ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 978 ธรรมชาติของการสื่อวิญญาณ (2)

บทที่ 978 ธรรมชาติของการสื่อวิญญาณ (2)

‘พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ ความปรารถนา​ที่​เรา​ต้องการ​มาก​ที่สุด​ดูเหมือน​จะเป็นการ​กลับ​โลก​ใบ​เดิม​’

ลู่​เซิ่งสะท้อนใจ​

นึกไม่ถึง​ว่า​จุติ​มาหลาย​โลก​ สิ่งที่​เขา​ต้องการ​อย่าง​แท้จริง​คือ​การ​กลับ​ไป ณ จุด​แรก​สุด​

กลับ​ไปหา​ครอบครัว​ธรรมดา​ที่​พ่อแม่​ยัง​แข็งแรง​ และ​น้องสาว​ที่​ดื้อรั้น​

แม้น้องสาว​จะไม่เชื่อฟัง​ ถึงพ่อแม่​จะไม่ค่อย​สบาย​ แต่​ก็​ยัง​ขยัน​ทำงาน​หาเงิน​ ทว่า​บ้าน​หลัง​นั้น​ก็​เป็น​สถานที่​ที่​อบอุ่น​ที่สุด​เสมอมา​สำหรับ​เขา​

‘คน​เขา​ถึงพูดว่า​…’ ลู่​เซิ่งใช้ความคิด​ รอบตัว​พลัน​มืด​ลง​อีกครั้ง​

‘เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ยาก​จะเติมเต็ม​’

สิ่งที่​ปรากฏ​เป็น​ครั้ง​ที่สาม​คือ​ปาก​ใหญ่​ที่​กำลัง​อ้า​ๆ หุบ​ๆ

ปาก​ใหญ่​เหมือน​เคี้ยว​อะไร​บางอย่าง​ ตอน​อ้า​จะเห็น​ฟัน​ที่​แหลมคม​และ​แปลกประหลาด​หลาย​ชั้น​ด้านใน​ได้​

 

ฟัน​สีขาว​ ฟัน​สีดำ​ ฟัน​สีแดง​ ฟัน​ทรง​รูป​บาศก์​ ฟัน​สามเหลี่ยม​ ฟันกราม​ทรงกลม​ ถึงขั้น​ยังมี​ฟัน​ทรง​จันทร์​เสี้ยว​

ฟัน​นับไม่ถ้วน​เหยียด​ยื่น​เรียง​กัน​อยู่​ใน​ปาก​ใหญ่​เป็นชั้นๆ​

ใน​ความมืด​รอบกาย​ เหมือน​จะมีอะไร​บางอย่าง​กำลัง​ถูก​โยน​ให้​ปาก​ใหญ่​เคี้ยว​กิน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ไม่ขาดสาย​

‘ที่นี่​น่าจะเป็น​ญาณนรก​ ชั้น​สุดท้าย​ของ​สามวิญญาณ​แล้ว​”

“ที่นี่​ใช้กิเลส​ที่​สับสน​มากมาย​เป็นหลัก​ เป็น​ที่เก็บ​และ​ให้กำเนิด​กิเลส​อัน​วุ่นวาย​ เพียงแต่​…แล้ว​เจ็ด​อารมณ์​หก​กิเลส​ล่ะ​”

ลู่​เซิ่งกวาดตา​มอง​ นอกจาก​ปาก​ใหญ่​ตรงหน้า​แล้วก็​ไม่มีสิ่งใด​อีก​

ปาก​ใหญ่​สีดำ​ก็​คือ​การดำรงอยู่​เพียง​หนึ่งเดียว​ใน​ความ​มืดมิด​ผืน​นี้​

ตามเหตุผล​ ผู้ชาย​หรือ​เพศ​ผู้​ทั่วไป​ควร​มีกิเลส​ถึงจะถูก​

ลู่​เซิ่งลนลาน​อยู่​บ้าง​ รีบ​ค้นหา​สัญลักษณ์​การ​คงอยู่​ของ​กิเลส​ไปทั่ว​

ไม่นาน​หลังจาก​อ้อม​รอบ​ปาก​ใหญ่​ไปรอบ​หนึ่ง​ ในที่สุด​เขา​ก็​เจอ​ภาพ​เบลอ​กลุ่ม​หนึ่ง​ตรง​ตำแหน่ง​ที่​มีเงามืด​ปกคลุม​

