บทที่ 647 รับมือ (1)
‘ผลึกลี้ลับสามสิบหกวิถี’ ‘ผลึกอาคมทั่วไป’ ‘ผลึกต่อสู้’ ‘ผลึกวัฏจักร’…
สิบกว่าอันดับที่จัดเรียงอยู่ด้านหน้าเป็นผลึกลี้ลับหลายชนิด สมบัติที่ช่วยในการสัมผัสกฎเกณฑ์ชนิดนี้ได้รับความนิยมสูงสุดอย่างเห็นได้ชัด
แต่ราคาของผลึกที่ถูกจัดเรียงไว้อันดับแรกๆ เหล่านี้น่าตกตะลึงพรึงเพริดอย่างยิ่ง ผลึกราคาต่ำสุดต้องใช้ค่าความดีความชอบหนึ่งร้อยล้านคะแนน
ลู่เซิ่งพลิกดูต่อไป ไม่นานก็เจอพวกเคล็ดวิชา
เพียงแต่ตัวคัมภีร์ลับเคล็ดวิชาส่วนใหญ่แยกขายเป็นเล่มๆ หนำซ้ำยังได้ระบุขอบเขตโลกใบต่างๆ ที่เหมาะสมไว้ด้านหลังด้วย
แสดงให้เห็นว่าหากกฎของโลกบางใบแตกต่างออกไป วิชานี้ก็จะใช้ไม่ได้แล้ว
ราคาจึงต่ำลงมาเล็กน้อย ทว่าก็ใช้ค่าความดีความชอบถึงล้านคะแนนอยู่ดี
เป็นเพราะเคล็ดวิชานี้…สามารถไปถึงระดับมายาพิศวงได้ทั้งหมด
‘ก็เข้าใจได้อยู่ สิ่งที่อยู่ตรงนี้อย่างไรก็เป็นแค่เคล็ดวิชา ต่อให้ได้มาก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะราบรื่น ต่อจากนั้นจะฝึกฝนอย่างไร ระหว่างทางต้องระวังตรงไหน วัตถุดิบ สมบัติ เวลา และความพยายามที่จำเป็น ยังมีระดับความยากกับเงื่อนไขสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ความยากที่ขวางอยู่ตรงหน้าเป็นส่วนที่ยากลำบากอย่างแท้จริง สำนักจำนวนมากที่มีการสืบทอดวิชาแต่ก็ทำอะไรไม่สำเร็จสักเรื่องมีอยู่ถมไป คัมภีร์ลับเหล่านี้มีอยู่มากมายที่อาจจะได้มาจากสำนักที่เสื่อมโทรมลง’
‘นอกจากตัวประมุขสมาคมแล้ว คนอื่นๆ ในสมาคมธวัชเหล็กไม่มีการแบ่งตำแหน่งสูงต่ำ ทุกคนมีความสัมพันธ์ในระดับเดียวกัน แถมระหว่างกันเองยังมีข้อจำกัดอยู่ในระดับหนึ่ง’ ลู่เซิ่งจัดระเบียบข้อมูลมากมายในห้วงสมอง ค่อยๆ เข้าใจขึ้นมาแล้ว จึงผ่อนคลายลงมาก
นี่เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนขั้นสุดยอดอย่างแท้จริง!
สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ปัญหาด้านเคล็ดวิชาที่หนักใจมาโดยตลอดกลับได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดาย
ขอแค่มีค่าความดีความชอบ วิชาก็ไม่ใช่ปัญหา!
เพียงแต่พอนึกได้ว่าวิชาระดับมายาพิศวงต้องการค่าความดีความชอบมากกว่าล้านคะแนนเป็นอย่างน้อย ลู่เซิ่งก็รู้ว่าไม่สามารถเอามาครองได้ในระยะเวลาอันสั้น
แต่อย่างน้อยก็มีความคิดแล้ว
‘ไปห้องของตัวเองก่อนก็แล้วกัน’ เขานึกในใจ ตรงหน้าพลันพร่ามัว จากนั้นก็มาโผล่ในห้องทรงกลมขนาดเล็กอีกห้องหนึ่งในพริบตาเดียว
ในห้องรองรับคนได้แค่คนเดียว มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกินหนึ่งหมี่กว่าๆ แค่ยืนหมุนตัวก็ลำบากแล้ว…
‘สมาชิกทุกคนจะได้รับมิติเอกเทศใหม่เอี่ยม แต่มิติของเราเล็กเกินไปแล้วล่ะมั้ง…’ ลู่เซิ่งโคจรวิชาหดกระดูกเพื่อหดร่างกายลงบางส่วน จึงค่อยรู้สึกกว้างขึ้นกว่าเดิม
เขาที่ถือแร่ดิบอยู่นั่งขัดสมาธิลงบนพื้น อย่างไรมิติแห่งนี้ก็ไม่มีแม้แต่ประตูเข้าออก มีแค่เขาคนเดียว จึงไม่ต้องพะวงถึงสิ่งใด
ลู่เซิ่งบีบแร่ดิบเล่นพลางนึกว่าตนเองมีความสามารถด้านการแพทย์ไม่เลว อาจจะหาค่าความดีความชอบจากด้านนี้ได้
เพียงแต่จะหาได้เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับตลาดแล้ว
แวบ
ม่านแสงเด้งออกมาอีกรอบ ลู่เซิ่งจิ้มเปิดกรอบทักษะ รายการภารกิจแน่นขนัดดีดออกมา ด้านล่างมีตัวเลือกประกาศภารกิจอยู่
ลู่เซิ่งขยับจิตวิญญาณ รายการทั้งหมดตรงหน้าเริ่มกรองโดยอัตโนมัติ ใช้เวลาไม่กี่วินาที ก็เหลือแค่ภารกิจประเภทวิชาแพทย์เพียงอย่างเดียว
จากนั้นเขาก็จัดเรียงตามค่าความดีความชอบจากสูงถึงต่ำ รอจนกระทั่งการจัดเรียงทั้งหมดกลับเป็นแบบเดิม ชายหนุ่มจึงค่อยมองไปยังภารกิจหลายสิบภารกิจที่อยู่ด้านหน้าสุดอย่างละเอียด
‘กอบกู้วันสิ้นอารยธรรม รักษาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก และกำจัดพิษอารยธรรมระดับสูงอย่างสมบูรณ์–จ้างด้วยค่าความดีความชอบ เก้าสิบหกล้านคะแนน’
พิษอารยธรรมคืออะไร ลู่เซิ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน เขานิ่วหน้าเล็กน้อย ก่อนจะไล่สายตาไปด้านล่างต่อ เป็นอย่างที่คาด ภารกิจหนึ่งร้อยอันดับแรกเกี่ยวกับพิษอารยธรรมทั้งหมด
ภารกิจสองร้อยกว่าภารกิจต่อจากนั้นคือพิษเสมือนจริงที่จับต้องไม่ได้ ล้วนเป็นการแพร่เชื้อผ่านจิตวิญญาณ ซึ่งเขาไม่เชี่ยวชาญ
พลิกลงด้านล่างต่อ ไม่นานหลังไปถึงราวๆ มากกว่าพันรายการ โรคที่จับต้องได้ก็เริ่มเพิ่มขึ้น แม้ค่าตอบแทนจะเหลือแค่สองสามแสนคะแนน หรือไม่กี่หมื่นคะแนน แต่ก็จัดการได้ง่ายกว่ามาก
หาดูอีกสักพัก ลู่เซิ่งก็หมายตาไว้สามภารกิจ ล้วนเป็นการรักษาโรคและอาการบาดเจ็บ
หลังชั่งน้ำหนักดู เขาก็เลือกภารกิจรักษาอาการบาดเจ็บ
‘ใกล้เสียชีวิต ต้องการสารกายบริสุทธิ์จำนวนมากมาชดเชยการสูญเสียวันละครั้ง ค่าตอบแทนหนึ่งหมื่นคะแนนต่อครั้ง’
‘เหมาะกับเราพอดี ลองดูก่อนค่อยว่ากัน’
ลู่เซิ่งขยับจิตวิญญาณเพื่อรับภารกิจนี้
แร่ดิบสั่นไหว ข้อมูลจำนวนมากไหลเข้าสู่สมองของเขา
เมื่อตัดเนื้อหาที่เกี่ยวกับเงื่อนไขการฝ่าฝืนและกลไกป้องกันออกไป ลู่เซิ่งได้อ่านรายละเอียดที่ภารกิจนี้ระบุไว้อย่างรวดเร็ว
ภารกิจต้องการให้มุ่งหน้าไปยังถ้ำที่มีชื่อว่าถ้ำกราบสุคนธ์ ต้องการผู้รักษา เวลาอยู่ในถ้ำห้ามเคลื่อนไหวตามใจชอบ แร่ดิบจะมอบความสามารถส่งตัวให้
คนที่รับภารกิจเพียงแค่ต้องข้ามไปทำภารกิจให้สำเร็จแล้วค่อยข้ามกลับมา ในขณะที่ภารกิจกำลังดำเนินอยู่ สองฝ่ายไม่อาจทำร้ายกันได้ก่อนที่จะสำเร็จ
‘ถือให้ภารกิจในครั้งนี้เป็นตัวอ้างอิงมาตรฐานค่าตอบแทนก็แล้วกัน’
ลู่เซิ่งคิดในใจ ภารกิจรักษาบนม่านแสงด้านหน้าพลันส่องแสงสีขาว
ในรายการภารกิจสีเทาทั้งหมดมีแต่ภารกิจนี้เท่านั้นที่เรืองแสงสีขาว ทำให้สะดุดตาถึงขีดสุด
ลู่เซิ่งบีบแร่ดิบในมือเบาๆ แล้วโยนไปด้านหน้า
แวบ!
แร่ดิบกลายเป็นประตูส่งตัวซึ่งอยู่ในลักษณะแสงสีฟ้าทรงรีสายหนึ่ง
‘สะดวกสบายจริงๆ เปิดใช้การส่งตัวได้ง่ายๆ โดยไม่สนใจระยะห่าง ความสามารถนี้ไม่ธรรมดา’
ลู่เซิ่งซึ่งเพิ่มความระมัดระวังเล็กน้อยขณะก้าวไปด้านหน้า
ตรงหน้าเขาสว่างขึ้นทันทีเหมือนกับโผล่พ้นผิวน้ำเย็นเยียบ ภาพตรงหน้ากลายเป็นถ้ำใต้ดินที่มืดสลัวและกว้างขวางแห่งหนึ่งไปแล้ว
หยดน้ำกึ่งโปร่งแสงหยดลงมาจากยอดถ้ำอย่างต่อเนื่อง กระทบกับใบหน้าของมังกรขาวขนาดยักษ์ที่ร่างเต็มไปด้วยบาดแผลตัวหนึ่ง
“ยินดีต้อนรับผู้รักษา ข้ารอมานานแล้ว” มังกรขาวยาวสิบกว่าหมี่ คอที่ยาวมากค่อยๆ โค้งลงถึงด้านหน้าลู่เซิ่ง
แค่เงาที่ทอดลงมาจากขนาดร่างที่มหึมาก็ปกคลุมลู่เซิ่งไว้จนมิดแล้ว
“อย่างนั้นเริ่มกันเลยดีไหม” ลู่เซิ่งกวาดตามองทรวงอกของมังกรขาว
ตรงนั้นมีเนื้อสีดำที่กำลังขยับขยิกกลุ่มใหญ่
ลู่เซิ่งเดินเข้าไปโดยไม่ใส่ใจกับสภาพแวดล้อมรอบๆ ผมด้านบนถูกลมหายใจที่หนักหน่วงของมังกรขาวเป่าจนตั้งขึ้นเป็นครั้งคราว
ฟุ่บๆๆ!
ด้ายกระตุ้นวิญญาณมากมายพุ่งออกไปแทงใส่จุดบาดเจ็บของมังกรขาว
ด้ายกระตุ้นวิญญาณหลายเส้นหลอมละลายเป็นสารกายบริสุทธิ์จำนวนมากในร่างมังกรอย่างลื่นไหล ก่อนจะทะลักเข้าไปในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
พริบตาเดียวด้ายกระตุ้นวิญญาณพันกว่าเส้นก็หลอมละลายเข้าไปในร่างมังกร ร่างของมังกรขาวฟื้นฟูขึ้นด้วยความเร็วที่ตาเนื้อเห็นได้
“เพียงพอแล้ว” มังกรขาวเอ่ยอย่างเชื่องช้า
“อีกสิบสองดวงอาทิตย์ข้าจะมาใหม่” ลู่เซิ่งชักแขนกลับและกล่าวอย่างมีมารยาท
“รบกวนด้วย ค่าตอบแทนจะฝากไว้ที่สมาคมก่อน ขอแค่ทำการรักษาเสร็จครั้งหนึ่ง ท่านจะถอนได้เองโดยอัตโนมัติ” มังกรขาวเอ่ยเสียงต่ำ
“อืม”
ลู่เซิ่งพยักหน้า แร่ดิบลอยออกมาจากทรวงอกแล้วกลายเป็นประตูแสงสีฟ้า จากนั้นเขาก็ก้าวออกไป ก่อนจะหายไปจากที่เดิมในพริบตา
…
หลังจากรักษาเสร็จ ลู่เซิ่งก็กลับจากสมาคมธวัชเหล็กมาถึงคฤหาสน์ของตัวเอง
ทั้งหมดใช้เวลาไม่เกินสองชั่วยาม เขาได้ค่าความดีความชอบมาหนึ่งหมื่นคะแนน และสิ่งที่จ่ายไปก็มีแค่ด้ายกระตุ้นวิญญาณไม่กี่พันเส้นเท่านั้น
ความจริงสารกายบริสุทธิ์จากด้ายกระตุ้นวิญญาณในระดับของเขาหากยากถึงขีดสุด ต่อให้วางขายในตลาด ก็มีค่าค่อนข้างมากเช่นกัน
แต่การขายเองมีตัวแปรเยอะเกินไป หากใช้ทำภารกิจ เมื่อมีสมาคมธวัชเหล็กเป็นตัวกลาง ก็จะปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม
หลายวันต่อจากนั้น ลู่เซิ่งไปยังถ้ำกราบสุคนธ์ที่มังกรขาวอาศัยอยู่ผ่านแร่ดิบทุกวัน เป็นเพราะว่าสารกายที่ด้ายกระตุ้นวิญญาณของเขามอบให้มีความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง จึงมีส่วนช่วยต่อมังกรขาวอย่างใหญ่หลวง และยังลดเวลาที่ต้องใช้ฟื้นฟูหลังได้รับบาดเจ็บของมันลงไปมากโขด้วย
หลังจากรักษาติดกันห้าครั้ง อาการบาดเจ็บของมังกรขาวก็ดีขึ้นโดยพื้นฐานแล้ว ตอนแรกมันคาดว่าอย่างน้อยต้องรักษายี่สิบครั้ง แต่กลับหายดีในห้าครั้ง
มังกรขาวซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง เวลาที่ลดลงนี้มีค่าอย่างมาก ดังนั้นมันจึงมอบผลึกพลังมังกรที่แฝงกลิ่นอายของตัวมันเม็ดหนึ่งให้แก่ลู่เซิ่งแทนคำขอบคุณ
ของสิ่งนี้จะทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นๆ ได้รับการเสริมพลังถาวรจากพลังแห่งมังกร
ลู่เซิ่งแปลงมันเป็นค่าความดีความชอบอย่างไม่ลังเล ก่อนจะได้ค่าความดีความชอบมาสามหมื่นกว่าคะแนน
เวลาล่วงเลยไปอย่างสงบสุขเช่นนี้
ทุกๆ วันลู่เซิ่งจะไปทำการรักษาที่ตระกูลจ้าว และจะกลับมากินข้าวตอนเที่ยง จากนั้นก็จะไปสมาคมธวัชเหล็กเพื่อรับภารกิจรักษาผ่านแร่ดิบ บางครั้งก็ได้ค่าความดีความชอบหลายหมื่นคะแนน บางครั้งก็ไม่ได้อะไรกลับมา
ภารกิจมีอัตราความล้มเหลวเช่นกัน มีวันหนึ่ง ลู่เซิ่งรับภารกิจและข้ามไปติดต่อกันสี่ครั้ง สิ่งที่ได้พบกลับเป็นโรคพิเศษที่แม้แต่ด้ายกระตุ้นวิญญาณก็ยังแก้ไขไม่ได้
มีสองครั้งที่ลู่เซิ่งเกือบติดพิษกลับมา เสี่ยงอันตรายถึงขีดสุด
พริบตาเดียวก็ผ่านไปครึ่งเดือนกว่าๆ ในที่สุดการรักษาจ้าวลั่วอิงก็จบลง และลู่เซิ่งก็ได้ใช้เครื่องมือปรับเปลี่ยนสร้างวิชาหล่อเลี้ยงชีวิตให้แก่จ้าวเซิ่งอิงเช่นกัน
เพียงแต่วิชานี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจะมอบให้จ้าวเซิ่งอิงในตอนแรก หากแต่เป็นวิชาหล่อเลี้ยงความงามทั่วไปที่ทำการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันหลังจากได้สัมผัสกับเมล็ดแห่งแก่นปฐมในตัวของนาง
ความสำคัญของจ้าวเซิ่งอิงอยู่ที่เมล็ดแห่งแก่นปฐมในตัว เด็กสาวที่ตอนแรกเป็นแค่คุณหนูจอมดื้อด้านคนนี้ลึกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วในสายตาของลู่เซิ่ง
แต่แม้จะตัดทางตระกูลจ้าวออกไป เป้าหมายในตอนแรกของลู่เซิ่งก็บรรลุแล้วเช่นกัน นั่นก็คือการหาวิชาการฝึกฝนหลักระดับมายาพิศวงที่สมบูรณ์วิชาหนึ่ง
แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้มา แต่พอหาค่าความดีความชอบได้ทุกวัน ความหวังก็เริ่มมีโอกาสเป็นจริงกว่าเดิม หากยึดตามความก้าวหน้านี้ ขอแค่ผ่านไปอีกสักสามเดือน เขาจะสั่งสมค่าความดีความชอบเป็นจำนวนมากพอเพื่อใช้ซื้อคัมภีร์ย่อยของวิชามายาพิศวงได้สำเร็จ
ทว่าไม่นานนัก ข้อมูลที่อยู่เหนือความคาดหมายของเขาอยู่บ้างก็ถูกส่งมาจากเขตที่สี่
ถูจินไหว้วานให้คนส่งจดหมายมาให้เขาฉบับหนึ่ง บอกว่าเซินเซินเกิดปัญหาเล็กน้อย หวังว่าเขาจะกลับไปช่วยแก้ไขได้
ลู่เซิ่งลังเลเล็กน้อย เนื่องจากไม่ทราบว่าถูจินตามหาเขาไปทำไม แต่ในเมื่อส่งจดหมายมาแล้ว และไม่ว่าอย่างไรสายตระกูลถูก็มีส่วนช่วยต่อเขาไม่น้อย แถมถูจินยังเป็นอาจารย์ด้านการแพทย์ของเขาอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าด้วยน้ำใจหรือว่าด้วยเหตุผล ก็สมควรไปดูสักหน่อย
เผอิญที่การรักษาจบลงพอดี ความสัมพันธ์รับจ้างของตระกูลจ้าวกับเขาไม่มีอีกต่อไป เขาจึงได้เวลาว่างกลับมา
หลังได้รับข่าว ลู่เซิ่งก็เก็บข้าวของ แล้วพกเงินน้ำแข็งบางส่วนไปขึ้นค่ายกลส่งตัวสำหรับใช้มุ่งหน้าไปยังเขตที่สี่
…
เขตที่สี่ ข่ายเขามังกร ตระกูลถู
“เจ้าแน่ใจนะว่าเขาจะมา”
บุรุษร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดคลุมสีดำและใช้ผ้าคลุมศีรษะอำพรางส่วนศีรษะไว้คนหนึ่ง ยืนอยู่ในลานเล็กของตระกูลถู เอามือไพล่หลังพลางมองดูป่าสีเขียวมรกตรกชัฏที่อยู่ไกลออกไป
ด้านหลังเขาคือถูจินกับเต๋ออวิ๋นที่ถูกมัดคว่ำอยู่กับพื้น
“ไม่มีทาง! ท่านตัดใจซะเถอะ! ลู่เยวี่ยอยู่กับข้าแค่ช่วงเดียว ท่านคิดใช้พวกเรามาเป็นแต้มต่อข่มขู่เขา ไม่มีทางเกิดประโยชน์ใดๆ เด็ดขาด!”
ถูจินพยายามใจเย็น แต่ก็ยังสัมผัสความโกรธขึ้งจากน้ำเสียงได้
“เขาไม่มีทางกลับมาหรอก!”
……………………………………….