ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 914 จุดเริ่มต้นสงคราม (2)

บทที่ 914 จุดเริ่มต้นสงคราม (2)

หลัง​จากอ​วี่​ซวน​กลับ​ไป เผ่า​หงส์​เพลิง​ก็​ใช้เส้นสาย​ ทรัพย์สมบัติ​ และ​ทรัพยากร​มากมาย​ ในที่สุด​ก็​ทำให้​เรื่อง​เฟิงหลิน​เงียบหาย​ไปได้​

เผ่า​เวท​ตามหา​คนร้าย​ ยังคง​ไล่ล่า​อย่าง​ไม่หยุดยั้ง​ แต่​ไม่มีใคร​ทราบ​ว่า​ อวี่​ซวน​ได้​แอบซ่อน​เฟิงหลิน​ไว้​ใน​ซาก​โบราณสถาน​พิเศษ​ที่​หงส์​เพลิง​เคย​สละ​ชีพ​แห่ง​หนึ่ง​

นั่น​คือ​มิติ​เล็ก​ๆ อีก​มิติ​ ไม่มีใคร​ค้น​เจอ​ได้​

เผ่า​เวท​หา​ใคร​ไม่เจอ​ ได้​แต่​สังหาร​เผ่า​ปีศาจรอบ​ๆ ระบาย​ความแค้น​ แล้ว​ล่าถอย​อย่าง​จนปัญญา​

มีคน​เริ่ม​สงสัย​ว่า​อวี่​ซวน​เอา​ตัว​เฟิงหลิน​ไปซ่อน​หรือไม่​ แต่​เมื่อ​ไม่มีหลักฐาน​ กอปร​กับ​ซีเห​อ​ช่วย​พูด​ให้​เผ่า​หงส์​เพลิง​ ก็​ไม่มีใคร​พัวพัน​กับ​ปัญหา​นี้​ต่อไป​

สรุป​แล้ว​นอกจาก​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​เผ่า​เวท​กับ​อุทยาน​ปีศาจที่​แย่​กว่า​เดิม​เล็กน้อย​ สถานการณ์​ก็​เริ่ม​สงบ​ลง​

สำหรับ​เผ่า​เวท​และ​ปีศาจ เผ่า​เล็ก​ๆ อย่าง​เจิงมู่ ใต้​สังกัด​ต่อให้​ไม่ถึงสิบ​หมื่น​ ก็​มีเจ็ด​แปด​หมื่น​ สิ่งที่​พวกเขา​ใส่ใจคือ​ศักดิ์ศรี​ และ​สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ ภายใน​ของ​เขา​เกิดเรื่อง​ จึงต้อง​จัดการ​อย่าง​เร่งด่วน​

เผ่า​หงส์​เพลิง​ถูกริบ​อาวุธ​เทพ​ ตัว​หัวหน้า​เผ่า​ออกหน้า​จับตัว​คนร้าย​และ​ตรวจสอบ​หา​ฆาต​รก​ร​ด้วยตัวเอง​ ทั้ง​ยัง​เป็นตัวแทน​อุทยาน​ปีศาจใน​การ​ขอโทษ​ โดย​จ่าย​ค่าชดเชย​เป็น​วัตถุดิบ​กับ​ทรัพยากร​ไม่น้อย​

พวกเขา​สังหาร​เผ่า​ปีศาจไปแล้ว​หลาย​กลุ่ม​เช่นกัน​

ภายใต้​ผลลัพธ์​เช่นนี้​ เผ่า​เวท​ไม่อาจ​สืบสาว​ต่อไป​ เรื่อง​นี้​จึงค่อยๆ​ สงบ​ลง​

สิ่งที่​ป่าต้นไม้​ไม้ยักษ์​ต่าง​ไปจาก​เดิม​ก็​คือ​ ใน​ป่ามีทายาท​หงส์​เพลิง​เพิ่ม​มาหนึ่ง​ ส่วน​นก​อัคคี​เฟิงหลิน​ผู้​สืบเชื้อสาย​หงส์​เพลิง​ก็​ลด​ไปหนึ่ง​

ทาง​ลู่​เซิ่ง เริ่ม​หลอม​ของ​วิเศษ​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​ที่​ได้​จากอ​วี่​ซวน​

“สังหาร​!”

นก​ยักษ์​ไร้​ขน​ทั่ว​ป่าเขา​ก้าวย่าง​หนักอึ้ง​ มุ่งหน้า​ไปเผชิญ​กับ​สอง​ตา​แดงฉาน​ของ​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​วต​รง​หน้า​

โหม​ว​ซีหนิ​ว​เป็นหนึ่ง​ใน​เผ่า​ปีศาจที่​ใหญ่​ที่สุด​ของป่า​ต้นไม้​ยักษ์​ เดิมที​ถิ่น​ของ​พวกเขา​ตั้งอยู่​ที่​ชายขอบ​ของ​เผ่า​เวท​เจิงมู่ ตอนนี้​เจิงมู่ถูก​ทำลาย​ อาณาเขต​จึงถูก​ลัทธิ​แสงสว่าง​ที่​ลงมือ​เป็น​คน​แรก​ยึดครอง​

และ​ลัทธิ​แสงสว่าง​ก็​กลายเป็น​ขุม​กำลัง​ที่อยู่​ติดกับ​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​ว​ใน​ปัจจุบัน​

ลู่​เซิ่งยืน​อยู่​บน​ท่อนซุง​ของ​ต้นไม้​ยักษ์​ที่​แตกหัก​ต้น​หนึ่ง​ ทอดตา​มอง​การศึก​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป

นก​ยักษ์​ลัทธิ​แสงสว่าง​จำนวนนับ​หมื่น​กระพือปีก​ที่​เต็มไปด้วย​เรี่ยวแรง​ เข้า​ปะทะ​กับ​ปีศาจกระทิง​ของ​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​ว​ที่​มีพลัง​คชสาร​โดยกำเนิด​

ทั้งสองฝ่าย​มีพละกำลัง​สูสีกัน​ ขึ้นอยู่กับ​ขนาด​ร่างกาย​ว่า​จะแพ้​หรือ​ชนะ​

ทาง​ฝั่งกระทิง​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​ว​มีพลัง​ป้องกัน​ไม่ธรรมดา​ หนัง​กระทิง​ทนทาน​ ดาบ​กระบี่​ยาก​ทำร้าย​ แต่​พลัง​ฟื้นฟู​ยังคง​ช้าไปบ้าง​

ทาง​นก​ยักษ์​มีพลัง​ฟื้นฟู​น่า​ตื่น​ตะลึง​ แต่​การป้องกัน​ย่ำแย่​กว่า​

ทั้งสอง​ฝั่งฆ่ากัน​อย่าง​ดุเดือด​ ไม่ได้​ปล่อย​อาคม​อิทธิฤทธิ์​ หาก​เข้าไป​ปะทะ​กัน​โดยตรง​ อย่างไร​อิทธิฤทธิ์​ทั่วไป​ก็​มีผล​กับ​พวกเขา​ไม่มาก​นัก​

ทั่ว​พื้นดิน​ของป่า​เต็มไปด้วย​เสียง​กระทบกระแทก​และ​เสียง​สั่นสะเทือน​อัน​รุนแรง​

ลู่​เซิ่งสีหน้า​ไร้อารมณ์​ ใน​มือ​ควง​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​เล่น​ เบื้องหลัง​เป็น​โลกบาล​จ้าว​หมิง​ยืน​อยู่​

ธรรมบาล​สี่คน​เข้าสู่​สนามรบ​ตั้ง​แต่ต้น​ ทว่า​การศึก​ยังคง​ยื้อยุด​กัน​

“ท่าน​เจ้าลัทธิ​ ให้​ข้า​ร่วม​ศึก​เถอะ​! พวกเรา​รอ​มานาน​ ไม่ได้มา​เพื่อ​รับ​ชมเรื่อง​สนุก​นะ​ขอรับ​!” แขน​ข้าง​ที่​ขาด​ของ​จ้าว​หมิง​งอก​กลับมา​แล้ว​ ตอนนี้​สีหน้า​แดงก่ำ​ ต้องการ​เข้าร่วม​สนามรบ​

โลกบาล​อีก​สอง​คน​ก็​มีท่าที​กระเหี้ยนกระหือรือ​เช่นกัน​ ภายใต้​การ​สนับสนุน​ทาง​ทรัพยากร​ของ​ลัทธิ​แสงสว่าง​ ไม่นาน​มานี้​พลัง​ฝึกปรือ​ของ​เขา​ก็​ก้าวหน้า​ขึ้น​ ศึก​ใหญ่​ในเวลานี้​คือ​โอกาสดี​ที่จะ​ได้​พิสูจน์​ตัวเอง​

ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​น้อย​ๆ

“ไม่ต้อง​ พวก​มัน​ทน​ได้​อีกไม่นาน​แล้ว​” สถานการณ์​ดูเหมือน​เคร่งเครียด​ ขุม​กำลัง​สูสี แต่​ความจริง​กระทิง​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​ว​ยัน​ได้​อีกไม่นาน​แล้ว​ ความอดทน​ของ​พวก​มัน​ไม่ได้​มีมาก​เท่ากับ​นก​ยักษ์​จาก​ลัทธิ​แสงสว่าง​

ผ่าน​ไปไม่นาน​ ทาง​ฝั่งกระทิง​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​ว​ส่งเสียงคำราม​

แสงสีดำ​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ขึ้น​ท้องฟ้า​ พริบตาเดียว​ก็​กลาย​เป็นเงา​สีเทา​กึ่ง​โปร่งแสง​กลางอากาศ​ ร่วง​ตก​จาก​ฟากฟ้า​ พุ่งชน​ใส่ค่าย​กล​นก​ยักษ์​ด้านล่าง​

สีหน้า​ของ​ลู่​เซิ่งไม่เปลี่ยนแปลง​ กด​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​ใน​มือเบา​ๆ

“ไป!”

ฉับพลัน​นั้น​ป้าย​คำสั่ง​ปล่อย​ลำแสง​สีขาว​สาย​หนึ่ง​ออกมา​ แสงสีขาว​สาย​นั้น​พุ่ง​ไปถึงกลางอากาศ​ แล้ว​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​ กลายเป็น​ประตู​ข้าม​มิติ​สีขาว​ทรง​รี​

ใน​ประตู​พลัน​มีแขน​สีแดงก่ำ​ขนาด​มหึมา​ยื่น​ออกมา​

มนุษย์​ศิลา​ร่าง​ยักษ์​ที่​ตัวประกอบ​จาก​หินหนืด​สีแดงเข้ม​ มุด​ออกมา​จาก​ประตู​ข้าม​มิติ​ ต่อย​หมัด​ใส่เงากระทิง​ยักษ์​ที่​กระทิง​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​ว​ร่าย​ออกมา​

เปรี้ยง​!

สัตว์​ขนาด​ยักษ์​สอง​ตัว​ที่สูง​สิบ​กว่า​หมี่​เริ่ม​ฆ่าฟัน​กัน​

“นี่​คือ​ยักษ์​หินหนืด​หรือ​” ลู่​เซิ่งควง​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​ใน​มือ​เล่น​ “พลัง​ทำลาย​กับ​พลัง​ฆ่าฟัน​อยู่​ใน​ระดับ​ทารก​กำเนิด​ ดูเหมือน​เป็น​เพราะ​เรา​ใส่พลัง​อาคม​เข้าไป​ไม่เยอะ​ ตาม​คำพูด​ของ​อวี่​ซวน​ อย่าง​มาก​ของ​สิ่งนี้​อัญเชิญ​ยักษ์​หินหนืด​ระดับ​เทพ​จำแลง​ออกมา​ได้​มาก​สุด​”

ขณะ​เขา​คิด​แบบนี้​ ก็​เติม​พลัง​อาคม​บางส่วน​เข้าไป​ใน​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​ ทันใดนั้น​ร่าง​ยักษ์​หินหนืด​ก็​เรืองแสง​สีแดง​ ขนาด​ร่าง​ขยาย​ขึ้น​อีกครั้ง​ ราวกับ​พละกำลัง​เพิ่มขึ้น​ ต่อย​หมัด​ใส่เงากระทิง​ยักษ์​ที่อยู่​ตรงหน้า​จน​อีก​ฝ่าย​ร้อง​โหยหวน​และ​โซเซถอยหลัง​

“เป็น​อย่าง​ที่​คิด​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ เติม​พลัง​อาคม​เข้าไป​อีก​ ไม่นา​นยักษ์​หินหนืด​ก็​ตัว​ใหญ่​ขึ้น​เรื่อยๆ​ สูงกว่า​เงากระทิง​ยักษ์​ใน​ตอนแรก​แล้ว​

กรรซ์!​

มัน​ร้อง​คำราม​ พร้อมกับ​คว้า​หมับ​เงากระทิง​ยักษ์​ทุ่ม​ใส่พื้น​

ตูม​!

กระทิง​ยักษ์​อัน​เป็นเงา​ลวง​แตกสลาย​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ ปีศาจกระทิง​ตัว​หนึ่ง​ใน​เผ่า​โหม​ว​ซีหนิ​วก​ระ​อัก​เลือด​ออกมา​

“ถอย​!” มัน​แผดเสียง​

ฉับพลัน​นั้น​เผ่า​กระทิง​โหม​ว​ซีหนิ​ว​ก็​ถอย​ออกจาก​ป่าต้นไม้​ยักษ์​ อพยพ​ออก​ไปไกล​

“ไปเถอะ​ ต่อไป​” ลู่​เซิ่งหันไป​ยัง​เขต​ต่อสู้​อื่น​ต่อ​

เวลานี้​ห้า​ราชา​ปีศาจที่​เหลือกำลัง​ขยับ​ขยายอาณาเขต​ใน​ทิศทาง​ต่างๆ​ เช่นกัน​ อาณาเขต​ของป่า​ต้นไม้​ยักษ์​หมายถึง​ทรัพยากร​ อาหาร​ ที่อยู่อาศัย​ และ​ผลไม้​วิเศษ​

ใน​เวลา​ห้า​วัน​ อาณาเขต​ของ​ทั่ว​ทั้ง​ลัทธิ​แสงสว่าง​ใหญ่​ขึ้น​หนึ่ง​เท่า​

อาณาเขต​ของ​ลัทธิ​แสงสว่าง​ขยาย​ไปรอบ​ๆ โดย​ใช้ฐาน​ของ​เผ่า​เวท​เจิงมู่เป็น​ศูน​กลาง​ ใหญ่​ขึ้น​อย่าง​น้อย​เกือบ​สองเท่า​

ลู่​เซิ่งลง​มือบน​สมรภูมิ​หลายครั้ง​ ยักษ์​หินหนืด​ที่​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​อัญเชิญ​ออกมา​มีความสามารถ​ล่อลวง​ ทำให้​คนอื่นๆ​ ไม่สังเกตเห็น​ระดับ​พลัง​ของ​ตัว​เขา​เอง​

โลก​ใบ​นี้​เน้น​ใช้ของ​วิเศษ​ต่อสู้​ เมื่อ​เป็น​แบบนี้​ สายตา​จาก​โลก​ภายนอก​ส่วนใหญ่​จึงไม่ได้​รวม​อยู่​ที่​ตัว​เขา​ หาก​แต่​อยู่​ที่​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​เขา​ครอบครอง​

นี่​เป็น​ผลลัพธ์​ที่​ลู่​เซิ่งต้องการ​เช่นกัน​

หลังจาก​ได้รับ​วิชา​ถ่าย​ทอดที่​แข็งแกร่ง​ของ​เผ่า​หงส์​เพลิง​ และ​เอาชนะ​ขุม​กำลัง​คุกคาม​ที่อยู่​รอบ​ๆ ได้​ เขา​ก็​ไม่สนใจ​เรื่อง​อย่าง​อื่น​อีก​ มอบ​ภารกิจ​ใน​ลัทธิ​ให้​สามโลกบาล​ และ​สี่ธรรมบาล​ข้าง​กาย​ และ​กัก​ตน​อีกครั้ง​

ครั้งนี้​ เขา​จะทด​ลองดู​ว่า​ อานุภาพ​ที่​แท้จริง​ของ​วิชา​ถ่ายทอด​แห่ง​หงส์​เพลิง​เป็น​อย่างไร​

ณ อุทยาน​ปีศาจ

“อวี่​ซวน​” บน​สะพาน​หยก​ระหว่าง​ตำหนัก​หยก​ขาว​ หัวหน้า​หงส์​เพลิง​ชะงัก​เท้า​ หันกลับ​ไปมอง​ด้านหลัง​

บุรุษ​รูปงาม​สวม​กวน​หยก​สีเขียว​ และ​แขวน​กระบี่​ไข่มุก​ไว้​ที่​เอว​ เร่งฝีเท้า​เดิน​มาด้วย​สีหน้า​เป็นกังวล​

“ชิงจ้งหรือ​ เผ่า​มังกร​เขียว​ของ​ท่าน​ ไปชมพูทวีป​ไม่ใช่หรือ​ เหตุใด​อยู่​ๆ ถึงกลับมา​เล่า​” อวี่​ซวน​เอ่ย​อย่าง​งุนงง​

มังกร​เขียว​เป็น​เผ่า​ที่​มีสายเลือด​มังกร​มาก​ที่สุด​ ถือเป็น​เผ่า​ที่​ใกล้เคียง​กับ​บรรพชน​มังกร​ที่สุด​ใน​ปัจจุบัน​ พลัง​ต่อสู้​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​สี่สัตว์​เทพ​ ได้รับ​การ​อวย​ยศ​เป็น​ผู้บัญชา​การนำ​ทัพ​ของ​อุทยาน​สวรรค์​ ยาตรา​กองทัพ​ไปทั่ว​ทุกที่​

“ไม่ใช่อยู่​ๆ ก็​กลับมา​ แต่​ทาง​นั้น​เกิดเรื่อง​อีกแล้ว​” ชิงจ้งถอนใจ​ “สรุป​ก็​คือ​ พวกเรา​สี่สัตว์​เทพ​มีแหล่งกำเนิด​เดียวกัน​ สถานการณ์​อย่าง​เป็น​รูปธรรม​ ข้า​ยัง​เปิดเผย​ไม่ได้​ แต่​…ตัว​เจ้าระวัง​ไว้​หน่อย​ดีกว่า​ ความโกลาหล​…กำลังจะ​มาแล้ว​”

ชิงจ้งไม่พูด​อะไร​มาก​ เดิน​ผ่า​นอ​วี่​ซวน​ไปยัง​ตำหนัก​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป

อวี่​ซวน​ยืน​อยู่​บน​สะพาน​หยก​ รู้สึก​สังหรณ์​ไม่ดี​อยู่​บ้าง​

“ได้ยิน​มาว่า​อีก​ไม่กี่​วัน​เหล่า​โอรส​จะลง​ไปเที่ยวเล่น​ยัง​โลก​เบื้องล่าง​ ไม่รู้​ว่า​จริง​หรือ​เท็จ​”

“น่าจะ​จริง​ สอง​สามวันก่อน​ข้า​ถูก​เรียกตัว​ไปจัด​แต่ง​ราชรถ​ เพียงแต่​โลก​เบื้องล่าง​มีรังนก​ทองคำ​อยู่​สิบ​เจ็ด​แห่ง​ ไม่รู้​ว่า​พวก​โอรส​จะไปที่​ไห​น.​..”

“ใช่แล้ว​ๆ…ถ้าหาก​รู้​จุดหมาย​ก่อน​ ไม่แน่​ว่า​จะทำให้​พวกเรา​เตรียมตัว​ได้​ก่อน​ ถ้าประจบ​เหล่า​โอรส​ได้ดี​ก็​เป็นผล​งานใหญ่​เช่นกัน​!”

อวี่​ซวน​ได้สติ​กลับมา​ ตอนนี้​จิตใจ​หวั่นไหว​ ได้ยิน​เรื่องใหญ่​เมื่อไม่นานมานี้​ที่​ปีศาจน้อย​ซึ่งอยู่​ใน​อุทยาน​ปีศาจรอบ​ๆ กำลัง​คุย​กัน​

“พวก​โอรส​จะลง​ไปเที่ยวเล่น​ที่​โลก​เบื้องล่าง​…” อวี่​ซวน​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ เหตุใด​อยู่​ๆ โอรส​ทั้ง​สิบ​ที่​เป็น​อีกา​ทอง​สามขา​ซึ่งควบคุม​การ​โคจร​ของ​ดวงอาทิตย์​จึงจะลง​ไปยัง​โลก​เบื้องล่าง​โดย​ไม่มีสาเหตุ​เล่า​