ขณะ​มอง​ภาพ​เบลอ​ที่​มีรูปร่าง​เหมือนกับ​ไอ้​จ้อน​ ลู่​เซิ่งก็​ทราบ​ว่า​ กิเลส​จะต้อง​เป็น​สิ่งนี้​แน่​

‘นี่​มัน​แตก​ต่างกัน​เยอะ​ไปหน่อย​มั้ง’

เขา​เอือมระอา​อยู่​บ้าง​ ภาพ​เบลอ​ที่อยู่​ข้างใต้​ปาก​ใกล้เคียง​กับ​เม็ด​งา สอง​สิ่งจึงตัดกัน​อย่าง​ชัดเจน​

ความจริง​เขา​เอง​ก็​ทราบ​ดี​ว่า​ สาเหตุ​ที่​เป็น​แบบนี้​ เป็น​เพราะ​ร่าง​หลัก​แข็งแกร่ง​เกินไป​ จึงไม่เจอ​คู่ครอง​ที่​ทน​เขา​ได้​

ถ้าหา​คน​ที่​เปราะบาง​ เกิด​ตอน​มีอะไร​กัน​แล้ว​อดกลั้น​ไม่ไหว​ คุม​ตัวเอง​ไม่อยู่​

ก็​เป็นอัน​จบสิ้น​ ทั้ง​สาว​ทั้ง​ดา​วจะ​แหลก​ไปพร้อมกัน​

อสุจิ​ที่​หลั่ง​ออกมา​สามารถ​ทำลาย​ระบบ​ดาวฤกษ์​ได้​หลาย​ระบบ​ ถ้าไม่มีผู้ยิ่งใหญ่​มายา​พิศวง​คอย​ควบคุม​ล่ะ​ก็​

ดังนั้น​จึงถือว่า​ลู่​เซิ่งทำ​อย่าง​ว่าไม่ได้​ เพราะ​นี่​คือ​การ​ทำลาย​เผ่าพันธุ์​แบบ​หนึ่ง​

มีหลายครั้ง​ที่​เขา​รู้สึก​โชคดี​เพราะ​ให้กำเนิด​ลู่​หนิง​กับ​เฉินอวิ๋น​ซีได้​

ไม่อย่างนั้น​หาก​ช้ากว่า​นี้​หน่อย​ เกรง​ว่า​จะไม่ทัน​กาล​แล้ว​

ลู่​เซิ่งได้สติ​กลับมา​ มองดู​ภาพ​เบลอ​กลุ่ม​นี้​ พลาง​เกิด​ความรู้สึก​ถึงวิกฤติการณ์​มากขึ้น​ๆ

‘ไม่ได้​! เป็น​แบบนี้​ต่อไป​ฉัน​คง​นกเขา​ไม่ขัน​แน่​”

“จำได้​ว่า​ครั้ง​ล่าสุด​ที่​ทำ​เรื่อง​อย่างว่า​คือ​เมื่อ​หนึ่งร้อย​กว่า​ปีก่อน​ แต่​ถ้านับ​เวลา​ที่​จุติ​ไปยัง​โลก​ใบ​เล็ก​ๆ ความจริง​ผ่าน​มามากกว่า​พันปี​แล้ว​…”

“นึกไม่ถึง​ผ่าน​ไปแค่​พันปี​จะหด​ถึงขนาด​นี้​…ดี​ที่​ตอนนี้​มาถึงโลก​ใบ​นี้​แล้ว​”

หวัง​จิ้งใน​ฐานะ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ เป็น​ตัวตน​ที่​ทำลาย​ทุกสิ่ง​อยู่แล้ว​ พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​ด้านใน​ตัว​ เป็น​พลังงาน​แข็งแกร่ง​ระดับ​เดียว​กับ​พลัง​เทพ​นอกรีต​ ขอ​แค่​มีพลัง​แข็งแกร่ง​มาก​ ก็​จะทน​การทำงาน​อัน​น่ากลัว​กับ​พลัง​กลืน​กิน​ของ​อสุจิ​เขา​ได้​

บวก​กับ​เธอ​อยู่​มานาน​กว่า​ลู่​เซิ่ง จึงมีความ​เป็นผู้ใหญ่​และ​ไม่อารมณ์ร้าย​ แม้จิตใจ​จะมีปัญหา​เล็กน้อย​ แต่​ไม่สำคัญ​ ถ้าทำได้​ก็​ทำ​

ลู่​เซิ่งใจลอย​อีกครั้ง​ รอ​เขา​ได้สติ​กลับมา​ก็​ค้นพบ​อย่าง​ฉงนใจ​ว่า​ ภาพ​เบลอ​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ใหญ่​ขึ้น​นิดหน่อย​

‘ยัง​ช่วย​ได้​!’ เขา​ยินดี​

จิต​ค่อยๆ​ ถอย​ออกจาก​ส่วนลึก​ของ​วิญญาณ​

ลู่​เซิ่งลืมตา​

‘ดี​ปบลู​’

กรอบ​สีฟ้าของ​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ปรากฏ​ออกมา​ตรงหน้า​

‘สามจิต​ยืนยัน​ส่วน​ที่​ต้อง​เติมเต็ม​ได้​แล้ว​ ทาง​เจ็ด​วิญญาณ​ค่อนข้าง​ง่าย​กว่า​ แบ่ง​เป็น​กิเลส​เจ็ด​ชนิด​ สามจิต​คือ​อาณาเขต​หลัก​ ส่วน​เจ็ด​วิญญาณ​เป็นการ​แบ่ง​กลุ่มย่อย​ๆ’

หลังจาก​ลู่​เซิ่งจัดระเบียบ​ตั้งแต่​บน​ถึงล่าง​ ก็​ยืนยัน​ปัญหา​ของ​ตัวเอง​ได้​แล้ว​ว่า​ มีแต่​ความ​ยึดติด​ที่จะ​กลับ​โลก​ใบ​เดิม​กับ​การ​หดตัว​ของ​ภาพ​เบลอ​เท่านั้น​

ที่​เหลือ​ปกติ​ทุกอย่าง​

เขา​กวาดตา​มอง​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​อย่าง​คุ้นเคย​ ก่อน​จะเจอ​กรอบ​ของ​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ตรง​ด้านล่าง​สุด​

[วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​: ขั้น​ที่​เจ็ด​ (คุณสมบัติพิเศษ​: ชำระ​ธรรมชาติ​)]

ที่​เหลือ​คือ​การ​ใช้วิชา​วิญญาณ​บางส่วน​ที่​ฝึกฝน​อย่าง​ไม่เป็นระเบียบ​ แต่​พวก​นั้น​เป็น​วิธีการ​ใช้วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​

พลัง​วิญญาณ​ที่​ฝึกฝน​จาก​พื้นฐาน​นี้​เป็น​พื้นฐาน​ทั้งหมด​ที่​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ฝึกฝน​

‘วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​สามารถ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​วิญญาณ​และ​เพิ่มปริมาณ​พลัง​วิญญาณ​ได้​’

ลู่​เซิ่งย้อน​นึกถึง​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ใน​ระดับ​เงิน​อย่าง​หวง​ย่า​ วิญญาณ​ของ​เธอ​ทำให้​เขา​รู้สึก​เหมือน​หลอดไฟ​ที่​สว่างไสว​

