ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 860 เบาะแส (2)

บทที่ 860 เบาะแส (2)

เมื่อ​มีสาร​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​ที่​เต็มเปี่ยม​ส่งเสริม​ หลังจาก​หล่อเลี้ยง​ตามลำดับ​ขั้นตอน​เป็นเวลา​สอง​สามวัน​ ลู่​เซิ่งก็​ยกระดับ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ราตรี​ลวง​อีกครั้ง​

หลังจาก​วิวัฒนาการ​รูปแบบ​ที่หก​ เขา​ก็​เริ่ม​การฝึกฝน​เนื้อหา​ประมวล​กฎเกณฑ์​รูปแบบ​ที่หก​ ไม่นาน​ประมวล​กฎเกณฑ์​รูปแบบ​ที่หก​ก็​ยกระดับ​ทีเดียว​สามระดับ​ สร้าง​ความเสถียร​ให้​แก่​อวัยวะ​รูปแบบ​ที่หก​ที่​เพิ่ง​วิวัฒนาการ​ได้​ไม่นาน​

ทาง​เขา​กำลัง​ไต่​ระดับ​อย่าง​เต็มที่​ ทาง​แอนดี้​กลับ​เถลไถล​ยิ่งกว่า​เดิม​ ตอน​ลู่​เซิ่งไป​ห้องสมุด​ทิวา​หลายครั้ง​ เห็น​แอนดี้​กำลัง​เมาแอ๋​ ควง​สาว​แอบ​ทำ​เรื่อง​อย่างว่า​อยู่​ใน​ป่า​เล็ก​ๆ

ผ่าน​ไป​ไม่กี่​วัน​ ใน​ชั้นเรียน​ก็​มีข่าวลือ​ฉาว​ว่า​แอนดี้​ถูก​หญิงสาว​กลุ่ม​หนึ่ง​ขวาง​เอาไว้​ที่​ห้อง​พยาบาล​

หญิงสาว​ใน​นี้​ถึงขั้น​บอ​กว่า​ตัวเอง​ตั้งท้อง​ หาก​อยู่​ใน​มหาวิทยาลัย​ทั่วไป​ เรื่อง​นี้​อาจ​เกิด​ผลกระทบ​เสียหาย​ใหญ่โต​ แต่​เมื่อ​มาอยู่​ที่​มหาวิทยาลัย​มิสกา​ อาจารย์​ใน​ชั้นเรียน​แค่​ทำเป็น​ไม่เห็น​ อีก​ทั้ง​ทาง​มหาวิทยาลัย​ก็​ไม่ได้​สนใจ​ข่าว​ด้าน​ลบ​ของ​แอนดี้​เช่นกัน​

หลังจาก​เหล่า​หญิงสาว​พา​กัน​ด่าทอ​ ก็​ร่วมมือ​กัน​รุม​สะกรัม​แอนดี้​ยก​หนึ่ง​ หญิงสาว​ที่​ตั้งครรภ์​ค่อย​พูดความจริง​ว่า​ เธอ​ไม่ได้​ท้อง​ เพียงแค่​ใช้เรื่อง​นี้​มากดดัน​ให้​แอนดี้​แสดงท่าที​เท่านั้น​

เธอ​นึกว่า​แอนดี้​จะมีคนอื่น​นอกจาก​เธอ​แค่​สอง​สามคน​เท่านั้น​ แต่​นึกไม่ถึง​ว่า​จะมีหญิงสาว​ยี่สิบ​กว่า​คน​โผล่​ออกมา​ หลาย​คนใน​นี้​ถึงขั้น​ขวาง​ห้อง​พยาบาล​ไว้​ไม่ให้​แอนดี้​หนี​ไป​ไหน​

เรื่อง​นี้​พลัน​สร้าง​ความวุ่นวาย​ใหญ่โต​

พอ​ได้ยิน​ข่าว​ ลู่​เซิ่งก็​อ้า​ปาก​ตาค้าง​เล็กน้อย​ เขา​จุติ​มานาน​ขนาด​นี้​ เป็นครั้งแรก​ที่​ได้​พบ​เจอ​เรื่อง​น่าอัศจรรย์​พันลึก​แบบนี้​อย่าง​ใกล้ชิด​เป็นครั้งแรก​

นอกจาก​เรื่องไร้สาระ​ของ​แอนดี้​ เรื่องใหญ่​อีก​เรื่อง​คือ​ สมาคม​เด​อลันด์​ได้​ยุบตัว​แล้ว​

เออร์นี​ผู้​เป็น​หัวหน้า​สมาคม​ เริ่ม​ล่าถอย​อย่าง​ต่อ​เนื่องใน​การต่อสู้​กับ​กลุ่ม​อัคคี​ม่วง​ สุดท้าย​ก็​ประกาศ​อย่าง​จนปัญญา​ว่า​สมาคม​เด​อลันด์​ยุง​ตัว​ลง​แล้ว​ เหลือ​แค่​อัจฉริยะ​ไม่กี่​คน​เท่านั้น​ได้​กลายเป็น​ทีม​ที่​ตั้งขึ้น​มาใหม่​

นับตั้งแต่​นั้น​กลุ่ม​อัคคี​ม่วง​ก็​ครอง​ความ​เป็นใหญ่​ กลายเป็น​องค์กร​ยิ่งใหญ่​อย่าง​แท้จริง​ของ​ชั้นปี​หนึ่ง​

พริบตาเดียว​ก็​ผ่าน​ไป​กว่า​สอง​เดือน​ ลู่​เซิ่งยกระดับ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ไป​ตามลำดับ​ขั้นตอน​ จาก​รูปแบบ​ที่หก​ถึงรูปแบบ​ที่​เจ็ด​ เหมือน​เป็น​ธรณีประตู​ที่​ข้าม​ได้​อย่าง​ยากลำบาก​ ไม่นาน​เขา​ก็​ฝึกฝน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ราตรี​ลวง​ถึงระดับ​สูงสุด​ แต่​ก็​ยัง​ไม่อาจ​กระตุ้น​ให้​อวัยวะ​วิวัฒนาการ​ได้​

รูปแบบ​ที่หก​ คือ​ระดับ​รองคณบดี​กับ​คณบดี​ของ​มหาวิทยาลัย​ รูปแบบ​ที่​เจ็ด​ ตาม​มาตรฐาน​แล้ว​เป็น​ระดับ​รอง​อธิการบดี​

ตาม​กฎ​มหาวิทยาลัย​ที่​ลู่​เซิ่งเข้าใจ​ คน​ที่​มีสิทธิ์​รับ​ตำแหน่ง​เป็นรอง​อธิการบดี​ อย่าง​น้อย​สุด​ต้อง​มาถึงระดับ​รูปแบบ​ที่​เจ็ด​

หลังจาก​ฝึกฝน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ราตรี​ลวง​เสร็จ​ เขา​ก็​จำเป็นต้อง​เข้า​ห้องสมุด​ไปหา​ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​อี​กรอบ​ ลู่​เซิ่งเคย​ลอง​ประมวล​กฎเกณฑ์​รูปแบบ​ที่หก​เล่ม​อื่นๆ​ ใน​ห้องสมุด​ราตรี​มาหมด​แล้ว​ แต่​เนื้อหา​สู้ประมวล​กฎเกณฑ์​ราตรี​ลวง​ไม่ได้​ ดูเหมือน​สาเหตุ​ที่​ติดขัด​จะไม่ใช่เพราะ​ตัว​ประมวล​กฎเกณฑ์​

ไม่นาน​นัก​ก็​ถึงช่วย​ปลาย​เทอม​ ในที่สุด​การเรียน​ปี​หนึ่ง​ก็​ใกล้​จะจบ​ลง​อย่าง​เป็นทางการ​

ลู่​เซิ่งไม่รู้เรื่อง​ของ​นักศึกษา​สาย​ต้องห้าม​กับ​สาย​พิเศษ​ แต่​เขา​กับ​นักศึกษา​พลัง​สายลม​แห่ง​การ​ประสาน​และ​เสริม​สัมผัส​จำนวนมาก​ ต้อง​เริ่ม​แย่ง​คะแนน​ของ​ชั้นปี​ที่สอง​

นักศึกษา​ปี​สอง​ไม่ได้​ผ่อนคลาย​เหมือน​อย่าง​ปี​แรก​ที่​เรียน​แค่​ใน​รั้ว​มหาวิทยาลัย​อีกต่อไป​ แต่​จำเป็นต้อง​เดินทาง​ไป​ทำ​ภารกิจ​ตาม​หลักสูตร​ใน​สถานที่​ต่างๆ​ ให้​เสร็จสิ้น​

ทว่า​ลู่​เซิ่งย่อม​ไม่เดินตาม​ขั้นตอน​ของ​มหาวิทยาลัย​ไป​เรื่อยๆ​ แบบนี้​ เขา​อยู่​นี่​มานาน​พอแล้ว​ ทั้ง​ความลับ​ของ​มหาลัย​ ห้องสมุด​ทิวา​ และ​ห้องสมุด​ราตรี​ เขา​ล้วน​ทำความเข้าใจ​พวก​มัน​อย่าง​ลับ​ๆ ใน​ช่วงนี้​หมด​แล้ว​

นอกจาก​หนังสือ​ประเภท​บูชา​สิ่งชั่วร้าย​ชนิด​พิเศษ​อื่นๆ​ ที่​ไม่ได้​พลิก​ดู​ เขา​ก็​เคย​อ่าน​และ​จดจำ​เนื้อหา​อื่นๆ​ มาไม่มาก​ก็​น้อย​

กล่าว​ได้​ว่า​ เขา​จดจำ​ทุกอย่าง​ใน​ห้องสมุด​เกือบ​สามใน​สี่ส่วน​ไว้​ใน​สมอง​จน​หมดสิ้น​แล้ว​

สิ่งที่​ขาด​เพียง​หนึ่งเดียว​คือ​ห้องสมุด​แห่ง​อดีต​

รวมถึง​ประมวล​กฎเกณฑ์​หมาย​แห่ง​ความโกลาหล​กับ​แกน​หลัก​แห่ง​ความ​โก​ลหล​ที่​ต้องการ​มาก​ที่สุด​

ขณะ​พลัง​ฝึกปรือ​ไม่ก้าวหน้า​ ด้วย​ความ​จนปัญญา​ เขา​จึงเริ่ม​พลิก​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​ที่หก​ที่​หา​เจอ​ออกมา​ แล้ว​เริ่ม​ฝึกฝน​

นี่​เป็น​สิ่งที่​ใช้เวลา​ ดี​ที่​ลู่​เซิ่งมีพลัง​อาวรณ์​มาก​พอ​ นอกจากนี้​ยัง​ได้​อาศัย​เวลาว่าง​ติด​ตั้งค่าย​กล​จุติ​หลาย​อัน​ไว้​รอบ​มหาวิทยาลัย​เพื่อ​เตรียมตัว​ไว้​อีก​

ขอ​แค่​เจอ​ที่อยู่​ของ​แกน​หลัก​แห่ง​ความโกลาหล​ เขา​จะสามารถ​ใช้ความสามารถ​เอา​มาถือครอง​ได้​ทันที​

ลู่​เซิ่งได้​กลับ​ไป​ที่​บ้าน​ของ​แม่ใน​วัน​คริสต์มาส​ใน​ช่วง​ปิดเทอม​ กินข้าว​กับ​น้องชาย​น้องสาว​ที่​ไม่คุ้นเคย​ ทุกคน​ไม่มีอะไร​คุย​กัน​ พวกเขา​ต่าง​ไม่สนใจ​ชีวิต​ใน​มหาวิทยาลัย​ของ​เขา​

สำหรับ​คน​พวก​นี้​ มหาวิทยาลัย​มิสกา​ตั้งอยู่​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาน​ รอบข้าง​ไม่มีอะไร​น่าสนใจ​ ย่อม​ไม่รู้​จะพูด​อะไร​

หลังจาก​ลู่​เซิ่งมอบ​ของขวัญ​ให้​แม่เสร็จ​ ก็​ไป​ลอนดอน​ต่อ​โดย​ไม่หยุดพัก​ ไป​รายงานตัว​ที่​สถานีตำรวจ​ ก่อน​จะได้​เลื่อนยศ​ จากนั้น​ก็​กลับบ้าน​

แจ๊ค​เฒ่าอาศัย​อยู่​กับ​ลูกสาว​ใน​ชนบท​ ใช้ชีวิต​อย่าง​สุขสบาย​อย่างยิ่ง​ ความเสียดาย​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​คือ​ ว่าที่​สามีของ​พี่สาว​แจ๊ค​ได้​หายตัว​ไป​

งานแต่งงาน​ที่​กำหนด​ไว้​ใน​ตอนแรก​จึงล่ม​เช่นกัน​

การ​หายสาบสูญ​ของ​ว่าที่​สามีของ​เธอ​มีลับลมคมใน​ยิ่ง​ แต่​ตอนนี้​ลู่​เซิ่งไม่มีเวลา​มาสนใจ​ ขอ​แค่​ครอบครัว​แจ๊ค​ไม่เป็นไร​ ทุกอย่าง​ก็​ไม่เป็นปัญหา​

หลังจาก​มอบ​ของขวัญ​ที่​ทำ​จาก​มือ​ให้​กับ​พี่สาว​และ​แจ๊ค​เฒ่า เขา​ก็​กลับ​มหาวิทยาลัย​ แล้วก็​มาถึงวัน​เปิดเทอม​อีกครั้ง​

ใน​ยุคสมัย​ที่​ไม่มีอุตสาหกรรม​อากาศยาน​ แค่​เดินทาง​ก็​ใช้เวลา​ไป​มากกว่า​ครึ่ง​แล้ว​

ข้างใต้​ผ้าห่ม​สีขาว​บน​เตียง​ แอนดี้​ถูก​เสียบ​ท่อ​มากมาย​ไว้​บน​ร่างกาย​ที่​บาดเจ็บ​ ใบหน้า​พัน​ผ้าพันแผล​สีขาว​ เลือด​ซึมออก​มาจาก​ผ้าพันแผล​

ขา​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​เข้าเฝือก​และ​ถูก​ยก​สูง ไม่ต่าง​จาก​คน​บาดเจ็บ​ที่​ประสบอุบัติเหตุ​ทาง​รถ​ยนตร์​ใกล้​ตาย​เท่าไร​

ซ่า

ลู่​เซิ่งเปิดม่าน​หน้าต่าง​ แสงสว่าง​สาด​ลอด​เข้ามา​พาด​ครึ่ง​ใบหน้า​ของ​แอนดี้​

“เฮ้อ​…รอบ​นี้​ฉัน​แย่​แล้ว​จริงๆ​…” เขา​กล่าว​อย่าง​จนปัญญา​ด้วย​น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​ ก่อนหน้านี้​ยัง​ดี​ๆ อยู่เลย​ไม่ใช่เหรอ​” ลู่​เซิ่งหา​เก้าอี้​มานั่งลง​อย่าง​หมด​คำพูด​

“ก่อน​ฉัน​จะไป​ นาย​ยัง​ทะเลาะ​กับ​สาว​ๆ กลุ่ม​นั้น​อยู่เลย​ ทำไม​พอ​กลับ​มาถึงเข้า​ห้อง​ไอซียู​ได้​ล่ะ​”

แอนดี้​มอง​เขา​อย่าง​ซึมๆ

“อย่า​ไป​พูดถึง​เลย​…เจอ​ผู้หญิง​โคตร​ดุ​เข้า​น่ะ​สิ…อวัยวะ​สาย​พิเศษ​ของ​เธอ​คือ​หั่น​เฉือน​…”

“น่าสงสาร​จริงๆ​…” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​เห็นใจ​ “สาว​ๆ ของ​นาย​ตอนนี้​ล่ะ​”

“ส่วนใหญ่​เห็น​ฉัน​ใกล้​ตาย​ กลัว​ว่า​จะฆ่าคน​ เลย​หนี​ไป​แล้ว​ ผู้หญิง​คน​ที่​ลงมือ​โดน​มหาวิทยาลัย​ควบคุมตัว​ไว้​ชั่วคราว​” แอนดี้​ตอบ​พลาง​ถอนใจ​

“แล้ว​ตอนนี้​นาย​คิด​จะทำ​อะไร​ จะหาย​ดี​ไหม​เนี่ย​” ลู่​เซิ่งตบ​ขา​ที่​แขวน​อยู่​

“คุณ​พูด​อะไร​เนี่ย​ ต้อง​หาย​ดี​สิ! ยัย​หนู​นั่น​ไม่ได้​เอา​ถึงตาย​ ฉัน​พักฟื้น​เดือน​หนึ่ง​ก็​เหลือแหล่​แล้ว​” แอนดี้​ตอบ​อย่าง​หมด​คำพูด​

“ความจริง​ก็​ไม่มีอะไร​หรอก​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​ “ต่อให้​เธอ​ลงมือ​จริงๆ​ นาย​ก็​ไม่มีทาง​ตาย​ไม่ใช่เหรอ​”

แอนดี้​ชะงัก​ ไม่ได้​เถียง​กลับ​ ถูกต้อง​แล้ว​ หาก​จะพูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ ก่อนที่​ไอ้​ตัว​ข้างใน​ร่าง​เขา​จะอนุญาต​ ถ้าเขา​อยาก​ตาย​ก็​ไม่อาจ​ทำได้​

ทั้งสอง​เงียบ​ไป​สักพัก​

“ได้ยิน​มาว่า​คุณ​กับ​เออร์นีคบ​กัน​เหรอ​” แอนดี้​โพล่ง​ถาม

“จะว่า​งั้น​ก็ได้​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

แอนดี้​ส่ายหน้า​ “คุณ​ไม่น่า​ทำ​แบบนี้​…ตระกูล​เออร์นี​เป็น​ตะวัน​ใกล้​ลับ​ฟ้าแล้ว​ คุณ​จะมีอนาคต​ไกล​ได้​เมื่อ​อยู่​ข้าง​มหาวิทยาลัย​เท่านั้น​ แม้ตระกูล​ซีเฟอ​ลุ​สจะมีประวัติศาสตร์​ยาวนาน​ แต่​เทียบ​ชั้น​กับ​มหาวิทยาลัย​ไม่ได้​เลย​ แค่​ตระกูล​เล็ก​ๆ ตระกูล​เดียว​ สำหรับ​มหาวิทยาลัย​แล้ว​ ไม่ต่าง​อะไร​เหมือน​ช้างกับ​มด​เลย​”

“ฉัน​รู้​ว่า​นาย​อยาก​จะพูด​อะไร​” นับตั้งแต่​ลู่​เซิ่งรู้​ว่า​แอนดี้​อยู่​กับ​หน่วย​ปฏิบัติการ​ของ​สภานักศึกษา​ เขา​ก็​เข้าใจ​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​เป็น​คน​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​มหาวิทยาลัย​

แต่​เขา​มีแผนการ​ของ​เขา​เอง​

“ฉัน​มีความคิด​ของ​ตัวเอง​แหละ​น่า​”

“…” แอนดี้​มอง​ลู่​เซิ่งสักพัก​หนึ่ง​

“เอาเถอะ​ หวัง​ว่า​คุณ​จะไม่ถูก​เออร์นี​หลอก​ก็แล้วกัน​ แต่​มาคิด​ดูดี​ๆ พวกคุณ​ก็​เหมา​สมกัน​ดี​เหมือนกัน​ ด้วย​ศักยภาพ​และ​ความก้าวหน้า​ในอนาคต​ของ​คุณ​ ก็​ไม่เห็นจะ​แย่​ไป​กว่า​เออร์นี​ตรงไหน​” เขา​พลัน​หัวเราะ​

“จริง​สิ ขอ​ถามนาย​สัก​เรื่อง​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​

“เอา​สิ”

“ก่อนหน้านี้​ฉัน​ไป​ห้องสมุด​ห้วง​ฝัน​มา แล้ว​ก็ได้​เจอ​ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​

“หา​! บ้าบอ​ชัด​ๆ!” แอนดี้​เกือบจะ​โดด​ผลุง​ขึ้น​จาก​เตียง​ “คนอื่น​ต้อง​รอ​ถึงปี​สามถึงอาจจะ​ไป​พบ​ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​ที่​ชั้น​สามได้​ แต่​คุณ​ไป​ได้​ตั้งแต่​ปี​หนึ่ง​! อย่าง​เจ๋ง!”

“อย่า​โวยวาย​น่า​ ฉัน​อยาก​จะถามว่า​ ยังมี​วิธี​อะไร​ที่​ใช้ติดต่อ​กับ​ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​ได้​อีก​ไหม​”

“แน่นอน​ ฐานทัพ​จันทรา​ที่อยู่​ใต้​มหาวิทยาลัย​ เก็บรักษา​ร่าง​ที่​แท้จริง​ของ​ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​เอาไว้​ แต่​เพราะ​ที่นั่น​เก็บ​ของ​ที่​อันตราย​สุดขีด​อย่าง​แกน​หลัก​แห่ง​ความโกลาหล​เอาไว้​เหมือนกัน​ ดังนั้น​การเฝ้า​ระวัง​จึงเข้มงวด​เป็น​พิเษ​ ถ้าคุณ​อยาก​จะเข้าไป​ เกรง​ว่า​มีแต่​ต้อง​รอ​รับ​ตำแหน่ง​อาจารย์​ก่อน​ จึงจะมีโอกาส​ครั้ง​ที่สอง​” แอนดี้​อธิบาย​

“ไม่มีวิธี​อื่น​แล้ว​เหรอ​” ลู่​เซิ่งนิ่วหน้า​

“มีอยู่แล้ว​” แอนดี้​ยิ้ม​อย่าง​มีเลศนัย​ “คุณ​แอบ​เข้าไป​ก็ได้​ ขอ​บอก​เลย​ว่า​ ผม​แอบ​เข้าไป​ที่นั่น​มาสอง​รอบ​แล้ว​ อักขระ​ตอบสนอง​ที่​ใช้เฝ้าประตู​ไม่มีปฏิกิริยา​ต่อ​พวก​ที่​ไม่มีพลัง​อะไร​เลย​อย่าง​พวกเรา​”

“ใน​เมื่อ​ของ​สิ่งนั้น​สำคัญ​ขนาด​นั้น​ ทำไม​นาย​แอบ​ย่อง​เข้าไป​ได้​ล่ะ​” ลู่​เซิ่งถามอย่าง​สงสัย​

“ง่าย​มาก​ เอา​ไป​สิ” แอนดี้​มุด​ออกมา​จาก​ผ้าห่ม​ ลูบ​ๆ คลำ​ๆ แถว​กอง​เสื้อ​ แล้ว​หยิบ​กุญแจ​พวง​หนึ่ง​ออกมา​โยน​ให้​ลู่​เซิ่ง

ลู่​เซิ่งรับ​กุญแจ​มาพิจารณา​ นี่​เป็น​กุญแจ​ไร้​รูปแบบ​ที่​ห้อย​รวม​กับ​หิน​มันวาว​สีดำ​สนิท​ เหมือนกับ​เก็บ​เอา​หิน​กรวด​สีดำ​มาจาก​ริมแม่น้ำ​

“ไอ้​นี่​มัน​อะไร​”

“ของ​ที่​ใช้หลบ​อักขระ​ได้​ พ่อ​เป็น​คน​เอา​ให้​ฉัน​” แอนดี้​พิง​พนัก​เตียง​พลาง​หลับตา​

“เดี๋ยว​ใช้เสร็จ​แล้​วจะ​เอา​มาคืน​” ลู่​เซิ่งเก็บ​ไว้​ ก่อน​จะกล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

“ไม่เอาล่ะ​ ให้​คุณ​เลย​แล้วกัน​ คุณ​ชอบ​ไป​หาเรื่อง​เสี่ยง​ๆ อยู่​เรื่อย​ เก็บ​ไว้​ใช้จะได้​ปลอดภัย​ขึ้น​หน่อย​” แอนดี้​โบกมือ​

“อย่างนั้น​ก็​ขอบใจ​นะ​” ลู่​เซิ่งรู้สึก​ว่า​กุญแจ​พวก​นี้​มีความสามารถ​แตก​ต่างกัน​ ไม่ได้​พื้นๆ​ อย่าง​ที่​แอนดี้​ว่า​

“จริง​สิ ของ​ที่​นาย​ให้​ฉัน​ครั้งก่อน​ ยัง​ไม่ได้​ใช้เลย​”

“ไอ้​นั่น​น่ะ​เหรอ​” แอนดี้​ขยุ้ม​หัว​ “คุณ​เก็บ​ไว้​เถอะ​ อย่า​ทิ้ง​ก็​พอ​”

“ก็ได้​ ตอนบ่าย​ฉัน​มีธุระ​ขอตัว​ก่อน​ล่ะ​ นาย​พักผ่อน​ไป​เถอะ​” ลู่​เซิ่งลุกขึ้น​ “อยาก​ให้​ฉัน​ปิด​ผ้าม่าน​ไหม​”

“เอา​แบบนี้​ก็แล้วกัน​” แอนดี้​เหลือบมอง​ด้าน​ข้าง​ “คุณ​มาทั้งที​ไม่เอา​ผลไม้​ติดมือ​มาเลย​เหรอ​ไง!”

“ครั้งหน้า​นะ​ๆ” ลู่​เซิ่งหัวเราะ​พลาง​โบกมือ​ ก่อน​จะผลัก​ประตูออก​ไป​

“แจ๊ค”​

แอนดี้​เรียก​มาจาก​ด้านหลัง​

ลู่​เซิ่งหันไป​มอง​

“มีอะไร​”

“พวกเรา​เป็นเพื่อน​กัน​ใช่ไหม​” แอนดี้​ถามด้วย​ใบหน้า​จริงจัง​อย่าง​หา​ได้​ยาก​

“แน่นอน​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ แอนดี้​สามารถ​อยู่​ร่วมกับ​ใครๆ​ ได้​อย่าง​เป็นกันเอง​ และ​เขา​ก็​นับ​หนุ่ม​ผม​ทอง​ผู้​นี้​เป็นเพื่อน​เขา​จริงๆ​

“ใน​เมื่อ​เป็นเพื่อน​ ก็​ต้อง​ช่วยกัน​ใช่ไหม​” แอนดี้​ถาม

“นาย​นี่​นะ​” ลู่​เซิ่งเอือมระอา​ “อยาก​พูด​อะไร​ก็​พูดตรงๆ​ สิ รู้​อยู่แล้ว​ว่า​เอา​ของ​นาย​มาฟรี​ๆ ไม่ได้​หรอก​”

แอนดี้​ขำ​แห้ง​สอง​คำ​

“ตอนนี้​ฉัน​ไม่สะดวก​ ช่วย​ฉัน​ดูแล​ผู้หญิง​ที่​ชื่อ​เชอ​รี​ให้​ที​ ไม่ต้อง​ดูแล​ตลอด​หรอก​ ขอ​แค่​ช่วย​เธอ​ตอนที่​ช่วย​ได้​ก็​พอ​ ไม่มีปัญหา​ใช่ไหม​”

“ไม่มีปัญหา​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ “มีอะไร​อีก​ไหม​ ไม่มีฉัน​ไป​แล้ว​นะ​”

“ไป​เถอะ​ๆ มาเยี่ยม​เพื่อน​ที่​บาดเจ็บ​หนัก​แบบนี้​เนี่ย​นะ​ คุณ​นี่​มัน​…” แอนดี้​หมด​คำพูด​

ลู่​เซิ่งส่าย​หัว​ คร้าน​จะสนใจ​เขา​ หมุนตัว​จากไป​

แอนดี้​มองดู​ประตู​ปิด​ลง​ และ​ลงกลอน​เอง​

เขา​ย้าย​ตำแหน่ง​ พิง​กับ​หัว​เตียง​ มอง​แสงอาทิตย์​งดงาม​ด้านนอก​

พอ​นึกถึง​แผนการ​ที่​เพื่อนสนิท​เผย​ออกมา​ก่อนหน้านี้​ เขา​ก็​รู้สึก​เป็นห่วง​อยู่​บ้าง​

“เจ้าหมอ​นั่น​…มักจะ​เอา​ตัว​ไป​เกี่ยวกับ​เรื่อง​อันตราย​แบบนี้​อย่าง​ไม่มีสาเหตุ​ ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​ไม่ใช่สิ่งที่​นักศึกษา​ทั่วไป​อย่าง​เขา​จะเล่น​สนุก​ได้​…นึก​ว่า​ฉัน​เป็น​คนโง่​จริงๆ​ หรือไง​ มีหรือ​จะมอง​เรื่อง​นี้​ไม่ออก​”

แอนดี้​หัวเราะ​อย่าง​จนใจ​

“พ่อ​ ผม​ทำ​ภารกิจ​ให้​พ่อ​เสร็จ​แล้ว​ ต่อจากนี้​มีอะไร​ไม่ต้อง​มาหา​ผม​อีก​นะ​”

หัวเราะ​ไป​หัวเราะ​มา เสียง​เขา​ก็​แหบ​พร่า​ลง​

เขา​ยก​สอง​มือ​กุม​หน้า​ ก้มหัว​ลง​ ของเหลว​เค็ม​ปะแล่ม​ ไหลผ่าน​ร่อง​นิ้ว​หยด​ลง​บน​ผ้าห่ม​ ก่อน​จะซึมเข้าไป​

“ร้องไห้​อยู่​หรือ​” เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ใน​สมอง​เขา​

“เจ้าไม่ควรจะ​เศร้าใจ​ เมื่อ​เจ้าตาย​ ก็​จะหลอม​รวม​เป็นหนึ่ง​กับ​ข้า​ ความทรงจำ​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เจ้าทั้งหมด​จะถูก​ลบเลือน​ คน​ที่​จดจำ​เจ้าได้​จะลืม​เจ้าเอง​ ไม่มีใคร​จำเจ้าได้​อีกต่อไป​ ไม่มีทั้ง​ความเจ็บปวด​และ​ความเสียใจ​ ดังนั้น​เจ้าไม่ควร​…”

“ฉัน​ใกล้​ตาย​แล้ว​…” แอนดี้​พลัน​ตัดบท​มัน​

“ฉัน​ใกล้​จะตาย​แล้ว​…”

เขา​ฟุบ​หน้า​กับ​ผ้าห่ม​ เสียง​อู้อี้​

“แก​พูด​จน​ฉัน​อยาก​ร้องไห้​หนัก​กว่า​เดิม​แล้ว​เนี่ย​…”

……………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset