ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 972 ราชาวิญญาณ (2

บทที่ 972 ราชาวิญญาณ (2

หลังจาก​นักบิน​เข้าใจ​ก็​ไม่พูด​อะไร​มาก​อีก​ ยก​ระดับความสูง​ขึ้น​ แล้ว​หัน​หัว​เฮลิคอปเตอร์​บิน​ไปยัง​ที่​ไกล​

พวก​เบน​กับ​แจ๊ค​ที่​โบกมือ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ถูก​ทิ้ง​ไว้​อยู่​ด้านล่าง​

“จะทิ้ง​พวกเขา​ไปเฉย​ๆ แบบนี้​เหรอ​ครับ​” นักบิน​อดไม่ไหว​

ลู่​เซิ่งละสายตา​กลับมา​

“ที่นี่​คือ​เทือกเขา​อัน​มีร์​ ใน​เมื่อ​กล้า​เข้ามา​ ก็​ต้อง​กล้า​รับ​ผล​ที่​ตัวเอง​ก่อ​ขึ้น​ด้วย​”

เขา​ยื่นมือ​ไปทาบ​หน้าผาก​เจย์​ลา​ เพื่อ​สัมผัส​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ร่าง​เธอ​อย่าง​ละเอียด​

จากนั้น​สอง​สามวินาที​ สอง​มือ​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​จิ้มลง​บน​ร่าง​เจย์​ลา​เหมือนกับ​หยด​ฝน​ ผิวหนัง​และ​กล้าม​เนื้อที่​มีบาดแผล​หลาย​แห่ง​หดตัว​ด้วย​ความเร็ว​สูง เลือด​เริ่ม​ไหล​น้อยลง​ตาม​ไปด้วย​

เขา​ทาบ​มือ​กับ​ทรวงอก​ของ​เจย์​ลา​ ปราณ​ปฐพี​หลาย​สาย​ซึมเข้าไป​สู่หัวใจ​เจย์​ลา​โดยตรง​

ปราณ​ปฐพี​อันน้อย​นิด​นี้​มีไม่ถึงหนึ่ง​ใน​ร้อย​ๆ ล้าน​ของ​เขา​ แต่​สำหรับ​คนธรรมดา​ที่​มีความ​แข็งแกร่ง​ทาง​ร่างกาย​ทั่วไป​แล้ว​

นี่​เทียบ​เท่ากับ​ยาบำรุงเลือด​ที่​มีพลังงาน​มหาศาล​ถึงขีดสุด​

หัวใจ​ของ​เจย์​ลา​ที่​เมื่อ​ครู่​ใกล้​จะหยุด​เต้น​ พลัน​เต้น​ด้วย​คาม​เร็ว​สูงเหมือน​ติด​เครื่องยนต์​เล็ก​ๆ เพิ่ม​เข้าไป​

สารอาหาร​กับ​ไขมัน​มากมาย​กลายเป็น​เลือด​สด​ใหม่​ใน​ร่างกาย​ที่​กระบวน​การเผาผลาญ​พลังงาน​เร่ง​เร็ว​ขึ้น​ด้วย​ความเร็ว​สูง พร้อมกับ​หล่อเลี้ยง​ร่างกาย​ทั้งหมด​

ใช้เวลา​แค่​ไม่กี่​วินาที​ อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เจย์​ลา​ก็​ทรงตัว​

หลัง​จัดการ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ ลู่​เซิ่งก็​ทิ่ม​นิ้วชี้​เข้า​ปาก​ของ​เจย์​ลา​อย่าง​ระมัดระวัง​

ของ​บางอย่าง​ที่​มีสีแดง​อม​ม่วง​เหมือน​เลือด​ไหล​ซึมออก​มาจาก​ปลาย​นิ้วชี้​

ของ​สิ่งนั้น​เพิ่งจะ​ปรากฏ​ ก็​จับตัว​กลายเป็น​หนวด​สีแดง​อม​ม่วง​ที่​เหมือนกับ​หนวด​ปลาหมึก​เส้น​หนึ่ง​อย่าง​รวดเร็ว​ แล้ว​มุด​เข้า​ช่องปาก​ไปใน​ลำคอ​ของ​เจย์​ลา​

‘ถึงเวลา​สร้าง​ขุม​กำลัง​ของ​ตัวเรา​เอง​แล้ว​’ ลู่​เซิ่งชัก​นิ้ว​กลับ​อย่าง​พอใจ​

