ตอนที่ 15 น้ำวนลึกลับ 1
“ฟังทางนี้ ฟังทางนี้! ศิษย์ใช้แรงงานท้าประลองศิษย์นอกสำนักอันดับยี่สิบเก้า หลิวชิงอวี่ ณ ลานประลองเป็นตายในอีกสามเดือนข้างหน้า ทุกท่านอย่าลืมไปดูด้วยตาตัวเองในอีกสามเดือน…”
“ศิษย์ใช้แรงงานท้าประลองยอดฝีมือศิษย์นอก? เจ้าบ้าไปแล้วหรือ… เจ้าหมายถึงศิษย์ใช้แรงงานผู้ที่เอาชนะต้วนจวินที่มีระดับการบ่มพลังเหนือกว่างั้นหรือ?”
“ถูกต้อง ชายผู้นั้นแหละ ยังคงมีศิษย์ใช้แรงงานนอกจากเขาที่ร้ายกาจเช่นนี้อีกหรือไม่นะ?”
“ศิษย์ใช้แรงงานผู้นี้ฝีมือร้ายกาจยิ่งนัก! ตอนแรกเขากล้าท้าประลองศิษย์นอกสำนักที่ไม่ใชยอดฝีมือ แม้ตอนนี้เขาจะพัวพันกับความตาย พวกเราก็ไม่มีทางช่วยได้นอกจากชื่นชมในความกล้าหาญของเขา!”
……
เวลาเพียงไม่นานที่ข่าวการท้าประลองของหยางเย่และศิษย์นอกสำนักกระจายออกไป แม้กระทั่งยอดฝีมือที่อยู่ในเจ็ดยอดเขากลั่นพลังยังทราบข่าว
“ระดับหกขั้นปราณมนุษย์ท้าทายพลังปราณสวรรค์ขั้นแรก? คนโง่เขลาช่างไร้ความกลัวอย่างแท้จริง!” นี่แค่บางส่วนที่บรรดายอดฝีมืออันดันต้นกล่าวเมื่อได้ทราบข่าวเรื่องหยางเย่ท้าประลอง
“แม้ว่าหลิวชิงอวี่ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ระดับหกขั้นปราณมนุษย์จะมาท้าทายได้ ข้าอยู่ในเจ็ดยอดเขากลั่นพลังนานเกินไป จนบรรดาศิษย์ใช้แรงงานกล้าอวดดีขนาดนี้เชียวหรือ?”
“ระดับหกขั้นปราณมนุษย์ท้าประลองพลังปราณสวรรค์ขั้นแรก น่าสนใจ…”
ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาสำนักนอกหรือเจ็ดยอดเขากลั่นพลัง ข่าวลือที่หยางเย่ท้าประลองได้กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ยามนี้นามของหยางเย่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในสำนักชั้นนอก
หุบเขาวายุเหมันต์
หลังจากมาถึงหุบเขาวายุเหมันต์ หยางเย่นำคัมภีร์วิชาดาบขั้นสีเหลืองที่ได้รับจากหนึ่งในบรรดาผู้อาวุโสออกมา วิชาดาบแยกลมปราณ เขาเริ่มศึกษาอย่างถี่ถ้วน ตอนนี้เขาจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งแบบเร่งด่วนที่สุด!
“วิชาดาบแยกลมปราณ ระดับสีเหลืองขั้นสูง วิชาที่คิดค้นโดยผู้อาวุโสแห่งสำนักดาบราชัน มันมีถึงสิบขั้น และจะเพิ่มปราณดาบต่อหนึ่งขั้น เมื่อสำเร็จวิชาสูงสุด สิบปราณดาบที่ปล่อยออกมาสามารถตัดกวาดทุกสิ่งที่ขวางทางได้!”
เมื่อมองดูคำอธิบายของวิชาดาบแยกลมปราณ หยางเย่รู้สึกโชคดีที่ได้ประลองกับต้วนจวินในลานประลองเป็นตายก่อนหน้า ต้วนจวินเองบรรลุเพียงขั้นแรก หากต้วนจวินฝึกฝนมากกว่านี้มันจะยิ่งอันตรายต่อเขายิ่งไปอีก
เมื่ออ่านต่อไป หยางเย่เริ่มรู้สึกถึงความร้ายกาจของวิชาดาบแยกลมปราณจนเริ่มหวาดกลัว หากมันมีเพียงปราณดาบสิบปราณก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ แต่วิชาดาบแยกลมปราณสามารถ “แยกพลังปราณ” ได้ นั่นหมายความว่าปราณดาบสามารถโจมตีได้จากหลายทิศทาง
ทิศทางปราณดาบที่พุ่งไปสามารถเปลี่ยนแปลงได้!
เมื่อจินตนาการถึงสิบปราณดาบโจมตีศัตรูจากหลายทิศทาง หยางเย่ไม่อาจยับยั้งความตื่นเต้น แต่ไม่นานก็ต้องสงบลง เพราะมันยากลำบากยิ่งนักในการเปลี่ยนทิศทางดาบ มันต้องใช้การควบคุมพลังปราณล้ำลึกในระดับมหาศาล และระดับมหาศาลนั้น แม้กระทั่งผู้อาวุโสนอกสำนักยังไม่อาจบรรลุได้!
หยางเย่สูดหายใจลึกและวางคัมภีร์ไว้ จากนั้นเริ่มจับดาบและฝึกฝนอย่างช้า ๆ ตามวิธีในคัมภีร์วิชาดาบแยกลมปราณ
ไม่ว่าจะเพื่อน้องสาว มารดา หรือตัวเขาเอง เขาจะไม่ยอมแพ้อีก เพราะในโลกแห่งนี้ ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่ผู้คนเคารพนับถือ ไม่มีสิทธิ์จะกล่าวอันใดหากไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง เหมือนก่อนหน้านี้ พลังของหลิวชิงอวี่สูงกว่าหยางเย่ ดังนั้นจึงตั้งใจสังหารเขาโดยไม่สนกฎเกณฑ์ใด
ในโลกแห่งนี้ ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง เขาเข้าใจหลักการนี้เมื่ออยู่ในเมืองทักษิณภิรมณ์ และยิ่งลึกซึ้งขึ้นเมื่อเข้ามาอยู่ในสำนักดาบราชัน
ในไม่กี่วันถัดมา นอกจากโรงอาหาร หยางเย่ใช้เวลาไปกับการบ่มเพาะพลังอย่างหนักหน่วงในหุบเขาวายุเหมันต์ พร้อมทั้งยังหลับนอนในหุบเขา ด้วยยาเม็ดเกราะพลังปราณจากผู้อาวุโสและหินพลังปราณจากเปาเอ๋อ เขาสามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างเต็มที่
แกรก! แกรก!
หยางเย่ยืนบนโขดหินขณะเหวี่ยงดาบเหล็กดำในมือ หากมีผู้ใดผ่านมาที่นี่ ผู้นั้นต้องประหลาดใจเป็นแน่ เพราะทุกครั้งที่หยางเย่เหวี่ยงดาบเหล็กดำ มันไม่เพียงแค่มีเสียงตัดอากาศทิ้งไว้ ทั้งยังมีภาพติดตาจากปราณดาบค้างในอากาศ!
ต้องแข็งแกร่งแค่ไหนถึงจะสร้างเสียงตัดอากาศได้? ต้องเหวี่ยงดาบรวดเร็วแค่ไหนถึงจะทิ้งภาพดาบค้างไว้ได้?
หลังจากฝึกฝนวิชาดาบพื้นฐานเสร็จ ดาบหยางเย่ชี้ไปที่มุมพื้น ตาของเขาปิดลงเล็กพร้อมใบหน้าที่ดูสงบราวกับนักบวชที่เข้าฌานอยู่ ใบหน้าหยางเย่ค่อนข้างผอม รูปลักษณ์หล่อเหลา ประกอบด้วยผมสีดำเงางาม ถึงแม้ไม่อาจเรียกได้ว่าเด็กหนุ่มรูปงาม เขาก็ค่อนข้างหน้าตาดี