ยอดรักชายาอัปลักษณ์ 247 ท่านแม่ทัพใหญ่แย่แล้ว!

ตอนที่ 247 ท่านแม่ทัพใหญ่แย่แล้ว!

“บุก อย่าปล่อยให้นางหนีไปได้! ใครที่จับตัวเป็นมัจจุราชหยกได้ จะได้เลื่อนยศห้าขั้น”

 

 

หนิงอวี้รั้งสายบังเ**ยนแน่น ม้าเหงื่อโลหิตหมุนตัวอยู่กับที่สองสามรอบส่งเสียงร้องแหลม

 

 

ยังไม่ทันสิ้นเสียง ลูกธนูก็พุ่งเข้ามา หนิงอวี้ตะแคงกายหลบ นางชักกริชออกมาจากข้างเอว เวลานี้ท้องฟ้าสว่างขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงมืดสลัวอยู่บ้าง

 

 

ท่ามกลางพลทหารนับร้อย มีทหารสองนายขี่ม้ายืนเคียงกัน หนึ่งในนั้น บนหน้าสวมหน้ากากเขียวเขี้ยวโง้ง ดวงตาทั้งสองที่ไม่ถูกปกปิดด้วยหน้ากากเต็มไปด้วยแววตาความดิ้นรนอย่างเจ็บปวด

 

 

หนิงอวี้นิ่งอึ้ง ชุดดำถูกกรีดขาด ชั่วอึดใจเดียว นางกุมกริชสั้นหันกายแทงไปยังคนผู้นั้น ตามหลักการแล้ว เรื่องนี้ควรมีแค่นางและนายพลชุดเกราะดำและท่านหมอที่รู้ หรือว่าเรื่องที่ออกจากเมืองถูกข้าศึกพบเข้า

 

 

ทันใดนั้นความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวนาง ครั้นแล้วสันหลังก็รู้สึกเย็นวาบ หนิงอวี้คิดไปพลางรับมือกับศัตรู กริชกวัดแกว่งพลิ้วไปมารวดเร็ว

 

 

แต่ถ้าหากเป็นเช่นนี้ พวกเขาวางกำลังซุ่มอยู่บนเขาก็ได้นี่ เหตุใดจึงต้องมาดักอยู่ที่ หนิงอวี้มุ่นหัวคิ้ว นี่คงเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น นางเห็นท้องฟ้าใกล้สว่างแล้ว จำเป็นต้องสลัดให้พ้นคนเหล่านี้แล้วรีบกลับไปโดยเร็ว

 

 

ท่ามกลางเลือดที่สาดกระเซ็น พลทหารนายแล้วนายเล่าทยอยบุกเข้ามา หนิงอวี้เห็นทหารจู่โจมไม่ขาดก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวุ่นวายใจขึ้นมา

 

 

 “ท่านนายพลทั่วป๋า ตอนนี้กองทัพเราบุกโจมตีเมือง กำลังพลขาดแคลนอยู่ ไม่สู้รีบรบให้เสร็จเร็วๆ ดีกว่าหรือขอรับ”

 

 

หนิงอวี้ไม่จำเป็นต้องหันกลับ นางแทงกริชไปด้านหลังกาย สายลมเย็นพัดผ่านบริเวณลำคอ ตามด้วยเลือดสดอุ่นๆ ที่กระเด็นเข้ามาทันใด

 

 

 “ท่านนายพลมู่หรงบอกว่า ให้ท่านนายพลเป็นผู้ตัดสินใจ ผู้น้อยก็แค่คอยติดตามเท่านั้น”

 

 

วินาทีถัดจากนั้น เสียงฝีเท้าม้าก็ดังขึ้น ทหารที่รายล้อมข้างกายก็พากันถอยออก หนิงอวี้ชำเลืองมองก็เห็นม้าดำตัวหนึ่งกำลังวิ่งห้อพุ่งเข้ามา ใครกัน หนิงอวี้ตบหลังม้าเบาๆ ม้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

วินาทีที่ออกวิ่งนั้น นางรู้สึกได้ถึงสายลมที่พัดผ่านแผ่นหลัง เมื่อนางหันหน้ากลับก็เห็นนายพลหน้าผีในมือถือหอกยาวกำลังยืนอยู่ยังที่ซึ่งนางอยู่เมื่อครู่นี้

 

 

หนิงอวี้ดึงสายบังเ**ยนแน่น ม้าร้องเสียงแหลมออกทะยานขึ้นสู่อากาศ จะจับบ่าวต้องจับนายก่อน มู่หรงเป็นถึงแซ่ของเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์เหนือ สถานะของนายพลหน้าผีผู้นี้สูงส่งหาที่เปรียบไม่ได้

 

 

นายพลหน้าผียืนอยู่กับที่ หนิงอวี้ควบม้าเฉียดผ่านไหล่เขา กริชในมือเสียบย้อนทางลมไปยังเขาแต่กลับถูกสกัดได้ กริชถูกกด หอกยาวแทงสวนกลับ หนิงอวี้ยื่นมือซ้ายออกไปกดหอกยาวไว้ ม้าเหงื่อโลหิตร้องเสียงแหลมวิ่งห้อออกไป หนิงอวี้จึงปลอดภัยในที่สุด

 

 

บริเวณที่หอกยาวแทงผ่านเมื่อครู่ ทำให้เสื้อคลุมยาวขาดออก ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่ตนออกมานั้นสวมชุดคลุมยาวปิดบังใบหน้า ทหารข้าศึกพบเข้าก็ช่าง แต่เขารู้สถานะของนางได้อย่างไร

 

 

แย่แล้ว! ท่านพ่อกำลังมีอันตราย! หนิงอวี้กุมกริชสั้นแน่น หมายจะตีฝ่าวงล้อมออกไป นายพลหน้าผีกลับถือหอกยาวแทงเข้ามา หนิงอวี้ตั้งรับได้หนึ่งที นางขมวดคิ้วพลางพูดโพล่งออกไปสองคำว่า “ถอยไป”

 

 

นายพลหน้าผีราวกลับไม่ได้ยิน ทุกท่วงท่ามุ่งหมายเอาชีวิต หนิงอวี้เลี่ยงหลบแล้วโจมตีกลับ ในใจรุ่มร้อนดั่งไฟเผา ตัวการต้องเป็นคนผู้นี้แน่! เมื่อครู่นายพลอีกนายบอกว่าเขาเองเพียงแค่คอยติดตามเท่านั้น เห็นได้ชัดว่านายพลใส่หน้ากากผีผู้นี้ช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายโดยแท้

 

 

หนิงอวี้หัวใจว้าวุ่นราวกับไฟสุม นางลงมือดุเดือดยิ่งขึ้น วินาทีที่อาวุธปะทะกัน หนิงอวี้จนตรอกจึงต้องเลือกที่จะเสี่ยง จงใจเผยจุดที่เปิดออกให้เห็น

 

 

นายพลหน้าผีแทงหอกไปยังบริเวณที่นางเปิดออกตามคาด หนิงอวี้เลือดไหลออกจากริมฝีปากเป็นทาง นางกำกริชสั้นเคลื่อนขยับอย่างคล่องแคล่ว นางยกลวดเงินบริเวณหมวกเกราะออกแล้วเอากริชแนบไปบนลำคอเขา

 

 

หนิงอวี้มือหนึ่งกุมกริช มือหนึ่งรวบตรึงเขาเอาไว้แน่น นางกระอักเลือดกลบไปทั้งปากแล้วพูด “หลบไปซะ!”

 

 

พลทหารที่รุมล้อมเริ่มสับสันไม่รู้จะทำเช่นไรต่อ

 

 

“บังอาจ! ช่างกล้าจับตัวท่านนายพลมู่หรงไว้ได้!”

 

 

หนิงอวี้ยิ้มเยาะ เลือดสดจุดหนึ่งบนริมฝีปากอันขาวซีดของนางดูสะดุดตาอย่างมากทำให้ดูน่ากลัวทั้งเย้ายวนยิ่งนัก

 

 

นางขยับมือเบาๆ บริเวณลำคอของนายพลหน้ากากผีก็มีเลือดออกมาเป็นทาง นายพลที่ขี่ม้านั้นนิ่งอึ้งกับที่ ในที่สุดเขาก็โบกมือ หนิงอวี้ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ครั้นแล้วก็พาคนที่รวบตัวไว้ขึ้นหลังม้า

 

 

นางยกแส้สะบัดบังคับม้า เสียงฝีเท้าและกีบม้าดั่งแว่วตามมา หนิงอวี้เหลียวกลับไปมองหนึ่งที ชั่วอึดใจนั้น กริชก็ขยับห่างจากบริเวณลำคอ นายพลหน้าผีผู้นั้นจึงพลิกตัวลงจากม้า

 

 

หนิงอวี้ปล่อยให้เขาไป นางเพียงยื่นมือไปคลำบนถุงแพรเอว เมื่อแน่ใจว่าในถุงปุดนูนออกมาจึงรู้สึกวางใจ

 

 

มู่หรงเหยียนสถานะสูงส่ง เป็นตัวประกันชั้นดีอย่างแท้จริง แต่หากนางฝืนพาตัวเขากลับไป คงนำไปสู่การสู้รบนองเลือดอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เหิงโส่วกำลังวิกฤต อาการบิดาเองก็อยู่ในอันตราย นางจะมามัวเสียเวลากับเรื่องนี้ได้อย่างไร

 

 

ออกควบจนฝุ่นตลบ คูเมืองเหิงโส่วอยู่ห่างไม่ไกล นอกประตูเมืองซากศพเกลื่อนกลาด เลือดสดเจิ่งนองไปทั่ว ธงราชวงศ์ใต้ยังคงปลิวไสว หนิงอวี้จึงรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย

 

 

หนิงอวี้ดึงชุดคลุมดำออกแล้วโบกมือไปยังด้านบนประตูเมือง วินาทีถัดมาประตูเมืองก็ค่อยๆ แง้มเปิด หนิงอวี้บังคับม้าควบเข้าไปก็เห็นนายพลชุดเกราะดำสีหน้าเคร่งเครียด

 

 

“ท่านแม่ทัพใหญ่แย่แล้ว!”

 

 

 

 

ยอดรักชายาอัปลักษณ์

ยอดรักชายาอัปลักษณ์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 70  อ่านนิยาย ตอนที่ 71 – 140 อ่านนิยาย ตอนที่ 141 – 245 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


เพราะต้องการอำนาจทหารในมือนาง หนิงอวี้ จึงถูกหลอกให้แต่งงานกับบุรุษกลับกลอก ไม่นานก็ถูกหักหลัง แม้แต่บิดามารดาและคนรับใช้คนสนิทยังถูกตัดศีรษะ จบลงด้วยการดื่มยาพิษจากลาโลกนี้ไปอย่างน่าเวทนา

แต่นางกลับพบว่าตนตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงชีวิตก่อนแต่งงาน ภาพฉากในอดีตปรากฏขึ้นมาใหม่อีกครั้งดั่งความฝัน สิ่งเดียวที่คอยตอกย้ำว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นความจริงก็คือบาดแผลบนใบหน้านาง เพราะบทเรียนในกาลก่อนสอนนางแล้วว่าชาติภพนี้มิอาจโง่งมเฉกเช่นเดิม นางจึงเลือกแบกรับฐานะ ‘ชายาอัปลักษณ์’ แล้วแต่งงานกับ เว่ยหยวน ท่านอ๋องร่างกายอ่อนแอผู้ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น โดยหารู้ไม่ว่าจะได้รับรู้ถึงรสชาติของความรักล้ำลึกที่มิเคยได้สัมผัสเลยในอดีต...

และเมื่ออำนาจถูกส่งมอบให้ถูกคน หนทางแห่งการแก้แค้นก็ดูเหมือนจะมิได้ยากเย็นถึงเพียงนั้น!

Options

not work with dark mode
Reset