ยามดอกวสันต์ผลิบาน 463 วิตกกังวล

ตอนที่ 463 วิตกกังวล

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ เรื่อง​ที่​จวน​หลัก​และ​ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​ตระกูล​กัน​แล้ว​ผู้ใด​เป็น​ฝ่าย​ผิด​นั้น​ ก็​คงจะ​มีการ​ถกเถียง​กัน​ขึ้น​มาสัก​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​

เฉิงฉือ​รู้​ความคับแค้นใจ​ของ​มารดา​ดี​ หาก​ได้​สั่งสอน​เฉิงซวี่​ของ​จวน​รอง​บ้าง​ล้วน​ไม่เคย​เป็นปัญหา​ นอกจากนี้​มารดา​อายุ​ขนาด​นี้​แล้วก็​ถือเป็น​เพียง​งานอดิเรก​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ย่อม​ไม่อาจ​ยื่นมือ​เข้าไป​สอดแทรก​อย่าง​โจ่งแจ้งได้​อยู่แล้ว​ เขา​จึงขาน​รับคำ​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ขอรับ​” แล้ว​เล่าเรื่อง​ที่​เฉิงเวิ่น​อยาก​เปิดร้าน​ขาย​ใบชา​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ฟัง

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ฟังแล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​ พลาง​ถามขึ้น​ว่า​ “เจ้าคิด​จะช่วย​จวน​ห้า​ตั้งหลัก​ที่​จิงเฉิงหรือ​”

เฉิงฉือ​ยิ้ม​ กล่าว​ขึ้น​อย่าง​มีนัย​แฝงว่า​ “นั่น​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​พวกเขา​จะก่อร่างสร้างตัว​ที่​จิงเฉิงได้​หรือไม่​แล้ว​ขอรับ​”

เมื่อก่อน​ที่​ล่อลวง​ให้​พวกเขา​ร่วม​ลงขัน​ร้าน​ตั๋วแลกเงิน​อวี้ไท่​ด้วย​เพราะ​อยาก​ให้​พวกเขา​รับ​ผลกำไร​กับ​จวน​หลัก​และ​ดึง​พวกเขา​มาอยู่​ฝั่งเดียว​กับ​จวน​หลัก​ จะได้​ต่อกร​กับ​จวน​รอง​ได้​ง่าย​ขึ้น​ วันนี้​แม้น​จวน​หลัก​จะแยก​ตระกูล​ออกมา​แล้ว​ ทว่า​ที่ผ่านมา​ไม่เคย​มีปัญหา​ขัดแย้ง​กับ​จวน​สี่และ​จวน​ห้า​มาก่อน​ ต่าง​ก็​ยัง​เป็น​ญาติพี่น้อง​กัน​อยู่​ อะไร​ที่​ช่วยเหลือ​กัน​ได้​ก็​ควรจะ​ช่วย​สักครั้ง​ แต่​ถ้าหากว่า​เข็น​ขึ้น​กำแพง​ไม่ไหว​แล้ว​จริงๆ​ ก็​คง​ไม่อาจจะ​เข้าไป​รับผิดชอบ​ทุกอย่าง​แทน​พวกเขา​เหมือน​เมื่อก่อน​ได้​แล้ว​

เพราะเหตุใด​ตระกูล​เฉิงถึงถูก​ตรวจสอบ​

เขา​ยัง​มีเรื่อง​ที่​สำคัญ​กว่า​ให้​ต้อง​ทำ​อีก​!

แม้น​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​จะไม่ทราบ​เรื่อง​ที่​ตระกูล​เฉิงจะถูก​ตรวจสอบ​ แต่​คำพูด​ที่​บอ​กว่า​พวกเขา​ไม่อาจ​ช่วยเหลือ​จวน​สี่และ​จวน​ห้า​ได้​เหมือน​เมื่อก่อน​อีกแล้ว​นั้น​ช่างพูด​ได้​ตรง​ใจฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ยิ่งนัก​

โดยเฉพาะ​จวน​สี่ เนื่องด้วย​โจว​เสาจิ่น​เป็น​เหตุ​ ทำให้​สถานการณ์​หมุน​เปลี่ยนไป​หนึ่ง​รอบ​ใหญ่​ จวน​สี่และ​จวน​หลัก​แยก​ตระกูล​กัน​แล้ว​ทว่า​กลับกลาย​มาเป็น​ญาติ​เกี่ยวดอง​ผ่าน​การ​แต่งงาน​กัน​แทน​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​ให้​คำ​ชี้แนะ​จวน​สี่บ้าง​ แต่​จวน​ห้า​นั้น​ที่ผ่านมา​เป็น​เพียง​คน​ที่​ไม่ได้​เข้ามา​มีส่วน​ใน​ความขัดแย้ง​ระหว่าง​จวน​หลัก​ จวน​รอง​และ​จวน​สามเท่านั้น​ ก็​ให้​คบหา​กัน​เหมือน​ญาติ​ทั่วๆ ไป​ก็​พอแล้ว​

สำหรับ​เรื่อง​นี้​แล้ว​ สอง​แม่ลูก​ต่าง​คิดเห็น​ไป​ใน​ทาง​เดียวกัน​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​พยักหน้า​ เอ่ยถึง​เรื่อง​สุสาน​ของ​ตระกูล​ขึ้น​มา “ข้า​กำลัง​คิด​ไตร่ตรอง​อยู่​ว่า​ ควรจะ​ซื้อ​ที่​ผืน​เล็ก​ๆ สัก​ผืน​ที่​จิงเฉิงเอาไว้​ดี​หรือไม่​ หรือว่า​พอ​ข้า​อายุ​ร้อย​ปี​ตาย​จากไป​แล้ว​ พวก​เจ้ายัง​จะเดินทางไกล​กว่า​พัน​ห​ลี่​ไป​กราบไหว้​ข้า​ที่​เมือง​จิน​ห​ลิง​อีก​อย่างนั้น​หรือ​”

เฉิงฉือ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “เรื่อง​นี้​ข้า​จะเอา​ไป​หารือ​กับ​พี่ใหญ่​และ​พี่​รอง​ดู​ขอรับ​”

ไม่ว่า​จะพูด​อย่างไร​ พี่ใหญ่​ของ​เขา​ต่างหาก​ที่​เป็น​บุตรชายคนโต​ของ​จวน​หลัก​ เรื่อง​จัดตั้ง​สกุล​กำหนด​สุสาน​ของ​ตระกูล​พวก​นี้​ย่อม​ต้อง​ไป​หารือ​กับ​พวกเขา​

จากนั้น​สอง​แม่ลูก​ก็​พูดคุย​ถึงเรื่อง​ที่​สำนัก​ข้าหลวง​ฝ่ายจัดการ​น้ำ​ที่​จี่หนิง​เหล่านั้น​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เห็น​เฉิงฉือ​มีสีหน้า​เหนื่อยล้า​ จึงรีบ​กล่าว​เร่ง​ให้​เขา​กลับ​ไป​พักผ่อน​ด้วย​ความเห็นใจ​ว่า​ “เมื่อคืน​ก็​เร่ง​เดินทาง​กลับมา​ตั้งแต่​กลางดึก​ วันนี้​ยัง​ต้อง​ออก​ไป​เจอ​คน​อีก​ รีบ​ไป​พักผ่อน​เถิด​ บ่าย​วันพรุ่งนี้​พวก​ลุง​ๆ น้า​ๆ ตระกูล​กัว​ของ​เจ้าก็​จะมากัน​แล้ว​ ตอนเย็น​เจ้ายัง​ต้อง​มาดื่ม​เป็นเพื่อน​พวกเขา​สัก​สอง​สามจอก​อีก​”

เฉิงฉือ​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “พวก​ท่าน​ลุง​และ​ท่าน​น้า​ตระกูล​กัว​ก็​มาด้วย​หรือ​ขอรับ​ ท่าน​คง​ต้อง​คิด​เรื่อง​สมทบ​ค่าใช้จ่าย​ระหว่าง​เดินทาง​มาที่นี่​ให้​พวกเขา​ด้วย​แล้ว​ขอรับ​”

“นี่​ยัง​ต้อง​ให้​เจ้าบอก​อีก​หรือ​! พวกเขา​ไม่มา ข้า​ยัง​ไม่เตรียม​เรื่อง​เงินสมทบ​ให้​พวกเขา​ก็ได้​ แต่​พวกเขา​มาแล้ว​ หาก​ข้า​ไม่สมทบ​ค่าใช้จ่าย​ให้​พวกเขา​ หัวใจ​ดวง​นี้​คง​ปล่อย​ผ่าน​ไป​ไม่ได้​แน่​” ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ “มิใช่แค่​พวก​ลุง​และ​น้า​ของ​เจ้าเท่านั้น​ นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​และ​นาย​ท่าน​อีก​หลาย​คน​รวมถึง​ฮูหยิน​และ​พวก​สะใภ้ทั้งหลาย​ของ​ตระกูล​กู้​ก็​มาด้วย​เช่นกัน​ ยังมี​คน​จาก​ตระกูล​เซิน​ ตระกูล​จูของ​เหลียงกั๋วกง​ ทุกคน​ที่​ได้รับ​เทียบเชิญ​ล้วน​มากัน​หมด​ ข้า​และ​พ่อ​บ้านใหญ่​ฉิน​เพิ่ง​ไป​เดิน​รอบ​ๆ บ้าน​มาครั้งหนึ่ง​ ตัดสินใจ​ว่า​พรุ่งนี้​จะย้าย​เข้าไป​อยู่​ที่​ลาน​ทิงเซียง​ที่​ตั้งอยู่​ด้านหลัง​ของ​เรือน​หลัก​ถนน​ฝั่งตะวันออก​หลัง​นั้น​ แล้ว​ใช้บ้าน​ที่​ถนน​ตะวันออก​หลัง​นี้​เป็น​เรือนรับรอง​แขก​ทั้ง​หลัง​ ไม่อย่างนั้น​เกรง​ว่า​ใน​บ้าน​คง​ไม่พอ​รองรับ​ทุกคน​เป็นแน่​”

เฉิงฉือ​ก็​เพียง​ส่งเทียบเชิญ​ไป​ให้​ญาติสนิท​มิตรสหาย​ที่​จิน​ห​ลิง​เหล่านั้น​ตามมารยาท​เท่านั้น​ คิดไม่ถึง​ว่า​เมื่อ​ได้รับ​เทียบเชิญ​แล้ว​ทุกคน​จะมากัน​ทั้งหมด​เช่นนี้​

เขา​ตะลึงงัน​ กล่าว​ขึ้น​อย่าง​เย้ยหยัน​ว่า​ “ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ข้า​วาสนา​ดี​หรือ​เป็น​เพราะว่า​ตำแหน่ง​ของ​พี่ใหญ่​ใหญ่โต​กัน​แน่​”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ไม่ว่า​จะด้วย​สาเหตุ​อะไร​ คน​มาได้​ก็​ดีแล้ว​”

สอง​แม่ลูก​จึงพูดถึง​เรื่อง​ย้ายบ้าน​ขึ้น​มา

ลาน​ทิงเซียง​ตั้งอยู่​ทาง​ด้านหลัง​ของ​เรือน​หลัก​ถนน​ฝั่งตะวันออก​ เดิน​ข้าม​ประตู​เล็ก​ๆ บาน​หนึ่ง​ก็​ข้าม​เข้า​ไปหา​กัน​ได้​แล้ว​ เมื่อ​ข้าม​ไป​แล้ว​จะเป็น​ทางเดิน​คดเคี้ยว​ลดเลี้ยว​ไปมา​ซึ่งเดิน​นำไปสู่​ศาลา​ริมน้ำ​ สร้าง​ตาม​โครงสร้าง​และ​แบบ​บ้าน​ของ​เจียง​หนาน​ หลัง​เล็ก​ ประณีต​ วิจิตรบรรจง​และ​งดงาม​ เฉิงฉือ​นึก​ถึงว่า​โจว​เสาจิ่น​นั้น​ไม่ชอบ​ออก​ไป​ไหน​ จึงตั้งใจ​สร้าง​สถาน​ที่หนึ่ง​ให้​นาง​ได้​นั่ง​คัด​อักษร​ เล่น​พิณ​และ​พักผ่อนหย่อนใจ​ ให้​นาง​ได้​มีชีวิตชีวา​เป็นพิเศษ​ ทว่า​ด้วยเหตุนี้​เรือน​หลัก​และ​เรือน​ปีก​ล้วน​ตกแต่ง​ให้​โปร่ง​และ​โล่ง​สบาย​ ให้​ดู​ขึงขัง​น้อยลง​หลาย​ส่วน​ และ​ก็​ไม่เหมาะสำหรับ​เข้า​พัก​ระยะยาว​ใน​ช่วง​ฤดูหนาว​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​คนมีอายุ​เยอะ​อย่าง​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กลับ​ไม่ใส่ใจ กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ก็​เพียง​ไป​อยู่​ชั่วคราว​เท่านั้น​ ใน​เรือน​หลัก​ก็​ติดตั้ง​ท่อ​ทำ​ความร้อน​เอาไว้​แล้ว​ เอาเป็นว่า​ตกลง​ตาม​นี้​ก็แล้วกัน​”

เฉิงฉือ​คิด​ว่า​เนื่องจาก​ทุกคน​ที่มา​ร่วม​งานแต่ง​ล้วน​มาจาก​เมือง​จิน​ห​ลิง​ บรรดา​ฮูหยิน​และ​สะใภ้เหล่านั้น​อย่างไร​ก็​ต้อง​มาคารวะ​เยี่ยมเยียน​มารดา​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​อยู่แล้ว​ จะปล่อย​ให้​มารดา​พัก​อยู่​ที่​ลาน​ทิงเซียง​นี้​ได้​อย่างไร​ จึงเรียก​ฉิน​จื่อ​จี๋มา ให้​เขา​ปรับปรุง​เรือน​หลัก​ใหม่​อีกครั้ง​ก่อนที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​จะเข้าไป​พักอาศัย​ ส่วน​สถานที่​อื่นๆ​ นั้น​ไม่เหมาะ​จะปรับเปลี่ยน​ และ​เขา​เอง​ก็​รู้สึก​เสียดาย​ที่จะ​เปลี่ยน​ใหม่​ด้วย​ แต่​เรือน​หลัก​นั้น​จะต้อง​ปรับ​แต่ง​ใหม่​ให้​ดู​เป็นทางการ​ วิจิตรบรรจง​ โอ่อ่า​และ​งดงาม​

***

ทาง​ด้าน​ซอย​ซิ่งหลิน​นั้น​หลังจากที่​ได้รับ​รายชื่อ​แขก​ที่มา​ร่วมงาน​แล้ว​ หยวน​ซื่อ​ก็​โกรธ​เป็น​อย่างยิ่ง​ กระทั่ง​เมื่อ​เฉิงจิงกลับ​มาถึงบ้าน​ นาง​ก็​สะอื้น​ไห้​ออกมา​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​ “ครั้งนี้​ท่าน​แม่ทำเกินไป​แล้ว​ น้อง​สี่แต่งงาน​ ท่าน​แม่ถึงกับ​ส่งเทียบเชิญ​ไป​ให้​บรรดา​ญาติพี่น้อง​และ​สหาย​เก่าแก่​ที่​เมือง​จิน​ห​ลิง​ทุกคน​ พวกเขา​ต่าง​จะมาร่วมงาน​แต่ง​ของ​น้อง​สี่ด้วยตัวเอง​แปด​ถึงเก้า​ใน​สิบ​ส่วน​ รอ​ให้​ถึงตอนที่​เจีย​ซ่าน​ของ​พวกเรา​แต่งงาน​ คน​ที่​เมือง​จิน​ห​ลิง​คงจะ​มีแต่​ของขวัญ​ส่งมาให้​เท่านั้น​คง​ไม่มีคน​มาร่วม​แล้ว​ แรกเริ่ม​ตอนที่​ท่าน​แม่กำหนด​วัน​แต่ง​ของ​น้อง​สี่ให้​อยู่​ก่อน​วัน​งานแต่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​นั้น​ ข้า​ก็​รู้สึก​กังวลใจ​อยู่​รางๆ​ เล็กน้อย​แล้ว​ แต่​คิด​ว่า​คน​ที่​น้อง​สี่แต่งงาน​ด้วย​คือ​หลานสาว​ของ​จวน​สี่ น่าจะ​ไม่เปิดเผย​อย่าง​เอิกเกริก​ถึงจะถูก​ ใน​ใจจึงยัง​ปล่อยวาง​ได้​ ถึงได้​ไม่ว่ากล่าว​อะไร​ แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ใน​ใจของ​ท่าน​แม่นั้น​กลับ​ไม่เคย​มีเจีย​ซ่าน​อยู่เลย​…”

ค่าใช้จ่าย​ตลอด​การ​เดินทาง​จาก​จิน​ห​ลิง​มาถึงจิงเฉิงนั้น​เป็น​จำนวน​ที่​ไม่น้อย​เลย​ อีก​ทั้ง​งานแต่ง​ของ​เฉิงฉือ​และ​ของ​เฉิงสวี่​ก็​ไม่ห่าง​กัน​มาก​นัก​ คน​ที่​ร่วมงาน​เหล่านั้น​อาจจะ​มีทั้งคน​ที่จะ​พัก​อยู่​ที่​ประตู​เฉาหยาง​เพื่อ​รอ​จนกว่า​จะร่วม​งานเลี้ยง​ฉลอง​ของ​เฉิงสวี่​แล้ว​ค่อย​กลับ​ไป​และ​คน​ที่​ร่วม​งานแต่ง​ของ​เฉิงฉือ​เสร็จ​ก็​กลับ​ทันที​เลย​ แต่​คน​ที่​กลับ​เลย​เหล่านั้น​คง​ไม่อาจ​เดินทาง​เข้าเมืองหลวง​ถึงสอง​ครั้ง​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ได้​ และ​คน​ที่จะ​รั้ง​อยู่​รอ​จนถึง​วัน​งานแต่ง​ของ​เฉิงสวี่​ได้​ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​สตรี​ที่​ไม่มีอะไร​ทำ​ทั้งสิ้น​ ไม่ต้อง​พูดถึง​บุรุษ​ แม้แต่​คน​ที่​เป็น​ภรรยา​เอก​ต้อง​ดูแล​บ้าน​เหล่านั้น​ก็​ไม่อาจ​จาก​บ้าน​ไป​เป็นเวลา​นาน​ได้​ ถึงเวลา​นั้น​ต่อให้​จะมีคน​จาก​ทุก​ตระกูล​ที่​เมือง​จิน​ห​ลิง​มาร่วม​งานแต่ง​ของ​เฉิงสวี่​ได้​ แต่​คน​ที่มา​ร่วมงาน​ก็​ไม่เหมือนกัน​ ความสำคัญ​ของ​งานแต่ง​ใน​ครั้งนี้​ก็​ไม่เท่ากัน​แล้ว​

ยิ่งไปกว่านั้น​ทาง​ด้าน​ประตู​เฉาหยาง​ยัง​เชิญซ่งจิ่งหรา​น​และ​จางฮุ่ย​ไป​เป็น​เถ้าแก่​ และ​เชิญสะใภ้สามของ​ตระกูล​อู๋​ไป​เป็น​ผู้​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พร​ทุก​ประการ​อีกด้วย​…ถึงเวลา​นั้น​งานแต่ง​ของ​เฉิงสวี่​จะทำ​อย่างไร​

นาง​ยัง​จะลงทุนลงแรง​มาก​ไป​เพื่อ​อะไร​!

ตอนที่​เฉิงสวี่​อายุ​ได้​สามขวบ​ หยวน​ซื่อ​ก็​อุ้ม​ลูก​กลับ​บ้านเกิด​ไป​ปรนนิบัติ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ผู้​เป็น​หม้าย​แล้ว​

เฉิงจิงกับ​นาง​ไม่ได้​อยู่​ด้วยกัน​มากว่า​สิบ​ปี​แล้ว​

บ้าง​ก็​เป็น​เขา​ที่​นานๆ​ ที​จะได้​กลับ​บ้านเกิด​ไป​เยี่ยม​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​สัก​ครั้งหนึ่ง​ บ้าง​ก็​เป็น​หยวน​ซื่อ​ที่​นานๆ​ ที​จะได้มา​เยี่ยม​เขา​ที่​จิงเฉิง เรื่อง​ที่​ทั้งสอง​พูดคุย​กัน​ล้วน​เป็นเรื่อง​เล็กๆ น้อยๆ​ ภายในบ้าน​ที่​ทำให้​ทั้งสอง​ต่าง​มีความสุข​เหล่านั้น​ทั้งสิ้น​ แม้แต่​ตอนที่​เฉิงสวี่​มาเรียนหนังสือ​อยู่​ที่​จิงเฉิงสอง​ปี​นั้น​ หยวน​ซื่อ​ก็​อบอุ่น​อ่อนโยน​ เอื้ออารี​มีจิตใจ​กว้างขวาง​ น้อย​ครั้ง​ที่จะ​พูดถึง​ปัญหา​จุกจิก​เล็กน้อย​ภายในบ้าน​

ตอนนี้​จวน​หลัก​ย้าย​มาตั้งรกราก​ที่​จิงเฉิงทั้งหมด​แล้ว​ ยิ่ง​อยู่​คำ​พร่ำบ่น​ของ​หยวน​ซื่อ​ก็​ยิ่ง​รุนแรง​มากขึ้น​ กระทั่ง​บาง​คำพูด​ยัง​ลามปาม​ไป​ถึงฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ด้วย​

เฉิงจิงเห็นแก่​ที่​นาง​ให้กำเนิด​และ​เลี้ยง​บุตรชาย​หญิง​ให้​เขา​ รวมถึง​กตัญญู​ต่อ​ผู้อาวุโส​แทน​เขา​มาหลาย​ปี​นั้น​ล้วน​มิใช่เรื่อง​ง่าย​ คำ​พร่ำบ่น​บางอย่าง​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้​ ส่วนใหญ่​เขา​จึงเป็น​คนกลาง​คอย​ไกล่เกลี่ย​ให้​อย่าง​ระมัดระวัง​ ใจกว้าง​และ​พยายาม​รับฟัง​ให้ได้​มาก​ที่สุด​

แต่​คำพูด​ใน​วันนี้​ออกจะ​เกินไป​สักหน่อย​แล้ว​!

ใบหน้า​เจือ​รอยยิ้ม​ของ​เขา​ก่อนหน้านี้​ค่อยๆ​ เย็นชา​ขึ้น​มา

หยวน​ซื่อ​พลัน​รู้สึก​หัวใจ​สั่นสะท้าน​ ทันใดนั้น​ก็​นึกถึง​เฉิงจิงใน​วัยหนุ่ม​ขึ้น​มา จะว่า​อะไร​เกี่ยวกับ​ตัว​เขา​ก็ได้​ทั้งนั้น​ เขา​ยอมจำนน​ได้​ทุกอย่าง​ แต่​ไม่อาจ​ว่ากล่าว​มารดา​และ​พวก​น้องๆ​ ของ​เขา​ได้​ ไม่อย่างนั้น​ทั้งสอง​คน​จะต้อง​ทะเลาะ​กัน​ และ​เฉิงจิงจะไม่มีวัน​ก้ม​ศีรษะ​ยอมรับผิด​ให้​ตน​ด้วย​เรื่อง​เช่นนี้​เป็นอันขาด​

นาง​พลัน​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบายใจ​ขึ้น​มา

เฉิงจิงเห็น​นาง​หยุด​หัวข้อ​สนทนา​ลง​ได้​อย่าง​ทันท่วงที​ สีหน้า​สงบ​ขึ้น​เล็กน้อย​ กล่าว​เสียง​เคร่ง​ว่า​ “คำพูด​เช่นนี้​เจ้าพูด​ต่อหน้า​ข้า​ก็​พอ​ แต่​ไม่อาจ​ไป​พูด​ต่อหน้า​คน​ข้างนอก​เป็นอันขาด​ ต่อให้​เป็น​ญาติพี่น้อง​ที่​บ้านเดิม​ของ​เจ้าก็ตาม​ เจ้าสี่ยอม​ตกลง​แต่งงาน​ถือ​เป็นเรื่อง​ดี​เรื่อง​หนึ่ง​ ไม่เพียง​ท่าน​แม่ที่​ดีใจ​ พวกเรา​ที่​เป็น​พี่ชาย​ พี่สะใภ้​ หลานชาย​และ​หลานสาว​ก็​ควรจะ​ดีใจ​ด้วย​…

…เขา​เป็น​อา​ของ​เจีย​ซ่าน​ เดิมที​ก็​ควรจะ​ต้อง​แต่งงาน​ก่อน​เจีย​ซ่าน​อยู่แล้ว​ เรื่อง​วันที่​นี้​ไม่มีอะไร​ที่​ไม่เหมาะสม​…

…ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​จัดงาน​เอิกเกริก​ใหญ่โต​นั้น​ งานแต่ง​ของ​เจ้าสี่นี้​เป็นเรื่อง​น่ายินดี​เรื่อง​แรก​หลังจากที่​จวน​หลัก​ของ​พวกเรา​แยก​ตระกูล​ออกมา​ ย่อม​ต้อง​จัด​ให้​ยิ่งใหญ่​ เชิญญาติสนิท​มิตรสหาย​ที่​มีทั้งหมด​มาร่วมงาน​ ไม่ต้อง​พูดถึง​ท่าน​แม่ ต่อให้​เปลี่ยนเป็น​ข้า​ก็​จะกระทำ​เช่นเดียวกัน​…

…หาก​อยาก​จะกล่าวโทษ​ คง​ได้​แต่​ต้อง​กล่าวโทษ​ที่​วาสนา​ของ​เจีย​ซ่าน​ไม่ดี​ ที่​งานแต่ง​ตรง​กับ​ที่​เจ้าสี่ก็​จะแต่งงาน​พอดี​…

…ยังมี​น้อง​สะใภ้สามทาง​ด้าน​โน้น​อีก​ ไม่ว่า​เมื่อก่อน​จะมีเรื่อง​อะไร​เกิดขึ้น​ ตอนนี้​นาง​เป็น​น้อง​สะใภ้ของ​เจ้าแล้ว​ คำพูด​บาง​คำพูด​และ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​จึงไม่สมควร​ออก​มาจาก​ปาก​ของ​เจ้า…

…เรื่อง​พวก​นี้​เจ้าต้อง​จดจำ​เอาไว้​…

…แล้วก็​เรื่อง​อาการป่วย​ของ​เจ้าอี​ก.​..

…อีก​ไม่กี่​วัน​ก็​น่าจะ​มีพวก​ญาติ​ๆ ทยอย​กัน​มาถึงแล้ว​ ลูก​เจิงและ​ลูก​เซียว​ต่าง​ไป​ช่วย​งาน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​กัน​หมด​ เจ้าที่​เป็น​ภรรยา​เอก​กลับ​ไม่เห็น​แม้แต่​เงา ต่อให้​เจ้าต้อง​ฝืนใจ​ก็​ต้อง​โผล่​หน้า​ออก​ไป​บ้าง​ หลักการ​ข้อ​นี้​คง​ไม่ต้อง​ให้​ข้า​บอก​เจ้าก็​น่าจะ​เข้าใจ​กระมัง​”

หยวน​ซื่อ​รู้สึก​คล้าย​กับ​ตน​ตกลง​ไป​ใน​หลุม​น้ำแข็ง​ชั่วขณะหนึ่ง​ก็​ไม่ปาน​ รู้สึก​หนาว​ไป​ถึงขั้ว​หัวใจ​

“ท่า​น.​..” นาง​เบิก​ดวง​ตาโต​มอง​สามีด้วย​ดวง​หน้าที่​เต็มไปด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​

เฉิงจิงอด​ใจอ่อน​ไม่ได้​ น้ำเสียง​เปลี่ยนเป็น​อบอุ่น​ขึ้น​มา กล่าวว่า​ “เจ้าควรจะ​ทำ​ตามอย่าง​น้อง​สะใภ้รอง​ถึงจะถูก​! นาง​สุขภาพ​ร่างกาย​ไม่แข็งแรง​ ทว่า​กลับ​ไป​คารวะ​เยี่ยมเยียน​ท่าน​แม่ทุก​สามถึงห้า​วัน​ เจ้าสี่จะแต่งงาน​ นาง​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​ถึงกับ​เข้าไป​พัก​อยู่​ที่​ประตู​เฉาหยาง​…อา​หลิน​ แข็ง​เกินไป​นั้น​ย่อม​หัก​ง่าย​ หลักการ​ข้อ​นี้​เจ้าน่าจะ​เข้า​ใจดี​ถึงจะถูก​”

น้ำตา​ของ​หยวน​ซื่อ​ไหล​ลงมา​เป็น​สาย​

เฉิงจิงถอนหายใจ​ โอบกอด​นาง​เอาไว้​ใน​อ้อมแขน​เบา​ๆ กล่าว​เสียง​ค่อย​ว่า​ “เอาละ​ๆ ข้า​เอง​ก็​ไม่ได้​กล่าวโทษ​เจ้า เจ้าก็​รู้จัก​นิสัย​ของ​ท่าน​แม่ดี​ ก้ม​ศีรษะ​ให้​ท่าน​แม่สักครั้ง​จะเป็นไรไป​ อีก​สอง​วัน​ข้า​จะได้​หยุดพัก​ พวกเรา​ไปดู​ที่​ประตู​เฉาหยาง​พร้อมกัน​ก็แล้วกัน​”

หา​ทางออก​ที่​นุ่มนวล​ให้​หยวน​ซื่อ​อีก​ครั้งหนึ่ง​

หยวน​ซื่อ​พยักหน้า​ ทว่า​ใน​ใจกลับ​คิด​คำนวณ​ว่า​ตระกูล​หยวน​มีครอบครัว​ของ​หยวน​เหวย​ชางอาศัย​อยู่​ที่​จิงเฉิงทั้ง​ครอบครัว​ งานแต่ง​ของ​เฉิงฉือ​ พวกเขา​จะต้อง​มาร่วมงาน​อย่าง​แน่นอน​ ส่วน​ตระกูล​เดิม​ของ​นาง​เพียง​ส่งคน​มาทักทาย​สัก​คำ​ก็​พอแล้ว​ รอ​ให้​ถึงตอนที่​เฉิงสวี่​แต่งงาน​ค่อย​เดินทาง​มากัน​ทั้งหมด​ก็แล้วกัน​ ส่วน​ญาติ​ๆ พวก​นั้น​…

พอ​นาง​นึกถึง​ฮูหยิน​รอง​ฟางขึ้น​มาก็​รู้สึก​ปวดศีรษะ​ตาม​ขึ้น​มาด้วย​

ใบหน้า​เย็นชา​ที่​เย็น​จน​แช่แข็ง​คน​ได้​ใบหน้า​นั้น​ของ​ฮูหยิน​รอง​ฟางทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ทุกครั้งที่​นึกถึง​ขึ้น​มา

ดู​ที​แล้ว​บัญชี​แค้น​ใน​ครั้งนี้​ฮูหยิน​รอง​ฟางคงจะ​หมายหัว​นาง​เอาไว้​แล้ว​

ถึงแม้นาง​จะไม่กลัว​ แต่เพียง​คิด​ว่า​มีคน​ผู้​หนึ่ง​เคียดแค้น​ตน​อยู่​เช่นนี้​ ผู้ใด​จะมีความสุข​ได้​

หยวน​ซื่อ​พิง​อยู่​บน​ไหล่​ของ​เฉิงจิงอย่าง​อ่อนล้า​เล็กน้อย​

ส่วน​เฉิงฉือ​ที่​ถนน​ตะวันตก​นั้น​กลับ​นอน​ไม่ค่อย​หลับ​

นึกถึง​เด็กน้อย​ผู้​นั้น​ที่​เวลานี้​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​เดียว​กับ​เขา​ ที่นั่ง​รถม้า​เพียง​ไม่กี่​เค่อ​ก็​ไป​ถึงแล้ว​ ใน​ใจของ​เขา​รู้สึก​หอม​หวาน​ประหนึ่ง​ดื่ม​น้ำผึ้ง​เข้าไป​ก็​ไม่ปาน​ มีความรู้สึก​หนึ่ง​ที่​ไม่รู้​ว่า​เรียก​ว่า​อะไร​พลุ่งพล่าน​อยู่​กลาง​หน้าอก​ คล้าย​กับ​น้ำ​ที่​กำลัง​เดือด​พล่าน​ไม่หยุด​

ควรจะ​ไปดู​นาง​สักหน่อย​หรือไม่​นะ​

จะว่า​ไป​แล้ว​ทั้งสอง​คน​ก็​ไม่ได้​พบ​หน้า​กัน​มาเป็น​เดือน​แล้ว​

เขา​ให้​คน​นำ​จดหมาย​ไป​บอ​กว่า​เขา​กลับมา​แล้ว​

ไม่รู้​ว่า​เด็กน้อย​ผู้​นั้น​จะคิดถึง​เขา​บ้าง​หรือไม่​

อีก​ยี่สิบ​กว่า​วัน​ นาง​ก็​จะได้​เดิน​เข้ามา​ใน​บ้าน​ที่​เขา​สร้าง​ขึ้น​เพื่อให้​เป็นที่​กำบัง​ลม​และ​ที่​หลบ​ฝน​ให้​นาง​ ได้​เข้ามา​ใช้ชีวิต​อยู่​ใต้​ปีก​ของ​เขา​แล้ว​…

เมื่อ​คิดถึง​เรื่อง​พวก​นี้​เฉิงฉือ​จึงนอน​ไม่ค่อย​หลับ​เล็กน้อย​

เขา​ลุกขึ้น​มาแล้วก็​นอนลง​ไป​ใหม่​หลายครั้ง​ สุดท้าย​ก็​ยิ้ม​ขื่น​เอนตัว​นอน​อยู่​บน​เตียง​

ช่างสมกับ​ที่​กล่าวว่า​บ้าน​ที่​มีความอบอุ่น​ของ​สตรี​อันเป็น​ที่รัก​ทำให้​วีรบุรุษ​ลืม​การต่อสู้​และ​ถึงแก่​ความตาย​ได้​นั่น​จริงๆ​

นี่​เขา​ยัง​ไม่ทัน​ได้​แต่งงาน​ก็​เริ่ม​ละล้าละลัง​ห่วงหน้าพะวงหลัง​เสียแล้ว​…

……………………………………………………………

ยามดอกวสันต์ผลิบาน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน

Score 10
Status: Completed

ในยามที่ โจวเสาจิ่น เด็กสาวจากตระกูลโจวผู้แสนอ่อนหวานและว่านอนสอนง่ายถูกชายคนรักที่นางไว้ใจหักหลังคร่าชีวิต นางได้แต่ภาวนาร้องขอโอกาสที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

หากนางสามารถย้อนเวลากลับไปได้ นางจะหนีไปให้ห่างไกลจากบุรุษจอมเสแสร้งอย่างเขา นางจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกย่ำยีอย่างน่าอดสู จะไม่ทำให้ตระกูลต้องอับอายขายขี้หน้า ไม่มีวันทำให้พี่สาวผู้แสนอ่อนโยนหัวใจแตกสลาย ขอแค่โอกาสอีกเพียงสักครั้ง…

ดูเหมือนสวรรค์จะสดับฟังคำอธิษฐานก่อนสิ้นใจของนาง ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสงบปราศจากเค้าลางของพายุ โจวเสาจิ่นสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้ายและพบว่าตนได้ย้อนเวลากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งราวปาฏิหาริย์ในร่างเดิมวัยสิบสองปี!

ด้วยประสบการณ์อันขื่นขมที่นางได้เผชิญมาในชาติก่อน หญิงสาวตั้งปณิธานว่าจะต้องหาทางแก้ไขชะตาชีวิตของตนเองและของตระกูลในชาตินี้ให้ได้ ไม่มีอีกแล้วเด็กสาวที่ขี้ขลาดและอ่อนแอ แม้แต่ดอกไม้ก็ยังไม่กล้าเด็ดคนนั้น ได้เวลาที่นางต้องยืนหยัดลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเองแล้ว

Options

not work with dark mode
Reset