นาง​นึก​เฉลียวใจ​ เริ่ม​สังเกต​การเคลื่อนไหว​ที่​ส่งมาจาก​อาณาเขต​เทพ​ปีศาจ

เหล่า​เทพ​ปีศาจโดยส่วนใหญ่​แล้ว​เกียจคร้าน​รัก​สบาย​ บางครั้ง​ก็​ไม่ได้​ใช้วิธี​ส่งกระแสเสียง​หรือ​สื่อสาร​ทางจิต​ ก็​จะเปิดปาก​สนทนา​กัน​ตรงๆ​

เวลานี้​เป็นเวลา​ที่​นาง​รวบรวม​ข้อมูล​ได้​

ปกติ​แล้ว​ใน​สิบ​ครั้ง​จะมีสัก​เก้า​ครั้ง​ที่​ไม่ได้ยิน​อะไร​เลย​ แต่​ครั้งนี้​เหมือน​โชค​จะดี​ไม่น้อย​ อวี่​ซวน​ได้ยิน​จอม​ดารา​หลาย​คน​กำลัง​ดื่ม​สุรา​สนทนา​กัน​อยู่​พอดี​

“…บรรพชน​เวท​เทพ​ธารา​กับ​จู้หรง​ทำศึก​ใหญ่​มาสิบ​วัน​แล้ว​กระมัง​”

“ประมาณ​นั้น​ ตอนแรก​แค่​ตีฝีปาก​กัน​ เหตุใด​ยิ่ง​สู้ยิ่ง​รุนแรง​ขึ้น​เล่า​ พวก​ป่าเถื่อน​เหล่านี้​เข้าใจยาก​จริงๆ​…”

“แต่​คง​สู้กัน​อีกไม่นาน​หรอก​ เจ้าจู๋จิ่ว​อิน​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​สอง​ฝั่งก่อเรื่อง​ น่าจะ​ใกล้​เกลี้ยกล่อม​ให้​ยุติ​แล้ว​”

“จะว่า​ไปหลายครั้ง​ก่อนหน้านี้​ก็​เป็น​จู๋จิ่ว​อิน​ยุติ​เรื่อง​ไม่ใช่หรือ​ แต่​ครั้งนี้​พวก​ท่าน​กลับ​ไม่ทราบ​ว่า​ จู่จิ่ว​อิน​นั่น​ไม่อยู่​พอดี​!” จอม​ดารา​คน​หนึ่ง​เอ่ย​อย่าง​มึนเมา​

“ไม่อยู่​หรือ​ มิน่า​บรรพชน​เวท​ธารา​และ​อัคคี​สอง​คน​จึงสู้กัน​มานาน​ไม่หยุดหย่อน​…ที่แท้​สิบ​โอรส​ใหญ่​ก็​ต้อง​กา​ร.​..”

“ห้าม​พูด​! เรื่อง​นี้​ยัง​ไม่แน่​ จะกล่าว​ส่งเดช​ไม่ได้​”

“ใช่แล้ว​ๆ…ขอบคุณ​สหาย​ร่วม​เส้นทาง​ที่​เตือน​”

เสียง​เบา​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​ พอ​เงี่ย​หูฟัง​ก็​ไม่ได้ยิน​อะไร​อีก​

แต่​อวี่​ซวน​กระจ่าง​แล้ว​ว่า​ การ​ลง​ไปยัง​โลก​เบื้องล่าง​ของ​โอรส​ทั้ง​สิบ​แห่ง​จักรพรรดิ​ปีศาจ น่าจะ​ไม่ใช่แค่​การ​เที่ยวเล่น​เฉย​ๆ

“ฝน​กำลัง​ตั้งเค้า​แล้ว​…” นาง​ผุด​สีหน้า​สงสัย​เล็กน้อย​ ก่อน​จะเร่งฝีเท้า​เดิน​ไปยัง​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​

ถ้าทำลาย​สมดุล​ระหว่าง​เผ่า​เวท​และ​ปีศาจจริงๆ​ เกรง​ว่า​สงคราม​ใหญ่​จะอุบัติ​ทันที​ ถึงเวลา​นั้น​ นาง​ต้อง​พิจารณา​ให้​ดี​ว่า​ เผ่า​หงส์​เพลิง​จะหา​ที่อยู่​ที่​ดี​ที่สุด​ได้​อย่างไร​

โลก​เบื้องล่าง​ ลึก​ลง​ไปข้างใต้​เนินเขา​ขาว​หลาย​พัน​หมี่​

ลู่​เซิ่งนั่งขัดสมาธิ​อยู่​ใน​วัง​ใต้ดิน​มืด​ทะมึน​ ไฟของ​หงส์​เพลิง​สีแดง​อ่อน​หลาย​กลุ่ม​วนเวียน​สาดส่อง​รอบข้าง​

เขา​ถือ​ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​ไว้​ใน​มือ​ ทางขวา​มีของขลัง​และ​วัตถุดิบ​ล้ำค่า​ต่างๆ​ ที่​ยึด​มาจาก​ขุม​กำลัง​อื่น​ วาง​อยู่​

“ร่างกาย​ปรับตัว​ได้​พอประมาณ​แล้ว​ สามารถ​ยกระดับ​ได้​อีกครั้ง​ ครั้งนี้​อยาก​จะดู​หน่อย​ว่า​ วิชา​ถ่ายทอด​หงส์​เพลิง​ร้ายกาจ​ขนาด​ไหน​”

เวลานี้​ลู่​เซิ่งค่อนข้าง​คาดหวัง​ อย่างไร​ก็​เป็น​วิชา​วงศา​เทพ​ ของ​สายเลือด​สัตว์​เทพ​ที่​บริสุทธิ์​ใน​ตำนาน​

เขา​เรียก​บันทึก​ทักษิณ​อายุวัฒนะ​จาก​ใน​ความทรงจำ​ที่​ได้รับ​ถ่ายทอด​ออกมา​พิเคราะห์​ดู​

บันทึก​ทักษิณ​อายุวัฒนะ​แบ่ง​เป็น​เก้า​ขั้น​ หลัง​ฝึก​สำเร็จ​ทั้ง​เก้า​ขั้น​ จะทำให้​ตนเอง​เกิด​ใหม่​หนึ่ง​ครั้ง​ ยิ่ง​จำนวน​เกิด​ใหม่​มาก​เท่าไร​ คุณสมบัติ​ร่างกาย​ก็​จะแข็งแกร่ง​ รูปร่าง​งดงาม​ เสียงดนตรี​ไพเราะ​ รวมถึง​เปลวเพลิง​แข็งแกร่ง​มาก​เท่านั้น​

ทุกๆ​ ครั้ง​ที่เกิด​ใหม่​สำเร็จ​ อายุขัย​จะเพิ่มขึ้น​หมื่น​ปี

ลู่​เซิ่งอ่าน​หลาย​รอบ​ แต่​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​หลัก​การนิยาม​กับ​องค์ประกอบ​ใน​วิชา​ ระบบ​บำเพ็ญ​เป็น​เซียน​อย่าง​พวก​กระตุ้น​จิต​ก่อน​กำเนิด​ ผนึก​วิญญาณ​ และ​การ​ทำลาย​ตะเกียง​วิญญาณ​ มัน​ไม่ใช่การ​ฝึก​ตามปกติ​

แต่​ไม่เป็นไร​ ขอ​แค่​ฝึก​ได้​ก็​พอ​

ต่อให้​อ่าน​ไม่เข้าใจ​หรือ​ฝึก​ได้​หรือไม่​ก็​ไม่สำคัญ​

หลังจาก​อ่าน​วิชา​เก้า​ขั้น​จบ​รอบ​หนึ่ง​ ลู่​เซิ่งก็​เริ่ม​ตั้งสมาธิ​สงบ​ลมหายใจ​

ดี​ปบลู​!

เขา​คิด​จะใช้ป้าย​คำสั่ง​จอม​ขุนเขา​อันเป็น​ของ​วิเศษ​อำพราง​ตัว​ ขณะ​อยู่​ด้านนอก​อาศัย​ของ​วิเศษ​ลงมือ​เป็นหลัก​ ส่วน​ตัวเอง​ยกระดับ​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ พยายาม​พัฒนา​ให้​ถึงขีดจำกัด​ใน​เวลา​ที่​สั้น​ที่สุด​ให้ได้​

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset