ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 891 จบสิ้น (1)

บทที่ 891 จบสิ้น (1)

วิชา​กระบี่​น่า​ตกตะลึง​เช่นนี้​ กลับ​ไม่เคย​ได้ยิน​หรือ​ได้​เห็น​จาก​ที่ไหน​มาก่อน​!

พวก​จันทรา​ม่วง​ที่​หลบ​อยู่ห่างๆ​ ต่าง​อ้า​ปาก​ตาค้าง​ พวก​นาง​เคย​เจอ​เจ้าสำนัก​รุ่น​ก่อน​ของ​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​ ก่อนหน้านี้​ดูเหมือน​เป็น​ชาย​ชรา​ธรรมดา​ ขี้​เกรงอกเกรงใจ​ ตอนที่​ติดต่อ​กับ​เจ้านคร​ตราชั่ง​รุ่น​ก่อน​ ก็​นิสัย​เป็นมิตร​อย่างยิ่ง​

นึกไม่ถึง​ว่า​พอ​ลงมือ​จริงจัง​ กลับ​ดุดัน​เช่นนี้​!

“วิชา​กระบี่​แบบนี้​มีผล​กด​ข่ม​ที่​แข็งแกร่ง​ต่อ​อนธการ​อย่าง​พวกเรา​เหมือนกัน​…ก่อนหน้านี้​เคย​ได้ยิน​มาว่า​เจ้าสำนัก​รุ่น​ก่อน​ผู้​นี้​ประคับประคอง​สำนัก​เพียงลำพัง​ ต่อสู้​กับ​วัน​เวลา​ใน​ยุค​ที่​มืดมิด​ที่สุด​อย่าง​ยากลำบาก​ที่สุด​ตอนแรก​นึก​ว่า​เป็น​แค่​เรื่อง​แต่ง​ คาดไม่ถึง​ว่า​…” เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​เผย​สีหน้า​คร่ำเคร่ง​

“พวกเรา​สอด​มือดี​หรือไม่​” จันทรา​ม่วง​ถามเสียง​แผ่วเบา​

“เตรียม​ลงมือ​ช่วย​คน​ให้​พร้อม​!” เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​หยุดนิ่ง​ ดวงตา​ปรากฏ​แสงสีแดงฉาน​ ใน​เมื่อ​พวก​นาง​ยืน​อยู่​ข้าง​ ลู่​เซิ่งตอน​ทำลาย​สำนัก​แปลง​วายุ​ก็​เท่ากับ​แสดงท่าที​แล้ว​

จะกลับลำ​ใน​ตอนนี้​ก็​ไม่มีความหมาย​ใดๆ​ อีก​

ณ อวกาศ​อัน​ไกลโพ้น​

“อาจารย์​ ครั้งนี้​อย่างไร​ก็​ต้อง​รบกวน​ท่าน​แล้ว​…” ห​ลี่​ซิว​ลา​ดึง​อัคคี​อนธการ​ใน​ร่าง​ออกมา​ พร้อมกับ​เช็ด​คราบเลือด​บน​ใบหน้า​ ก่อน​จะบิน​เข้ามา​ใกล้​อย่าง​ยากลำบาก​เล็กน้อย​

ขณะ​มอง​ชาย​ชรา​ที่​ใน​อดีต​ตน​เคย​นึก​ว่า​แก่​แล้ว​ สายตา​ของ​เขา​กลับ​ซับซ้อน​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​

“ท่า​น.​..ไปถึงขอบเขต​นั้น​ตั้งแต่​เมื่อไร​…” ห​ลี่​ซิว​ลา​อด​ถามเสียง​เบา​ขึ้น​มาไม่ได้​

ชาย​ชรา​ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ เหม่อมอง​ดาวฤกษ์​สุก​สกาว​

