ตอนที่ 1019 ข้อตกลงในการเดิมพัน
……………………………………………………………………..
หยานตงอาจเป็นผู้ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดๆในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณทั้งสิ้นเพราะทุกคนที่รู้จักเขาจะรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการเดิมพันและความท้าทายแต่มีสามัญสำนึกที่มั่นคงเสมอ ในแนวคิดของเขาไม่มีถูกหรือผิดและไม่มีกฎเกณฑ์อะไรทั้งสิ้นหากสิ่งต่างๆไม่กระทบต่อโลกภายนอกและมักจะทำสิ่งต่างๆตามความชอบของตนเองโดยสมบูรณ์ อย่าถามเขาว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้เพราะเขาแค่ชอบและต้องการทำนั่นเอง
บางทีด้วยเหตุนี้ความรู้สึกของหยานตงที่มีต่อเย่เชียนจึงแตกต่างออกไปจากเดิมเพราะเมื่อเขาเห็นการต่อสู้ระหว่างไป๋ฮวยกับเย่เชียนแล้วเขาอาจจะประทับใจในตัวของเย่เชียนไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ไปเยี่ยมเย่เชียนตอนที่เย่เชียนบาดเจ็บจนเข้าโรงพยาบาลอย่างแน่นอน ซึ่งนี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าหยานตงมีบางอย่างที่สนใจในตัวเย่เชียน
ตู้ฟู่เหว่ยก็รู้สึกประหลาดใจและโกรธมากที่หยานตงเข้ามาแทรกแซงอย่างกะทันหัน แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีเหตุผลที่จะพูดอะไรกับหยานตงแต่เมื่อเขาได้ยินว่าหยานตงแพ้การเดิมพันให้กับเย่เชียนแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ “ผู้อาวุโสหยานผมไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะพนันอะไรกับเด็กคนนี้แต่มันเป็นเรื่องของสำนักม่อจื๊อของผมเพราะงั้นคุณยังคิดที่จะเข้ามาแทรกแซงอยู่อีกเหรอ? “ตู้ฟู่เหว่ยไม่พอใจอย่างมากและพูดต่อ “เด็กคนนี้ทำร้ายลูกศิษย์ของผมหยานซื่อฉุยเพราะงั้นถ้าผมไม่สอนบทเรียนให้กับเขาล่ะก็ผมในฐานะอาจารย์และเจ้าสำนักจะยืนอยู่ต่อหน้าเหล่าลูกศิษย์อย่างไร?..แบบนั้นผมเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าสำนักแห่งสำนักม่อจื๊อได้เหรอ?”
“ฉันเองก็รู้เรื่องนี้มาบ้างแล้วนิดหน่อยและคุณเองก็ทำผิดกฎก่อนโดยการจับตัวผู้หญิงมาข่มขู่อีกฝ่ายโดยไม่มีเหตุผล..ถ้าหากเป็นภรรยาของคุณล่ะคุณจะไม่โกรธเหรอ?..คุณโชคดีแค่ไหนแล้วที่เป็นเด็กๆพวกนี้เพราะถ้าเป็นฉันล่ะก็ฉันคงฆ่าคุณไปแล้ว!” หยานตงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก “แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนมีส่วนผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และฉันจะลงโทษทุกคนตามกฎของเรา!” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหยานตงก็พูดต่อ “อาจารย์ตู้คุณเป็นคนมีชื่อเสียงมากในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้โบราณและคุณเองก็ยืนอยู่ในฐานะเจ้าสำนักด้วยแต่ทำไมคุณถึงไร้เหตุผลแบบนี้และคิดที่จะจัดการกับเด็กๆเหล่านี้ด้วยวิธีสกปรกแบบนี้?..ฉันน่ะไม่ได้ต้องการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของสำนักม่อจื๊อหรอกเพราะมันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากที่สาวกหมิงม่อกับสาวกอันม่อจะทำสงครามกันเพราะถ้าคุณต้องการแก้ปัญหาจริงๆฉันแนะนำให้ตัดสินกันแบบตัวต่อตัวหรือนำกลุ่มคนมาต่อสู้อย่างมีเกียรติและสมศักดิ์ศรี..ส่วนผู้ชนะก็จะเป็นฝ่ายตัดสินใจสิ่งต่างๆ”
ถึงแม้ว่าสิ่งที่หยานตงพูดดูเหมือนจะสมเหตุสมผลแต่ทุกคนก็รู้ว่าการต่อสู้ระหว่างโลกศิลปะการต่อสู้โบราณนั้นโหดร้ายมาก ยิ่งไปกว่านั้นเห็นได้ชัดว่าหยานตงอยู่ข้างเย่เชียน
“เหตุการณ์ครั้งนี้ทุกคนคิดที่จะตายอยู่ที่นี่จริงๆงั้นเหรอ?” หยานตงพูด “อาจารย์ตู้คุณควรชัดเจนนะว่าถึงแม้ว่าทัศนคติและการกระทำของตาเฒ่าพวกนั้นจะดูเฉยเมยและไม่สนใจเรื่องระหว่างสำนักม่อจื๊อก็ตามแต่ถ้าคุณยังทำแบบนี้คุณคิดว่าพวกเขาจะปล่อยผ่านอย่างงั้นเหรอ?..คุณควรรู้นะว่าตัวตนของเด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดาๆเพราะถึงแม้ว่าเขาจะมาจากตระกูลเย่ก็ตามแต่คุณอย่าลืมตระกูลหม่าสิ..คุณคิดว่าคุณสามารถรับมือตระกูลใหญ่ทั้งสองพร้อมๆกันได้อย่างงั้นเหรอ?..ยิ่งไปกว่านั้นคุณลืมกองทัพเรือแห่งชาติปักกิ่งของหม่าเต๋อหงไปได้ยังไง?..เขาสามารถยกกองทัพเรือไปฆ่าคุณและถล่มสำนักของคุณได้โดยไม่ลังเลเลยคุณรู้หรือเปล่า?”
“หืม..นี่คุณกำลังพยายามใช้ตระกูลเย่และตระกูลหม่าเพื่อกดขี่ข่มเหงผมอย่างงั้นเหรอ?” ตู้ฟู่เหว่ยพูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าพวกนั้นจะทำจริงๆผมตู้ฟู่เหว่ยคนนี้ก็ไม่กลัวพวกเขาหรอก..คนอย่างผมไม่กลัวตายหรอก”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเหล่าลูกศิษย์ของคุณจะต้องตายไปด้วยและมันไม่ง่ายสำหรับสำนักม่อจื๊อเลยที่จะมีรากฐานอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้และฉันก็ไม่คิดว่าคุณอยากเห็นสำนักม่อจื๊อถูกทำลายหรอก..ส่วนเรื่องคราวที่แล้วใครถูกหรือใครผิดมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเพราะถึงยังไงสำนักม่อจื๊อก็แข็งแกร่งขึ้นได้..การที่คุณก่อสงครามไปมันก็เปล่าประโยชน์และนั่นจะทำให้ความพยายามของคุณที่เหน็ดเหนื่อยมานานหลายปีต้องสูญเปล่า!” หยานตงพูด
ในเวลานี้เย่เชียนก็หุบปากอย่างเชื่อฟังและไม่เข้าไปแทรกแต่อย่างใดเพราะเขาเห็นว่าหยานตงมาที่นี่เพื่อช่วยเขาโดยเฉพาะดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรใดๆอีก
“เอาเถอะ..เพื่อเห็นแก่ผู้อาวุโสหยานผมจะปล่อยพวกเขาไป..แต่ผมต้องทวงความยุติธรรมให้กับลูกศิษย์ของผมเพราะเย่เชียนทำให้ลูกศิษย์ของผมบาดเจ็บสาหัสดังนั้นเขาก็ควรชดใช้อย่างสาสมด้วยมือหนึ่งข้างจากนั้นเขาก็จะสามารถกลับไปได้” ตู้ฟู่เหว่ยพูดอย่างโกรธเกรี้ยว ตู้ฟู่เหว่ยก็รู้ดีว่าถ้าหากเขาทำให้หยานตงขุ่นเคืองมากเกินไปหยานตงก็จะไม่พอใจอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถยับยั้งชั่งใจเอาไว้ชั่วคราวเพราะถ้าหากลัทธิมารเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยล่ะก็มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างมากสำหรับเขาและเย่เชียนกับม่อหลงก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและอาจจะสามารถฆ่าเขาได้ในคราวเดียวด้วยซ้ำ
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันไปมองหยานตงแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสหยานครับผมขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้แต่คุณช่วยกลับไปก่อนจะได้หรือเปล่าเพราะเขาต้องการที่จะท้าทายผมจริงๆเพราะงั้นผมจะสะสางกับเขาให้จบที่นี่..ที่นี่เต็มไปด้วยระเบิดเพราะงั้นผมไม่ต้องการให้ใครเข้ามาเสี่ยงชีวิตอีก..แน่นอนว่าผมไม่คิดที่จะยอมรับความพ่ายแพ้หรอก”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหยานตงก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “อาจารย์ตู้ถ้างั้นฉันจะให้ข้อเสนอแนะกับคุณให้เลือกการต่อสู้ตัวต่อตัวหรือการต่อสู้แบบทีมจะดีกว่า..ซึ่งต้องเดิมพันด้วยชีวิตเท่านั้น!”
“ผมไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น” ม่อหลงพูด “นี่เป็นเรื่องภายในของสำนักม่อจื๊อเพราะงั้นผมจึงไม่ต้องการให้ใครมาเสี่ยงชีวิตด้วย..ถ้ามันสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวคนเดียวมันก็จะดีที่สุด..ผมเต็มใจที่จะต่อสู้โดยและเดิมพันด้วยชีวิต!”
“พี่ม่อหลง” หลี่เหว่ยตะโกนด้วยความกังวล “ทำไมถึงไปเดิมพันกับเขาแบบนั้นล่ะ..ตอนนี้เราได้เปรียบอยู่เพราะงั้นทำไมถึงให้โอกาสเขาล่ะ?..พี่น้องเขี้ยวหมาป่าของเราก็พร้อมที่จะสู้..รวมไปถึงพี่น้องมาเฟียนับหลายหมื่นคนเพราะงั้นถ้าหากใครถ่มน้ำลายใส่เราพวกมันก็จะต้องจมน้ำลายตัวเองตาย”
สถานการณ์ในตอนนี้หลี่เหว่ยมองเห็นได้ชัดเจนมากเพราะทั้งเย่เชียนกับม่อหลงยังไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของตู้ฟู่เหว่ยได้เลย ดังนั้นหากม่อหลงกับตู้ฟู่เหว่ยเผชิญหน้ากันก็จะเป็นการฆ่าตัวตายอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อได้ยินแบบนั้นม่อหลงก็พูดว่า “ในตอนนั้นปู่ของผมเลือกที่จาสั่งให้สาวกหมิงม่อถอยกลับพราะเขาไม่ต้องการให้ลูกศิษย์ทั้งสองฝ่ายฆ่าฟันกันเอง..หากมันเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่ายล่ะก็ผมจะมีหน้าไปพบท่านปู่ได้ยังไง?..ผมยอมทำแบบนี้ยังดีกว่า..เพื่อลบล้างความแค้นระหว่างผมกับเขาเพราะงั้นต่อให้ผมจะแพ้หรือตายไปผมก็จะไม่เสียใจเลย”
ในตอนนี้หลี่เหว่ยก็จ้องมองไปที่เย่เชียนเพื่อบอกให้เย่เชียนช่วยห้ามม่อหลงแต่เย่เชียนนั้นรู้ดีว่าไม่มีใครเปลี่ยนการตัดสินใจของม่อหลงได้ นอกจากนี้เย่เชียนก็เข้าใจม่อหลงเป็นอย่างดีเพราะผลลัพธ์ของสงครามฝ่ายระหว่างสาวกหมิงม่อกับสาวกอันม่อก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ แต่ที่แน่นอนเลยก็คือความแข็งแกร่งของสำนักม่อจื๊อจะต้องลดลงไปอย่างมากและอาจจะล่มสลายเลยก็เป็นได้
ในการต่อสู้ช่วงสั้นๆก่อนหน้านี้เย่เชียนก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของตู้ฟู่เหว่ยพอสมควรและช่องว่างระหว่างม่อหลงกับเขาก็ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ซึ่งมันยากมากที่ม่อหลงจะชนะได้ดังนั้นเย่เชียนจึงหันไปมองหยานตงอย่างหมดหนทาง
เมื่อเห็นแบบนั้นหยานตงก็พูดว่า “อาจารย์ตู้คุณคงไม่คิดที่จะสู้กับเด็กๆพวกนี้หรอกใช่มั้ย?..ผมมั่นใจเลยว่าเด็กๆพวกนี้ไม่สามารถเอาชนะคุณได้หรอก..คุณคงไม่อยากถูกทุกคนหัวเราะเยาะหรอกใช่มั้ย?..หรือคุณอยากจะลองสู้กับฉันดูสักครั้งล่ะ?”
“ผู้อาวุโสหยานคุณไม่จำเป็นต้องยั่วยุผมหรอก” ตู้ฟูเหว่ยพูด “ผมอยู่ในสังเวียนมานานเพราะงั้นผมจะกลัวเด็กน้อยพวกนี้ได้ยังไง?..สมัยนั้นตอนที่ผมสู้บนสังเวียนเด็กพวกนี้ยังอยู่ในท้องแม่กันอยู่เลย” จากนั้นเขาก็หันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “แล้วถ้าแบบนี้เป็นยังไง..ให้เย่เชียนมาร่วมต่อสู้ด้วยหรือพูดให้เข้าใจก็คือสองต่อหนึ่งเพราะผมจะไม่สามารถระบายความเกลียดชังได้ถ้าหากผมไม่ฆ่าเขา..แต่ตระกูลเย่และตระกูลหม่าจะต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวและพวกเขาจะต้องสัญญาว่าจะยอมรับผลลัพธ์แต่โดยดี”
มุมปากของเย่เชียนก็ฉีกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเพราะนี่คือผลลัพธ์ที่เขาคาดหวัง ซึ่งม่อหลงเพียงคนเดียวคงจะรับมือตู้ฟู่เหว่ยไม่ได้แต่ถ้าเพิ่มตัวเองเข้าไปล่ะก็โอกาสชนะจะสูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย “ในจุดนี้คุณมั่นใจได้เลยเพราะสมาชิกตระกูลเย่ของผมยุติธรรมเสมอ..ตราบใดที่การแข่งขันของเรายุติธรรมล่ะก็ถึงแม้ว่าผมจะตายผมก็สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรใดๆทั้งสิ้น” เย่เชียนพูด
“อีกสามวันต่อจากนี้ที่ทะเลทรายทางตอนเหนือ..ซึ่งนี่จะเป็นการประลองที่ยุติธรรมและเดิมพันด้วยชีวิต!” หยานตงพูดต่อ “อาจารย์ตู้คุณแน่ใจเหรอว่าคุณอยากจะสู้แบบสองต่อหนึ่ง?”
“แน่นอน..ผมยินดีที่จะสู้แบบสองต่อหนึ่งเพราะถ้ามีแค่ผมกับม่อหลงที่ต่อสู้กันล่ะก็บางคนอาจจะลับหลังและบอกว่าผมรังแกเด็ก” ตู้ฟู่เหว่ยพูด
หยานตงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะถึงเวลาแล้ว..ทุกคนแยกย้ายได้และอีกสามวันต่อจากนี้ฉันหวังว่าจะไม่มีใครเล่นสกปรกลับหลังฉันไม่อย่างนั้นจะต้องเป็นศัตรูกับหยานตงคนนี้!..หากเป็นแบบนั้นก็อย่ามาโทษฉันที่โหดร้ายก็แล้วกัน”
จากนั้นหยานตงก็ฉีกยิ้มและชำเลืองมองไปที่จือเหวินแล้วพูดว่า “อาจารย์ตู้จำเอาไว้ด้วยล่ะว่าอย่าเอาผู้หญิงบริสุทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโลกศิลปะการต่อสู้และเรื่องของผู้ชายอย่างเราอีก!”
“หืม” ตู้ฟู่เหว่ยไม่เข้าใจความหมายของหยานตง แต่เขาก็ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวและโบกมือแล้วพูดว่า “ส่วนเธอออกไปซะ!”
หยานตงก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ “เอาล่ะ..ทุกอย่างที่จำเป็นต้องแก้ไขก็ได้รับการแก้ไขแล้วเพราะงั้นแยกย้ายกันได้..อ้อใช่สิ..เสี่ยวเชียนมันไม่ดีเลยนะที่จะระเบิดบ้านของคนอื่นแบบนี้..เอ็งอย่าลืมจัดการเรื่องเงินค่าเสียหายด้วยล่ะเอ็งไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย?”
“ไม่มีปัญหาครับ” เย่เชียนพูด
“ไม่จำเป็น..ฉันจะใช้เงินของสำนักม่อจื๊อเองเพราะพวกแกควรเก็บเงินเอาไว้เพื่อเตรียมซื้อโลงศพให้ตัวเองเถอะ” ตู้ฟูเหว่ยพูดอย่างไม่สบอารมณ์
หยานตงก็ยักไหล่แล้วพูดว่า “เอาล่ะไปกันเถอะ..เฮ้อ..ฉันต้องคิดให้รอบคอบว่าจะอธิบายต่อสาธารณชนยังไงกับเหตุการณ์ในครั้งนี้..มันน่าปวดหัวจริงๆเลย”
.
.
.