ถึงขนาดนั้นก็ขยับออกไปซักเซ่”
บรรยากาศระหว่างหญิงสาวมัธยมปลายสองคนที่กำลังนั่งดูหนังโป๊เลสเบี้ยนด้วยกันนั้นแตกต่างไปจากบรรยากาศระหว่างคู่รักปกติที่ว่าไปนั้นเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าที่โรงเรียนเองพวกเราก็ไม่แม้แต่จะสบตากันด้วยซ้ำ พวกเรานั้นเป็นคู่ปรับที่สู้กันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดในชั้นเรียน อีกทั้งในตอนนี้พวกเราก็อยู่ท่ามกลางการต่อสู้เช่นเดียวกัน และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจที่จะพูดตรงนี้ให้มันรู้กันไปก่อนที่พวกเราจะไปต่อ
“ฉันไม่อยากที่จะให้เธอเข้าใจอะไรผิดๆ ดังนั้นขอฉันบอกอะไรเธอหน่อย”
“อาหะ”
“ฉันน่ะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเธอหรอกนะ ไม่แม้แต่น้อย”
“เป็นเพราะว่าเธอเกลียดฉันใช่มั้ยล่ะ”
เธอได้โต้ตอบฉันกลับมาแบบนั้น
หืม
“เอ๋ เธอรู้อยู่แล้วเหรอ และเธอก็ยังคงทำอะไรแบบนี้ต่อไปโดยที่ไม่สนใจความรู้สึกฉันเนี่ยนะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลยซักนิด”
“ก็การที่รู้ว่าเป้าหมายของฉันเกลียดฉันอยู่มันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาน่ะสิ แบบว่าทำให้ไฟติดขึ้นมาเลยล่ะ”
“อาาา ก็ได้ เข้าใจแล้วๆ เธอไม่ต้องพูดต่อแล้ว มาดูนักแสดงกันต่อดีกว่า ตอนนี้พวกเธอพยายามกันหนักหน่วงน่าดูเลยนะเนี่ย”
ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อะไรคือสิ่งที่อยู่ภายในหัวของเธอยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ถึงนิสัยใจคอของเธอบ้างแล้ว ฟุวะ อายะนั้นเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็ง(อย่างมาก) เกลียดการพ่ายแพ้ มีความมั่นใจที่ล้นหลาม และก็เป็นคนที่ขี้แกล้ง ทุกอย่างนั้นแปลกต่างไปจากตัวตนของเธอที่ได้เปิดเผยในชั้นเรียน แน่นอนว่าฉันคิดว่านี่จะน่าจะเป็นนิสัยที่แท้จริงของเธอ
มนุษย์แต่ละคนนั้นย่อมมีสถานที่ของตัวเอง สถานที่ของฉันนั้นเป็นที่โรงเรียน ฉันนั้นมีเพื่อนมากมาย ได้รับการยอมรับจากหลายคน ซึ่งเป็นผลมาจากการพยายามอย่างหนักของฉัน ไม่ได้เป็นเพียงเพราะเรื่องบังเอิญแต่อย่างใด
แน่นอนว่าสถานที่จะแตกต่างกันไปตามตัวบุคคล สำหรับบางคนแล้วสถานที่ของพวกเขาอาจจะเป็นครอบครัว ชมรม หรือบางคนอาจจะพบที่ของตัวเองบนโลกโซเชียลก็ได้ นอกจากนี้อาจจะเป็นได้ทั้ง ห้องดนตรี คาราโอเกะ หรืออาจจะเป็นห้องของตัวเองก็ยังได้
พูดอีกอย่างก็คือ ‘สถานที่ของคนบางคน’ นั้นจะแตกต่างไปตามแต่บุคคล ก็เหมือนกับแฟชั่นที่ชอบของแต่ละคนนั่นแหละ มันเป็นสถานที่ที่คนๆนั้นจะสามารถเผยความเป็นตัวของตัวเองได้หรืออะไรแบบนั้น
ฉันอยากจะรู้ว่าสถานที่ของหญิงสาวผู้มีความมั่นใจล้นหลามอย่างฟุวะคนนั้นจะเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่นะ อย่างน้อยฉันก็มั่นใจว่าไม่ใช่ที่โรงเรียนแน่ๆละ…
เธอเองก็เป็นคนที่ครอบครองหนังโป๊อยู่หลายเรื่อง ร่ำรวย และสิ่งที่อยู่ภายในหัวของเธอก็เป็นปริศนาด้วยสิ ในขณะที่ฉันกำลังหมกมุ่นอยู่กับการคิดเรื่องนี้อยู่นั้นเอง ฟุวะก็ได้ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้กับรักแร้ของฉันและเริ่มที่จะดมกลิ่นมัน
“หวา…! น-นี่เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่กัน! เข้าใจแล้ว! เข้าใจแล้ว! ฉันจะตั้งใจดูวิดิโอแล้วค่ะ”
“อื้ม การเทรนนิ่งนี่เป็นไปได้ด้วยดีเลยทีเดียว นายท่านคนนี้นี่ละปลื้มปริ่มจริงๆ”
“ว่าไงนะ!?”
ขณะที่ปล่อยให้เธอลูบหัวฉันเหมือนอย่างเคย เสือที่อยู่ภายในตัวฉันก็ได้ปลดปล่อยบรรยากาศคุกคามออกมา บ้าจริง! ไม่ได้ผลเลยซักนิด ถ้าอยู่ที่โรงเรียนล่ะก็ฉันคงสามารถรวบรวมความกล้าได้ดีกว่านี้แน่! แต่ถ้าหากว่าเธอสามารถเอาชนะฉันได้ในตอนที่พวกเราอยู่ที่โรงเรียนล่ะก็ ฉันคงจะต้องสูญเสียความต้องการที่จะสู้ไปตลอดกาลเป็นแน่ แต่นั่นจะไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้วน่า ฉันจะคิดแบบนั้นไว้ก่อนแล้วกัน
“หึ ไม่ว่าเธอจะเอาหนังซักกี่เรื่องมาให้ฉันดู มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก”
ฉันได้ใช้กำลังในการขยับมือของฟุวะออกไปและชี้ไปที่จอภาพ
“ก่อนอื่นเลยของพวกนี้มันก็เป็นแค่โลกที่ถูกแต่งขึ้นที่มีอยู่แต่ในจอภาพก็เท่านั้นแหละ”
“โลกที่ถูกแต่งขึ้นเหรอ”
“มันก็เป็นแค่ของที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความต้องการของใครบางคนเท่านั้น ฉันจะไม่พูดว่าพวกเธอทุกคนนั้นเป็นแบบนั้นเหมือนกันหมด แต่ไม่ว่ายังไงทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็เป็นแค่เรื่องที่สมมติขึ้นมาอยู่ดี ฉันไม่รู้หรอกนะว่านักแสดงพวกนั้นเป็นเลสเบี้ยนจริงๆรึเปล่าแต่เรื่องทั้งหมดนี้มันก็เป็นแค่การแสดงเท่านั้นแหละ หรือให้พูดสั้นๆก็คือมันไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงได้ไงล่ะ”
นี่คือคำตอบของฉันที่มีให้กับฟุวะ
“เข้าใจแล้ว”
เป็นอีกครั้งที่เธอเห็นด้วยกับฉัน แต่ถ้าหากว่าเธอยอมรับอะไรง่ายๆแบบนี้ล่ะก็ แปลว่าเธอจะต้องเตรียมแผนอะไรไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นแน่
“คำตอบของเธอนี่น่ากลัวชะมัด”
“ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันเองก็ได้บรรลุเป้าหมายหลักในสเตจนี้ที่จะต้องทำให้ร่างกายของเธอตกเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์ไปเรียบร้อยแล้วน่ะสิ”
“ไม่มีทางที่ร่างกายฉันจะตกเป็นของเธอหรอกรู้ไหม!”
ฉันกอดรัดตัวเองแน่นเพื่อปกป้องร่างกายจากสัตว์ร้ายตัวนี้ เธอไม่ได้ตอบกลับอะไรกับคำพูดของฉัน นี่อาจจะเป็นการแผนการแสดงความใจดีของเธอก็ได้ ไม่มีทางที่ฉันจะตกหลุมพลางแสดงความใจดีของเธอหรอก!
ได้มีมือข้างหนึ่งที่ขาวดั่งเครื่องกระเบื้องเคลื่อนเข้ามาใกล้และได้แตะเข้ากับหูของฉันอย่างอ่อนโยน ร่างกายของฉันได้ตอบสนองด้วยการสะดุ้ง เธอยิ้มออกมาและได้ใช้สายตาที่แหลมคมนั้นมองตรงมาที่ฉัน
“งั้นไหนลองอธิบายเรื่องนี้ทีสิ”
“ก็เธอเป็นแค่คนเดียวที่เคยแตะเนื้อต้องตัวฉันมากขนาดนี้นี่นา มันก็เลยเป็นแบบนั้นต่างหากล่ะ”
“งั้นเหรอ”
เธอหัวเราะคิกคักออกมาอย่างมีความสุข ซึ่งทำให้ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“เอาเป็นว่า ช่วงนั่งดูหนังโป๊ยามบ่ายของพวกเราจะดำเนินไปจนถึงวันศุกร์นี้ก็แล้วกัน”
“งั้นแปลว่าหลังจากนั้น พวกเราจะต่อกันที่สเตจที่สามของแผนการเธองั้นเหรอ”
“ใช่แล้ว”
ครั้งนี้เธอจะทำอะไรอีกกันนะ
“ฉันก็ได้เอาทั้งมังงะและหนังผู้ใหญ่มาให้เธอดู แต่มาริกะเองก็ไม่ยอมรับว่าความรักระหว่างผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้เป็นเพราะว่าของพวกนั้นมันเป็นแค่เรื่องแต่งใช่ไหมล่ะ”
“สรุปได้ดีนี่”
เธอสรุปทุกอย่างได้ดีจนถึงจุดที่ฉันเห็นด้วยกับเรื่องนั้น พอได้ยินการตอบกลับของฉันฟุวะก็พยักหน้าและเริ่มบอกฉันถึงสเตจที่สาม
“ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ทำให้แน่ใจด้วยล่ะว่าไม่มีธุระอะไรต้องทำ เพราะว่าพวกเราจะออกไปข้างนอกด้วยกัน”
เธอมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่เหมือนจะมองทะลุได้จนไปถึงดวงวิญญาณ ฉันรู้สึกอ่อนแอขึ้นมาซะทุกครั้งเมื่อมองเข้าไปยังดวงตาของเธอ ฉันน่ะได้ละเลยอะไรหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อที่จะได้สมปราถนาชีวิตในโรงเรียนของฉัน ในขณะที่ฟุวะไม่สนใจเรื่องอะไรแบบนี้แม้แต่น้อยและมักจะมองตรงไปยังสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเสมอ
วิธีการคิดแบบนั้นอาจจะเป็นทางที่ถูกต้อง แต่ฉันก็ยังคงไม่อาจรับมือกับความตรงไปตรงมาของเธอได้อยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นจะไม่หนีไปแน่ ฉันได้มองตรงไปยังดวงตาของเธอและพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
“ได้อยู่แล้ว ยังไงซะนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของ[ข้อตกลง]ของพวกเราละนะ”
เธอเองก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมาเหมือนเคย
“เด็กดี มาริกะ”
ฉันไม่รู้ว่าสถานที่แบบไหนที่เธอคิดจะพาฉันไปในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ แต่ไม่ว่ายังไงฉันจะไม่มีทางเปลี่ยนความคิดแน่
ในตอนนั้น ฉันยังคงไม่รู้ตัวว่าคำเชื้อเชิญของเธอนั้นได้บอกล่วงหน้าถึงคำตอบของคำถามก่อนหน้านี้ที่ฉันสงสัยไว้ว่า ‘สถานที่ของฟุวะนั้นจะเป็นแบบไหนกันนะ’