ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1482 ลูกเต้าเหล่าใคร

ตอนที่ 1482 ลูกเต้าเหล่าใคร

ตอนที่ 1482 ลูกเต้าเหล่าใคร

น้ำตาของเจียงจื่อหยวนพลันหยุดไหล ก่อนจะเบนสายตามองหรงซิวอย่างตกตะลึง

ทดสอบ?

ทดสอบอะไรกัน?

ไป๋หลี่ฉุนเองก็คิ้วขมวดเช่นกัน ดูราวกับว่าไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง

“โอรสสวรรค์ หรือว่าเจ้ายังคงสงสัยเรื่องตัวตนของหยวนหยวนอยู่อีก?”

เมื่อครู่เขาเพิ่งยอมรับด้วยตัวเองไปแล้วแท้ๆ ทั้งยังพูดอย่างชัดเจนว่าเจียงจื่อหยวนคือหลานในไส้ของเขา!

แค่พูดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าคนเยอะปานนี้ก็ทำให้หนังหน้าแก่ๆ ของเขาอับอายมากเกินพอแล้ว

หากไม่ใช่เรื่องจริง เขาจะทำเช่นนี้ไปเหตุใด?

หรงซิวเอ่ยกลั้วหัวเราะ

“ท่านประมุข ท่านอย่าได้เข้าใจผิด ข้าแค่ทำตามกฎเท่านั้น อย่างไรเสียเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสายเลือดผู้สืบทอดของพระราชวังเมฆาสวรรค์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องเข้มงวดกวดขันสักหน่อย”

“อย่างไรเสีย ขอแค่ยืนยันสายเลือดของนางได้ นางก็สามารถจดจำบรรพชนทั้งกลับตระกูลได้อย่างเปิดเผยแล้วมิใช่หรือไรกัน?”

ที่เจียงจื่อหยวนต้องเผชิญ ไม่ใช่แค่คำไต่ถามหาคำอธิบายของเขา หากแต่เป็นทุกคนที่อยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์!

อาศัยแค่คำพูดไม่กี่คำ ย่อมไม่มีทางทำให้คนปักใจเชื่อได้อย่างแน่นอน

อารมณ์โทสะของไป๋หลี่ฉุนลดลงไปบ้างแล้ว

หลังจากไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้วรอบหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ผงกศีรษะ

“หยวนหยวนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ร่างกายกำลังอ่อนแอ เจ้าทำสิ่งใดก็ระวังหน่อย”

หางคิ้วของหรงซิวเลิกขึ้นน้อยๆ

“แค่การทดสอบสายเลือดนั้นง่ายดายยิ่ง ท่านมิจำเป็นต้องเป็นกังวล”

ไป๋หลี่ฉุนมิได้ตกปากรับคำแต่อย่างใด กลับกันเขาเสสายตามองเจียงจื่อหยวน ตบมือของนางเบาๆ

“หยวนหยวน เจ้าอดทนต่ออีกสักหน่อย เดี๋ยวตอนเย็นพวกเราก็ได้กลับแล้ว”

เมื่อก่อนเขาห่วงภาพลักษณ์ตัวเองยิ่งกว่าอะไร และทำได้แค่ปกปิดเรื่องนี้ลงส่วนลึกของจิตใจ

ทว่ามาตอนนี้ มีแต่ต้องทำเช่นนี้เท่านั้น เพื่อปกป้องเจียงจื่อหยวน

ไม่ว่าคนรอบข้างจะพูดเช่นไร เขาก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว!

เจียงจื่อหยวนรู้สึกตื้นตันยิ่งนัก

จะอย่างไรนางก็คิดไม่ถึงเลยว่าร่างกายของตนปกปิดความลับเช่นนี้เอาไว้อยู่ด้วย!

คุณหนูใหญ่แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์…

ต่อให้นางมิอาจครองตำแหน่งพระชายา หากแต่ภายหลังมีตำแหน่งนี้คอยคุ้มหัว นางก็ไม่ต้องถูกคนรังแกหรือทำให้อับอายอีกต่อไปแล้ว!

“ท่านตา ท่านดีกับข้ามากจริงๆ!”

ไป๋หลี่ฉุนได้ยินดังนั้นก็พึงพอใจอย่างมาก เอ่ยแกมหัวเราะว่า

“เจ้าเป็นครอบครัวคนเดียวของตา ไม่ทำดีกับเจ้าแล้วจะให้ทำดีกับผู้ใด?”

ฉู่หลิวเยว่ยืนมองอยู่ข้างๆ มุมปากยกขึ้นน้อยๆ

ตาหลานคู่นี้จำอีกฝ่ายไว้รวดเร็วเสียจริง

โดยเฉพาะเจียงจื่อหยวน สภาพจิตใจของนางนับว่าไม่เลวทีเดียว

คราก่อนเพิ่งจะเห็นบิดาตัวเองตายอนาถต่อหน้าต่อตา ภายหลังก็มาเรียกไป๋หลี่ฉุนว่าท่านตาอย่างสนิทสนมแล้ว

ดูไปแล้วนางคงดีอกดีใจมากจริงๆ ถึงได้ฉีกยิ้มเริงร่าปานนั้นอยู่ไม่ไกล ทั้งที่ศพบิดานางยังไม่ทันจะเย็นเฉียบเสียด้วยซ้ำ

แต่ถ้าลองใคร่ครวญดูแล้วก็ไม่ผิดแผกนัก ท่ามกลางสภาพจนตรอกถึงขีดสุด กลับได้พบเจอแสงสว่างดั่งทางออกของชีวิต

เป็นใครก็คงดีอกดีใจกันทั้งนั้นกระมัง?

“ท่านประมุข รบกวนท่านหลบไปก่อนเถิด”

หรงซิวเอ่ยปาก

ไป๋หลี่ฉุนจึงถอยหลังไปหลายก้าว

เพียงแต่ภายในนัยน์ตานั้นไร้ซึ่งความหวาดกลัวและแววระแวดระวังอย่างแต่ก่อนแล้ว

นางมิใช่คุณหนูใหญ่เจียงแล้วอย่างไรเล่า!

จากนี้ต่อไป นางก็คือผู้สืบทอดสายตรงของพระราชวังเมฆาสวรรค์!

ความมั่นใจของเจียงจื่อหยวนเพิ่มขึ้นล้นหลามในพริบตา ราวกับว่ามันช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดบนร่างได้ไม่น้อยทีเดียว

“ฝ่าบาท”

หรงซิวหลับตาลงแผ่วเบา ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเล็กน้อย

แสงสีทองประกายวิบวับแผ่ออกจากกลางฝ่ามือของเขาไปรวมตัวกันอยู่ ณ กลางอากาศอย่างรวดเร็ว!

จากนั้น นาฬิกาหินทรงกลมขนาดใหญ่เท่าฝ่ามืออันหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าของเขา!

เปลวเพลิงสีทองที่แผดเผาเหนือตัวนาฬิกาก็มารวมตัวกันบริเวณใจกลาง ก่อนจะแปรสภาพเป็นเข็มที่แสนประณีตหาสิ่งใดเปรียบเล่มหนึ่ง!

ฉู่หลิวเยว่ที่ยืนมองข้างๆ รู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

เจ้านาฬิกาหินอันน้อยนี้ดูไปแล้วช่างคล้ายคลึงกับนาฬิกาไร้กาลเวลาที่ได้เห็นในตอนนั้นยิ่งนัก

ด้านบนของมันมีตัวเลขสิบสองตัวและเข็มหนึ่งเล่มเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน

สิ่งนี้อาจเป็นของที่ใช้ตรวจสอบสายเลือดของพระราชวังเมฆาสวรรค์ก็เป็นได้?

ราวกับรับรู้ได้ถึงสายตาของนาง หรงซิวค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ก่อนจะอมยิ้มพลางมองนางแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยอธิบายอย่างใจเย็น

“นี่คือนาฬิการองของนาฬิกาไร้กาลเวลา ใช้ทดสอบระดับความเข้มข้นของสายเลือดสมาชิกตระกูลในพระราชวังเมฆาสวรรค์โดยเฉพาะ ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งพิสูจน์ว่าสายเลือดของคนผู้นั้นบริสุทธิ์มาก”

ยิ่งสายเลือดบริสุทธิ์มากเท่าไร สถานะภายในตระกูลก็ยิ่งสูงมากเท่านั้น

ฉู่หลิวเยว่ผงกศีรษะรับ

ที่แท้ก็มีความเกี่ยวข้องกับนาฬิกาไร้กาลเวลาด้วยนี่เอง

เพียงแต่นาฬิกาอันนั้นสามารถทดสอบพลังแห่งสายเลือดของใครก็ได้ หากแต่นาฬิการองอันนี้จะใช้กับสมาชิกตระกูลพระราชวังเมฆาสวรรค์โดยเฉพาะ

“วางมือของเจ้าลงบนนี้ ถือเป็นอันใช้ได้แล้ว”

ของสิ่งนี้มิจำเป็นต้องรับการถ่ายโอนพลังปราณดั้งเดิมแต่อย่างใด ตราบที่ใช้เลือดของคนคนนั้นละเลงลงไป มันก็จะสำแดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นเร็วทันใจ

มือของเจียงจื่อหยวนเต็มไปด้วยคราบเลือดเปรอะเปื้อน วางลงไปตรงๆ ก็ใช้ได้แล้ว นับว่าลดเรื่องยิบย่อยลงไปได้มากทีเดียว

เจียงจื่อหยวนจ้องนาฬิการองตาไม่กะพริบ รู้สึกประหม่าและตื่นเต้นอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

ก่อนหน้านี้นางเองก็ไม่เคยเห็นนาฬิการองอันนี้ผ่านตา ทั้งยังไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีวันนี้ได้!

นางกลั้นลมหายใจ ก่อนจะวางฝ่ามือของตนลงไปอย่างระมัดระวัง

หึ่ง!

ชั่วพริบตาที่สัมผัสโดน นาฬิการองพลันส่งเสียงหึ่งออกมา!

ดวงใจของเจียงจื่อหยวนประหนึ่งว่าถูกอะไรบางอย่างบีบรัดไว้แน่น ตาก็จ้องมองไม่กะพริบแม้สักเสี้ยว

บุตรหลานเชื้อสายตรงของพระราชวังเมฆาสวรรค์ปกติแล้วจะอยู่ที่ระดับหกไม่ก็เจ็ด

หากว่าโดดเด่นน่าจับตาขึ้นมาหน่อย ก็อาจสูงถึงแปด

หากไปถึงระดับเก้าได้ สถานะและการปรนนิบัติจากภายในตระกูลย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

อีกทั้งก็ไม่รู้เช่นกันว่านางจะทดสอบได้ระดับใด…

ไป๋หลี่ฉุนเองก็กำลังมองดูอยู่เช่นกัน

แม้นพรสวรรค์ของสตรีที่อยู่กินกับเขาในตอนนั้นจะธรรมดาสามัญ แต่พลังสายเลือดของเขาเข้มข้นนัก ไม่น่าส่งผลกระทบใหญ่โตอะไร

อีกอย่างดูจากพรสวรรค์อันน่ามหัศจรรย์ใจของเจียงจื่อหยวนยามก่อนหน้านี้แล้ว อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะไปถึงระดับแปดได้

ทว่า เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เข็มสีทองบนนาฬิการองก็ยังคงนิ่งเฉยมิขยับเขยื้อน

เจียงจื่อหยวนออกจะงุนงงอยู่ไม่น้อย นางเสสายตามองไป๋หลี่ฉุน ลอบรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมารางๆ

ไป๋หลี่ฉุนเอ่ยว่า

“หยวนหยวน เจ้าลองเปลี่ยนไปใช้มืออีกข้างดูสิ”

เจียงจื่อหยวนทำตามดั่งที่เขาว่า

ทว่ามาครั้งนี้ เข็มบนนาฬิการองกลับหยุดอยู่ที่ตำแหน่งแรกสุด

เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้?

ไป๋หลี่ฉุนสาวเท้าเตรียมจะก้าวขึ้นมาด้านหน้า

“นาฬิการองนี่มีปัญหาแล้ว”

เจียงจื่อหยวนขบกรามแน่น ก่อนจะเอามือสองข้างวางทาบลงไปทั้งอย่างนั้น

นางมิอยากเชื่อว่าตัวเองมิอาจทำให้นาฬิการองมันขยับได้!

เคร้ง!

ทันทีที่สองมือของเจียงจื่อหยวนยื่นออกไป นาฬิการองพลันเคลื่อนตัวถอยหลัง!

เข็มสีทองเล่มนั้นส่งเสียงแตกละเอียด!

กลุ่มประกายแสงเคลื่อนผ่าน นาฬิการองลอยกลับไปอยู่เบื้องหน้าของหรงซิวในทันใด!

หรงซิวเสสายตามองรอบหนึ่ง ดวงหน้าคล้ายยิ้มคล้ายมิยิ้ม

“เข็มนาฬิการองแตกสลายไปเอง แปลว่ามันสัมผัสได้ถึงสายเลือดแปลกปลอมนอกตระกูล ท่านประมุข เจียงจื่อหยวน…ดูจะไม่มีสายเลือดของคนจากพระราชวังเมฆาสวรรค์ตระกูลเรา! เกรงว่าท่านคงมิได้…สับสนไปแล้วหรอกกระมัง?”

ใครจะไปรู้ได้ว่าเจียงจื่อหยวนผู้นี้เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันแน่!

ไป๋หลี่ฉุนหน้าถอดสีในบัดดล!

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Score 10
Status: Completed
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

Options

not work with dark mode
Reset