หนวด​หมายถึง​การขยับขยาย​พลัง​ของ​โลก​เทพ​นอกรีต​ พลัง​ชนิด​นี้​จะค่อยๆ​ ลบ​ความคิด​ปัจเจก​ของ​สิ่งมีชีวิต​ แล้ว​ปรับเปลี่ยน​ให้​กลายเป็น​สาวก​ผู้​ที่​คลั่งไคล้​ใน​ตัว​เขา​ บูชา​เขา​ และ​จงรักภักดี​ต่อ​เขา​

นี่​ไม่ใช่การแก้แค้น​ที่​ผู้หญิง​คน​นี้​พูด​หยาม​เขา​ เขา​ลู่​เซิ่งไม่ใช่คน​เจ้าคิด​เจ้าแค้น​อยู่แล้ว​

จากนั้น​ลู่​เซิ่งก็​หันไป​มอง​มาร​ยักษา​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​

เขา​แทง​นิ้วชี้​ใส่ทรวงอก​ของ​มาร​ยักษา​ดัง​ฉึก​

มาร​ยักษา​ที่​ถูก​ดึง​ลิ้น​ขาด​แค่น​เสียง​อย่าง​เจ็บปวด​ ก่อน​จะรู้สึก​ว่า​มีอะไร​บางอย่าง​หรือ​สิ่งมีชีวิต​บางอย่าง​มุด​เข้า​หัวใจ​ของ​ตัวเอง​อย่าง​รวดเร็ว​

มัน​เบิก​ตาโต​พร้อมกับ​ดิ้นรน​อย่าง​รุนแรง​กว่า​เดิม​

แต่ว่า​ร่างกาย​ที่​ข้อต่อ​กับ​เส้นเอ็น​ถูก​ตัดขาด​ไม่อาจ​เคลื่อนไหว​อะไร​ได้​มากมาย​

มัน​ควบคุม​ร่างกาย​ตัวเอง​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​

“ตอนนี้​เป็นเวลา​พิสูจน์​ผลลัพธ์​แล้ว​” ลู่​เซิ่งนั่งลง​บน​ที่นั่ง​อย่าง​พอใจ​และ​รอคอย​ผลลัพธ์​เงียบๆ​

ใบพัด​ของ​เฮลิคอปเตอร์​หมุน​พา​มัน​บิน​ไปยัง​รอบนอก​เทือกเขา​อัน​มีร์​ด้วย​ความเร็ว​สูง

สุดท้าย​นักบิน​ก็​ติดต่อ​กับ​ทีม​ค้นหา​และ​ช่วยชีวิต​ ให้​พวกเขา​พา​พวก​แจ๊ค​ที่​เดินทาง​มาถึงรอบนอก​แล้ว​พา​ออก​ไป

ลู่​เซิ่งไม่ได้​ห้ามปราม​

แม้สามคน​นั้น​จะแอบ​ขโมย​เอา​ผลไม้​ของ​เขา​ไป แต่​โทษ​ไม่ถึงตาย​ ที่​เขา​ไม่ช่วย​ก็​เพราะ​ไม่มีหน้าที่​ต้อง​ช่วย​ใคร​เท่านั้น​

พอ​จัดการ​ทุกอย่าง​เสร็จ​ ลู่​เซิ่งก็​นั่ง​งีบหลับ​บน​ที่นั่ง​

“เรา​ใช้พละกำลัง​ทางกาย​เนื้อ​สะกด​มาร​ยักษา​ได้​ แต่​ถ้าเผชิญ​กับ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ พละกำลัง​นี้​ไม่แน่​ว่า​จะยึดครอง​ความได้เปรียบ​ได้​”

ลู่​เซิ่งเดา​ว่า​ เป็นไปได้​ถึงขีดสุด​ที่​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​จะเกี่ยวข้อง​กับ​พลังงาน​ ไม่แน่​ว่า​จะเหมือนกับ​มาร​ยักษา​ที่อยู่​ใน​สาย​กายภาพ​ล้วน​ๆ

วิชา​วิญญาณ​สีชาด​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​มีผล​แข็งแกร่ง​ถึงขีดสุด​ใน​ด้าน​การ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​กาย​เนื้อ​ แต่​ใช้ไม่ได้​ใน​ด้าน​พลังงาน​

‘เห็นได้ชัด​ว่า​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​บน​ตัว​มาร​มายา​ของ​ที่นี่​เข้มข้น​กว่า​มาร​มายา​ที่​เรา​เคย​เจอ​ โดยเฉพาะ​มาร​ยักษา​ตัว​นี้​’ ลู่​เซิ่งมอง​มาร​ยักษา​

เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​ หนวด​ของ​ตน​กำลัง​เข่นฆ่า​กับ​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​ของ​มาร​ยักษา​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​มัน​อย่าง​สุดกำลัง​

หนวด​ของ​เขา​ไม่เคย​เจอ​สถานการณ์​แบบนี้​มาก่อน​ ก่อนหน้านี้​ตอน​เผชิญ​กับ​พลัง​หรือ​สิ่งมีชีวิต​ใดๆ​ หนวด​เทพ​นอกรีต​สามารถ​เจาะทะลุ​และ​ฝังกาฝาก​ไว้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

แต่​สถานการณ์​อย่าง​ใน​ตอนนี้​เพิ่ง​เจอ​เป็นครั้งแรก​

‘พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​…’ ลู่​เซิ่งสัมผัส​พลังงาน​ชนิด​นี้​อย่าง​ละเอียด​

ของ​สิ่งนี้​เป็น​ความว่างเปล่า​กลุ่ม​หนึ่ง​เหมือน​โพรง​ถ้ำโพรง​หนึ่ง​

พึง​ทราบ​ว่า​ ต่อให้​อยู่​ใน​ความว่างเปล่า​ ก็​ยังมี​อนุภาค​เบาบาง​มากมาย​ รังสี​หลายชนิด​ และ​แม้แต่​ยังมี​มิติ​อยู่​ด้วย​ ถือเป็น​การดำรงอยู่​ชนิด​หนึ่ง​

แต่​ของ​สิ่งนี้​เหมือนกับ​หลุม​ใน​โลก​ความเป็นจริง​ที่​คอย​กลืน​กิน​ทุกอย่าง​รอบตัว​ ไม่ว่า​จะเป็น​พลังงาน​ธรรมดา​ หรือ​เป็น​กาย​เนื้อ​ของ​มาร​ยักษา​ตน​อื่นๆ​

ลู่​เซิ่งสังเกต​อย่าง​ละเอียด​ ก่อน​จะค้นพบ​ว่า​โครงสร้าง​ของ​มาร​ยักษา​ตัว​นี้​ใช้พลัง​กลืน​กิน​กับ​พลัง​เหนี่ยวนำ​ต่อ​โลก​ภาย​นอกจาก​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​ มาเป็น​พลังงาน​เพื่อ​สร้าง​เครื่องยนต์​ที่​เหมือนกับ​เครื่องจักร​นิรันดร์​ขึ้น​มา

พลัง​ชีวิต​ของ​มาร​ยักษา​มาจาก​พลัง​เหนี่ยวนำ​ชนิด​นี้​เหมือนกับ​ไฟฟ้าพลังน้ำ​

“ดูเหมือน​จะเป็น​ฝีมือ​ของ​โลก​ใบ​นี้​ มัน​ห่อหุ้ม​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​เอาไว้​โดย​สัญชาติ​ญาณ ใช้วิธีการ​นี้​ลด​ความเร็ว​ใน​การ​กัดกร่อน​ของ​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​ พร้อมกับ​เปลี่ยน​พลัง​กลืน​กิน​และ​เหนี่ยวนำ​ให้​กลายเป็น​พลังงาน​หลาก​หลายชนิด​”

ลู่​เซิ่งฉุกใจ​นึกได้​

เฮลิคอปเตอร์​บิน​ไปถึงท่าเรือ​อย่าง​รวดเร็ว​ ที่​ท่าเรือ​มีเรือ​ส่วนตัว​ที่​รอ​มานาน​แล้ว​จอดเทียบ​อยู่​

ศิษย์​จาก​กิจการ​รอบนอก​หลาย​คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​พา​กัน​เข้ามา​คำนับ​ แล้ว​ช่วย​ลู่​เซิ่งวาง​มาร​ยักษา​กับ​เจย์​ลา​ลง​

“ไปสนามบิน​ทันที​” ลู่​เซิ่งสั่ง

“ไม่ต้อง​ห่วง​” ผู้รับผิดชอบ​การ​จัดการ​เป็น​ชาย​วัยกลางคน​เครา​เฟิ้ม เขา​ตบ​อก​และ​กล่าว​เสียงดัง​ “ฉัน​ฮัค​เฒ่าเดินเรือ​มาหลาย​ปีแล้ว​ ครั้งนี้​ต้อง​เป็น​ครั้ง​ที่​เร็ว​ที่สุด​แน่นอน​”

ลู่​เซิ่งไม่ได้​พูด​อะไร​กับ​เขา​มาก​ หลังจาก​หา​ที่อยู่​ให้​กับ​มาร​ยักษา​และ​เจย์​ลา​แล้ว​ เขา​ก็​มอง​ไปยัง​มิน​เค​อ​ทันที​ คนธรรมดา​มองไม่เห็น​มนุษย์​หมอก​ดำ​เหล่านี้​

“ทาง​พี่สาว​ฉัน​เป็น​ยังไง​บ้าง​”

“ไม่เป็นไร​ขอรับ​ เหมือน​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​จะยัง​ไม่คิด​พลิก​หน้า​กับ​นาย​ท่าน​ ตอนนี้​ทุกอย่าง​ปกติ​ดี​ เพียงแต่​…” มิน​เค​อ​ลังเล​เล็กน้อย​

“เพียงแต่​อะไร​”

“เพียงแต่​พวกเขา​ลง​สัญลักษณ์​ลับ​ที่​เป็น​ตรา​ไล่ล่า​ไว้​บน​ตัว​นาย​ท่าน​แล้ว​ขอรับ​” มิน​เค​อ​ตอบ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​

ลู่​เซิ่งหรี่ตา​ สัมผัส​ได้​ว่า​หนวด​บน​ตัว​มาร​ยักษา​ถูก​พลัง​แห่ง​การทำลายล้าง​ ทำลาย​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​

เขา​มอง​ไปยัง​กราบ​เรือ​พลาง​มองดู​ผิวน้ำ​ที่​กระเพื่อม​เป็น​ระลอก​อยู่​ด้านนอก​

“ขอ​แค่​ไม่ลงมือ​ก็​ยัง​ทัน​”

มิน​เค​อ​ทำท่า​อ้ำอึ้ง​ แต่กลับ​ไม่ทราบ​จะพูด​อะไร​ดี​

ระหว่างทาง​ขากลับ​ไม่มีความวุ่นวาย​ใดๆ​

เช้าตรู่​วัน​ต่อมา​ เครื่องบิน​ส่วนตัว​ที่​ลู่​เซิ่งโดยสาร​ก็​ลง​จอด​ กลับ​มาถึงสาธารณรัฐ​ห​ลัน​เก๋​อห​ลั่ง​รื่อ​

พอ​ลง​จาก​เครื่องบิน​ ลู่​เซิ่งก็​โดยสาร​รถ​ส่วนตัว​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​กลับ​คฤหาสน์​ทันที​

หวง​ย่า​ได้รับ​ข่าว​เป็น​คน​แรก​ จึงโทรศัพท์​ไต่ถาม​สถานการณ์​กับ​เขา​ แล้ว​ทราบ​ว่า​ลู่​เซิ่งต้องการ​กลับบ้าน​โดยเร็ว​ที่สุด​ เธอ​รู้​ว่า​คน​อย่าง​ลู่​เซิ่งถ้าไม่ใช่เพราะ​เกิด​เรื่องใหญ่​ ไม่มีทาง​รีบร้อน​แบบนี้​แน่​

ดังนั้น​เธอ​จึงเดินทาง​ออกจาก​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ ก่อน​จะมาเจอ​กับ​ลู่​เซิ่งที่​ประตู​คฤหาสน์​พอดี​

ลู่​เซิ่งลง​จาก​รถ​ เงยหน้า​มอง​หน้าต่าง​ของ​ตัว​คฤหาสน์​

กลิ่นอาย​ด้านใน​ทำให้​เขา​รู้สึก​ผิดปกติ​เล็กน้อย​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​เหรอ​” หวง​ย่า​ลงรถ​มาจาก​ฝั่งตรงข้าม​ ผุด​สีหน้า​เคร่งขรึม​

“ขึ้นไป​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​” ลู่​เซิ่งหยิบ​กุญแจ​เดิน​เข้าไป​ใน​ชุมชน​เขต​เล็ก​ๆ จากนั้น​ก็​วิ่ง​ไปถึงตำแหน่ง​ที่​เป็น​คฤหาสน์​ของ​ตัวเอง​พร้อมกับ​เปิด​ประตู​ใหญ่​

ด้านใน​ว่างเปล่า​ไม่มีร่องรอย​ผู้คน​ พื้น​ห้องรับแขก​เหลือ​รอย​ลาก​อะไร​บางอย่าง​ไว้​

“พี่สาว​” ลู่​เซิ่งตะโกนเรียก​

ไม่มีการตอบรับ​

“พี่สาว​ครับ​!?”

เขา​ตะโกนเรียก​อีกครั้ง​

ภายใน​คฤหาสน์​ทั้ง​สองชั้น​ไม่มีการ​ตอบกลับ​ใดๆ​

หวง​ย่า​อยู่​ด้าน​ข้าง​ลู่​เซิ่ง มือ​ดึง​หอก​สีเงิน​ออกมา​อย่าง​ระมัดระวัง​ ก่อน​จับ​ปลาย​หอก​ไปสะพาย​ไว้​ด้านหลัง​ใน​ลักษณะ​คว่ำ​ลง​

“ไม่มีร่องรอย​การต่อสู้​” เธอ​มอง​ลู่​เซิ่งที่​ผุด​สีหน้า​อึมครึม​

ก่อนหน้านี้​เธอ​ได้ยิน​มาว่า​หวัง​ตง​กับ​พี่สาว​สนิท​กัน​มาก​ ทั้งสอง​มีความสัมพันธ์​เหนือ​ธรรมดา​ ดู​จาก​ตอนนี้​น่าจะเป็น​เรื่องจริง​

“ที่นี่​ให้​ฉัน​จัดการ​คนเดียว​ก็​พอ​ รบกวน​พวก​เธอ​ไปพักผ่อน​ข้างนอก​ก่อน​ อีก​เดี๋ยว​ฉัน​จะออก​ไป” ลู่​เซิ่งกล่าว​เสียงทุ้ม​

“ได้​ ถ้าต้องการ​ความช่วยเหลือ​ นาย​รีบ​บอก​ทันที​นะ​” หวง​ย่า​พยักหน้า​ พร้อมกับ​ถือ​หอก​เดิน​ออกจาก​ประตู​ใหญ่​

ด้านนอก​ประตู​มีคน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​สิบ​กว่า​คน​ที่​รอ​อยู่​นาน​แล้ว​

ลู่​เซิ่งเร่งฝีเท้า​เดิน​ขึ้น​บันได​ชั้นสอง​พร้อมกับ​ประตู​คฤหาสน์​ที่​ปิด​ลง​

เขา​หยุด​ยืน​ที่​ด้านหน้า​ห้องนอน​ของ​หวัง​จิ้ง ก่อน​จะยื่นมือ​ไปผลัก​เบา​ๆ

ด้านใน​ว่างเปล่า​ไม่มีคน​ มีแต่​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ บน​จดหมาย​เหมือน​จะมีข้อความ​สีดำ​

ลู่​เซิ่งเดิน​ไปดู​พร้อมกับ​หยิบ​จดหมาย​ขึ้น​มา

“มีธุระ​ชั่วคราว​ ไม่ต้อง​ตามหา​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​–พี่​หวัง​จิ้ง “

“มิน​เค​อ”​ ลู่​เซิ่งหันไป​เรียก​บน​อากาศ​

สิ่งที่อยู่​เหนือ​ความคาดหมาย​ก็​คือ​ เวลานี้​มนุษย์​หมอก​ดำ​ที่​แอบ​ติดตาม​อยู่​ด้าน​หลังเขา​มาโดยตลอด​ไร้​การ​ตอบกลับ​

“มิน​เค​อ!?”​ ลู่​เซิ่งเรียก​อีกครั้ง​

ยังคง​ไม่มีการตอบรับ​

ลู่​เซิ่งสีหน้า​อึมครึม​ขึ้น​เรื่อยๆ​ เขา​เดา​ออก​แล้ว​ว่า​ทำไม​หวัง​จิ้งถึงไม่อยู่​ ถ้าเธอ​เป็น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​จริงๆ​ อย่างนั้น​ผลลัพธ์​จาก​การต่อสู้​กัน​ระหว่าง​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ก็​คงจะ​รุนแรง​กว่า​ที่​เขา​จินตนาการ​ไว้​

อย่างไร​เขา​ก็​เคย​เอาชนะ​มาร​ยักษา​ต่อหน้า​พวก​มิน​เค​อ​มาก่อน​

ถ้าหวัง​จิ้งไม่รู้เรื่อง​นี้​ก็​ยัง​ดี​ แต่​ถ้ารู้​แล้ว​ยัง​เลือก​จะไปที่อื่น​ล่ะ​ก็​…

ลู่​เซิ่งนึก​เป็นห่วง​ขึ้น​เล็กน้อย​

แม้จะอยู่​กับ​หวัง​จิ้งได้​ไม่นาน​ แต่​ความรู้สึก​นั้น​ทำให้​เขา​หวั่นไหว​ยิ่งกว่า​ตอน​อยู่​กับ​เฉินอวิ๋น​ซีเสีย​อีก​

นี่​เป็น​ผู้หญิง​คน​ที่สอง​ที่​ทำให้​เขา​จิต​ใจสั่น​ไหว​

“ไสหัว​ออกมา​!” สายตา​ลู่​เซิ่งเฉียบขาด​ขึ้น​เล็กน้อย​ขณะ​กวาดตา​มอง​ไปรอบ​ๆ

“ตอนนี้​ เดี๋ยวนี้​!”

เงียบสงัด​

ใน​ตอนที่​ลู่​เซิ่งฉุนเฉียว​ยิ่งขึ้น​ หมอก​ดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​รวมตัว​เป็นรูปเป็นร่าง​ขึ้น​ด้านหน้า​เขา​ด้วย​ความเร็ว​สูง

“ฝ่าบาท​ นาย​ท่าน​ไม่ได้​จากไป​ไหน​ ความจริง​เป็น​เพราะ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​มีพลัง​ทำลาย​แข็งแกร่ง​เกินไป​ ดังนั้น​ปกติ​จะไม่สู้กัน​ใน​โลก​เดิม​ แต่​พวก​ท่าน​จะสู้กัน​ใน​โลก​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​”

“โลก​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​หรือ​” ลู่​เซิ่งนิ่วหน้า​น้อย​ๆ

“ถูกต้อง​ นั่น​เป็น​โลก​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​มีแต่​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​เท่านั้น​ถึงมีสิทธิ์​เข้าไป​ได้​ ด้านใน​เต็มไปด้วย​พลัง​ทำลายล้าง​ที่​ไร้​สิ้นสุด​ นอกจาก​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​แล้ว​ ก็​ไม่มีสิ่งใด​ที่​ดำรงอยู่​ใน​นั้น​ได้​อีก​” มนุษย์​หมอก​ดำ​เอ่ย​อย่าง​รวดเร็ว​

“ดังนั้น​สิ่งเดียว​ที่​พวกเรา​ทำได้​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​การ​รอ​ รอ​นาย​ท่าน​หลุด​จาก​โลก​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​เอง​ ถึงเวลา​นั้น​จะเป็น​การต่อสู้​ของ​พวกเรา​”

“นอกจาก​จะกลายเป็น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​แล้ว​ ยังมี​วิธี​ไหน​ที่​เข้าไป​ได้​อีก​” ลู่​เซิ่งซัก​

“ไม่มีขอรับ​ ที่นั่น​เป็น​มิติ​อีก​แห่ง​ที่​แยกตัว​ออก​เป็น​โลก​ วิธี​เข้าไป​มีแค่​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​เท่านั้น​ที่​รู้​ พวกเรา​เอง​ก็​ไม่ทราบ​เช่นกัน​” มนุษย์​หมอก​ดำ​รีบ​ตอบ​

ดวงตา​ของ​ลู่​เซิ่งทอ​แวว​เกรี้ยวกราด​

‘บังคับ​ข้า​อีกแล้ว​ ข้า​ไม่อยาก​จะเสีย​พลัง​อาวรณ์​อีกแล้ว​นะ​’

แต่​ตอนนี้​ ดูเหมือน​นอกจาก​การ​ยกระดับ​วิชา​วิญญาณ​อย่าง​รวดเร็ว​เพื่อ​กลายเป็น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​แล้ว​ ก็​ไม่มีวิธี​อื่น​อีก​

ดูเหมือน​จะต้อง​ไปโพรง​หมื่น​วิญญาณ​สักครั้ง​…

เพิ่งจะ​ไตร่ตรอง​เสร็จ​ จุด​แสงสีดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ระเบิด​ขึ้น​ด้านหน้า​ลู่​เซิ่งอย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ จากนั้น​มัน​ก็​ขยาย​กลายเป็น​วังวน​ด้วย​ความเร็ว​สูง แล้ว​มีแขน​ของ​ผู้หญิง​ที่​ขาว​บริสุทธิ์​และ​บอบบาง​ข้าง​หนึ่ง​ยื่น​ออกมา​

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset