ในทันทีทันใด เหล่าผู้คนทั้งหลายต่างก็พากันหันไปมองดูต้นเหมยต้นนั้น
ใต้ต้นไม้มีหิมะกองทับอยู่ แต่กลับสกปรกเลอะเทอะ ราวกับว่าผืนดินถูกขุดคุ้ยและโปะทับไว้ชั้นหนึ่ง
อยู่ดีๆ จะขุดดินทำไมกัน?
ดอกเหมยหลายดอกหล่นอยู่บนพื้นหิมะ ดูไปประหนึ่งกองโลหิต
“รีบไปขุดขึ้นมา ใต้ต้นไม้นั่นจะต้องมีสิ่งของใดอยู่แน่ๆ! ” สายตาของท่านรองมหาเสนาฯ เป็นประกาย เขารู้ดีว่า เมื่อห้าวันก่อน กรมสืบสวนพึ่งขุดเจอศพเด็กน้อยศพหนึ่ง ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ต้นไม้เช่นกัน!
“เฒ่าฟู่ ต้นเหมยต้นนั้นเราพึ่งจะปลูกลงไปเมื่อวานนี้เอง มันมีที่มาไม่ธรรมดา คุณค่ามิอาจนับได้ เจ้าอย่าได้คิดขยับมัน” ตู๋กูซิงหลันรีบกล่าวออกมาอย่างเร่งร้อน
“ช่างน่าบังเอิญนักนะ ” ท่านรองมหาเสนาฯ ว่าเสียงเย็น
“หากแตะต้อง เจ้าชดใช้ไม่ได้แน่ ” ตู๋กูซิงหลันว่าต่อ “บ้านเจ้าตอนนี้ก็จนเสียขนาดไหนแล้ว ไยไม่ใช้ชีวิตให้สงบเสงี่ยมอีก วันๆ กลับทำตัวดั่งผีเสื้อราตรี “
ท่านรองมหาเสนาฯ “……..” นางปีศาจนี้พิษสงร้ายนัก ยกดาบขึ้นมาก็แทงเข้าแผลสำคัญเลยทีเดียว
ทรัพย์สมบัติในบ้าน เป็นเลือดเนื้อกว่าครึ่งชีวิตของเขา แค่เพียงค่ำคืนเดียวกับอันตรธานไปหมด!
บุตรสาวที่เป็นถึงพระสนม ก็ถูกนางให้ร้ายจนเข้าไปอยู่ในตำหนักเย็น ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นเคือง!
“ไทเฮา ท่านรองมหาเสนาเพียงอยากจะคืนความบริสุทธิ์ให้กับเจ้า หากว่าไม่มีอะไรจริงๆ เช่นนั้นไยเจ้าต้องเป็นกังวลด้วย ” เสียนไท่เฟยก้าวออกมา มองนางด้วยสายตาล้ำลึก “ดอกเหมยต้นนี้หากว่ามีมูลค่าสูงส่งแล้วอย่างไร ข้าชดใช้ให้เจ้าก็แล้วกัน “
นางกล่าวแล้ว ก็หันไปส่งสายตาให้นางกำนัลชิงผิง “เจ้าไปดูสิว่าที่ต้นไม้นั้น ตกลงมีอะไรกันแน่ “
ชิงผิงรับบัญชา ส่งร่มให้กับเสียนไท่เฟย ค่อยเดินไปยังต้นเหมยต้นนั้น
ทุกคนต่างก็รู้ว่า ชิงผิงเป็นนางกำนัลที่เสียนไท่เฟยให้ความสำคัญที่สุด ถึงขนาดประทานตำแหน่งขุนนางหญิงในวังให้ ยามปกติเจ้านายในวังทั้งหลายพบเจอนางยังต้องให้ความเกรงอกเกรงใจ
ครั้งนี้ ชิงผิงลงมือเอง แน่นอนว่าผู้อื่นย่อมไม่กล้ากล่าวมากความ
แต่ตู๋กูซิงหลันกลับขมวดคิ้วแนบแน่น นางก้าวออกไปหลายก้าว คิดจะรั้งตัวชิงผิงเอาไว้
ทันใดนั้นกลับถูกรองมหาเสนาฯ ขวางเอาไว้ “ไทเฮาสมควรชมดูอย่างวางใจดีกว่า “
พอเขาพูดออกมา เหล่าพระสนมกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาขวางตู๋กูซิงหลันเอาไว้ ดูท่าทางที่นางปีศาจผู้นี้ร้อนรนขึ้นมา แสดงว่าจะต้องใต้นั้นจะต้องมีปัญหาอยู่แน่ๆ!
องค์หญิงใหญ่เองก็ออกมาเช่นกัน พระองค์ยังคงถือดาบไว้ มองดูต้นไม้ต้นนั้น หัวใจของพระองค์เต้นแรง ทางหนึ่งก็อยากจะให้รีบๆ ขุดต้นไม้นั้นขึ้นมา ทางหนึ่งหัวใจก็เริ่มสั่น เกรงว่าใต้นั้นจะมีอะไรอยู่จริงๆ
จิตใจของพระองค์ยามนี้เลื่อนลอยไปแล้ว แม้แต่สองเท้าก็อ่อนระทวย
ชิงผิงรับพลั่วเหล็กมา โกยหิมะออกไป ขุดดินขึ้นมา ต้นเหมยที่พึ่งปลูกใหม่ถูกนางสะเทือนเสียจนดอกไม้ทั้งหลายหลุนร่วง หล่นลงบนพื้นหิมะ สีแดงสดใสของดอกไม้เหล่านั้นแดงฉานดุจโลหิต
ตู๋กูซิงหลันยังคงกล่าวย้ำว่า “เจ้าระมัดระวังหน่อยสิ ต้นเหมยของข้าต้นนี้ล้ำค่ามากนะ! “
ไม่มีผู้ใดสนใจนาง เพียงคิดว่าที่นางแสดงออกว่าร้อนใจเป็นเพราะมีพิรุจ
กระทั่งองค์หญิงใหญ่ยังรู้สึกว่าหัวใจถูกบีบมาจนจะถึงลำคออยู่แล้ว!
พระองค์แทบจะเป็นลมล้มลงไปตรงหน้า ดีที่มีซุนหมัวมัวประคองนางไว้ นางถึงได้ยังคงประทับยืนอยู่ได้
เพราะนับตั้งแต่ที่ราชบุตรเขยสิ้นไป โลกของพระองค์ก็เหมือนกับพังทลายลงไปด้วย แต่เพราะยังมีห่วงกังวลอย่างธิดาน้อย ทำให้พระองค์อดทนมีชีวิตได้ในช่วงหลายปีนี้
ฟ้าดินไยจึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้ ซุ่นเอ๋อร์เกิดมาก็มีโรคประจำตัว พระองค์เพียงหวังให้เด็กคนนี้ได้เติบโตอย่างปลอดภัย ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ทำไมนะ ทำไมจึงจะต้องให้ธิดาของนางมาเผชิญกับเหตุการณ์ที่โหดร้ายเช่นนี้?
ในบางครั้ง รสชาติของการรอคอยนั้นเป็นสิ่งที่เคี่ยวกรำและพาให้ทุกข์ทนอย่างที่สุด
เพราะยิ่งคิดยิ่งเกิดความหวาดกลัว ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นผลลัพธ์ แต่กลับทำให้ตนเองตระหนกเสียจนปางตายไปแล้ว
สถานการณ์ขององค์หญิงใหญ่นั้นเป็นเช่นนี้จริงๆ
ชิงผิงขุดไปสักพัก ผู้คนต่างก็เห็นว่าสีหน้าของนางผิดปกติไป พอนางส่งเสียงดังออกมาว่า “นี่คืออะไร? “
ผู้คนทั้งหลายต่างก็คอยืดคอยาวขึ้นมาเลยทีเดียว องค์หญิงใหญ่ถึงขนาดวิ่งสะโหลสะเหลออกไป ก็ทอดเนตรเห็นต้นเหมยต้นนั้นถูกขุดขึ้นมาจนรากขาด ใต้รากนั้นฝังเส้นผมกลุ่มหนึ่งไว้ เป็นเส้นผมที่ถักเป็นเงื่อนอายุยืน ที่ก้นหลุมยังมีสายสร้อยแม่กุญแจอายุมั่นขวัญยืนชุดหนึ่ง แม่กุญแจเปรอะเปื้อนด้วยเลือด
ทันทีที่องค์หญิงใหญ่ได้ทอดพระเนตรเห็นแม่กุญแจอายุมั่นขวัญยืนชุดนั้น คนก็ตระหนกจนสิ้นพระสติไปในทันที
ชิงผิงนำกุญแจอายุมั่นขวัญยืนชุดนั้นขึ้นมา ทูลถวายพระองค์ด้วยความนอบน้อม
อุณหภูมิที่เย็นยะเยือกของแม่กูญแจ แทบจะทำให้พระโลหิตในร่างขององค์หญิงใหญ่จับแข็งไปด้วย
สายสร้อยแม่กุญแจอายุมั่นขวัญยืนชุดนี้ ก่อนที่ซุ่นเอ๋อร์จะเกิดมานั้น ราชบุตรเขยได้ไปเสาะหาช่างสั่งทำขึ้นมาด้วยพระองค์เอง นี่เป็นความหวังที่จะให้บุตรของทั้งสองเกิดมาปลอดภัยแข็งแรง มีอายุยืนยาว ไร้ทุกข์ไร้โศก!
“ท่านหญิงน้อย……โอ้ท่านหญิงน้อย…….” พอซุนหมัวมัวได้เห็นสร้อยแม่กุญแจอายุมั่นขวัญชุดนั้น ก็คุกเข่าลงไปร่ำร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับหัวใจแตกสลาย
องค์หญิงใหญ่ที่ทรงรับแม่กุญแจไปก็กลายเป็นหินไปทั้งร่าง น้ำพระเนตรไหลรินอย่างไม่อาจระงับ หยาดหยดลงบนหิมะจนจับเป็นน้ำแข็ง
โทสะทั้งหลายไม่อาจเทียบได้กับความเจ็บปวดโศกเศร้าที่ได้รับ ยามนี้ แม้แต่ดาบในหัตถ์ของนางยังร่วงหล่นลงบนพื้นหิมะ พระองค์ได้แต่ทอดพระเนตรมองกุญแจอายุมั่นขวัญยืนชุดนั้น
นางกระอักไอออกมา จนแทบจะเป็นเลือด
เมื่อต่างเห็นสภาพของเจ้านายและบ่าวรับใช้เป็นเช่นนี้ ในใจของผู้คนทั้งหลายก็เกิดความกระจ่างขึ้นมา ท่านหญิงน้อยสิ้นแล้ว นางตายด้วยน้ำมือของตู๋กูซิงหลัน
” นางปีศาจ เจ้าก็คือนางปีศาจที่ควักหัวใจ ดื่มเลือดนั่นจริงๆ ด้วย! ” ท่านรอมมหาเสนาฯ สบช่อง ก็ฟ้องร้องขึ้นมาทันที
เขาถอยหลังไปหลายก้าวในทันที แสดงท่าทีว่าหวาดกลัวนางปีศาจ
เสียนไท่เฟยเองก็มองดูตู๋กูซิงหลันด้วยพระพักตร์ซีดขาว ท่าทางไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เห็นได้ “ไทเฮา นี่เป็นเจ้าจริงๆ ……”
คำพูดนี้แม้จะตรัสไม่จบ แต่ก็สามารถทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างเข้าใจความหมายได้
ก่อนหน้านี้เพียงแค่มีข่าวลือเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้หลักฐานกลับถูกพวกเขาทั้งหลายค้นพบขึ้นมาแล้ว!
เล่าลือกันว่าในโลกนี้มีวิชาเล้นลับอยู่วิชาหนึ่ง ที่ใช้โลหิตจากหัวใจของเด็กน้อยเพื่อบำรุงรักษาความเยาว์วัยไม่ให้เสื่อมถอย ความงดงามเลอโฉมของตู๋กูซิงหลันก็คงจะเป็นเพราะอาศัยวิชาที่น่ารังเกียจมาเกื้อหนุน!
ยามนี้เมื่อผู้คนทั้งหลายมองไปยังดวงหน้าของนาง ต่างก็มีแต่ความหวาดกลัวและขยะแขยง!
ยิ่งเมื่อคิดย้อนกลับไปว่า นางอาศัยกำลังของตนเองเพียงลำพังแบกฮ่องเต้และอี้อ๋องออกมาจากในสุสาน เรื่องเช่นนี้เดิมทีก็นับว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว พวกเขาไยจึงได้โง่เช่นนี้ ถึงไม่ได้ฉุกคิดได้แต่แรกว่านางเป็นปีศาจ!
” นางปีศาจสมควรต้องตาย มันสร้างความวุ่นวายในแคว้นต้าโจว จะต้องเอาไฟเผาให้ตาย! ไม่อาจปล่อยนางไว้ให้ทำร้ายผู้อื่นได้อีก! ” ท่านรองมหาเสนาฯ ตะโกนด้วยความชิงชัง
เมื่อถูกเขาชี้นำขึ้นมา ผู้คนทั้งหลายก็เกิดอารมณ์ร่วมด้วย
“เผานางปีศาจให้ตายเสีย! “
แม้แต่ท่านหญิงน้อยนางยังไม่ละเว้น เช่นนี้แล้วยังจะมีผู้อื่นอยู่ในสายตาอีกหรือ?
หากว่าปล่อยทิ้งไว้ แคว้นต้าโจวเกรงว่าจะต้องจบสิ้นกันแล้ว!
หลี่กงกงที่อยู่ด้านข้างตัวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เขาอยากจะไปดูว่ายามนี้ฝ่าบาททรงมีพระอามรณ์เช่นใด เขาไม่เชื่อหรอกว่าไทเฮาจะทรงเป็นนางปีศาจ! น่าเสียดายแม้ว่าเขาจะพยายามทำคอยืดคอยาวอย่างไร ก็ยังมองเข้าไปไม่เห็นฝ่าบาท หากว่าฝ่าบาทเองก็ไม่ทรงส่งเสียงใดออกมา หรือว่าจะทรงยอมปล่อยให้คนพวกนี้ทำร้ายไทเฮาน้อยหรือ?
“หนิงเอ๋อร์ของข้าถูกนางมารผู้นี้ให้ร้ายจริงๆ ด้วย! อี้อ๋องเองก็เป็นผู้บริสุทธ์! เผานางปีศาจที่ทำร้ายแคว้นต้าโจว! ” รองมหาเสนาฯ ร่ำร้องต้อไป
“เผา! เผา! เผา! สมควรทำเพื่อท่านหญิงน้อย!
ยามนั้น องค์หญิงใหญ่พลันเริ่มรู้สึกองค์ขึ้นมา พระองค์หันกลับไปจดจ้องตู๋กูซิงหลัน สานพระเนตรเปี่ยมไปด้วยแววอาฆาต ดาบบนพื้นถูกยกขึ้นมา ชี้ไปยังนาง “ตู๋กูซิงหลัน ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต อย่าได้คิดหลบหนี! “
ตู๋กูซิงหลันไม่ตอบคำ เพียงทอดถอนใจออกมา “น่าเสียดายต้นเหมยของข้าจริงๆ “
“ซุ่นเอ๋อร์ของข้าตายด้วยน้ำมือของเจ้า! เจ้ายังจะมาคิดเสียดายต้นไม้อีก? ” ในอกขององค์หญิงใหญ่มีแต่ความปวดร้าว อยากจะแทงนางให้ตายไปในดาบเดียว
พระองค์ยกดาบขึ้นมา สาวพระบาทเข้ามาตู๋กูซิงหลัน ขณะที่เกือบจะมาถึงด้านหน้าใช้ดาบแทงทะลุหัวใจของนางนั้น
ภายในห้อง สายพระเนตรของจีเฉวียนพลันทอประกายรุนแรงออกมา
ขณะเดียวกันต้นทางเดินของระเบียงยาวก็มีเสียงดังมาว่า……