ยามดอกวสันต์ผลิบาน 454 โต้เถียง

ตอนที่ 454 โต้เถียง

หยวน​ซื่อ​ฟังแล้ว​รู้สึก​ไม่พอใจ​ใน​น้ำเสียง​ของ​บุตรสาว​เป็น​อย่างยิ่ง​

ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​เป็น​คน​ที่​ตน​อุ้มท้อง​มาสิบ​เดือน​กว่า​จะคลอด​ออกมา​ เหตุใด​นาง​ต้อง​พูด​เข้าข้าง​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ด้วย​

หรือว่า​นี่​จะเป็น​ผลร้าย​ที่​ทิ้ง​นาง​ไว้​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เลี้ยงดู​จน​เติบใหญ่​มาตั้งแต่​เล็ก​อย่างนั้น​หรือ​

หยวน​ซื่อ​กล่าว​อย่าง​เคือง​โกรธ​ว่า​ “เจ้าเป็น​บุตรสาว​ที่​แต่งงาน​ออก​ไป​แล้ว​จะไป​รู้​อะไร​ ข้า​ตกลง​กับ​ฮูหยิน​รอง​ตระกูล​ฟางแล้ว​ว่า​จะส่งเสริม​ให้​อา​เซวียน​แต่ง​กับ​ท่าน​อา​สี่ของ​เจ้า ตอนนี้​ท่าน​ย่า​ของ​เจ้ากลับ​คำพูด​ของ​ตัวเอง​ เจ้าจะให้​ข้า​ไป​อธิบาย​กับ​พวก​ญาติ​ๆ เหล่านี้​ว่า​อย่างไร​ เจ้าไม่รู้​หรือ​อย่างไร​ว่า​เรื่อง​นี้​จะทำร้าย​อา​เซวียน​และ​ตระกูล​ฟางมากมาย​ขนาด​ไหน​”

คำกล่าวหา​นี้​ร้ายแรง​เกินไป​แล้ว​

นอกจากนี้​นาง​ไม่เชื่อ​ว่า​ท่าน​ย่า​จะทำ​เรื่อง​กลับ​กลอกกลับ​คำพูด​ของ​ตัวเอง​ได้​!

เฉิงเจิงไม่พูด​ไม่ได้​ “ท่าน​ย่า​ได้​ตอบ​ตกลง​เมื่อไร​ว่า​จะให้​ท่าน​อา​สี่แต่ง​กับ​อา​เซวียน​กัน​เจ้าคะ​”

คำถาม​ของ​บุตรสาว​ทำให้​หยวน​ซื่อ​โมโห​มากยิ่งขึ้น​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “วันนั้น​เจ้าไม่ได้​อยู่​ด้วย​หรือ​อย่างไร​ ข้า​กับ​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ผลักดัน​อา​เซวียน​อยู่​ตลอด​ ฮูหยิน​รอง​ฟางก็​เอ่ยปาก​อนุญาต​เอง​ว่า​ให้​อา​เซวียน​อยู่​ชมการแสดง​งิ้ว​เป็นเพื่อน​ท่าน​ย่า​ของ​เจ้า…”

เฉิงเจิงแสยะ​ยิ้ม​เย็น​อยู่​ใน​ใจอย่า​งอด​ไม่อยู่​

ยังมี​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​อีก​ผู้​หนึ่ง​ด้วย​!

ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​หญิงสาว​จาก​ตระกูล​ฟางทั้งสิ้น​

เหตุใด​มารดา​มักจะ​ไม่รู้​ว่า​สิ่งไหน​คือ​เรื่อง​หลัก​สิ่งไหน​คือ​เรื่อง​รอง​อยู่​ตลอด​ด้วย​เล่า​

“ถูกต้อง​แล้ว​เจ้าค่ะ​!” เฉิงเจิงกล่าว​ “ข้า​เอง​ก็​อยู่​ด้วย​! ข้า​เห็น​ท่าทาง​ของ​ฮูหยิน​รอง​ฟางมุ่งมาด​ปรารถนา​จะเกี่ยวดอง​กับ​ตระกูล​เฉิงให้ได้​ใน​บัดดล​ ผู้ใด​คิด​อยาก​จะเกี่ยวดอง​กับ​ตระกูล​เฉิงก็​เกี่ยวดอง​กัน​ได้​ง่ายๆ​ เลย​อย่างนั้น​หรือ​ เช่นนั้น​ตระกูล​เฉิงของ​พวกเรา​จะกลายเป็น​อะไร​ไป​แล้ว​ เป็น​สวนดอกไม้​หลังบ้าน​ที่​ใคร​คิด​อยาก​เข้า​ก็​เข้า​ คิด​อยาก​ออก​ก็​ออก​ได้​ง่ายๆ​ อย่างนั้น​หรือ​ ตอนนั้น​ท่าน​เอง​ก็​อยู่​ด้วย​มิใช่หรือ​ ท่าน​ย่า​ได้​พูด​อะไร​บ้าง​หรือไม่​ ได้​กล่าว​คำมั่น​หรือ​รับปาก​อะไร​ตระกูล​ฟางหรือไม่​ แล้ว​ท่าน​มาพูดว่า​ท่าน​ย่า​กลับ​คำพูด​ของ​ตัวเอง​ได้​อย่างไร​ นอกจากนี้​ท่าน​ปู่​จากไป​แล้ว​ เรื่อง​แต่งงาน​ของ​ท่าน​อา​สี่จึงควร​ให้​ท่าน​ย่า​เป็น​ผู้ตัดสินใจ​ ท่าน​อาจ​คิด​ว่า​เป็นเรื่อง​สมควร​ที่จะ​แนะนำ​คน​ให้​ท่าน​ย่า​ แต่​ท่าน​ย่า​และ​ท่าน​อา​สี่จะตอบรับ​หรือไม่​นั้น​ นั่น​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​พวกเขา​แล้ว​ ท่าน​เข้าไป​แทรกแซง​เหนือ​หน้าที่​ของ​ตัวเอง​ได้​อย่างไร​ งานแต่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​ท่าน​ย่า​สอด​มือ​เข้ามา​ยุ่ง​หรือไม่​ งานแต่ง​ของ​เซียว​เจี่ยเอ๋อร์​ท่าน​ย่า​ได้​สอด​มือ​เข้ามา​ยุ่ง​หรือไม่​…

…ท่าน​ย่า​ไม่เพียง​ไม่สอด​มือ​เข้ามา​ยุ่ง​ แต่​ยัง​บอก​ท่าน​หลายครั้ง​ด้วยว่า​ตระกูล​เฉิงไม่จำเป็นต้อง​ดอง​กับ​ตระกูล​หมิ่น​เท่านั้น​ แล้ว​ท่าน​ฟังหรือไม่​ แต่​ท่าน​ย่า​เคย​เรียก​ท่าน​พ่อ​ไป​เพื่อ​ยืนกราน​ให้​พวก​ท่าน​หา​คู่แต่งงาน​ที่​เหมาะสม​กว่า​ให้​เจีย​ซ่าน​หรือไม่​ ก็​เพราะ​ท่าน​ย่า​กลัว​ว่า​เมื่อ​สะใภ้แต่ง​เข้ามา​แล้ว​ท่าน​จะไม่โปรดปราน​ ทำให้​บุตรสาว​ของ​ผู้อื่น​ต้อง​อยู่​อย่าง​ลำบาก​ และ​ทำให้​เจีย​ซ่าน​ต้อง​ลำบากใจ​ทั้งสอง​ฝั่ง…

…อะไร​ที่​ตัวเอง​ไม่ชอบ​ก็​อย่า​ทำ​กับ​ผู้อื่น​!…

…ท่าน​แม่ ต่อไป​ท่าน​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​ประตู​เฉาหยาง​ให้​น้อยลง​จะดีกว่า​!”

เฉิงเจิงกล่าว​ประโยค​สุดท้าย​ด้วย​ความเคร่งเครียด​และ​จริงจัง​ยิ่ง​

หยวน​ซื่อ​โกรธ​จน​เกือบจะ​หลั่ง​โลหิต​ออกมา​แล้ว​

นี่​นาง​ช่างเลี้ยง​บุตรสาว​มาได้ดี​จริงๆ​!

แม้แต่​ความกตัญญู​ขั้นพื้นฐาน​ยัง​ไม่รู้จัก​

ต้องการ​ทำให้​นาง​โมโห​ตาย​ทั้งที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ให้ได้​ถึงจะพอใจ​!

นาง​ชี้ไป​ที่​ประตู​พร้อมกับ​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​ “ออก​ไป​ เจ้าไสหัวไป​ให้​ไกล​เดี๋ยวนี้​ เจ้าไม่ให้​ค่า​ตระกูล​ฝั่งมารดา​คน​นี้​ ข้า​เอง​ก็​ไม่ให้​ค่า​บุตรสาว​อย่าง​เจ้าเช่นกัน​!” จากนั้น​กล่าว​เสียงดัง​อย่าง​เดือดดาล​ว่า​ “งานแต่ง​ของ​เจ้ามิใช่ว่า​ย่า​ของ​เจ้าเป็น​คน​เลือก​มาหรอก​หรือ​ หาก​รู้​เช่นนี้​แต่​เนิ่นๆ​ ข้า​คง​ให้​เจ้าแต่ง​ไป​ที่​ตระกูล​ฟางแล้ว​!”

เฉิงเจิงถูก​คำพูด​ของ​มารดา​ทิ่มแทง​จน​เป็นแผล​ลึก​

นาง​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ กล่าว​เสียง​ขรึม​ว่า​ “ท่าน​แม่ งานแต่ง​ของ​ข้า​ท่าน​ย่า​เป็น​คน​ตัดสินใจ​ให้​ ตอนนั้น​ก็​เคย​ถามท่าน​แล้ว​ ท่าน​บอ​กว่า​ต้องการ​ให้​ข้า​แต่ง​ไป​ที่​ตระกูล​ฟาง แต่​ท่าน​ย่า​ให้​คน​ไป​สืบมา​แล้ว​พบ​ว่า​คุณชาย​ของ​ตระกูล​ฟางผู้​นั้น​เป็นโรค​ที่​ไม่สมควร​เอ่ยถึง​ ตอนนี้​เสียชีวิต​ไป​เกือบ​สิบ​ปี​แล้ว​ ถ้าหาก​ให้​ข้า​แต่ง​ออก​ไป​ตาม​ความเห็น​ของ​ท่าน​ล่ะ​ก็​ ตอนนี้​ข้า​คงจะ​กลายเป็น​หม้าย​ไป​แล้ว​กระมัง​”

ดวง​หน้า​ของ​หยวน​ซื่อ​เต็มไปด้วย​ความตกใจ​

บุตรสาว​รู้เรื่อง​นี้​ได้​อย่างไร​

นาง​อ้าปากค้าง​ กว่า​ครู่ใหญ่​ก็​ไม่อาจ​เปล่งเสียง​ใด​ออกมา​ได้​สัก​คำ​

เฉิงเจิงสะบัด​แขน​เสื้อ​จากไป​ด้วย​ความเสียใจ​

เฉิงสวี่​ค่อยๆ​ เดิน​ออก​มาจาก​ตรง​หัวมุม​ของ​เฉลียง​ทางเดิน​

เขา​นึกถึง​ภาพ​เหตุการณ์​ที่​ตน​เห็น​นางใน​งาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​ท่าน​ย่า​ขึ้น​มา

คล้าย​กับ​ว่า​เรื่อง​ที่​สวนดอกไม้​นั่น​ไม่ได้​มีผลกระทบ​อะไร​กับ​นาง​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​

นาง​ดู​งดงาม​มากกว่า​เดิม​

นอกจากนี้​ยัง​ดู​เปล่งปลั่ง​มีสง่าราศี​

ราวกับ​หยก​สลัก​ชิ้น​หนึ่ง​ ที่​สุดท้าย​ก็​เปล่งประกาย​งดงาม​ออกมา​

ทว่า​ตอนนี้​นาง​กำลังจะ​แต่ง​กับ​ท่าน​อา​สี่แล้ว​

ท่าน​อา​สี่คน​ที่​เขา​แหงนหน้า​มอง​ด้วย​ความชื่นชม​มาตั้งแต่​เด็ก​ผู้​นั้น​

เป็น​เช่นนี้​ไป​ได้​อย่างไร​

ตกลง​ว่า​ระหว่าง​เรื่อง​นี้​เกิด​ข้อผิดพลาด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

เฉิงสวี่​ค่อยๆ​ เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​หลัก​

ไม่รู้​ว่า​บ่าว​รับใช้​ภายใน​ห้อง​ไป​หลบ​อยู่​ที่ไหน​กัน​หมด​ หยวน​ซื่อ​เอนตัว​นอน​สะอื้น​ไห้​เบา​ๆ อยู่​บน​หมอน​ของ​ตั่ง​ตัว​ใหญ่​ข้าง​หน้าต่าง​เพียงลำพัง​

เฉิงสวี่​มอง​นาง​เงียบๆ​ ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ถึงได้​เดิน​เบา​มือเบา​เท้า​เข้าไป​ตบ​ที่​ไหล่​ของ​มารดา​เบา​ๆ

หยวน​ซื่อ​รีบ​คว้า​มือ​ของ​บุตรชาย​เอาไว้​ประหนึ่ง​คว้า​ฟางช่วยชีวิต​เส้น​สุดท้าย​เอาไว้​ได้​ กล่าว​อย่าง​ร้อนรน​ว่า​ “พี่สาว​ของ​เจ้ายิ่ง​โต​นาง​ก็​ยิ่ง​ไม่เชื่อฟัง​แล้ว​ ถึงกับ​กล้า​ถากถาง​ข้า​แล้ว​ ท่าน​ย่า​ของ​เจ้า…”

เมื่อก่อน​เขา​มักจะ​รู้สึก​ว่า​มารดา​นั้น​น่าสงสาร​

เกิด​มาใน​ตระกูล​ที่​มีชื่อเสียง​ แต่​เพราะ​รัก​บิดา​ ดังนั้น​ก็​เลย​แต่ง​เข้ามา​โดย​ไม่รีรอ​ พี่ใหญ่​และ​พี่​รอง​ล้วน​เติบโต​ขึ้น​มากับ​การ​เลี้ยงดู​ของ​ท่าน​ย่า​ นิสัย​หรือ​การกระทำ​ล้วน​เหมือน​ท่าน​ย่า​ เวลา​พูดจา​หรือ​ทำ​อะไร​มักจะ​ให้​ความรู้สึก​ที่​คล้าย​กับ​ดูแคลน​มารดา​ออกมา​ให้​เห็น​อยู่​รางๆ​ บิดา​ก็​รับราชการ​อยู่​ต่างเมือง​เป็นเวลา​นาน​ คน​ที่​พอ​จะอยู่​เป็นเพื่อน​มารดา​ได้​จึงมีแต่​เขา​เท่านั้น​

แต่​ท่าน​ย่า​กลับ​แตกต่าง​ออก​ไป​

นาง​เด็ดเดี่ยว​และ​มั่นคง​ ไม่ว่า​จะเป็น​บิดา​หรือ​พวก​ท่าน​อา​ หรือ​แม้กระทั่ง​ท่าน​ผู้นำ​ตระกูล​จวน​รอง​อย่าง​เฉิงซวี่​ ล้วน​อย่า​ได้คิด​จะประจบสอพลอ​ต่อหน้า​นาง​ได้​

ฉะนั้น​ต่อให้​มารดา​จะทำลาย​ความ​เชื่อใจ​ของ​เขา​ ต่อให้​เขา​จะพร่ำบ่น​อยู่​ใน​ใจไม่จบ​ไม่สิ้น​ ทว่า​ที่ผ่านมา​ก็​ไม่เคย​นึก​เกลียดชัง​มารดา​มาก่อน​

แต่​ครั้งนี้​ เขา​กลับ​คล้าย​กับ​ว่า​สูญสิ้น​ความอดทน​แล้ว​ใน​ทันใด​ กล่าว​ตัดบท​คำพูด​ของ​มารดา​อย่า​งอด​ไม่อยู่​ว่า​ “ท่าน​แม่ ต่อไป​ท่าน​อย่า​ทะเลาะ​กับ​พี่ใหญ่​และ​พี่​รอง​อีก​เลย​ พวก​นาง​ล้วน​เป็น​บุตรสาว​ที่​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ถ้ายัง​ช่วยเหลือ​ที่​บ้าน​อยู่​ก็​ถือเป็น​น้ำใจ​ แต่​หาก​ไม่ช่วย​ก็​เป็น​สิ่งที่​สมควร​แล้ว​ ท่าน​ดุด่า​พวก​นาง​เช่นนี้​ จะทำให้​บ่าวไพร่​ใน​บ้าน​ดูแคลน​พวก​นาง​ได้​นะ​ขอรับ​”

น้ำตา​ที่​เพิ่ง​เหือดแห้ง​ไป​ของ​หยวน​ซื่อ​เอ่อล้น​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ กล่าว​อย่าง​สะเทือนใจ​ว่า​ “เจ้าคน​เนรคุณ​กินบนเรือนขี้บนหลังคา​ผู้​นี้​ มีคน​ที่​ช่วย​คนนอก​อย่าง​เจ้าด้วย​หรือ​ พวก​นาง​อยาก​กลับมา​ก็​กลับมา​ ไม่อยาก​กลับมา​ก็​ไม่ต้อง​กลับมา​ ข้า​ต้อง​อาวรณ์​พวก​นาง​ด้วย​หรือ​! หาก​มิใช่เพราะ​มีตระกูล​เฉิง พวก​นาง​จะได้​แต่ง​กับ​ตระกูล​ที่​ดี​ขนาด​นี้​หรือ​ ให้​พวก​นาง​ไม่ต้อง​กลับมา​ก็​ดีแล้ว​ คอย​ดู​ว่า​ข้า​จะไป​ขอร้อง​อะไร​พวก​นาง​หรือไม่​”

เฉิงสวี่​มีสีหน้าสลด​หดหู่ใจ​

บางที​คง​มีเพียง​บิดา​เท่านั้น​ที่​ปลอบโยน​มารดา​และ​ทำให้​มารดา​มีความสุข​ได้​

เฉิงสวี่​มิได้​กล่าว​คำ​ใด​

พอ​หยวน​ซื่อ​เห็น​ว่า​ไม่มีคน​ขาน​รับคำ​ อีก​ทั้ง​เพราะ​ได้​ตะโกน​ระบาย​ออก​ไป​แล้ว​ครั้งหนึ่ง​ ความ​ทุกข์ระทม​และ​ความ​กรุ่น​โกรธ​ใน​ใจก็​มลาย​หาย​ไป​แล้ว​กว่า​ครึ่ง​ อารมณ์​ก็​ค่อยๆ​ สงบ​ลงมา​

เฉิงสวี่​ลังเล​กว่า​ครู่ใหญ่​ ถึงได้​ถามมารดา​ว่า​ “น้องสาว​รอง​ตระกูล​โจว​กำลังจะ​แต่ง​กับ​ท่าน​อา​ฉือ​จริงๆ​ หรือ​ขอรับ​”

หยวน​ซื่อ​ได้ยิน​แล้ว​อารมณ์​ก็​พุ่ง​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ ลง​จาก​ตั่ง​และ​สวม​รองเท้า​ด้วย​อาการ​กระวนกระวาย​เล็กน้อย​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​ต้อง​ไปดู​ที่​ประตู​เฉาหยาง​สักหน่อย​ ครั้งนี้​ท่าน​ย่า​ของ​เจ้าทำเกินไป​แล้ว​จริงๆ​ อา​เซวียน​ไม่ดี​ตรงไหน​ ท่าน​ย่า​ของ​เจ้าถึงไป​เลือก​คุณหนู​รอง​ตระกูล​โจว​ นาง​ไม่รู้​หรือ​อย่างไร​ว่า​…” กล่าวถึง​ตรงนี้​ เสียง​ของ​นาง​ก็​หยุด​ลง​กะทันหัน​ สีหน้า​ดู​กระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​ นาง​มัวแต่​คิด​จะตัดพ้อต่อว่า​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ ทว่า​กลับ​ลืม​ไป​ว่า​บุตรชาย​ก็​เคย​พิสมัย​โจว​เสาจิ่น​มาก่อน​เช่นกัน​…

เฉิงสวี่​ยิ้ม​ขมขื่น​ ปลอบโยน​มารดา​ว่า​ “ไม่เป็นไร​ขอรับ​! ท่าน​ย่า​กล่าว​ได้​ถูกต้อง​แล้ว​ ตอนที่​ข้า​ยัง​มีโอกาส​ได้มา​กลับ​ไม่ทุ่มเท​แรงกาย​ไป​เอา​มาให้ได้​ ตอนนี้​ไม่มีโอกาส​นั้น​แล้ว​ จึงไม่ต้อง​ไป​คิด​ให้​เปล่าประโยชน์​แล้ว​ ข้า​เพียง​ลอง​ถามดู​ เพียง​คิดไม่ถึง​เท่านั้น​…”

ความเสียใจ​สาย​หนึ่ง​วาบ​ผ่าน​ดวงตา​ของ​เขา​

หยวน​ซื่อ​เริ่ม​กล่าว​ทับถม​โจว​เสาจิ่น​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ “นอกจาก​ความงาม​แล้ว​ นาง​ยังมี​อะไร​อีก​ รอ​ให้​นาง​อายุ​มาก​เนื้อหนัง​แห้งเหี่ยว​เจ้าก็​จะรู้​เอง​ว่า​สตรี​ที่​เอา​ชนะใจ​ผู้อื่น​ได้​ด้วย​ความงาม​นั้น​สุดท้าย​แล้วก็​มิใช่ทางออก​ที่​ยั่งยืน​ ท้ายที่สุด​ยัง​ต้อง​มีคุณธรรม​ ความรู้​ความสามารถ​และ​พื้นเพ​ของ​ครอบครัว​อีกด้วย​…”

เฉิงสวี่​ไม่อยาก​ฟังเรื่อง​พวก​นี้​

เขา​กล่าว​เสียง​อบอุ่น​ว่า​ “ท่าน​แม่ ข้า​ไป​พบ​ท่าน​ย่า​เป็นเพื่อน​ท่าน​ดี​หรือไม่​ เรื่อง​ของ​ตระกูล​ฟางควรจะ​ทำ​อย่างไร​นั้น​ เกรง​ว่า​ท่าน​คง​ต้อง​หารือ​กับ​ท่าน​ย่า​ถึงจะใช้การได้​”

ไม่อย่างนั้น​จะอธิบาย​กับ​ตระกูล​ฟางว่า​อย่างไร​!

ดวง​หน้า​ของ​หยวน​ซื่อ​พลัน​ดำมืด​ไป​ทั่วทุกแห่ง​

เฉิงสวี่​ไปหา​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เป็นเพื่อน​หยวน​ซื่อ​

ส่วน​เฉิงเจิงตรง​ไปหา​เฉิงเซียว​

มาโดยที่​มิได้​ส่งเทียบ​มาให้​ก่อน​

เฉิงเซียว​รีบ​พา​เฉิงเจิงไป​รับรอง​ใน​ห้อง​ชั้นใน​

เฉิงเจิงเอง​ก็​ไม่อ้อมค้อม​ เล่าเรื่อง​งานแต่ง​ระหว่าง​เฉิงฉือ​และ​โจว​เสาจิ่น​ให้​น้องสาว​ฟังอย่าง​ตรงไปตรงมา​

ครู่ใหญ่​กว่า​เฉิงเซียว​จะได้สติ​กลับมา​ แต่​เมื่อ​ได้สติ​กลับมา​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ท่าน​อา​ฉือ​จะต้อง​ถูกใจ​เสาจิ่น​มานาน​แล้ว​เป็นแน่​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​ไม่ให้​พวกเรา​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​นาง​หรอก​” กล่าว​จบ​ นาง​เอ่ย​อย่าง​เป็นกังวล​ว่า​ “เสาจิ่น​ยัง​มิได้​ปัก​ปิ่น​เลย​กระมัง​ ให้​ข้า​เรียก​เด็กสาว​ที่​ยัง​มิได้​ปัก​ปิ่น​ว่า​ท่าน​อา​สะใภ้ ข้า​คง​ต้อง​ตั้งใจ​คิด​ดี​ๆ ถึงจะเรียก​ออกมา​ได้​!”

เฉิงเจิงจึงเอ่ย​ขึ้น​อย่าง​เคือง​ๆ ว่า​ “เจ้าคิด​แค่​เรื่อง​พวก​นี้​หรือ​”

“ไม่คิด​เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​จะให้​คิด​เรื่อง​อะไร​เจ้าคะ​” เฉิงเซียว​มิได้​รู้เรื่อง​ที่​สวนดอกไม้​นั่น​ นาง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ อย่าง​สงบ​ว่า​ “เป็นเรื่อง​ที่​พวก​ผู้ใหญ่​ต่าง​ตัดสินใจ​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ หรือว่า​จะมีอะไร​เปลี่ยนแปลง​ได้​เพียง​เพราะ​คำ​คัดค้าน​ของ​พวกเรา​อย่างนั้น​หรือ​ แทนที่จะ​รู้สึก​ขุ่น​เคืองใจ​จน​ไม่มีความสุข​ไป​ทั้งวัน​ มิสู้คิด​ให้​ถ่องแท้​แล้วไป​แสดงความยินดี​ต่อหน้า​ผู้ใหญ่​อย่าง​มีความสุข​จะดีกว่า​! นอกจากนี้​ข้า​รู้สึก​ว่า​เสาจิ่น​เป็น​คน​นิสัย​ดีมาก​ ต่อไป​เมื่อ​เป็น​พี่สะใภ้​น้อง​สะใภ้กับ​ท่าน​แม่แล้ว​ ย่อม​ไม่ถกเถียง​อะไร​กับ​ท่าน​แม่อย่าง​แน่นอน​ หาก​ครอบครัว​สมัครสมาน​กลมเกลียว​กัน​ย่อม​นำมาซึ่ง​ความรุ่งเรือง​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​เพราะเหตุนี้​ท่าน​ย่า​ถึงได้​เห็นด้วย​กับ​การ​แต่งงาน​ใน​ครั้งนี้​ก็​เป็นได้​”

“เจ้าช่างพูด​ได้​ผ่อนคลาย​เสีย​จริง​!” เฉิงเจิงกล่าว​กระแนะกระแหน​เล็กน้อย​ ทว่า​อารมณ์​กลับ​ค่อยๆ​ สงบ​ลงมา​

นาง​เล่าเรื่อง​ที่​ตน​ทะเลาะ​กับ​หยวน​ซื่อ​ให้​น้องสาว​ฟัง

อาจ​เพราะ​เป็น​บุตรสาว​คนโต​ เฉิงเจิงก็​เลย​มีนิสัย​แข็ง​มาก​เหมือนกัน​ บางครั้ง​แม่ลูก​จึงขัดแย้ง​กัน​บ้าง​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​

เฉิงเซียว​กล่าว​ปลอบโยน​นาง​ว่า​ “นิสัย​ของ​ท่าน​แม่ก็​เป็น​เช่นนั้น​ ท่าน​ก็​อย่า​เอา​มาคิด​จริงจัง​อะไร​กับ​นาง​เลย​” ขณะที่​กล่าว​ หัวข้อ​สนทนา​ก็​วก​กลับมา​ที่​เรื่อง​ของ​เฉิงฉือ​และ​โจว​เสาจิ่น​อีกครั้ง​ “ฤกษ์​วัน​แต่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​ถูก​กำหนดให้​เป็นช่วง​เดือน​สอง​ ไม่รู้​ว่า​ฤกษ์​วัน​แต่ง​ของ​ท่าน​อา​ฉือ​จะกำหนด​เป็น​เมื่อใด​ หลาย​วันก่อน​ท่าน​แม่ยัง​ให้​ข้า​ไป​สอบถาม​ดู​ว่า​มีพ่อครัว​ดี​ๆ ที่ไหนบ้าง​หรือไม่​ ตอน​เจีย​ซ่าน​แต่งงาน​ นาง​อยาก​ใช้พ่อครัว​ของ​ทางใต้​ ไม่รู้​ว่า​งานแต่ง​ของ​ท่าน​อา​ฉือ​ก็​จะ…ข้า​รู้​แล้ว​ คง​ต้อง​ไป​สอบถาม​ดูก่อน​กระมัง​ ประเดี๋ยว​ข้า​กับ​ท่าน​ไป​ที่​ประตู​เฉาหยาง​ด้วยกัน​สักครั้ง​ดี​หรือไม่​ ไปดู​ว่า​ท่าน​ย่า​ต้องการ​ให้​ช่วยเหลือ​อะไร​หรือไม่​ ท่าน​แม่วุ่นอยู่กับ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​ ทั้ง​ยัง​มีเรื่อง​ของ​อา​เซวียน​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​อยู่​ตรงหน้า​ด้วย​ แปด​ถึงเก้า​ใน​สิบ​ส่วน​ย่อม​ไม่อาจ​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ช่วย​ท่าน​ย่า​ได้​อย่าง​แน่นอน​ ท่าน​อา​สะใภ้รอง​ก็​ร่างกาย​ไม่แข็งแรง​ไม่อาจ​เหน็ดเหนื่อย​ได้​ ท่าน​ย่า​อายุ​มาก​แล้ว​ หาก​พวกเรา​ไม่ออกหน้า​ไป​ช่วย​ หาก​ทำให้​ท่าน​ย่า​เหน็ดเหนื่อย​จน​ล้ม​ป่วย​ไป​จะทำ​อย่างไร​”

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​แล้ว​ สอง​พี่น้อง​ก็​รู้สึก​เห็นใจ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ขึ้น​มาเล็กน้อย​

เฉิงเจิงและ​เฉิงเซียว​จึงไป​ที่​ประตู​เฉาหยาง​อีกครั้ง​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​สนทนา​กับ​หยวน​ซื่อ​อยู่​ใน​ห้อง​ บ่าว​รับใช้​ข้าง​กาย​ล้วน​ถอย​ออก​ไป​หมด​ทุกคน​ มีเพียง​เฉิงสวี่​ยืน​อยู่​ที่​เฉลียง​ทางเดิน​คนเดียว​เท่านั้น​

หยวน​ซื่อ​พูด​ประโยค​หนึ่ง​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ก็​ตอบ​ประโยค​หนึ่ง​ อะไร​ทำนอง​ “ตอนนั้น​หาก​มิใช่เจ้าเตือนสติ​ข้า​บอ​กว่า​อา​เซวียน​ไม่เลว​ ข้า​คง​ยัง​คิดไม่ถึง​ว่า​เสาจิ่น​เอง​ก็​เป็น​ตัวเลือก​ที่​ไม่เลว​เหมือนกัน​” หรือ​ “เจ้าเอง​ก็​เป็น​สตรี​เหมือนกัน​ เหตุใด​เพียง​เพราะ​เจีย​ซ่าน​เคย​ชอบ​เสาจิ่น​มาก่อน​ก็​มาพูดว่า​เสาจิ่น​เป็น​คน​ไม่งามสง่าแล้ว​ พวกเรา​และ​ตระกูล​โจว​ได้​ทำ​การแลก​ใบ​ดวงชะตา​และ​วาง​ของหมั้น​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ ถือว่า​เสาจิ่น​เป็น​น้อง​สะใภ้ของ​เจ้า เป็น​พี่สะใภ้​น้อง​สะใภ้กับ​เจ้าแล้ว​ เจ้าจะพูดจา​อะไร​ต้อง​ระมัดระวัง​ด้วย​ ดูถูก​เหยียดหยาม​นาง​ ก็​เท่ากับ​ดูถูก​เหยียดหยาม​ตระกูล​เฉิงและ​ดูถูก​เหยียดหยาม​ตัว​เจ้าเอง​ด้วย​” แล้วก็​ “ใน​เมื่อ​เจ้าถูกใจ​อา​เซวียน​ แล้ว​มัว​ทำ​อะไร​อยู่​ เจ้ากลับ​จิงเฉิงมาก็​สอง​เดือน​กว่า​แล้ว​กระมัง​” และ​ “เจ้ายัง​ทำ​อะไร​ลับหลัง​ข้า​อีก​บ้าง​ เจ้ากล้า​ทำ​ก็​ต้อง​กล้า​รับ​ถึงจะถูก​ อย่า​หวัง​ว่า​ข้า​จะแบกหน้า​แก่ๆ​ นี้​ไป​ขอโทษ​ตระกูล​ฟางแทน​เจ้า!”

เพียง​สี่ห้า​ยก​ หยวน​ซื่อ​ก็​ถูก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ตอกกลับ​จน​ไร้​คำ​จะเอื้อนเอ่ย​ได้​อีก​

เฉิงสวี่​ลอบ​ถอนหายใจ​

ชั่วชีวิต​นี้​ เกรง​ว่า​มารดา​อย่า​ได้คิด​จะชูคอ​ต่อหน้า​ท่าน​ย่า​ได้​อีก​เลย​

ยามดอกวสันต์ผลิบาน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน

Score 10
Status: Completed

ในยามที่ โจวเสาจิ่น เด็กสาวจากตระกูลโจวผู้แสนอ่อนหวานและว่านอนสอนง่ายถูกชายคนรักที่นางไว้ใจหักหลังคร่าชีวิต นางได้แต่ภาวนาร้องขอโอกาสที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

หากนางสามารถย้อนเวลากลับไปได้ นางจะหนีไปให้ห่างไกลจากบุรุษจอมเสแสร้งอย่างเขา นางจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกย่ำยีอย่างน่าอดสู จะไม่ทำให้ตระกูลต้องอับอายขายขี้หน้า ไม่มีวันทำให้พี่สาวผู้แสนอ่อนโยนหัวใจแตกสลาย ขอแค่โอกาสอีกเพียงสักครั้ง…

ดูเหมือนสวรรค์จะสดับฟังคำอธิษฐานก่อนสิ้นใจของนาง ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสงบปราศจากเค้าลางของพายุ โจวเสาจิ่นสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้ายและพบว่าตนได้ย้อนเวลากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งราวปาฏิหาริย์ในร่างเดิมวัยสิบสองปี!

ด้วยประสบการณ์อันขื่นขมที่นางได้เผชิญมาในชาติก่อน หญิงสาวตั้งปณิธานว่าจะต้องหาทางแก้ไขชะตาชีวิตของตนเองและของตระกูลในชาตินี้ให้ได้ ไม่มีอีกแล้วเด็กสาวที่ขี้ขลาดและอ่อนแอ แม้แต่ดอกไม้ก็ยังไม่กล้าเด็ดคนนั้น ได้เวลาที่นางต้องยืนหยัดลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเองแล้ว

Options

not work with dark mode
Reset