ตอนนี้​ เขา​โคจร​พลัง​วิญญาณ​มาปกคลุม​ดวงตา​แล้ว​ก้ม​มอง​ตัวเอง​

วิญญาณ​ของ​เขา​ก็​เหมือน​หลอดไฟ​เช่นกัน​ ใกล้เคียง​กับ​ระดับ​ความสว่าง​ของ​หวง​ย่า​ เพียงแต่​อ่อน​กว่า​เธอ​เล็กน้อย​

‘เหมือน​หวง​ย่า​จะฝึกฝน​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​ถึงขั้น​สิบห้า​แล้ว​…’

ตอนนี้​เขา​เพิ่ง​ฝึก​ถึงขั้น​เจ็ด​ก็​สามารถ​เทียบเคียง​กับ​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ขั้น​สิบห้า​ได้​แล้ว​

นี่​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำไม​พวก​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ถึงให้ความสำคัญ​กับ​เขา​ขนาด​นี้​

วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​ พูด​ถึงที่สุด​แล้วก็​คือ​การ​ขุดค้น​ศักยภาพ​ เพื่อ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​วิญญาณ​ผ่าน​การฝึกฝน​

แต่​คน​ที่​มีศักยภาพ​นิดหน่อย​ ต่อให้​ขุดค้น​ต่อ​อีก​ ก็​มีแต่​จะเจอ​ทางตัน​ ทว่า​เขา​เพิ่งจะ​ขุดค้น​ก็​เทียบ​กับ​คน​ที่​ฝึก​ถึงขีด​สูงสุด​ได้​แล้ว​

‘ช่างเถอะ​ ไม่ต้อง​ไปคิดมาก​หรอก​’ ลู่​เซิ่งกด​ความคิด​ลง​บน​ปุ่มปรับเปลี่ยน​

อินเตอร์​เฟซดี​ปบลู​กะพริบ​น้อย​ๆ ก่อน​จะกลับเป็น​แบบ​เดิม​ทันที​

ดี​ปบลู​ใน​ตอนนี้​ร้ายกาจ​กว่า​ตอนแรก​มาก​ ความสามารถ​ที่​ฝังอยู่​ใน​แกนกลาง​ร่าง​ของ​เขา​นี้​เหมือน​จะแข็งแกร่ง​ขึ้น​พร้อมกับ​เขา​

‘ยกระดับ​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​ถึงขั้น​สิบห้า​’ ลู่​เซิ่งใช้ความคิด​ออกคำสั่ง​แก่​ดี​ปบลู​

ฟิ้ว!​

ทันใดนั้น​ก็​มีพลัง​อาวรณ์​ทะลัก​ออก​มาจาก​หน้าอก​เหมือนกับ​น้ำพุ​แล้ว​กระจาย​ไปทั่ว​ร่างกาย​

แม้แต่​จิต​ของ​ลู่​เซิ่งก็​สั่น​ไหว​น้อย​ๆ เหมือนกับ​มีของเหลว​เย็น​ๆ นับไม่ถ้วน​ซึมเข้าสู่​สมอง​ของ​เขา​

จากนั้น​เขา​ก็​รู้สึก​ว่า​จิต​ของ​ตัวเอง​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​เหมือน​ถูก​เป่า

ใหญ่​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ใหญ่​ขึ้น​เรื่อยๆ​…

ความรู้สึก​นี้​เหมือน​การ​ขยาย​ทั่วไป​ ไม่มีความรู้สึก​หวิว​โหวง​ใดๆ​ ของเหลว​ที่​ไหล​สู่จิตใจ​นั้น​เติมเต็ม​วิญญาณ​ของ​ร่าง​ร่าง​นี้​เหมือนกับ​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​เขา​

วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​ใน​กรอบ​ยกระดับ​อย่าง​รวดเร็ว​

ระดับ​แปด​

ระดับ​เก้า​

ระดับ​สิบ​

ระดับ​สิบเอ็ด​

ระดับ​สิบสอง​…

จนถึง​ระดับ​สิบห้า​!

ใช้พลัง​อาวรณ์​ไปราว​หนึ่ง​พันหกร้อย​กว่า​หน่วย​ จึงบรรลุ​ถึงระดับ​สิบห้า​อันเป็น​ระดับ​สูงสุด​

ลู่​เซิ่งลืมตา​ขึ้น​ ทุกอย่าง​ที่อยู่​ตรงหน้า​เหมือนกับ​บิดเบี้ยว​เปลี่ยนแปลง​

วิญญาณ​เดิม​เป็น​แก่นสาร​และ​การ​สะท้อน​ของ​ร่างกาย​ ใน​เมื่อ​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​ได้​ฝึก​ถึงขั้น​ที่​แข็งแกร่ง​ถึงขีดสุด​แล้ว​

เลข​ฐาน​ของ​วิญญาณ​ย่อม​สูงสุดขีด​โดยอัตโนมัติ​

ตอนนี้​ยกระดับ​ถึงขั้น​สิบห้า​ใน​คราว​เดียว​ ปกติ​พลัง​วิญญาณ​ตั้งแต่​ขั้น​เจ็ด​ถึงขั้น​สิบห้า​จะต้อง​เพิ่มขึ้น​ชนิด​พุ่ง​ทะยาน​อย่าง​น้อย​สามครั้ง​

ทุกๆ​ ครั้ง​จะยกระดับ​พลัง​วิญญาณ​ขึ้น​เกือบ​สิบ​เท่า​

พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ หลังจาก​ผ่าน​ไปสามครั้ง​ คนธรรมดา​จะฝึกฝน​วิญญาณ​ของ​ตัวเอง​ให้​เพิ่มขึ้น​กว่า​เดิม​มากกว่า​พัน​เท่า​ได้​

นี่​ยัง​เป็น​ตัวเลข​ต่ำสุด​

ตอนนี้​ลู่​เซิ่งยกระดับ​ถึงขั้น​สิบห้า​ใน​ครั้ง​เดียว​

พลัง​วิญญาณ​ของ​ร่างกาย​จึงเปลี่ยนแปลง​ไป

การ​เพิ่ม​พลัง​มากกว่า​พัน​เท่า​ทำให้​เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​ตัวเอง​เหมือน​กำลัง​ลอย​ขึ้น​

หลังจาก​เขา​รับ​ร่าง​ของ​หวัง​ตง​มาก็​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​ทันที​ วิญญาณ​จึงแข็งแกร่ง​กว่า​คน​ทั่วไป​เกือบ​มากกว่า​พัน​เท่า​เป็น​ทุนเดิม​อยู่แล้ว​

ตอนนี้​ยัง​เพิ่มขึ้น​อีก​มากกว่า​พัน​เท่า​

นี่​ไม่ใช่การบวก​ หาก​เป็น​การคูณ​

ทันใดนั้น​ วิญญาณ​ก็​ขยาย​ขึ้น​กว่า​เดิม​มากกว่า​ล้าน​เท่า​!

ร่าง​วิญญาณ​ที่​ยิ่งใหญ่​และ​บิดเบี้ยว​ไหล​อย่าง​ช้าๆ อยู่​ใต้​ผิวหนัง​ของ​ลู่​เซิ่ง พลัง​วิญญาณ​ที่​ล้ำลึก​บริสุทธิ์​เหมือน​มหาสมุทร​นับไม่ถ้วน​คิด​จะดิ้น​ให้​หลุด​จาก​พันธนาการ​ของ​กาย​เนื้อ​ พุ่ง​ออกจาก​ร่างกาย​มายัง​โลก​ภายนอก​

ดี​ที่​ลู่​เซิ่งเสริม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​กาย​เนื้อ​มาก​พอ​ ขณะเดียวกัน​ผิวหนัง​ก็​ปรากฏ​ลวดลาย​สีแดง​อ่อน​ ผนึก​พลัง​วิญญาณ​ที่​กระจัดกระจาย​ไว้​สุดกำลัง​

หลาย​วินาที​ให้หลัง​ ภายใต้​การ​ประสาน​กับ​ปราณ​ปฐพี​ของ​ร่างกาย​ ในที่สุด​ร่าง​วิญญาณ​ที่​ขยายตัว​มากเกินไป​ก็​หด​ลง​ กลับมา​สอดคล้อง​กับ​กาย​เนื้อ​อย่าง​สมบูรณ์​

ลู่​เซิ่งลืมตา​ขึ้น​ ดวงตา​พลัน​สาด​แสงสีน้ำเงิน​เข้ม​

“สื่อ​วิญญาณ​!”

ด้าน​หลังเขา​ปรากฏ​ดวงตา​ยักษ์​ที่สูง​ถึงสามเมตร​กว่า​ๆ ขึ้น​โดยอัตโนมัติ​

นั่น​คือ​ดวงตา​ประหลาด​สีแดง​ที่​ม่านตา​มีลวดลาย​เหมือน​เปลวไฟ​นับไม่ถ้วน​

‘พอ​มาถึงขั้น​สิบห้า​ก็​ได้รับ​ความสามารถ​ทางธรรมชาติ​มาอย่างหนึ่ง​’

ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ถึงความสามารถ​ทางธรรมชาติ​ที่​ได้รับ​มาแล้ว​

แต่​เขา​ยังคง​มอง​อินเตอร์​เฟซดี​ปบลู​อย่าง​คุ้นเคย​

กรอบ​ของ​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ใน​ดี​ปบลู​ระบุ​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​

[วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​: ขั้น​สิบห้า​(สมบูรณ์​) (คุณ​ลักษณะพิเศษ​: ปลดปล่อย​พลัง​วิญญาณ​, ชำระล้าง​ธรรมชาติ​)]

‘การ​ปล่อย​พลัง​วิญญาณ​ ไม่ใช่การ​ถอด​วิญญาณ​ออกจาก​ร่าง​ทั้งหมด​ แต่​เป็นการ​ถอด​วิญญาณ​ออก​ไปครึ่งหนึ่ง​ คือ​เก็บรักษา​พลัง​วิญญาณ​พื้นฐาน​ของ​ร่างกาย​ไว้​ แล้ว​ปลดปล่อย​พลัง​วิญญาณ​ที่​เหลือ​ออก​ไปด้านนอก​ทั้งหมด​เพื่อ​สร้าง​ร่าง​วิญญาณ​ใน​การ​ช่วย​โจมตี​ศัตรู​’

ลู่​เซิ่งลอง​สัมผัส​ดู​ก็​เข้าใจ​หลักการ​ทันที​

‘ตาม​หน่วย​ทั่วไป​ ปริมาณ​พลัง​วิญญาณ​ของ​ผู้ใหญ่​คน​หนึ่ง​เท่ากับ​หนึ่ง​ดูรา​ อย่างนั้น​เรา​ใน​ตอนนี้​น่าจะ​มีสามล้าน​ดูรา​ถึงสามล้าน​ห้า​แสน​ดูรา​แล้ว​’

เขา​คำนวณ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​วิญญาณ​ใน​ตอนนี้​ดู​

‘จาก​บันทึก​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ และ​ข้อมูล​ที่​เจย์​ลา​ส่งมาจาก​องค์กร​ทับทิม​ มาร​ยักษา​ใต้​การบังคับบัญชา​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​มีปริมาณ​พลัง​วิญญาณ​เท่าที่​เคย​ประเมิน​คือ​ราว​สี่ล้าน​ ขีดจำกัด​ของ​สุดยอด​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ทั่วไป​คือ​แสน​ต้น​ๆ หาก​ไม่พึ่งพา​พลัง​ภายนอก​ อาวุธ​ภูต​ และ​ของขลัง​ เวลา​เผชิญ​กับ​มาร​ยักษา​ ละออง​น้ำ​ยัง​ไม่ทัน​กระจาย​ก็​คง​ถูก​บดขยี้​ตาย​แล้ว​ สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​…ระดับ​เงิน​อย่าง​หวง​ย่า​มีแค่​ไม่กี่​พัน​ดูรา​เท่านั้น​…’

ลู่​เซิ่งเทียบเคียง​ใน​ใจ ก่อน​จะได้รับ​นิยาม​คร่าวๆ​

‘แม้แต่​มาร​ยักษา​ก็​มีสี่ล้าน​ดูรา​แล้ว​ อย่างนั้น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​มีเท่าไร​’ ลู่​เซิ่งสูด​หายใจ​ลึก​

‘ดูเหมือน​เรา​จะยัง​แข็งแกร่ง​ไม่พอ​…ต้อง​ต่อ​อีก​’

ลู่​เซิ่งเพ่ง​สายตา​ไปที่​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​อีกครั้ง​

แต่​กรอบ​นี้​กลายเป็น​สีเทา​ไปแล้ว​ แสดงให้เห็น​ว่า​ไม่อาจ​ยกระดับ​ได้​อีก​ นอก​เสีย​จาก​จะเรียนรู้​

แต่ว่า​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ย่อม​ไม่ได้​ฝึกฝน​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​วิชา​เดียว​

สิ่งที่​ลู่​เซิ่งต้อง​ฝึกฝน​ต่อจากนี้​ คือ​วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ วิชา​ฝึกฝน​พลัง​วิญญาณ​ที่​มีเฉพาะ​ใน​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​

วิชา​สื่อ​วิญญาณ​นี้​จะมีผล​ก็ต่อเมื่อ​ฝึกฝน​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​จบ​แล้ว​

ปกติ​จะใช้ยกระดับ​พลัง​วิญญาณ​หนึ่ง​ขั้น​ พร้อมกับ​ค่อยๆ​ เปลี่ยนแปลง​คุณสมบัติ​ของ​พลัง​วิญญาณ​ ทำให้​มัน​ใช้วิชา​วิญญาณ​ธาตุ​ดิน​มากมาย​ใน​สำนัก​ได้​ดีกว่า​เดิม​

อย่างไร​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ก็​ใช้วิชา​วิญญาณ​ธาตุ​ดิน​เป็นหลัก​

ลู่​เซิ่งพลิก​หา​ความทรงจำ​เกี่ยวกับ​วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ออกมา​ สิ่งนี้​ล้ำค่า​กว่า​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​พื้นฐาน​มาก​ นี่​เป็น​รากฐาน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ แม้ว่า​ผู้​ที่​สำเร็จ​เป็น​เทพ​จุติ​หลังจาก​ฝึกฝน​จะมีแค่​จอม​อาวุโส​คนเดียว​ก็ตาม​

อัตรา​ความสำเร็จ​น่าเป็นห่วง​ถึงขีดสุด​

แต่​กำขี้ดีกว่ากำตด​

ไม่ทราบ​ว่า​มีองค์กร​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​กี่​แห่ง​ที่​วิชา​การฝึกฝน​ไม่มีใคร​สำเร็จ​เป็น​เทพ​จุติ​ได้​เลย​

การ​มีหรือไม่​มีเทพ​จุติ​ เป็น​ความแตกต่าง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ของ​ขุม​กำลัง​ขนาด​กลาง​กับ​ขุม​กำลัง​ขนาดใหญ่​

‘วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​มีทั้งหมด​แปด​ระดับ​ ทุกๆ​ ครั้ง​ที่​ฝึกฝน​สำเร็จ​หนึ่ง​ระดับ​ จะทำให้​พลัง​วิญญาณ​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​รอบ​หนึ่ง​ ขณะเดียวกัน​ปริมาณ​พลัง​วิ​ญาณจะเพิ่มขึ้น​กว่า​เดิม​สองเท่า​’

ลู่​เซิ่งสัมผัส​กาย​เนื้อ​ ยัง​ใช้ได้​ พื้นฐาน​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​แน่น​มาก​ การ​รับภาระ​ภายใต้​การ​หล่อเลี้ยง​ของ​ปราณ​ปฐพี​ไม่มีปัญหา​

‘ลอง​สัก​สอง​สามระดับ​ดูก่อน​ก็แล้วกัน​’

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset