ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 932 วัดกำลัง (2)

บทที่ 932 วัดกำลัง (2)

ลู่​เซิ่งรีบ​ยก​มือขึ้น​ พลังงาน​สาย​นั้น​พุ่ง​ขึ้น​มาตาม​แขน​ของ​เขา​ แล้ว​จับตัว​เป็น​หนวด​สีเทา​เส้น​หนึ่ง​ พุ่ง​เข้า​ไปหา​ซังหยาง​ที่​หนวด​สีดำ​อม​ม่วง​ปกคลุม​อยู่​

ใน​ทันทีที่​หนวด​สีเทา​ปรากฏ​ หู​ลู่​เซิ่งก็​เหมือน​ได้ยิน​เสียง​พึมพำ​กระซิบ​ทุ้ม​ต่ำ​ลึกลับ​บางอย่าง​ ความปรารถนา​อัน​ชั่วร้าย​บิดเบี้ยว​ที่​ต้องการ​ทำลาย​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ก้นบึ้ง​จิตใจ​

“ความโกลาหล​ ความ​ลิงโลด​ การหลอมรวม​ การ​กัดกร่อน​…” นอกจาก​ความปรารถนา​มากมาย​ ยังมี​ความคิด​คล้ายๆ​ สัญชาตญาณ​ เกิดขึ้น​ใน​ตัว​ลู่​เซิ่งอย่าง​รวดเร็ว​

ความคิด​ทาง​สัญชาตญาณ​ที่​ประหลาด​เหล่านี้​ ถูกลู่​เซิ่งใช้จิต​ปฐมสะบั้น​ทิ้ง​อย่าง​รวดเร็ว​ ความปรารถนา​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​จิตวิญญาณ​และ​จิต​ปฐมของ​เขา​ เพียงแค่​ถูก​สะกด​ไว้​เท่านั้น​ อย่างไร​เขา​ก็​ไม่ใช่จอม​อริยะ​ที่​สำเร็จ​จาก​การ​สะบั้น​อสุภ​ และ​ไม่ใช่ละทิ้ง​เจ็ด​อารมณ์​หก​กิเลส​หมดสิ้น​

หนวด​สีเทา​ปะทะ​กับ​พลังงาน​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่​ทะลัก​ออก​มาจาก​ใน​ตัว​ซังหยาง​อย่าง​อธิบาย​ไม่ได้​

ทั้งสองฝ่าย​ขัดแย้ง​กัน​เหมือน​น้ำ​กับ​ไฟ เพิ่ง​สัมผัส​กัน​ก็​ปล่อย​รอยแตก​มิติ​สีดำ​ที่​บิดเบี้ยว​ออกมา​มากมาย​

ลู่​เซิ่งสูด​ลมหายใจ​ลึก​ สถานการณ์​อยู่​เหนือกว่า​ที่​เขา​คาด​ไว้​เล็กน้อย​

หลังจากที่​เขา​ทำให้​จิต​ปฐมเสถียร​ จึงเพิ่ง​รู้สึก​ได้​ว่า​ จักรวาล​แข็งแกร่ง​ที่​ยิ่งใหญ่​และ​โกลาหล​หลาย​แห่ง​ใน​ส่วนลึก​ของ​ธาร​มารดา​ที่อยู่​ไกล​แสน​ไกล​ กำลัง​จ้องมอง​เขา​ด้วย​สายตา​สัตว์​ที่​ชั่วร้าย​แปลกประหลาด​ ปลดปล่อย​พลังงาน​สีเทา​ที่​เลวทราม​กร้าว​แกร่ง​ออกมา​หลาย​สาย​ ส่งมาถึงร่าง​หลัก​ของ​เขา​

“พลัง​ชนิด​นี้​…ความรู้สึก​คุ้นเคย​นี้​…” ลู่​เซิ่งขมวดคิ้ว​

“เป็น​โลก​เทพ​นอกรีต​!” เขา​หวน​นึกถึง​แก่นสาร​ของ​พลังงาน​ชนิด​นี้​ทันที​

และ​พลัง​ที่​ต่อสู้​กับ​พลัง​เทพ​นอกรีต​อยู่​ ก็​น่าจะเป็น​พลัง​ต้นกำเนิด​ของ​จักรวาล​แห่ง​นี้​

“เรา​กลายเป็น​ลูก​รัก​ของ​โลก​เทพ​นอกรีต​จริงๆ​ แล้ว​สินะ​…” ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ ตอนที่​ไหลผ่าน​ร่างกาย​ของ​ตัวเอง​ พลังงาน​สีเทา​ที่​โกลาหล​หลาย​สาย​นั้น​ ไม่เพียงแต่​ไม่สร้าง​ความเสียหาย​แก่​กาย​เนื้อ​และ​จิต​ปฐมของ​เขา​เท่านั้น​ ยังมี​วัตถุ​ลึกลับ​อัน​อัศจรรย์​ชนิด​หนึ่ง​ซึมออกมา​ เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​จิต​ปฐมของ​เขา​ไม่หยุด​

และ​ในทางตรงกันข้าม​ ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​รอบ​ๆ รวมถึง​พลังงาน​ต่างๆ​ ใน​จักรวาล​ผืน​นี้​ ก็​เกิด​การ​ปฏิเสธอย่าง​รุนแรง​ต่อ​ร่าง​นี้​ของ​เขา​อย่าง​เห็นได้ชัด​

“เป็น​อย่าง​ที่​คิด​…การ​กัดกร่อน​ซังหยาง​อาจจะ​กระตุ้น​การ​ต่อต้าน​ของ​จักรวาล​แห่ง​นี้​เข้า​ พลัง​ฝึกปรือ​ของ​ซังหยาง​ใกล้​ถึงขอบเขต​จอม​อริยะ​ หมายความว่า​ จอม​อริยะ​ได้​สัมผัส​กับ​กฏ​เกณฑ์​ส่วนหนึ่ง​แล้ว​ และ​กฎเกณฑ์​ส่วน​นี้​ก็​เป็น​เขต​ฝังระเบิด​ที่​จักรวาล​แห่ง​นี้​ไม่อนุญาต​ให้​ผู้​มาจาก​ภายนอก​แตะต้อง​…ดังนั้น​ ถือว่า​เรา​เดิน​ชนตอ​เข้า​แล้ว​ มิน่า​ถึงจัดการ​ซังหยาง​ไม่ได้​สักที​ แต่​ดี​ที่​เรา​ถือ​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​จาก​โลก​เทพ​นอกรีต​ เหมือน​จะกลายเป็น​ผู้บุกเบิก​และ​ลูก​รัก​ของ​เทพ​นอกรีต​…ไม่เลว​…ข้า​ชอบ​”

ลู่​เซิ่งยิ้ม​อย่าง​อึมครึม​

โลก​เทพ​นอกรีต​ไม่ได้​ส่งจิต​ที่​ชัดเจน​ใดๆ​ ให้​แก่​เขา​ หรือ​ควร​บอ​กว่า​จิต​ของ​โลก​คือ​ความโกลาหล​ พวก​มัน​มอบ​รางวัล​ให้​แก่​สิ่งที่​มีผลดี​ต่อ​ตน​ และ​ลงทัณฑ์​สิ่งที่​ส่งผลเสีย​ต่อ​ตน​

นี่​เป็น​สัญชาตญาณ​ของ​โลก​

และ​ตอนนี้​ ลู่​เซิ่งที่​พก​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​จาก​โลก​เทพ​นอกรีต​ ก็​ใช้หนวด​พลัง​เทพ​นอกรีต​กัด​กิน​เทพ​ปีศาจอย่าง​ต่อเนื่อง​ จน​ได้รับ​ความรู้​ใน​ระดับสูง​จาก​โลก​เทพ​นอกรีต​ เขา​คือ​ผู้​ที่​ได้รับ​การ​ดูแล​จาก​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​ ตอนนี้​ยิ่ง​ได้รับ​แนวโน้ม​โดยสัญชาตญาณ​จาก​โลก​เทพ​นอกรีต​เป็น​จำนวนมาก​

พลัง​ต้นกำเนิด​ของ​โลก​เทพ​นอกรีต​ที่​โกลาหล​และ​ชั่วร้าย​ทะลัก​เข้ามา​ใน​ร่าง​ลู่​เซิ่งอย่าง​ต่อเนื่อง​ไม่ขาดสาย​

นี่​ไม่ใช่พลัง​เทพ​นอกรีต​ แต่​เป็น​พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​ยิ่งใหญ่​กว่า​ ยุ่งเหยิง​กว่า​พลัง​เทพ​นอกรีต​ รองรับ​ทุกสิ่ง​ กลืน​กิน​ทุกอย่าง​

“นี่​คือ​ปฐมพลัง​ของ​โลก​หรือ​…” ลู่​เซิ่งเคย​เห็น​พลัง​มานับไม่ถ้วน​ แต่​เพิ่ง​เคย​เห็น​ปฐมพลัง​ของ​โลก​เป็นครั้งแรก​

ปฐมพลัง​ของ​โลก​เป็น​พลัง​ขับ​เคลื่อนที่​เป็น​บ่อเกิด​ของ​โลก​ ทั้ง​ยัง​เป็น​พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​แยก​พลังงาน​ลูก​ทั้งหมด​ออก​เป็น​สาขา​ กล่าว​ได้​ว่า​เป็น​ต้นกำเนิด​ของ​ทุกสิ่ง​

แต่​พลังงาน​แบบนี้​ก็​เป็น​สิ่งที่​สัมผัส​ได้​ยาก​ที่สุด​เช่นกัน​ ตัว​มัน​คือ​สมดุล​อัน​เปราะบาง​ ไม่ใช่แค่​รวม​พลัง​ทั้งหมด​ของ​จักรวาล​เข้า​ไว้​ด้วยกัน​ แล้​วจะ​ให้กำเนิด​ปฐมพลัง​ของ​โลก​ได้​

“ถ้านี่​เป็น​ปฐมพลัง​ของ​โลก​ อย่างนั้น​…พลังงาน​ของ​ซังหยาง​…” ลู่​เซิ่งสัมผัส​ซังหยาง​ที่​กำลัง​ดิ้นรน​มีชีวิต​อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไปอย่าง​ละเอียด​ผ่าน​จิต​ปฐม

ใน​ตัว​เขา​มีพลังงาน​อีก​สาย​ที่​ไม่ด้อย​ไปกว่า​พลัง​ต้นกำเนิด​ของ​โลก​เทพ​นอกรีต​เลย​

ยุ่งเหยิง​เหมือนกัน​ กว้างขวาง​และ​แข็งแกร่ง​เหมือนกัน​ แต่กลับ​ให้​ความรู้สึก​สูงส่ง เย็นชา​ไร้อารมณ์​

“ปฐมพลัง​ของ​โลก​ชนิด​ต่างๆ​ ก็​มีการแบ่งประเภท​ไม่เหมือนกัน​ด้วย​หรือ​” ลู่​เซิ่งเข้าใจ​

เขา​ยื่นมือ​ออกมา​ช้าๆ สิ่งของ​เล็ก​จ้อย​ก้อน​หนึ่ง​แยก​ออกมา​จากใน​ร่าง​หลัก​ นั่น​คือ​วัตถุ​ทรง​ไข่​สีเทา​

มัน​ปรากฏ​กลางฝ่ามือ​ของ​เขา​ แสงสายฟ้า​สีเทา​หลาย​สาย​ส่อง​ประกาย​อยู่​ด้านใน​

นี่​คือ​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​ ของ​วิเศษ​ลึกลับ​ที่​เขา​ได้​มาจาก​โลก​เทพ​นอกรีต​

ลู่​เซิ่งใคร่ครวญ​เล็กน้อย​ แล้ว​ใส่จิต​ปฐมเข้าไป​

หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​เคลื่อนไหว​ไม่ได้​ เป็น​เพียง​สิ่งของ​เท่านั้น​ ก่อนหน้านี้​ลู่​เซิ่งไม่ได้​ข้อมูล​ใดๆ​ ทว่า​ตอนนี้​ เขา​ได้​อ่าน​ข้อมูล​ตกค้าง​อัน​กระจัดกระจาย​ส่วนหนึ่ง​ผ่าน​จิต​ปฐมแล้ว​

ผ่าน​ไปชั่วครู่​ ลู่​เซิ่งก็​ค่อยๆ​ ลืมตา​ขึ้น​

“ที่แท้​ก็​เป็น​เช่นนี้​…” ดวงตา​ของ​เขา​กระจ่างแจ้ง​กว่า​ก่อนหน้านี้​อยู่​ไม่น้อย​

ข้อมูล​ที่​เหลืออยู่​ใน​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​มีไม่มาก​ แต่​ก็​ยัง​มาก​พอที่จะ​ให้​เขา​ทำความเข้าใจ​เนื้อ​หาไม่​น้อย​

“กลับ​ไปก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​” ลู่​เซิ่งบีบ​ฝ่ามือ​ หนวด​สีเทา​พลัน​ขาดสะบั้น​ลง​

ร่าง​เขา​วูบ​ไหว​หาย​ไปจาก​ที่​เดิม​ทันที​

ครู่​ต่อมา​ตอนที่​ปรากฏตัว​อีกครั้ง​ มือขวา​ของ​เขา​ก็​หิ้ว​ร่าง​ที่​ไหม้​เกรียม​สอง​ร่าง​ไว้​แล้ว​

อัคคี​เทพ​หงส์​เพลิง​สีทองขาว​กลุ่ม​ใหญ่​ปกคลุม​เขา​กับ​อีก​สอง​ร่าง​เอาไว้​ เปลี่ยน​ทั้ง​สามให้​กลายเป็น​เพลิง​

แสงเพลิง​พุ่ง​สู่ฟ้า บิน​ออก​ไป

ไม่นาน​นัก​ ไกล​ออก​ไปก็​มีแสงอีก​สอง​สาย​บิน​ติดตาม​ลู่​เซิ่ง

ส่วน​ซาก​ป่าหิน​ที่​ซังหยาง​อยู่​ก่อนหน้า​ เวลานี้​ความร้อน​ลดลง​อย่าง​รวดเร็ว​ กลายเป็น​เขต​หิน​หลอมเหลว​ผืน​ใหญ่​

ณ วัง​หงส์​เพลิง​

ลู่​เซิ่งกลับ​วัง​หงส์​เพลิง​โดย​ไม่มีใคร​ทราบ​ ตอนนี้​เขา​ก้าว​สู่ขอบเขต​จอม​อริยะ​แล้ว​ ทุกๆ​ การเคลื่อนไหว​จะกระตุ้น​อานุภาพ​ของ​เพลิง​อัน​ยิ่งใหญ่​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

และ​หลังจาก​ได้รับ​โองการ​ยันต์​หยก​สีม่วง​ เขา​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​ปราณ​วิญญาณ​สาย​อัคคี​มากมาย​รอบตัว​กำลัง​เคลื่อนไหว​ด้วย​ระดับ​มากกว่า​เดิม​หลาย​สิบ​เท่า​

เหมือน​โองการ​ยันต์​แผ่น​นั้น​มอบอำนาจ​ควบคุม​ปราณ​วิญญาณ​สาย​อัคคี​ให้​แก่​เขา​

ตอนนี้​หาก​เขา​ปล่อย​เปลว​อัคคี​ออกมา​สัก​สาย​ จะถูก​ปราณ​วิญญาณ​สาย​อัคคี​ขยาย​ด้วย​ความเร็ว​สูง อานุภาพ​สูงขึ้น​เป็น​หลาย​สิบ​เท่า​ หรือ​หลาย​ร้อย​เท่า​จาก​ของ​เดิม​

ถึงแม้อัคคี​เทพ​หงส์​เพลิง​อันเป็น​แกนกลาง​จะไม่แข็งแกร่ง​ขึ้น​ แต่​อาณาเขต​โจมตี​เพิ่มขึ้น​กว่า​ก่อนหน้า​

บรรยาย​ง่ายๆ​ ก็​คือ​ ยาม​ทุบตี​ใคร​ก่อนหน้านี้​ต้อง​ถอด​เสื้อ​เข้า​โรมรัน​ใส่ แต่​จะทุบตี​คนใน​ยาม​นี้​นั้น​ ให้​ลูกน้อง​ที่​มีไม่หมด​ไม่สิ้น​ของ​ตน​เข้าไป​รุม​สะกรัม​ก่อน​ หาก​ลูกน้อง​สู้ไม่ได้​ เขา​ถึงค่อย​ลงมือ​เอง​

นี่​เพิ่ม​พลัง​ทำลาย​ของ​เขา​ทางอ้อม​

ลู่​เซิ่งนั่งขัดสมาธิ​อยู่​ใน​ตำหนัก​ข้าง​แห่ง​หนึ่ง​ ณ ส่วนลึก​ของ​วัง​หงส์​เพลิง​ มือถือ​สุรา​เซียน​ที่​บ่ม​มาใหม่​ๆ ฟังเสียง​พิณ​ไพเราะ​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง​

เสี่ยว​หนิง​นั่ง​ดีด​พิณ​ยาว​อยู่​ด้าน​ข้าง​เบา​ๆ ใบหน้า​งามแอบ​เหลือบมอง​ลู่​เซิ่งเป็นระยะ​ เย้ายวน​กระเง้ากระงอด​ยิ่ง​

นับตั้งแต่​ลู่​เซิ่งมาถึงอุทยาน​สวรรค์​ เหล่า​หญิงสาว​ของ​เผ่า​หงส์​เพลิง​ก็​มักจะ​ชอบ​วนเวียน​อยู่​รอบตัว​เขา​เหมือนกับ​ต้อง​มนตร์​

แม้แต่​พวก​หงส์​เพลิง​บุรุษเพศ​ที่​มีไม่กี่​คน​ เวลา​คุย​กับ​ลู่​เซิ่ง ก็​ให้​ความรู้สึก​ออดอ้อนออเซาะ​เช่นกัน​

แต่​สิ่งที่​ยัง​ดี​ก็​คือ​ ต่อให้​เป็น​หงส์​เพลิง​บุรุษเพศ​ รูปร่างหน้าตา​ก็​ไม่ด้อย​กว่า​สตรีเพศ​ ถึงขั้น​งามกว่า​ แม้ลู่​เซิ่งจะไม่รับ​ความปรารถนาดี​ แต่​ก็​ดู​เป็น​อาหารตา​ได้​

เวลานี้​เขา​หลับตา​ดื่ม​สุรา​ ดูเหมือน​กำลัง​ดื่มด่ำ​ แต่​ใน​ใจกลับ​ใคร่​ครวญถึง​สภาพ​ประหลาด​ตอน​ฝังกาฝาก​ใน​ตัว​ซังหยาง​ก่อนหน้านี้​

สุดท้าย​ซังหยาง​ก็​โดน​ฝังกาฝาก​สำเร็จ​ พลัง​ของ​จักรวาล​ผืน​นี้​ถูก​พลัง​ของ​โลก​เทพ​นอกรีต​กด​ข่ม​ไว้​

ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ว่า​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​ที่​ตน​ครอบครอง​เหมือน​จะเกิด​การเปลี่ยนแปลง​เล็ก​ๆ เพราะ​การ​ฝังกาฝาก​ใน​รอบ​นี้​สำเร็จ​

พลัง​เทพ​นอกรีต​บน​ตัว​เขา​ที่​เดิมที​ควรจะ​หล่อเลี้ยง​อีก​นาน​ อาศัย​จังหวะ​นี้​กลับมา​อยู่​ใน​สภาพเดิม​เช่นกัน​

สิ่งที่​ทำให้​เขา​สับสน​ที่สุด​ก็​คือ​ นาฬิกา​นับ​ถอยหลัง​บน​ทรวงอก​ของ​ร่าง​หลัก​ของ​เขา​หาย​ไปโดยสิ้นเชิง​ ใน​การปะทะ​ระหว่าง​ปฐมพลัง​ของ​โลก​ครั้งนั้น​

นาฬิกา​นับ​ถอยหลัง​เรือน​นั้น​เป็น​เบาะแส​เพียง​หนึ่งเดียว​ ที่​เขา​คิด​จะใช้ค้นหา​แอ​งจิส เหยี่ยว​วัฏ​ปฐม

ตอนนี้​ถึงกับ​ขาดสะบั้น​ลง​ภายใต้​การ​ชำระล้าง​จาก​ปฐมพลัง​ของ​โลก​

“ดู​จาก​ข้อมูล​ที่​ได้​จาก​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​ ปฐมพลัง​แห่ง​จักรวาล​ถือเป็น​ระดับ​ที่อยู่​ใน​ระดับ​ค่อนข้าง​สูง แต่​อ่อนด้อย​กว่า​พลัง​ของ​ธาร​มารดา​ขั้น​หนึ่ง​ ระหว่าง​จักรวาล​นับไม่ถ้วน​ พลัง​ประหลาด​ต่างๆ​ มีคุณสมบัติพิเศษ​มากมาย​จน​นับ​ไม่หวาดไม่ไหว​ เวลา​ มิติ​ ก่อเกิด​และ​ดับสูญ​ตลอดเวลา​ จักรวาล​มีขึ้น​มีลง​ มีเกิด​มีดับ​เช่นกัน​ บางที​ไม่มีสิ่งที่​รองรับ​ทุกอย่าง​ได้​จริง​ สิ่งที่​ปฐมพลัง​ของ​จักรวาล​รองรับ​ได้​ น่าจะเป็น​พลังงาน​ทั้งหมด​ของ​จักรวาล​นั้นๆ​ ส่วน​ใน​ความว่างเปล่า​ชั้นนอก​ ถึงขั้น​แม้แต่​พลัง​ของ​ธาร​มารดา​ ก็​เป็น​เพียง​พลัง​แข็งแกร่ง​ชนิด​หนึ่ง​เท่านั้น​”

ข้อมูล​ที่​เหลืออยู่​ใน​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​มีอยู่​ไม่มาก​ แต่​ความรู้​เกี่ยวกับ​จักรวาล​และ​มิติ​เวลา​ทั้งหมด​ ก็​ทำให้​ลู่​เซิ่งได้​เปิดหูเปิดตา​แล้ว​

อาจ​เป็น​เพราะ​ข้อมูล​ที่​เจ้าของ​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​คน​เก่า​ทิ้ง​เอาไว้​ หรือ​อาจจะ​เป็น​เศษซาก​ร่องรอย​ที่​โลก​เทพ​นอกรีต​ส่งถ่าย​เข้ามา​ ไม่ว่า​อย่างไร​ ลู่​เซิ่งก็​ได้รับ​ข้อมูล​ลับ​มาไม่น้อย​ จาก​ร่องรอย​กับ​เศษโครงสร้าง​พลังงาน​ที่​หลง​เหลืออยู่​ใน​หลักฐาน​แห่ง​ราชัน​

ด้านใน​สิ่งนี้​ไม่ได้​มีแค่​ปฐมพลัง​ของ​โลก​เท่านั้น​ ยัง​มีพลัง​ของ​ธาร​มารดา​อยู่​นิดหน่อย​ แม้เทียบ​กับ​พลัง​แปลกประหลาด​และ​แข็งแกร่ง​ชนิด​อื่นๆ​ มัน​จะเป็น​เพียง​ร่องรอย​หลงเหลือ​น้อย​นิด​ แต่​ก็​ทำให้​ลู่​เซิ่งต้อง​ถอนใจ​ชมเชย​

เขา​แยกแยะ​วิเคราะห์​ข้อมูล​จำนวนมาก​ ผ่าน​การ​จัดเรียง​ ความขัดแย้ง​ และ​สมดุล​ทางธรรมชาติ​ระหว่าง​พลังงาน​พวก​นี้​

“ใน​เมื่อ​เรา​กลายเป็น​ผู้บุกเบิก​กับ​ลูก​รัก​ของ​โลก​เทพ​นอกรีต​อย่าง​อ้อม​ๆ แล้ว​ อย่างนั้น​…อาจจะ​ใช้พลัง​เทพ​นอกรีต​ได้​คล่อง​กว่า​เดิม​ก็ได้​”

ลู่​เซิ่งวาง​จอก​สุรา​ลง​บน​โต๊ะ​เบา​ๆ

สำหรับ​พลัง​ ไม่ว่า​จะเป็น​พลัง​อะไร​ เขา​ล้วน​ไม่สนใจ​ ขอ​แค่​ทำให้​เขา​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ และ​ได้รับ​อิสระ​มากกว่า​เดิม​ ไม่ว่า​อะไร​เขา​ก็​รับได้​ทั้งสิ้น​

ปฐมพลัง​ของ​โลก​ที่​โลก​เทพ​นอกรีต​เติมเต็ม​เข้ามา​ให้​ สูงกว่า​พลัง​เทพ​นอกรีต​ของ​ร่าง​หลัก​ขั้น​หนึ่ง​ ดูเหมือน​พลัง​ชนิด​นี้​จะปรับเปลี่ยน​จิตวิญญาณ​กับ​กาย​เนื้อ​ของ​ร่าง​หลัก​เพียง​เล็กน้อย​ เพื่อ​เป็นการ​มอบ​ของรางวัล​จาก​การ​ที่​เขา​กัดกร่อน​ซังหยาง​ได้​

“แต่​สุดท้าย​แล้ว​พลัง​สาย​นี้​ก็​ยืม​มาใช้เท่านั้น​ เรา​สัมผัส​ได้​ว่า​ ผ่าน​ไปอีก​สิบ​วัน​ ปฐมพลัง​จาก​เทพ​นอกรีต​ทั้งหมด​จะสลาย​หาย​ไปอย่าง​สมบูรณ์​ ไม่ใช่พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​เรา​ฝึกฝน​ออกมา​ ย่อม​เก็บ​ไว้​ไม่ได้​”

ลู่​เซิ่งไตร่ตรอง​ครู่หนึ่ง​

“ดูเหมือน​ได้​แต่​ใช้ดี​ปบลู​ ทดลอง​หลอม​เปลี่ยนเป็น​พลัง​ของ​ร่าง​หลัก​ดู​…”

เขา​เคย​ทดลอง​มาก่อน​ ถ้าหาก​เทียบ​สัดส่วน​อัคคี​เทพ​หงส์​เพลิง​กับ​พลัง​เทพ​นอกรีต​แบบ​หนึ่งต่อหนึ่ง​

ต้อง​รวม​สอง​สิ่งให้ได้​แสน​หน่วย​ ถึงจะงัด​ปฐมพลัง​เทพ​นอกรีต​หนึ่ง​หน่วย​ แล้ว​หลอม​รวม​มัน​เข้ากับ​ร่าง​หลัก​ได้​

พลังงาน​ชนิด​นี้​รองรับ​ทุกสิ่ง​ คุณสมบัติ​คือ​ความยุ่งเหยิง​โกลาหล​ มีแต่​การ​ทำลาย​สมดุล​ความโกลาหล​ด้านใน​เท่านั้น​ ถึงจะดูดซับ​หลอม​เปลี่ยน​มัน​ได้​

เพียงแต่​การ​ทำ​แบบนี้​มีประสิทธิภาพ​ต่ำ​เกินไป​ พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ ลู่​เซิ่งต้อง​บด​อัด​ผลาญ​อัคคี​เทพ​หงส์​เพลิง​กับ​พลัง​เทพ​นอกรีต​แสน​หน่วย​ ถึงจะพอ​หลอม​เปลี่ยน​ปฐมพลัง​ของ​โลก​หนึ่ง​หน่วย​ได้​

เพียงแต่​สำหรับ​เขา​แล้ว​ ขอ​แค่​งัด​ได้​ ปัญหา​หนึ่งเดียว​ของดี​ปบลู​ก็​คือ​จำนวน​พลัง​อาวรณ์​เท่านั้น​

หาก​ยึด​ตาม​การ​แยกแยะ​ประเมิน​ของ​เขา​ เกรง​ว่า​ปฐมพลัง​ของ​โลก​ใบ​นี้​จะเป็น​พลังงาน​แข็งแกร่ง​ที่​เหมือนกับ​ปราณ​ม่วง​เวิ้งว้าง​ใน​จักรวาล​แห่ง​นี้​

หาก​ไม่รีบ​นำมา​ครอบครอง​ ก็​สูญเปล่า​จริงๆ​ แล้ว​

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset