ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 884 พลิกหน้า (2)

บทที่ 884 พลิกหน้า (2)

“เจ้า…!?” ลัว​ชิว​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​ยากลำบาก​ เมื่อ​ครู่​เขา​ถึงขั้น​สัมผัส​ไม่ได้​ว่า​ตัวเอง​โดน​ดาบ​ได้​อย่างไร​

เพียง​พริบตาเดียว​ พริบตาเดียว​ที่​แม้แต่​จิตวิญญาณ​ยัง​ตอบสนอง​ไม่ทัน​ เขา​ก็​พ่ายแพ้​แล้ว​

ครืน​!

เวลานี้​อากาศ​ด้านหลัง​คน​ทั้งสอง​ระเบิด​รอย​ดาบ​ขนาด​มหึมา​น่ากลัว​สุด​เปรียบ​ปาน​ออกมา​

รอย​ดาบ​เหมือน​ยื่น​ขยาย​ไปยัง​ส่วนลึก​ของ​จักรวาล​ที่​ไม่อาจ​มองเห็น​ปลายทาง​

พื้นดิน​รอบข้าง​ มีลม​แผ่วเบา​พัด​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​

ยาม​ลม​นี้​พัด​ใส่ร่าง​ก็​เจ็บปวด​ราวกับ​ถูก​ถลก​หนัง​ เป็นผล​ที่​เกิดขึ้น​จาก​พลัง​ของ​ลู่​เซิ่งที่​เหลืออยู่​ใกล้เคียง​

ไร้​ความคิดสร้างสรรค์​ ไร้​กระบวนท่า​ใดๆ​ เป็น​พลัง​ที่​แข็งแกร่ง​จน​เหนือ​จินตนาการ​เพียง​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​

ลู่​เซิ่งใช้ความแตกต่าง​ของ​พลัง​อัน​เด็ดขาด​ข่มเหง​พวกเขา​

เดิมที​เขา​เดิน​บน​เส้นทาง​พลัง​อัน​เด็ดขาด​อยู่แล้ว​ กฎ​พื้นฐาน​ของ​โลก​รูป​จิต​มีเก้า​ส่วน​ที่​เป็น​พลัง​

เมื่อ​มาถึงระดับ​ผู้ปกครอง​มายา​พิศวง​หรือ​ขอบเขต​อนธการ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ พลัง​ของ​เขา​ก็​ไปถึงขั้น​ที่​มายา​พิศวง​ทั่วไป​ไม่อาจ​จินตนาการ​ได้​

ถ้าแปลง​เป็น​ปริมาณ​ให้​เห็น​ชัดเจน​ เขา​ใน​ตอนนี้​คงจะ​มีพลัง​มากกว่า​มายา​พิศวง​ทั่วไป​เป็น​พัน​เท่า​

แม้จะแสวงหา​พลัง​เกินไป​ ทำให้​ลู่​เซิ่งไม่ได้​ศึกษา​วิชาอาคม​ชนิด​อื่นๆ​ แต่​เขา​ไม่เสียใจ​

เกิด​เสียงดัง​ตุบ​ทึบ​หนัก​ ลัว​ชิว​กับ​รอง​เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​ สูญเสีย​ลมปราณ​และ​จิตวิญญาณ​ไป

ดาบ​นั้น​ของ​ลู่​เซิ่งไม่ได้​ฟัน​ใส่ร่างกาย​ หาก​เป็น​จิตวิญญาณ​

เพียงแค่​พริบตาเดียว​ ผู้​เข้มแข็ง​มายา​พิศวง​ก็​ดับสูญ​ ไร้ความสามารถ​ต่อต้าน​แม้แต่น้อย​

ลู่​เซิ่งไม่ได้​แสดง​สีหน้า​ประหลาดใจ​ เขา​เพียง​เงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​อย่าง​นิ่งเฉย​

เสียง​เมื่อ​ครู่​ดัง​มาจาก​ทาง​นั้น​

เขา​มอง​ฝ่าชั้น​บรรยากาศ​หนา​ไป เห็น​รถลาก​สีขาว​บริสุทธิ์​ที่​ใช้มังกร​ขาว​สอง​ตัว​ลาก​คัน​หนึ่ง​จอด​ลง​กลาง​อวกาศ​อย่าง​ช้าๆ เงาคน​ร่าง​สูงโปร่ง​ที่​ไม่มีใบหน้า​นั่ง​อยู่​บน​นั้น​

เจ้าสำนัก​นที​คราม​ หยวน​ชิงลี่​

“นึกไม่ถึง​ว่า​ท่าน​จะกลับมา​แล้ว​…” หยวน​ชิงลี่​มอง​ลู่​เซิ่งบน​ดาวเคราะห์​ด้วย​สีหน้า​ซับซ้อน​

แต่​ชั้น​บรรยากาศ​ชั้นเดียว​ไม่อาจ​ขวางกั้น​สายตา​ของ​พวกเขา​ได้​

ระยะห่าง​นี้​ สำหรับ​ผู้​เข้มแข็ง​ระดับ​ผู้ปกครอง​ เหมือนกับ​เผชิญหน้า​ห่าง​กัน​ไม่เกิน​สิบ​กว่า​หมี่​

“ส่งตัว​คนร้าย​มา แล้ว​ข้า​จะให้โอกาส​พวก​ท่าน​ชดเชย​ครั้งหนึ่ง​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​

“คนร้าย​…เมื่อ​ครู่​ท่าน​ฆ่าไปแล้ว​” หยวน​ชิงลี่​กล่าว​พลาง​ส่ายหน้า​ “เรื่อง​นี้​เป็น​พวกเรา​ทำ​ผิดพลาด​ ท่าน​กลับ​สำนัก​หลัก​กับ​ข้า​ก่อน​เถอะ​ ต่อจากนี้​ข้า​จะมอบ​คำ​ว่ากล่าว​ให้​ท่าน​ที่​สำนัก​นที​คราม​”

นาง​เว้น​เล็กน้อย​

“ตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไป​ ท่าน​จะเป็นรอง​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​นที​คราม​” นาง​เอ่ย​อย่าง​จริงจัง​

ลู่​เซิ่งหลุด​ขำ​ อาละวาด​ถึงขั้น​นี้​ ยัง​คิด​ให้​เขา​อยู่​สำนัก​นที​คราม​ต่อ​อีก​ โลก​ไหน​เลย​มีเรื่อง​ง่ายๆ​ แบบนี้​กัน​

“ท่าน​ยัง​ไม่ได้​บอก​ข้า​ว่า​ คนร้าย​เป็น​ใคร​ คนร้าย​ของ​สำนัก​แปลง​วายุ​กับ​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​อยู่​นี่​แล้ว​ แล้ว​สำนัก​นที​คราม​เล่า​”

หยวน​ชิงลี่​สีหน้า​ไม่น่าดู​เล็กน้อย​ แต่​นาง​ไม่ได้​ตอบ​ ด้วย​สถานะ​และ​ตำแหน่ง​ของ​นาง​ การ​แสดงท่าที​ถึงขั้น​นี้​เป็น​ขีดจำกัด​แล้ว​

คน​ผู้​นั้น​ของ​สำนัก​นที​คราม​ นาง​ย่อม​ไม่อาจ​มอบให้​ลู่​เซิ่งจัดการ​ และ​ความต้องการ​ของ​ลู่​เซิ่งในเวลานี้​ก็ได้​บีบบังคับ​นาง​ถึงที่สุด​

“หยุด​แค่นี้​เถิด​…อย่า​ก่อเรื่อง​อีก​เลย​…” นาง​ถอนใจ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​

“ก่อเรื่อง​หรือ​” ลู่​เซิ่งอึ้ง​ไป ก่อน​จะหัวเราะ​

“ช่างเถิด​”

เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​ด้าน​หลังเขา​ไขว้​สอง​ดาบ​เข้าด้วยกัน​ ส่งเสียง​กระทบ​ใส

“ข้า​ตัดสินใจ​ว่า​จะไม่บังคับ​ตัวเอง​อีกแล้ว​ หยวน​ชิงลี่​ ครั้งหน้า​ถ้าเจอกัน​”

ลู่​เซิ่งยก​มือขึ้น​

“ข้า​จะฆ่าเจ้า”

เกิด​เสียงดัง​พรึ่บ​ พวก​ห​ลี่​ซุ่น​ซีและ​ผู้​เหลือ​รอด​จาก​เผ่า​วิทูร​ธาร​ทั้งหมด​รอบตัว​เขา​ระเบิด​กลายเป็น​กระแส​อากาศ​ไร้​รูปร่าง​ แล้ว​หาย​ไปใน​พริบตา​

“โอหัง​!” หยวน​ชิงลี่​จับ​ที่พัก​แขน​แน่น​ โกรธเกรี้ยว​ขึ้น​มาบ้าง​แล้ว​

ต่อให้​จะค้นพบ​พลัง​ที่​แท้จริง​ของ​ลู่​เซิ่งใน​ตอนนี้​ นาง​ก็​ไม่เกรงกลัว​ อนธการ​มายา​พิศวง​ก็​มีการ​แบ่งระดับ​เช่นกัน​

ใน​สถานการณ์​แบบนี้​ ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​ที่​เพิ่ง​เลื่อน​ระดับ​คน​หนึ่ง​ถึงกับ​กล้า​เอ่ย​วาจา​สามหาว​ใส่อธน​การ​ระดับอาวุโส​อีก​คน​ จะไม่ทำให้​นาง​โกรธเคือง​ได้​อย่างไร​

แม้ว่า​สามสำนัก​จะตระบัดสัตย์​ละทิ้ง​คุณธรรม​ก่อน​ แต่​การตาย​ของ​ผู้ยิ่งใหญ่​มายา​พิศวง​สอง​คน​ก็​มาก​พอ​จะชดเชย​ความผิด​นี้​ได้​แล้ว​

นาง​คิด​จะรับ​ลู่​เซิ่งกลับ​เข้ามา​ใหม่​ แต่​นึกไม่ถึง​จะถูก​อีก​ฝ่าย​หยาม​เกียรติ​เช่นนี้​!

มายา​พิศวง​สอง​คน​! สำหรับ​เงาดาว​พริบตา​แค่​ดวง​เดียว​ ไม่มีอะไร​ให้​เทียบ​กัน​ได้​เลย​ คุณค่า​ของ​ผู้ยิ่งใหญ่​มายา​พิศวง​สัก​คน​ สุด​ที่​ดาวเคราะห์​ดวง​หนึ่ง​จะเทียบเคียง​ได้​ ต่อให้​มีดาว​หลาย​สิบ​ดวง​ก็​ยัง​เทียบ​ไม่ได้​อยู่ดี​

นาง​ตัดสินใจ​ให้อภัย​อีก​ฝ่าย​ กลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​สุดท้าย​จะลงเอย​เช่นนี้​

“ถ่ายทอด​คำสั่ง​” หยวน​ชิงลี่​ต​ขบ​คิดถึง​ตรงนี้​ก็​เอ่ย​เสียง​เย็น​ “แจ้งสำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​กับ​สำนัก​แปลง​วายุ​ ให้​ถ่ายทอด​ข่าว​การตาย​ของ​สอง​รอง​เจ้าสำนัก​ออก​ไป ขณะเดียวกัน​ให้​สวี​จั๋ว​มาร่วม​ปฏิบัติ​การณ์​กับ​ข้า​ด้วย​”

“ขอรับ​!”

ความ​บิดเบี้ยว​พร่ามัว​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​แวบ​หนึ่ง​กลาง​ความว่างเปล่า​ ก่อน​จะจาก​ออก​ไปไกล​

หยวน​ชิงลี่​เผย​สีหน้า​เย็นชา​

“ใน​เมื่อ​หมด​ประโยชน์​กับ​ข้า​แล้ว​ ก็​อย่า​โทษ​ข้า​ไม่เกรงใจ​!” นาง​แค่น​เสียง​ ก่อน​จะควบคุม​รถ​มังกร​บิน​ออก​ไป

ลม​ไร้​รูปร่าง​ห่อหุ้ม​ลู่​เซิ่งกับ​พวก​ห​ลี่​ซุ่น​ซี บิน​พุ่ง​ไปยัง​ที่​ไกล​อย่าง​บ้าคลั่ง​

อนุภาค​พลังงาน​ที่​ไร้​รูปร่าง​จำนวนมาก​กลาง​อวกาศ​ กลายเป็น​พายุ​อนุภาค​พา​ทุกคน​บิน​ไปยัง​ที่​ไกล​ด้วย​ความเร็ว​ที่​น่า​ประหวั่นพรั่นพรึง​

ความเร็ว​นี้​เข้าใกล้​ความเร็ว​แสง แม้จะเร็ว​สุดขีด​ แต่​ก็​ยัง​เล็ก​กระจ้อย​ร้อย​สำหรับ​จักรวาล​อัน​ยิ่งใหญ่​อยู่ดี​

ถ้าหาก​ใช้วีธี​การ​นี้​บิน​จริงๆ​ ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้​เข้มแข็ง​มายา​พิศวง​คนใด​ ก็​ไม่อาจ​ก้าว​ข้าม​ระยะทาง​ที่​ไกลโพ้น​ใน​พริบตา​ได้​

สิ่งที่​มีผล​อย่าง​แท้จริง​ คือ​ค่าย​กล​ขนาดเล็ก​สำหรับ​ข้าม​มิติ​ที่​บัน​ไซพก​ติดตัว​

ถึงแม้ผู้ยิ่งใหญ่​มายา​พิศวง​จะฝืน​กระโดด​ข้าม​มิติ​ด้วยตัวเอง​โดย​การ​ร่น​ระยะห่าง​ เพื่อให้​ไปถึงสถานที่​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไปได้​ แต่​ก็​ยัง​ไม่สะดวกสบาย​เท่า​ค่าย​กล​อยู่ดี​

กระแส​อากาศ​โปร่งแสง​เปลี่ยน​มาจาก​ทุกคน​รวมตัวกัน​เป็น​กลุ่ม​ หาย​ไปเพราะ​การ​เคลื่อนที่​ด้วย​ความเร็ว​สูง จากนั้น​ก็​ไปกะพริบ​ปรากฏ​บน​ตำแหน่ง​ที่อยู่​ไกล​สุดขีด​

การ​กระโดด​แบบนี้​ดำเนิน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ จวบจนกระทั่ง​พวกเขา​ออกห่าง​จาก​ดาวเคราะห์​ แล้ว​หยุด​ลง​ใกล้​กับ​นคร​ตราชั่ง​

ด้านใน​กระแส​อากาศ​

ลู่​เซิ่งสั่งการ​ความคิด​ ทุกคน​พา​กัน​รวมตัว​เป็น​รูปร่าง​

เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ใช้เคลื่อน​วายุ​ของ​เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​กับ​ชีวิต​อื่น​ ประสิทธิผล​ช่างน่ากลัว​ถึงขีดสุด​เสีย​จริง​

โดย​พื้นฐาน​แล้ว​ร่าง​ชีวิต​ที่อยู่​ใน​สภาพ​เคลื่อน​วายุ​ มีผล​ต้านทาน​การ​โจมตี​ทางกายภาพ​เป็นส่วนใหญ่​

ในขณะเดียวกัน​ก็​ยัง​เคลื่อนที่​ได้​เร็ว​ถึงขีดสุด​ มีผล​ซ่อนเร้น​เหนือ​ธรรมดา​

หลังจาก​สร้าง​ร่าง​ออกมา​แล้ว​ บัน​ไซ ห​ลี่​ซุ่น​ซี ทง​เซิง กับ​ทัวห​ลัน​ปาเฮ่อ​ก็​มารวมตัวกัน​

คน​จาก​เผ่า​วิทูร​ธาร​อย่าง​เยวี่ยกวง​ก็​เกาะกลุ่ม​กัน​

เวลานี้​หมู่บ้าน​ที่​มีคน​หลาย​ร้อย​คน​เหลือ​รอด​มาสิบ​กว่า​คน​ ห​น้ำ​ซ้ำยัง​ได้รับบาดเจ็บ​

“ข้าน้อย​จิ่วเย่​ หัวหน้า​เผ่า​คน​ปัจจุบัน​ของ​เผ่า​วิทูร​ธาร​ วิกฤติการณ์​ครั้งนี้​ ต้อง​ขอบคุณ​ที่​ผู้อาวุโส​ช่วยเหลือ​ เผ่า​ข้า​ซาบซึ้ง​เหลือเกิน​ แต่​ไม่มีสิ่งใด​ตอบแทน​ ได้​แต่​ขอ​ติดตาม​อยู่​เบื้องหลัง​ผู้อาวุโส​…” พอ​สตรี​ผม​สีม่วง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ก็​หมอบกราบ​ลู่​เซิ่งทันที​

คนใน​เผ่า​ที่อยู่​ด้านหลัง​นาง​เหมือน​จะปรึกษา​กัน​แล้ว​ หมอบกราบ​โขก​ศีรษะ​ให้​ลู่​เซิ่งเช่นกัน​

คนใน​เผ่า​บางส่วน​ถึงขั้น​ขอบตา​เปียกชื้น​ หวน​นึกถึง​สถานการณ์​สิ้นหวัง​ก่อนหน้านี้​ น้ำตา​ก็​ร่วง​ผล็อย​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​

แม้พวก​ห​ลี่​ซุ่น​ซีจะคาดไม่ถึง​เล็กน้อย​ แต่​ก็​ยังคง​เข้าใจ​ความเจ็บปวด​กับ​ความ​จนใจ​ของ​เผ่า​เยวี่ยกวง​ได้​

พวก​นาง​ไม่อาจ​กลับ​ดาวเคราะห์​ดวง​เดิม​ได้​อีกแล้ว​ ก่อนหน้านี้​มีคน​ของ​พันธมิตร​เจ็ด​วิถี​ตาย​ไปตั้ง​หลาย​คน​ อีก​ฝ่าย​ต้อง​ไม่ยอม​เลิกรา​และ​กลับมา​แก้แค้น​แน่นอน​

ใน​ฐานะ​ขุม​กำลัง​ยิ่งใหญ่​ระดับ​ดวงดาว​ พันธมิตร​เจ็ด​วิถี​มีผู้ยิ่งใหญ่​มายา​พิศวง​เช่นกัน​

และ​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​หมู่​พวกเขา​ก็​คือ​ขอบเขต​ลวงตา​ระดับ​สูงสุด​

บน​โลก​ใบ​นี้​มีขอบเขต​ลวงตา​มากมาย​ แต่​คน​ที่​เลื่อน​ระดับ​สู่มายา​พิศวง​ได้​กลับ​มีน้อย​เหลือเกิน​

อย่า​ว่าแต่​สุดยอด​ผู้​เข้มแข็ง​ที่​กำจัด​สอง​มายา​พิศวง​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​เช่น​ลู่​เซิ่งเลย​

ลู่​เซิ่งมอง​เหล่า​สตรี​ที่​ก้ม​กราบ​อยู่​เบื้องหน้า​ หญิงสาว​และ​เด็กสาว​กลุ่ม​นี้​มีคุณสมบัติ​ติดตาม​คนอื่น​จริงๆ​

รูปโฉม​ทรวดทรง​ของ​พวก​นาง​ แม้จะไม่งามเลิศ​ล้ำ​ แต่​ก็​อยู่​ใน​ระดับสูง​ กอปร​กับ​มีพลัง​ไม่ธรรมดา​

สามารถ​ยืนหยัด​ใน​ศึก​ใหญ่​นี้​ถึงตอนท้าย​ได้​ ต่อให้​แย่​อย่างไร​ก็​มีพลัง​ใกล้เคียง​อริยะ​เจ้าทั้งสิ้น​ คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​นอกจาก​หัวหน้า​เผ่า​ที่อยู่​ใน​ขอบเขต​ลวงตา​ ยังมี​อัจฉริยะ​ขอบเขต​เจ้าแห่ง​อาวุธ​ระดับ​สูงสุด​อยู่​ด้วย​

“พวก​เจ้าอายุ​เยอะ​ไปหน่อย​นะ​…” ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​อย่าง​เสียดาย​เล็กน้อย​ แม้เหล่า​สตรี​ด้านหน้า​จะดู​เยาว์วัย​ แต่​คน​ที่​อายุ​น้อย​สุด​กลับ​มีอายุ​โครงกระดูก​อย่าง​น้อย​สามร้อย​ปี คน​ที่​อายุ​เยอะ​สุด​คือ​จิ่วเย่​ผู้​เป็น​หัวหน้า​เผ่า​ ภายใต้​การ​สังเกต​ของ​เขา​ นาง​ถึงขั้น​มีอายุ​ห้า​พัน​กว่า​ปีทีเดียว​

การ​ที่​อายุ​ระดับ​นี้​มีพลัง​ใน​ระดับ​นี้​ ถือว่า​ไม่แปลก​

“ไม่เป็นไร​เจ้าค่ะ​! พวกเรา​ทำ​เพื่อ​ท่าน​ได้​ทุกอย่าง​! ขอ​แค่​ท่าน​ผู้อาวุโส​รับ​ตัว​ไว้​ก็​พอ​!” จิ่วเย่​กล่าว​เสียงดัง​ขณะ​ก้ม​กราบ​

ลู่​เซิ่งใคร่ครวญ​

มาถึงขั้น​นี้​ เขา​ควรจะ​สร้าง​ขุม​กำลัง​ของ​ตัวเอง​อย่าง​จริงจัง​ได้​สักที​ ยังมี​พวก​เครือญาติ​ของ​ตน​ที่​หยุดนิ่ง​อยู่​ใน​มิติ​มืดมิด​ผืน​นั้น​ ก็​ควรจะ​ให้​ออกมา​เคลื่อนไหว​ได้​แล้ว​

“อย่างนั้น​ก็ได้​ พวก​เจ้าเลือก​ลงนาม​สัญญาเข้า​สังกัด​กับ​ข้า​เป็น​เผ่าพันธุ์​บริวาร​ได้​ อีก​ประเดี๋ยว​ข้า​จะหา​สถานที่​สัก​แห่ง​เพื่อ​สร้าง​ฐานทัพ​ขึ้น​”

“เจ้าค่ะ​!” เผ่า​วิทูร​ธาร​พลัน​ยินดี​

ความจริง​ลู่​เซิ่งทราบ​ต้นสายปลายเหตุ​จาก​บัน​ไซแล้ว​ ต้อง​ขอบคุณ​ผลึก​ปฐมพลังงาน​ที่​พวก​นาง​มอบให้​ถึงทำให้​ตน​กลับมา​ได้​ ดังนั้น​จึงรับ​ตัว​พวก​นาง​ไว้​ง่ายๆ​ เช่นนี้​

“นาย​ท่าน​ ตอนนี้​พวกเรา​จะไปทำ​อะไร​หรือ​ขอรับ​” บัน​ไซที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ถามขึ้น​

“ไปนคร​ตราชั่ง​ ซุ่น​ซีเห็น​ฉาก​ที่​ไม่ควร​เกิด​บางส่วน​ ข้า​จำเป็นต้อง​ไปยุติ​ก่อน​” ลู่​เซิ่งตอบ​อย่าง​ราบเรียบ​

“ครั้งนี้​ ลำบาก​พวก​เจ้าแล้ว​…”

“นายท่า​น.​..” บัน​ไซพูด​อะไร​ไม่ออก​ชั่วขณะ​ สะอื้น​เล็กน้อย​

ไม่ใช่เขา​อ่อนไหว​ หาก​ครั้งนี้​อันตราย​เกินไป​จริงๆ​ ทุกคน​เกือบจะ​จบสิ้น​แล้ว​

ห​ลี่​ซุ่น​ซีที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เงียบขรึม​เช่นกัน​

ทง​เซิงถอนใจ​ ก่อนหน้านี้​เขา​เตรียมตัว​ตาย​เพื่อ​ถ่วงเวลา​แล้ว​

“พลัง​ของ​พวก​เจ้าอ่อนแอ​เกินไป​ รอ​อะไร​ๆ สงบ​ลง​ ก็​ค่อย​ตั้งใจ​ฝึก​เถอะ​..อยู่​บน​โลก​ใบ​นี้​ พลัง​คือ​ทุกอย่าง​” ลู่​เซิ่งว่า​พลาง​ส่ายหน้า​เล็กน้อย​

“รับทราบ​!” ทุกคน​พา​กัน​ขานตอบ​

ความโหดร้าย​ครั้งนี้​ได้​มอบ​บทเรียน​ให้​พวกเขา​อย่าง​แท้จริง​

หาก​ไม่มีการปกป้อง​จากลู่​เซิ่ง พวกเขา​ก็​ไร้ค่า​ เหมือนกับ​เนื้อที่​วาง​อยู่​ด้านหน้า​คนอื่น​ ทำ​อะไร​ไม่ได้​โดยสิ้นเชิง​

“ยังมี​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​” ลู่​เซิ่งเปลี่ยน​หัวข้อ​ “ซุ่น​ซี ครั้งนี้​ให้​ทำ​รายงาน​ขุม​กำลัง​ที่​เข้าร่วม​การ​ทำลาย​ดาว​เงาพริบตา​ออกมา​ให้​ข้า​”

“ขอรับ​! พี่ใหญ่​!” ห​ลี่​ซุ่น​ซีพยักหน้า​อย่าง​แรง​

ครั้งนี้​โหดร้าย​เกินไป​จริงๆ​ ต่อให้​เขา​จะใจดี​มีเมตตา​ขนาด​ไหน​ ดวงตา​ก็​ฉายแวว​เคียดแค้น​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​

“ค่อยๆ​ คัด​ออกมา​ เยอะ​หน่อย​ก็​ไม่เป็นไร​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​ “พวก​มัน​จะกลัว​ก็ต่อเมื่อ​มีคนตาย​มาก​พอ​”

แต่​ก่อนหน้า​นั้น​ เขา​ต้อง​คิด​หา​ที่อยู่​ให้​แก่​คน​รอบตัว​เขา​ก่อน​ ก่อนหน้านี้​ที่​ไม่ได้​สู้กับ​หยวน​ชิงลี่​ เป็น​เพราะ​ระดับ​ผู้ปกครอง​ส่งผลกระทบ​มากเกินไป​ อาจจะ​ไปฆ่าคน​ไม่รู้​อิ​โห​น่อิ​เห​น่​ได้​

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset