ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1477 หรงซิวลงมือ

ตอนที่ 1477 หรงซิวลงมือ

ตอนที่ 1477 หรงซิวลงมือ

เมื่อได้ยินเสียงนี้ หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกคราหนึ่ง พลันผินหน้าทอดมองไป

ผู้อาวุโสหลายคนมองเห็นรูปลักษณ์ของนางได้ชัดเจนยิ่งกว่าภายในเวลาอันสั้น

จากนั้น หลังจากความตื่นตะลึงและความปรีดาอันฉับพลัน หลายคนกลับบังเกิดความไม่มั่นใจขึ้นหลายส่วน

ใบหน้านี้…

แท้จริงแล้วมีความคล้ายคลึงกับเด็กสาวในความประทับใจผู้นั้นเจ็ดแปดส่วน โดยเฉพาะลักษณะคิ้วตานั้น ที่เหมือนสลักออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเลย

แต่…คล้ายว่าช่วงวัยจะไม่ถูกต้องน่ะสิ!

หลายปีผ่านไป สาวน้อยผู้นั้นอย่างไรก็ต้องยี่สิบกว่าแล้ว แต่ซั่งกวนเยว่ที่กำลังยืนอยู่กลางลานกว้างในเวลานี้ ชัดแจ้งว่าเพียงสิบเจ็ดสิบแปดหนาว

“เหมือนว่าจะมีตรงไหนไม่ถูกต้อง…”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงพึมพำเสียงต่ำอย่างอดไม่ได้

“นะ…นางไม่ใช่นางหนูเยว่เออร์…กระมัง”

อันที่จริงแล้วในใจเขาก็ไม่อาจยืนยันได้

หลายเดือนมานี้ เขาและนางก็นับว่าคุ้นเคยกัน ระหว่างนั้นยังมีหลายครั้งที่เขารู้สึกว่ามองเห็นเงาร่างอันคุ้นเคยสายหนึ่งจากบนร่างของนางจริงๆ

ทว่าความคิดเหล่านั้นก็ถูกเขาขจัดไปอย่างรวดเร็ว

รูปโฉม อายุ ลมปราณ!

ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ล้วนไม่เหมือนกัน!

อีกทั้ง ถ้านางก็คือนางจริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นในช่วงเวลาที่ยาวนานก่อนหน้านี้ เหตุใดพวกเขาทั้งหมดล้วนไม่ค้นพบจุดนี้เลยเล่า

ที่สุดแล้วเป็นเพราะทักษะการแสดงของนางดีเยี่ยมเกินไป หรือว่า…เป็นคนละคนกันแน่

เขานิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง พลันเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้

“ไม่ใช่นาง ก่อนหน้านี้นางขึ้นไปอยู่บนตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นแล้ว”

หากว่าเรื่องราวเป็นอย่างที่พวกเขาคาดเดาจริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นในยามนั้น นาม ‘ฉู่เยว่’ นั่นของนาง ก็ไม่อาจปรากฏอยู่บนตารางชิงอวิ๋นได้สำเร็จ!

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงพลันชะงัก

“แต่…นี่ช่างจะเหมือนเกินไปแล้ว!”

ไม่ใช่เพียงรูปโฉม ที่ยิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือลักษณะ ไหนจะอารมณ์ความรู้สึก!

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำนักหลิงเซียวไม่เคยปรากฏผู้ฝึกตนที่สามารถสร้างความโกลาหลให้พวกเขาได้เพียงนี้ และมีเพียงสองคนนี้เท่านั้น!

ไม่แปลกที่จะทำให้พวกเขาสงสัย

“วั่นเจิง เจ้าเห็นว่าอย่างใด?”

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเอ่ยถามเสียงต่ำ

ในฐานะอาจารย์ สิ่งที่รู้ก็น่าจะมากกว่าพวกเขาอยู่จำนวนหนึ่งกระมัง

ผู้อาวุโสวั่นเจิงกลับไร้วาจาอยู่เนิ่นนาน ทำเพียงจดจ้องฉู่หลิวเยว่ที่อยู่บนลานอย่างเขม็งเกลียวเท่านั้น

ความคิดนับไม่ถ้วนวาบประกายพาดผ่านไปท่ามกลางห้วงความคิดของเขา สับสนและอลหม่าน

แต่ในตอนที่เขาต้องการจะหวนระลึกอย่างละเอียดรอบหนึ่งนั้น กลับเป็นความว่างเปล่าผืนหนึ่งอีกครั้ง

เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มากมายเกินไป เวลานี้ตัวเขาทั้งกายล้วนโง่งมแล้ว

“วั่นเจิง?”

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนร้องเรียกเขาอย่างร้อนใจ

ผู้อาวุโสวั่นเจิงขยับริมฝีปากเล็กน้อย สุดท้ายก็เปิดปากอย่างยากลำบาก

“หากว่าเป็นนางจริง…เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นเป็นศิษย์น้องของข้าน่ะซี”

พวกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนหลายคนนึกไม่ถึงว่าเขาจะคิดเรื่องนี้ ในช่วงเวลาแบบนี้ ลมหายใจพลันสะดุดไร้วาจาอยู่ชั่วครู่

ผ่านไปสักพัก ผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็ตบไหล่ของเขาเบาๆ

“แล้วแต่บุญแต่กรรมเถิด!”

ฉู่หลิวเยว่ได้เสียงสนทนาของพวกเขาอยู่เลือนราง นางทั้งจนปัญญาทั้งขบขันอยู่ครู่หนึ่ง

นางรู้ว่าพวกเขากำลังเห็นอะไร และยังรู้ด้วยว่าพวกเขากำลังคาดเดาอะไร

ครั้นได้เห็นดวงหน้าที่คล้ายคลึงกับเมื่อก่อนอย่างถึงที่สุดดวงนี้ ย่อมไม่หลีกเลี่ยงความสงสัยได้

หลังจากเรื่องราวเหล่านี้จบลง ค่อยไปอธิบายกับพวกเขาแล้วกัน…

ฉู่หลิวเยว่คิดถึงตรงนี้ พลันหันไปมองเจียงเห่อเทียนใหม่อีกครั้ง

ยามนี้ เจียงเห่อเทียนถูกทำให้โกรธเกรี้ยวแลเคียดแค้นเสียจนกู่ไม่กลับ

เดิมทีเขาวางแผนมาที่นี่เพื่อเปิดโปงซั่งกวนเยว่ต่อหน้าผู้คน แล้วเหยียบนางไว้ใต้ฝ่าเท้าอย่างโหดเหี้ยม

และหากอาศัยโอกาสนี้ ฉุดดึงตำแหน่งพระชายาลงมาได้ ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก

ปลอมแปลงตัวตน หลอกลวงผู้คน สิ่งนี้ล่วงเกินมากน้อยตั้งเท่าใด

แต่เขาไม่คาดคิดเลยแม้แต่น้อยว่า ซั่งกวนเยว่ผู้นี้จะไม่ใช่คนอ่อนแอดั่งลูกท้อนิ่มๆ

ไม่เพียงแต่นางจะไม่ละอายและทุกข์ทนจากการถูกเปิดโปงแล้ว แต่ยังหาญกล้าเสียยิ่งกว่า กระทั้งลงมือกับเขาโดยตรงได้!

และถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิตเขา!

นี่นางมั่นใจมาจากไหนกัน!

เจียงเห่อเทียนโกรธเกรี้ยวเสียจนลั่นหัวเราะ ผินหน้ามองไปยังหรงซิว

“โอรสสวรรค์ สถานการณ์ในเวลานี้ ท่านก็ล้วนมองเห็นแล้ว หรือท่านไม่มีอันใดอยากเอื้อนเอ่ยเลยหรือ?”

เขาไม่เชื่อว่าหรงซิวจะละทิ้งทั้งเซียนสุ่ยหลิงเพื่อซั่งกวนเยว่คนเดียว!

เสียงของเขาทุ้มต่ำเกียจคร้าน ราวกับสายลมพัดผ่านสายพิณ สง่างามและเสนาะหู

ทว่าวาจาที่เอ่ยออกมานั้น ทุกถ้อยคำกลับแหลมคมดุจมีด เยียบเย็นน่าหวั่นหวั่น!

จิตสังหารอันสะท้านสะเทือน แผ่ขยายออกมาเกินปกติ!

ชั้นบรรยากาศรอบจตุรทิศ แต่ละชุ่นต่างจับตัวเป็นน้ำแข็ง

เสียงโหวกเหวกวุ่นวายทั้งหลายพลันเลือนหายไปในชั่วพริบตา

ภาพฉากราวกับว่าชะงักค้าง

สีหน้าที่มองไปยังหรงซิวของทุกคน ล้วนเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและเหลือเชื่อ

ประหาร…

เมื่อครู่หรงซิวเพิ่งจะเอ่ยสองคำนี้กระมัง!

เจียงเห่อเทียนเองก็โง่งมแล้ว

เดิมทีเขาคิดจะใช้อำนาจของเซียนสุ่ยหลิงให้หรงซิวออกหน้า แต่คิดไม่ถึงว่า หรงซิวจะถึงกับยืนอยู่ข้างซั่งกวนเยว่นั่นอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย!

ถึงขนาดเอ่ยวาจาตัดสินประหารเขา!

เขาเป็นโอรสสวรรค์ของพระราชวังเมฆาสวรรค์!

ทุกประโยค ทุกถ้อยคำ ล้วนเป็นกฎทองคำบัญญัติหยก ไม่อาจขัดขืน!

เขาบอกว่า…จะประหารเขาหรือ!

“โอรสสวรรค์!”

เจียงเห่อเทียนแผนเสียงสูงในทันที แหลมคมเสียจนเสียดหูอยู่บ้าง

“ท่าน…จะละทิ้งเซียนสุ่ยหลิงจริงๆ หรือ!”

เซียนสุ่ยหลิงยังเป็นผู้นำของยี่สิบแปดเผ่า หากหรงซิวแตกหักกับเขา เช่นนั้นเซียนสุ่ยหลิงก็จะต้องพัวพันกับความโกลาหลครั้งใหญ่!

เหตุใดหรงซิวจะไม่เข้าใจเหตุผลนี้

ทว่า หรงซิวที่ได้ยินวาจานั้น กลับทำเพียงกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อยโดยพลัน พลางเลิกคิ้วมองไปยังเจียงเห่อเทียน

“ท่านประมุขเจียง วาจานี้ ควรจะเป็นข้าถามเจ้าถึงจะถูก ตั้งแต่เจ้าเริ่มสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูภายนอก เจตนาลอบวางแผนสังหารพระชายา กระทั่งคิดอยากจะควบคุมพระราชวังเมฆาสวรรค์…เจ้าก็ควรจะคิดถึงวันนี้ด้วย!”

เจียงเห่อเทียนราวตกลงไปในโพรงน้ำแข็ง!

“ทะ ท่านพูดอันใด…”

เขาพลันเกิดความหวั่นใจขึ้นมา แม้แต่เสียงก็ล้วนกำลังสั่นเทา!

หรงซิวหยัดกายยืนขึ้น

ร่างของเขาสูงส่งตรงตระหง่าน เพียงแค่ยืนขึ้น กลิ่นอายสูงศักดิ์นี้พลันกดดันคนทั้งหมด พลังอำนาจกดทับพรั่งพรู เกิดแรงกดดันอันแข็งแกร่งถึงที่สุดในชั่วพริบตา!

“เยว่เออร์ มานี่”

เขาโบกมือไหวไปทางฉู่หลิวเยว่

ฉู่หลิวเยว่ยกเท้าก้าวไปทางเขา

หรงซิวเช็ดหยดเลือดที่กระเซ็นมาถูกปรางแก้มของนางอย่างระมัดระวัง

ท้องนิ้วอุ่นร้อน การกระทำบงการหากแต่นุ่มนวล และยังแฝงไว้ด้วยความเผด็จการสูงอันไม่อาจบรรยายได้

ประดาผู้คนต่างตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

ใครเล่าจะเคยเห็นโอรสสวรรค์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ ผู้เข็มงวดเฉียบขาดผู้นี้ ปรนนิบัติคนผู้หนึ่งได้อย่างอ่อนโยนระมัดระวังถึงเพียงนี้

ทันใดนั้น เขาก็มองไปยังเจียงเห่อเทียนอีกครั้ง สายตานิ่งเรียบถึงขีดสุด

“ข้าให้เวลาพวกเจ้าบิดาบุตรีครึ่งเค่อ ทำการบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย รวมถึง…ตัดสินใจว่าใครจะเป็นคนรับความตายก่อน”

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Score 10
Status: Completed
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

Options

not work with dark mode
Reset