“จำไม่ได้​แล้ว​…” เขา​ถอนใจ​

“อย่างนั้น​…ข้า​เรียน​ได้​หรือไม่​” ห​ลี่​ซิว​ลา​นิ่ง​ไป ก่อน​ถามเสียง​แผ่ว​ต่ำ​

ชาย​ชรา​ยิ้ม​ๆ ก้ม​มอง​เขา​

“บางอย่าง​ หาก​เข้าใจ​ก็​จะเข้าใจ​ หาก​ไม่เข้าใจ​ ไม่ว่า​จะเรียน​อย่างไร​ก็​ไม่มีประโยชน์​ เจ้า…เข้าใจ​หรือไม่​”

ห​ลี่​ซิว​ลา​พลัน​นิ่งเงียบ​ไป

ชาย​ชรา​สะบัดมือ​โปรย​ปราณ​กระบี่​ออก​มาสาย​หนึ่ง​เพื่อ​สะกด​ซาก​เลือดเนื้อ​และ​จิตวิญญาณ​ของ​ลู่​เซิ่ง จากนั้น​ก็​หมุนตัว​บิน​ออก​ไป

“เรื่อง​นี้​เรียบร้อย​แล้ว​ ข้า​ควร​กลับ​ไปฝึก​ต่อ​สักที​…ใคร​สั่งสอน​ความ​โรยรา​อย่า​ถามเดือน​ปี ยาม​หนุ่มแน่น​มิเข้าใจ​ความทุกข์​โศก​ ร่าง​หทัย​กระบี่​จิต​กระบี่​ไม่แคลน​คลอน​ เก้า​ดวงดาว​กวาด​ทำลาย​สรรพสิ่ง​! ฉันใด​ฉันนั้น​…ซิว​ลา​ อย่า​ลืม​วิชา​กระบี่​เปิด​ปัญญาที่​ข้า​เคย​มอบให้​เจ้า…คำตอบ​อยู่​ที่​…”

“อาจารย์​รอ​เดี๋ยวก่อน​ขอรับ​!”

ทันใดนั้น​ห​ลี่​ซิว​ลา​พลัน​ตะโกนเรียก​

ชาย​ชรา​ยิ้ม​น้อย​ๆ โบกมือ​โดย​ไม่หันหลัง​กลับ​ไปมอง​

“ไม่ต้อง​ส่งแล้ว​ ครั้งหน้า​ไม่รู้​อีก​นาน​เท่าไร​จะได้​เจอกัน​อีก​…”

“ไม่ใช่ขอรับ​อาจารย์​!” ด้านหลัง​มีเสียง​ร้อนใจ​ของ​ห​ลี่​ซิว​ลา​ดัง​มา

“อะไร​กัน​” ชาย​ชรา​ส่ายหน้า​น้อย​ๆ ก่อน​จะหันไป​อย่าง​จนใจ​ “เจ้าเด็กน้อย​เอ๊ย​…”

เปรี้ยง​!

กำปั้น​หนักหน่วง​โหดเหี้ยม​สุด​เปรียบ​ปาน​ต่อย​ใส่แก้ม​ของ​เขา​ พริบตา​นั้น​ กำปั้น​เบียด​อัด​กล้ามเนื้อ​ บด​ฟันหน้า​ ฟันกราม​ และ​รากฟัน​ คาง​ของ​ชาย​ชรา​ยุบ​ลง​ เปลี่ยน​รูปร่าง​ เลือด​กระฉูด​ เอียง​เซไปทางซ้าย​ ฟัน​สิบ​กว่า​ซี่กระเด็น​ออกมา​

เศษฟัน​สีขาว​ผสม​กับ​เลือด​ ชาย​ชรา​ถูก​พลัง​กระแทก​อัน​ยิ่งใหญ่​ชน​ใส่อย่าง​หนักหน่วง​ พริบตาเดียว​ก็​ตีลังกา​ลอย​ออก​ไปไกล​ เสียดสี​กับ​ขอบ​ดาวเคราะห์​ แล้ว​ชน​ใส่แถบ​อุกกาบาต​ผืน​หนึ่ง​

ตูม​!

อุกกาบาต​หลาย​สิบ​ก้อน​หลบ​ไม่ทัน​ ถูก​ชน​จน​ระเบิด​

“อาจารย์​!” ห​ลี่​ซิว​ลา​ตกใจ​ คิด​จะเข้าไป​ช่วย​แต่​อัคคี​อนธการ​ใน​ตัว​ลุก​โหม​อีกครั้ง​ สะกด​การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ไว้​

ลู่​เซิ่งชัก​มือ​กลับ​ ก่อน​จะเชิดหน้า​ขึ้น​

พลัง​กาย​ใน​ตอน​เพิ่ง​คืนชีพ​ยัง​ไม่ฟื้นฟู​ดี​นัก​ ดูเหมือน​กำปั้น​เมื่อ​ครู่​ยัง​ไม่อาจ​แก้ไขปัญหา​ได้​

ถึงแม้ตา​เฒ่านั่น​จะร่างกาย​อ่อนแอ​ แต่​ผู้ฝึก​กระบี่​ขึ้น​ชื่อเรื่อง​ตอแย​ยาก​ และ​จิตใจ​แน่วแน่​ไม่กลัว​ตาย​

“ศึก​นี้​เพิ่ง​เริ่ม​เท่านั้น​ ไอ้​เฒ่าเฮงซวย​!” เขา​ยิ้ม​ยิงฟัน​ขาว​ ฟัน​แหลม​สีขาว​แน่นขนัด​งอก​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​ เหมือนกับ​เร่ง​กระบวนการ​ทั้งหมด​ให้​เร็ว​ขึ้น​หลาย​เท่าตัว​

ห​ลี่​ซิว​ลา​มอง​ลู่​เซิ่งที่​เพิ่ง​คืนชีพ​อ้า​ปาก​ตาค้าง​

ปราณ​กระบี่​ของ​ชาย​ชรา​ยังคง​ไหลเวียน​รอบตัว​ลู่​เซิ่ง แต่​ไม่อาจ​สะกด​ความเร็ว​คืนชีพ​อัน​น่า​ตกใจ​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​

ไม่เพียง​เขา​เท่านั้น​ จันทรา​ม่วง​กับ​เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​ที่​เตรียม​จะลงมือ​ขัดขวาง​ ก็​มอง​เหตุการณ์​นี้​ด้วย​สายตา​ตกตะลึง​เช่นกัน​

ปราณ​กระบี่​ของ​ชาย​ชรา​แข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​ พวก​นาง​เคย​เห็น​มาก่อน​ ใช้แค่​ความรู้สึก​ ไม่ได้​แตะต้อง​ตรงๆ​ ก็​ยัง​รู้สึก​ได้​ถึงพลัง​ทำลายล้าง​ที่​แข็งแกร่ง​ภายใน​

พลัง​แบบนี้​ ถ้าไม่ใช้ไพ่ตาย​ พวก​นาง​ก็​มีแต่​ต้อง​ตาย​สถาน​เดียว​

ลู่​เซิ่งมอง​ชาย​ชรา​ที่​ลุกขึ้น​

“ต้อง​ยอมรับ​ว่า​เจ้ายั่วโมโห​ข้า​สำเร็จ​แล้ว​” เขา​หัวเราะ​เหอะ​ๆ เสก​ดาบ​ยา​วสี​ดำ​ขึ้น​ใน​มือ​ ก่อน​จะสาวเท้า​เดิน​เข้าหา​ชาย​ชรา​ที่​กำลัง​กระอัก​เลือด​

“กระบวนท่า​ที่สาม​! รุ้ง​น้ำเงิน​!” ชาย​ชรา​ดวงตา​สาด​ประกาย​โทสะ​ กี่​ปีแล้ว​ที่​ไม่ถูก​คน​อัด​น่วม​ขนาด​นี้​ จำไม่ได้​แล้ว​ว่า​ครั้ง​ล่าสุด​ผ่าน​มากี่​ปีแล้ว​

แต่​ไม่เป็นไร​ เขา​แค่​สัมผัส​ไม่ได้​ชั่วขณะ​เท่านั้น​ เมื่อ​ครู่​สามารถ​สะกด​อีก​ฝ่าย​ได้​โดย​สมบูรณ์​ ตอนนี้​ก็​ทำได้​เหมือนกัน​!

ประกาย​กระบี่​สว่างไสว​ดุจ​รุ้งกินน้ำ​โผ​ลา​ขึ้น​ใน​มือ​ชาย​ชรา​ โชติช่วง​เป็น​มายา​ราวกับ​ดวงอาทิตย์​เกิด​ใหม่​ ก่อน​จะพุ่งตรง​เข้าหา​ลู่​เซิ่ง

มอง​จาก​กลางอากาศ​ไกลๆ​ เหมือนกับ​รุ้งกินน้ำ​เรียว​ยาว​เส้น​หนึ่ง​

ฟ้าว!​

ประกาย​กระบี่​ดุจ​รุ้ง​พุ่ง​ใส่ร่าง​ลู่​เซิ่ง เขา​เบี่ยง​ไปทางซ้าย​ แต่​ไม่อาจ​หลบ​พ้น​ประกาย​กระบี่​นี้​ได้​

ของ​สิ่งนี้​ยัง​ไม่โดน​เขา​แท้ๆ​ แต่กลับ​กระโดด​ข้าม​มิติ​หายวับ​ใน​ระยะ​เพียง​เสี้ยว​วินาที​สุดท้าย​ แล้ว​มุด​ออกมา​ระเบิด​จาก​ทางขวา​ของ​เขา​

“อ๊าก!​ มือ​ข้า​!”

ลู่​เซิ่งร้อง​โหยหวน​ ก้มหน้า​มอง​ไป สอง​มือ​ไม่เป็นอะไร​สัก​อย่าง​

บน​แขน​มีความรู้สึก​เจ็บปวด​ที่​ถูก​ตัดขาด​แท้ๆ​ แต่​พริบตา​ที่​เขา​ก้ม​มอง​ บาดแผล​กลับ​หาย​ดีแล้ว​

“หือ​?” เขา​จับหลัก​ได้​ทันที​ เสียง​โหยหวน​จึงหยุด​ลง​ด้วย​

“ที่แท้​ก็​เป็น​เช่นนี้​…เมื่อ​ครู่​เป็น​ขีดจำกัด​ของ​เจ้าแล้ว​นี่เอง​…” เขา​ลูบ​แขนขวา​ ตำแหน่ง​ที่​เพิ่ง​ถูก​ฟัน​สมาน​ตัว​เร็ว​เหลือเกิน​ จึงมองไม่เห็น​ร่องรอย​ใดๆ​ ไม่มีรอยขีดข่วน​หลงเหลือ​บน​เกล็ด​ด้วยซ้ำ​

ครั้น​เห็นภาพ​นี้​ ไม่เพียงแต่​ชาย​ชรา​หน้า​เปลี่ยนสี​เท่านั้น​ ดวงตา​ของ​พวก​ห​ลี่​ซิว​ลา​กับ​จันทรา​ม่วง​ก็​ฉายแวว​กลัวเกรง​เช่นกัน​ พวกเขา​ไม่เข้าใจ​เลย​ว่า​เมื่อ​ครู่​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

ลู่​เซิ่งเงยหน้า​มอง​ชาย​ชรา​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป แล้ว​ยิ้ม​เยาะเย้ย​อย่าง​ดุร้าย​

“ตอนนี้​ เจ้าจบสิ้น​แล้ว​”

ชาย​ชรา​หน้าซีด​ หมุนตัว​กลายเป็น​แสงพุ่ง​ออก​ไป ทาง​ลู่​เซิ่งก็​ไล่ตาม​ไปอย่าง​แน่วแน่​

ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ประกาย​กระบี่​ของ​ชาย​ชรา​ผู้​นี้​เร็ว​จริงๆ​ อย่าง​น้อย​ก็​เร็ว​เป็น​หลาย​เท่าตัว​ของ​ลู่​เซิ่ง

ทุก​ระยะ​เขา​กระโดด​ข้าม​อาณาเขต​หลาย​ปีแสง

เทียบ​กัน​แล้ว​ลู่​เซิ่งช้ากว่า​มาก​ กระโดด​ข้าม​มิติ​ครั้งหนึ่ง​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​ข้าม​ได้​แค่​หนึ่ง​ปีแสงเท่านั้น​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​ชาย​ชรา​หนี​ไปได้​ไม่ไกล​เท่าไร​ รู​จมูก​ก็​เริ่ม​มีหนวด​โผล่​ออกมา​ เขา​คง​ตาม​จับ​อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​แน่ๆ​

หลังจาก​ฟัน​เข้าใส่​หลายครั้ง​ ลู่​เซิ่งก็​หิ้ว​ตัว​ชาย​ชรา​ที่​ลมหายใจ​โรย​ริน​กลับ​ไปที่​เดิม​ แล้ว​โยน​ห​ลี่​ซิว​ลา​ที่​หนวด​กำลัง​งอก​ออกจาก​ปาก​ไปไว้​ด้วยกัน​ ก่อน​จะมอง​ไปยัง​พวก​จันทรา​ม่วง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป

“ต่อไป​ สำนัก​นที​คราม​”

“เรียบร้อย​แล้ว​หรือ​” จันทรา​ม่วง​ถามอย่าง​อึ้ง​งัน​

“เรียบร้อย​แล้ว​ ตอนนี้​พวก​มัน​สอง​คน​เป็น​เชลย​ของ​ข้า​แล้ว​ ยังมี​วิธีการ​อะไร​ควบคุม​อนธการ​ได้​อีก​หรือไม่​” ลู่​เซิ่งมอง​หนึ่ง​ชรา​หนึ่ง​เยาว์วัย​ท่าทาง​อเนจอนาถ​มอง​ตน​ด้วย​สายตา​เคียดแค้น​

“ไม่มี พลัง​ของ​อนธการ​เกรี้ยวกราด​เกินไป​ เมื่อ​มีพลังงาน​แปลกปลอม​เข้าไป​ใน​ร่าง​จะถูก​หลอม​รวม​เป็นหนึ่ง​ทันที​” จันทรา​ม่วง​ส่ายหน้า​

ลู่​เซิ่งพยักหน้า​เข้าใจ​ พลัง​ของ​ชาย​ชรา​ผู้​นี้​กล้า​แข็งแกร่ง​ถึงขีดสุด​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ประสิทธิผล​ต่ำ​ไปบ้าง​ ครั้งนี้​คง​อันตราย​เข้า​จริง​

เขา​แทบ​ไม่อาจ​ต้านทาน​ปราณ​กระบี่​ของ​ชาย​ชรา​ได้​ โดน​เป็น​โดน​ ขอบเขต​แบบนี้​ยาก​จินตนาการ​ทีเดียว​

ตามเหตุผล​ด้วย​มรรคา​ยุทธ์​ของ​เขา​ ไม่ควรจะ​เกิด​สถานการณ์​แบบนี้​ ควรจะ​สัมผัส​การ​โจมตี​ทั้งหมด​ได้​ก่อน​ถึงจะถูกต้อง​

เห็นได้ชัด​ว่า​ ใน​ทักษะ​ของ​ชาย​ชรา​ผู้​นี้​มีสิ่งที่​ทำให้​การสัมผัส​ของ​เขา​อ่อนแอ​ลง​ ขณะเดียวกัน​เหตุใด​การ​โจมตี​ของ​เขา​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ ชาย​ชรา​ต่าง​หลบ​ได้​หมด​ แม้จะลอบ​โจมตี​ก็​ทำ​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​

ลู่​เซิ่งวางแผน​ว่า​กลับ​ไปจะไต่สวน​สัก​รอบ​

“ชนะ​เป็น​จ้าว​แพ้​เป็น​โจร​ เจ้าคิด​ว่า​ข้า​จะมอบ​ท่า​ไม้ตาย​ของ​ตัวเอง​ให้​เจ้าเปล่าๆ​ หรือ​” ชาย​ชรา​มอง​จุดประสงค์​ของ​เขา​ออก​ เอ่ย​พลาง​ยิ้มเยาะ​

“เช่นนั้น​เจ้าคง​เห็น​ความตาย​ดุจ​คืน​สู่บ้านเกิด​กระมัง​ ข้า​มีบางอย่าง​อยาก​ถามเจ้า อย่างไร​เจ้าก็​มีทางรอด​ ตอนนี้​เจ้ากลับ​ไม่ยอม​บอก​ หมายความว่า​ยอมให้​ข้า​กำจัด​เจ้า จะได้​ไม่เสียเวลา​หรือ​” ลู่​เซิ่งพลัน​หัวเราะ​

“แล้วแต่​เจ้า” ชาย​ชรา​ยัง​งดื้อรั้น​

ลู่​เซิ่งหัวเราะ​สอง​ที​พลาง​เดิน​วนรอบ​ทั้งสอง​

“แล้วแต่​ข้า​หรือ​”

เปรี้ยง​! พริบตา​นั้น​เขา​ชก​ใส่ศีรษะ​ของ​ชาย​ชรา​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​

โผละ​!

ชาย​ชรา​ตัว​ระเบิด​ กระบี่​ยา​วสี​ทองขาว​สาย​หนึ่ง​จาก​ใน​ตัว​เขา​พุ่ง​ขึ้น​ท้องฟ้า​ แล้​วท​ยาน​ออก​ไป

“หยุด​!” ลู่​เซิ่งฟันดาบ​ออก​ไป

กระบี่​ยาว​สั่น​ไหว​ หยุดนิ่ง​กลางอากาศ​ครึ่ง​วินาที​ จากนั้น​ก็​บิด​งอ​ร่วงหล่น​ เศษคม​กระบี่​ปรากฏ​รอยแตก​นับไม่ถ้วน​ ริบหรี่​ไร้​แสงโดยสิ้นเชิง​

“อาจารย์​!” ห​ลี่​ซิว​ลา​กรีดร้อง​ด้วย​สีหน้า​เจ็บปวด​

กระบี่​เล่ม​นั้น​คือ​จิตวิญญาณ​ของ​อาจารย์​เขา​ ตอนนี้​เสียหาย​สาหัส​ เกรง​ว่า​คิด​จะฟื้นฟู​กลับมา​เหมือนเดิม​คง​ยาก​แล้ว​

“ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​มีพลัง​ชีวิต​แข็งแกร่ง​สุดขีด​ ตา​เฒ่านี่​ฝึก​กาย​กระบี่​ จิตวิญญาณ​จึงแข็งแกร่ง​กว่า​อนธการ​ทั่วไป​อีก​ คิด​จะฆ่ามัน​ให้​ตาย​ อย่าง​น้อย​ต้อง​ใช้พลัง​อนธการ​ของ​ตัวเอง​หลอม​นับ​สี่สิบ​เก้า​ปี” จันทรา​แดง​เข้ามา​กล่าว​เสียงต่ำ​

“ไม่ต้อง​รอ​นาน​ขนาด​นั้น​หรอก​” ลู่​เซิ่งโบกมือ​ ฉับพลัน​นั้น​ใน​คม​กระบี่​ที่​เต็มไปด้วย​รอยแตก​ก็​มีหนวด​สีม่วง​อ่อน​จำนวนมาก​ทะลัก​ออกมา​ห่อหุ้ม​กระบี่​ยาว​เอาไว้​

หนวด​จำนวนมาก​ขยับ​อย่าง​รวดเร็ว​ ไม่นาน​ก็​มีเสียง​เคี้ยว​ดัง​มาเบา​ๆ

ลู่​เซิ่งโบกมือ​เก็บ​กระบี่​เข้าไป​ใน​โลก​รูป​จิต​ ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​ที่​เหลือ​เพียง​จิตวิญญาณ​และ​ร่าง​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ถูก​ตน​ใช้พลัง​เทพ​นอกรีต​พันธนาการ​และ​กัด​กิน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ต่อให้​โยน​เข้าไป​ใน​โลก​รูป​จิต​ก็​ไม่มีปัญหา​ใดๆ​ ทนทาน​ได้​หลาย​วัน​นับว่า​อีก​ฝ่าย​ร้ายกาจ​แล้ว​

พอ​โยน​กระบี่​ยาว​เข้าไป​ ลู่​เซิ่งก็​หันไป​มอง​ห​ลี่​ซิว​ลา​ที่อยู่​ใกล้​ๆ ถือโอกาส​กระทำการ​อย่าง​เด็ดขาด​

“เจ้าคิด​ทำ​อะไร​!?” ห​ลี่​ซิว​ลา​พลัน​ได้สติ​จาก​ความเศร้า​ จ้องมอง​ลู่​เซิ่งด้วย​ใบหน้า​ระแวดระวัง​

“ข้า​คิด​ทำ​อะไร​ ยัง​ต้อง​ถามอีก​หรือ​” ลู่​เซิ่งเข้าไป​ฟัน​ใส่หนึ่ง​ดาบ​

เกิด​เสียงดัง​ฉัวะ​ ด้านใน​ตัว​ห​ลี่​ซิว​ลา​ถูก​พลัง​เทพ​นอกรีต​กัด​กิน​จน​พรุน​ตั้งแต่แรก​ ดาบ​นี้​เพียงแค่​เจอ​แรง​ต้าน​เล็กน้อย​ ก็​ผ่า​ร่าง​อีก​ฝ่าย​จาก​หนึ่ง​เป็น​สอง​ได้​

“เจ้าไม่อยากรู้​ทักษะ​ของ​อาจารย์​ข้า​หรือ​!? บ้า​ไปแล้ว​หรือ​อย่างไร​!?” ใบหน้า​ครึ่งซีก​ของ​ห​ลี่​ซิว​ลา​ตะโกน​อย่าง​แตกตื่น​หวาดกลัว​

“ใต้​หล้า​มีทักษะ​เยอะแยะ​ถมแถไป หรือ​ข้า​เจอ​อัน​หนึ่ง​แล้​วจะ​ต้อง​บังคับ​ให้​สอน​ให้​ได้กัน​ เหนื่อย​ตาย​กัน​พอดี​ เอาล่ะ​ จากไป​อย่าง​สบายใจ​เถอะ​” ลู่​เซิ่งโบกมือ​

ทันใดนั้น​หนวด​จำนวนมาก​ก็​ปกคลุม​ห​ลี่​ซิว​ลา​ไว้​ ก่อน​จะลาก​เขา​เข้าไป​ใน​โลก​รูป​จิต​ทันที​

ระดับ​พลังงาน​โดยรวม​ของ​โลก​รูป​จิต​เพิ่มขึ้น​เท่าตัว​ เพราะ​มีอนธการ​สอง​คน​เข้าไป​

ถ้าย่อยสลาย​อนธการ​สอง​คน​ได้​โดย​สมบูรณ์​ ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ว่า​ โลก​รูป​จิต​ของ​ตน​จะขยาย​ใหญ่​กว่า​เดิม​ราว​สามเท่า​

อย่างไร​อนธ​การคน​หนึ่ง​ก็​มีความจุ​พลังงาน​มากเกินไป​จริงๆ​

จันทรา​ม่วง​กับ​เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​มองดู​การ​ดูดซับ​อนธการ​สอง​คน​ภายใน​ครั้ง​เดียว​อย่าง​ขนลุก​เล็กน้อย​

เมื่อ​ครู่​พวก​นาง​เห็น​ลู่​เซิ่งตาย​อย่าง​น้อย​มากกว่า​พัน​ครั้ง​ใน​เวลา​สั้น​ๆ แต่​ลู่​เซิ่งใน​ตอนนี้​กลับ​ไม่ต่าง​จาก​คน​ปกติ​เลย​สักนิด​ ไม่มีความเปลี่ยนแปลง​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset