ยอดนักรบจอมราชัน 1015 ความสง่าผ่าเผย

ตอนที่ 1015 ความสง่าผ่าเผย

ตอนที่ 1015 ความสง่าผ่าเผย

……………………………………………………………………..

การมาถึงของหยานซื่อฉุยทำให้สถานการณ์ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือตึงเครียดยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเย่เชียนคิดว่าครั้งนี้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับหวังหว่านยู่และเจรจากับเขาเท่านั้นแต่เย่เชียนไม่ได้คาดคิดว่าสำนักม่อจื๊อจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยและเย่เชียนก็ชัดเจนว่าเป้าหมายของการเชิญครั้งนี้ของหยานซื่อฉุยนั้นไม่ใช่เพราะตัวเขาเองแต่เป็นการเชิญม่อหลงและสันนิษฐานว่านี่คือสิ่งที่ตู้ฟู่เหว่ยต้องการใช่ไหม?

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้เหว่ยเถ่าและคนอื่นๆรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเย่เชียนแค่แกล้งทำเป็นลูกวัวแรกเกิดมาตั้งแต่แรกและพวกเขาก็เป็นแค่สิ่งที่ตลกในสายตาของเย่เชียนเพราะคนอย่างเย่เชียนสามารถทำให้หยานซื่อฉุยสงบลงได้ ดังนั้นพวกเขาจะไปมีคุณสมบัติอะไรที่จะสู้เย่เชียนได้กัน? ในฐานะที่เป็นนายน้อยทั้งสามแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือแล้วแน่นอนว่าศักดิ์ศรีของเหว่ยเถ่าก็ไม่ได้ต่ำต้อยขนาดนั้นแต่เมื่อเผชิญกับสิ่งที่หยานซื่อฉุยทำแล้วเขาก็ทำได้เพียงแค่ฟัง เพราะบางทีคนอื่นอาจไม่รู้ว่าหยานซื่อฉุยนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ทุกคนต่างก็ชัดเจนว่าบริษัทเรดสโตนอินเตอร์เนชันแนลเป็นธุรกิจที่มีร้านอาหารจำนวนมากในภาคตะวันตกเฉียงเหนือและให้บริการกับคนที่มีชื่อเสียงและหยานซื่อฉุยเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกวีไอพีเหล่านั้น

หลังจากรถพยาบาลมาถึงเหว่ยเถ่าก็รีบบอกให้เจ้าหน้าที่พาชายหนุ่มที่บาดเจ็บออกไปและกล่าวคำอำลาเย่เชียนกับหยานซื่อฉุยอย่างถ่อมตน ซึ่งตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะจีบหลินโรวโร่วอีกต่อไปและเหลือบมองไปที่เย่เชียนแล้วอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจว่า “ไอ้เวรนี่มันแสร้งทำเป็นโง่และทำให้ฉันต้องดูแย่ในสายตาทุกคน!”

ปฏิกิริยาของหยานซื่อฉุยนั้นดูเฉยเมยมากและเธอก็ไม่ได้มองเหว่ยเถ่าเลยแม้แต่น้อยเพราะคนแบบนี้ไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่านายน้อยแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือเหมือนกับเขาเลยเพราะนี่มันทำให้ตัวเธอต้องอับอายที่ต้องลดระดับลงไปเทียบกับคนแบบนี้ เย่เชียนก็ยิ้มให้เหว่ยเถ่าอย่างเฉยเมยเพราะเมื่อสิ่งต่างๆผ่านมาสักระยะหนึ่งแล้วชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่เลวเพราะลูกหลานครอบครัวที่ร่ำรวยส่วนใหญ่มีนิสัยแย่ๆแต่เมื่อพิจารณาว่าเขาบริจาคเงิน 20 ล้านหยวนแล้วเย่เชียนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป

เหว่ยเถ่าก็ยิ้มอย่างขมขื่นและออกจากห้องส่วนตัวVIPไป

หยานซื่อฉุยเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “ฉันได้ส่งคำเชิญไปแล้วและฉันหวังว่าคุณเย่จะไม่ปฏิเสธการนัดพบให้ครั้งนี้..อ๋อฉันลืมบอกไปว่าแม่ม่ายดำจือเหวินก็มาเป็นแขกของการพบปะครั้งนี้ด้วย”

เมื่อได้ยินแบบนั้นคิ้วของเย่เชียนก็ขมวดเข้าหากันและเจตนาฆ่าที่เย็นยะเยือกก็ผุดขึ้นในใจและพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณหยานกำลังคุกคามผมอยู่หรือเปล่า?” ผู้หญิงมักจะเป็นจุดอ่อนของเย่เชียนเสมอและเขาก็คิดจริงๆว่าคนอื่นๆสามารถคุกคามเขาด้วยผู้หญิงและหยานซื่อฉุยก็เลือกที่จะทำแบบนั้น

“อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดนะคุณเย่เราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น” หยานซื่อฉุยพูด

หลินโรวโร่วที่อยู่ข้างๆได้ยินการสนทนาดังกล่าวและตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างได้จากนั้นเธอก็หันไปมองเย่เชียนด้วยความโกรธและเดาว่าแม่ม่ายดำจือเหวินคนนี้มีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับเย่เชียน ไม่อย่างนั้นเย่เชียนจะไม่มีปฏิกิริยาแบบนี้เมื่อได้ยินชื่อนี้แต่หลินโรวโร่วก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเธอมีน้ำใจและใจดีมากและเธอก็รู้ว่าดีที่สุดสำหรับเธอที่จะไม่พูดอะไรในตอนนี้

“คุณหยานคุณคิดจริงๆเหรอว่าผมจะไม่กล้าทำอะไรคุณ?..สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือเวลาที่คนอื่นมาข่มขู่และคุกคามผม..ซึ่งคุณกำลังทำให้ผมโกรธและดูเหมือนว่าสำนักม่อจื๊อของคุณจงใจประกาศสงครามกับผมใช่มั้ย?” เมื่อเสียงของเย่เชียนจบลงมือขวาของเขาก็โผล่ออกมาทันทีและนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือของเขาก็เป็นรูปตะขอแล้วบีบไปที่คอของหยานซื่อฉุย

การกระทำนี้รวดเร็วและรุนแรงราวกับว่าเขากำลังจะฆ่าหยานซื่อฉุยจริงๆ

รอยยิ้มที่พึงพอใจก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของหยานซื่อฉุยและเธอก็รีบก้าวถอยหลังไปแล้วพูดว่า “ฉันต้องการสู้กับคุณเย่มานานแล้วและในที่สุดฉันก็มีโอกาสสักที”

การกระทำของหยานซื่อฉุยทำให้เย่เชียนโกรธมากจนพลังปราณในร่างกายของเขาก็หมุนเวียนอย่างดุเดือดและดูเหมือนว่าเขาอยากจะฆ่าหยานซื่อฉุยจริงๆ ซึ่งการต่อสู้ระหว่างสองปรมาจารย์ยุคใหม่แห่งโลกศิลปะการต่อสู้นั้นช่างยอดเยี่ยมและหาดูได้ยาก อย่างไรก็ตามการโจมตีที่ไม่สามารถมีโอกาสป้องกันได้ของเย่เชียนนั้นทำให้หยานซื่อฉุยรู้สึกกดดันอย่างมากราวกับว่าเย่เชียนอยากที่จะฆ่าเธอจริงๆจนเธอแอบคิดในใจว่าหากเป็นเรื่องผู้หญิงแล้วสิ่งนี้ก็สามารถคุกคามเย่เชียนได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

อันที่จริงมันจะง่ายอย่างนั้นหรือ? ไม่แน่นอนเพราะถึงแม้ว่าจะใช้ผู้หญิงเพื่อคุกคามเย่เชียนได้แต่เย่เชียนก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำให้ตัวเองเสียสติเพราะเรื่องผู้หญิงได้และถ้าหากเขาต้องการช่วยแม่ม่ายดำจือเหวินจริงๆล่ะก็เขาต้องใจเย็นกว่านี้แต่การกระทำของหยานซื่อฉุยนั้นทำให้เย่เชียนโกรธเกรี้ยวจริงๆ ดังนั้นจึงต้องสอนบทเรียนให้กับเธอเพื่อให้สำนักม่อจื๊อเข้าใจว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่คนอื่นจะสามารถคุกคามได้

การมาถึงของหยานซื่อฉุยทำให้เย่เชียนเข้าใจว่าการต่อสู้ระหว่างเขากับสำนักม่อจื๊อนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป หากเป็นกรณีนี้เขาต้องแสดงความมั่นใจให้สำนักม่อจื๊อเห็นก่อนไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายจะได้ใจมากขึ้นไปอีกและคราวนี้ก็เป็นแม่ม่ายดำจือเหวินและครั้งต่อไปจะเป็นใครอีกล่ะ?

การโจมตีของเย่เชียนนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆและเกือบทุกการเคลื่อนไหวที่เขาทำเขาใช้พลังทั้งหมดของเขาที่เขามีจนทำให้หยานซื่อฉุยรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ส่วนหลินโรวโร่วก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดังนั้นเธอจึงหลบไปอยู่ที่ด้านข้างและกังวลเกี่ยวกับเย่เชียน อย่างไรก็ตามเย่เชียนเองก็รู้ดีว่าเขาแตกต่างไปจากผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณคนอื่นๆเพราะโดยพื้นฐานแล้วถึงแม้ว่าการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยแต่การใช้พลังทางกายภาพที่รุนแรงนั้นทำให้สูญเสียพลังปราณจำนวนมาก แต่พลังลึกลับและน่ากลัวน้ำให้หยานซื่อฉุยหวั่นเกรงอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกครั้งที่เธอเผชิญหน้ากับเย่เชียนร่างกายของเย่เชียนก็จะปล่อยพลังงานที่แข็งแกร่งออกมาอย่างรวดเร็วและถึงแม้ว่าเธอจะพยายามอย่างดีที่สุดเธอต้องพยายามควบคุมมัน แต่พลังงานที่แข็งแกร่งก็ยังคงทำลายร่างกายของเธอเหมือนต้นไม้ที่เน่าเสียซึ่งทำให้หยานซื่อฉุยประหลาดใจอย่างมาก

ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปหยานซื่อฉุยก็รู้ว่าเธอจะทนได้อีกไม่นานเพราะการโจมตีของเย่เชียนเป็นการโจมตีที่บ้าคลั่งจนเธอไม่สามารถตอบโต้และไม่มีที่ว่างให้หลบเลยดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่ป้องกันเท่านั้น

หมัดทั้งสองปะทะกัน “ปัง” และทั้งสองฝ่ายก็รวมพลังทั้งหมดของร่างกายเอาไว้ที่หมัด อย่างไรก็ตามหยานซื่อฉุยกรีดร้องเมื่อปะทะโดยไม่ตั้งใจและร่างของเธอก็กระเด็นออกไปและล้มลงอย่างรุนแรงบนพื้น จากนั้นเธอก็กระอักเลือดจำนวนมากออกมาและสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ในทันที

เย่เชียนก็ถอนหายใจอย่างเย็นชาแล้วก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “กลับไปบอกอาจารย์ของคุณว่าผมจะไปหาเขาและบอกเขาว่าถ้าหากจือเหวินเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ผมจะฆ่าเขาและทำลายสำนักม่อจื๊อให้หมด!”

หยานซื่อฉุยก็เช็ดเลือดจากมุมปากของเธอและพูดว่า “เย่เชียนถ้าคุณปล่อยฉันไปคุณไม่กลัวว่าฉันจะกลับไปทำอะไรแม่ม่ายดำจือเหวินเพื่อระบายความแค้นจากคุณเหรอ?”

“อย่าท้าทายความอดทนของผมเพราะงั้นถ้าคุณไม่อยากตายคุณก็ไปซะ!” เย่เชียนพูดอย่างเย็นชา “ตั้งแต่ผมเกิดมาผมไม่เคยยอมรับการคุกคามจากใครเลยแล้วนับประสาอะไรกับสำนักม่อจื๊อเล็กๆ..เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศทั้งประเทศก็เถอะใครกล้าที่จะมาท้าทายผมล่ะก็ผมจะล้างบางให้สิ้นซาก”

“หืม..อย่าลืมสิว่าที่นี่อยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือเพราะงั้นคุณจะทำอะไรได้?” หยานซื่อฉุยยืนขึ้นและพูด

“ไปให้พ้น..ความอดทนของผมมีขีดจำกัด!” เย่เชียนตะโกน

หยานซื่อฉุยก็รู้สึกโกรธแต่เธอก็ไม่ได้วุ่นวายต่อไปแต่ปฏิกิริยาของเย่เชียนค่อนข้างน่าแปลกใจสำหรับเธอและเธอก็ไม่ได้คาดหวังว่าทักษะการต่อสู้และพลังของเย่เชียนจะสูงมากถึงขนาดนี้และถึงแม้ว่าจะไม่มากเท่ากับอาจารย์ของเธอก็ตาม แต่ทว่าเธอสัมผัสได้ว่าพลังปราณของเย่เชียนนั้นทรงพลังมากและต่อให้แม่ม่ายดำจือเหวินจะอยู่ในกำมือของเธอแต่เธอก็ไม่ได้เปรียบอะไรเลยแม้แต่น้อย

อันที่จริงเธอไม่ได้ทำอะไรกับจือเหวินเพราะเธอแค่ต้องการใช้จือเหวินเพื่อบังคับเย่เชียนและม่อหลงให้ไปตามนัดและแน่นอนว่าเป้าหมายที่แท้จริงก็คือม่อหลงนั่นเอง

เมื่อเห็นหยานซื่อฉุยเดินโซเซออกไปหลินโรวโร่วก็เข้าไปหาเย่เชียนและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เย่เชียนคุณเป็นอะไรหรือเปล่า?..คุณบาดเจ็บมั้ย?”

เย่เชียนก็ยิ้มอย่างขอโทษและพูดว่า “โรวโร่ว..ผมขอโทษที่ทำให้ชีวิตคู่ของเราต้องกลายเป็นแบบนี้”

“ไม่เป็นไร” หลินโรวโร่วพูด “ตราบใดที่ฉันมีคุณอยู่ข้างๆฉันก็มีความสุขมาก..ว่าแต่ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใครกัน?”

“เธอเป็นลูกศิษย์ของตู้ฟู่เหว่ยเจ้าสำนักม่อจื๊อและคราวนี้ผมคิดว่าเธอมุ่งเป้าไปที่ม่อหลง” เย่เชียนขมวดคิ้วและพูดว่า “แท้ที่จริงแล้วม่อหลงคือผู้สืบทอดเจ้าสำนักแต่เมื่อยี่สิบปีก่อนสำนักม่อจื๊อเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะสาวกหมิงม่อกับอันม่อได้ต่อสู้กันจนทำให้ตระกูลม่อทั้งหมดตายไปในการต่อสู้ครั้งนั้น..ดังนั้นเจ้าสำนักคนปัจจุบันของสำนักม่อจื๊อคงไม่อยากให้ม่อหลงมีตัวตนอยู่นั่นเอง” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็หันไปมองหลินโรวโร่วและพูดว่า “โรวโร่วสถานการณ์ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือจะรุนแรงมากและอันตรายเพราะการต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้นแล้วเพราะงั้นคุณควรออกไปจากที่นี่โดยเร็วเพื่อที่ผมจะได้สบายใจ”

“ได้เลย” หลินโรวโร่วพยักหน้าอย่างหนักหน่วงแล้วพูดว่า “ฉันจะรีบออกจากเมืองซีหนิงในเช้าวันพรุ่งนี้” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหลินโรวโร่วก็ไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “ไปช่วยคุณจือและปกป้องเธอด้วยนะ”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเพราะหลินโรวโร่วใจกว้างและใจดีมาก “โรวโร่วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตถึงยังไงคุณก็เป็นคนสำคัญที่สุดในหัวใจของผมเสมอ..ผมรักคุณมากกว่าสิ่งอื่นใด” เย่เชียนพูดต่อ “พรุ่งนี้เช้าผมจะไปส่งคุณที่สถานีขนส่ง..ผมอยากให้คุณไปที่ซานย่าเพื่อไปพบแม่ของผมและผมคิดว่าแม่ต้องชอบคุณมากแน่ๆ”

ด้วยคำพูดของเย่เชียนนั้นหลินโรวโร่วก็รู้สึกว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วจากนั้นเธอก็พยักหน้าแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน

.

.

.

.

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ
เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย้ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม…
————————————–
————————————– ..โปรย.. ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

Options

not work with dark mode
Reset