ตอนที่ 10 วิชาดาบพื้นฐาน 2
ฟึบ!
อาจเป็นเพราะพลังที่แฝงไว้ข้างในมหาศาล ทุกที่ที่ดาบหยางเย่ผ่าน แสดงให้เห็นถึงความแปรปรวนของอากาศที่เห็นได้ด้วยตา ทั้งยังส่งเสียงแหลมคมจากอากาศที่ถูกฉีกขาด
“รอศัตรูโจมตีก่อนจะตอบโต้!” เมื่อเขาเห็นหยางเย่พุ่งตอบโต้ ผู้อาวุโสข้างใต้ลานประลองกล่าวด้วยน้ำเสียงเบา “น่าสนใจมาก ครั้งแรกเลยที่ข้าเห็นการบ่มเพาะพลังวิชาดาบพื้นฐานได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้ ไม่เลว!”
ปั้ง!
ดาบและปราณพลังดาบหิมะขาวปะทะกัน เสียงระเบิดดังสนั่น จากนั้น ดาบของหยางเย่ผ่าปราณดาบหิมะขาวราวกับน้ำมันร้อนละลายหิมะ ความเร็วของเขายังไม่ลดลงพร้อมพุ่งไปยังต้วนจวินทันที ในสายตาของต้วนจวิน เขาเห็นดาบสะบัดอย่างรวดเร็วไปทางขาซ้ายและขาขวา!
สีหน้าของต้วนจวินเต็มไปด้วยความตะลึง ไม่คาดคิดว่าปราณพลังดาบที่เขาปล่อยจะถูกผ่าออกเป็นสองซีกอย่างง่ายดาย มันเพียงแค่วิชาดาบพื้นฐาน! ก่อนจะเรียกสติกลับคืนมาจากอาการตกใจ หยางเย่ก็ปรากฏขึ้นมาข้างหน้าแล้ว ความกลัวบังเกิดขึ้นในจิตใจอีกครั้ง เขารีบยกดาบขึ้นป้องกันการโจมตีของหยางเย่พร้อมกระเด็นถอยหลังไป
ชิ้ง! ชิ้ง!
ดาบของพวกเขาปะทะกันอย่างไม่จบสิ้น เสียงโลหะกระทบกันดังออกมา มันราวกับดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงที่ไพเราะสวยงาม
เมื่อเห็นต้วนจวินเริ่มหยุดและถอยไปอย่างไม่หยุด บรรดาศิษย์ใช้แรงงานรอบข้างถึงกับลืมเลือนหายใจ ไม่เพียงแค่ศิษย์ใช้แรงงาน แม้กระทั่งศิษย์นอกสำนักก็เช่นกัน
ศิษย์ใช้แรงงานทำให้ศิษย์นอกสำนักประหลาดใจในการประลอง? ขยะอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์?
บรรดาศิษย์นอกสำนักด้านข้างต่างตกใจกันทั่วหน้า ไม่มีใครคาดว่าพลังปราณดาบจะถูกตัดออกโดยหยางเย่ ต้องใช้ความแรงและเร็วขนาดไหนกัน? แต่เดิมพวกเขาไม่สนว่าต้วนจวินจะพ่ายแพ้หรือไม่ แต่ตอนนี้ หากต้วนจวินพ่ายแพ้ พวกเขาจะไม่สามารถจ่ายพนันเด็กผู้หญิงได้นอกจากขายตัวพวกเขาเอง!
เมื่อนางเห็นหยางเย่ตัดปราณดาบในการโจมตีเดียว รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าเปาเอ๋อ ดวงตาที่ดูมีชีวิตชีวาก็ฉายความตื่นเต้นออกมา
ณ ลานประลอง หยางเย่สามารถเผด็จศึกได้ตั้งนานแล้ว แต่เหตุที่ยังไม่ลงมือคือกำลังฝึกฝนวิชาดาบอยู่ เขาเชี่ยวชาญวิชาดาบพื้นฐานอย่างมาก และสามารถจัดการได้ในพริบตา แต่เพราะไร้โอกาสใช้ต่อสู้จริง ตอนนี้เขาเลยไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป
หยางเย่รู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง การโจมตีก็ลื่นไหลพอกัน สำหรับต้วนจวิน การต่อสู้มีแต่จะหนักขึ้นทุกเวลา หยางเย่ใช้เพียงไม่กี่กระบวนท่า แม้จะเป็นเพียงไม่กี่กระบวนท่าแต่ก็ทำให้ต้วนจวินปวดหัวอย่างมาก มากกว่านั้นทั้งกำลังและความเร็วของหยางเย่ยิ่งทำให้แปลกใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าวิชาดาบพื้นฐานจะร้ายกาจถึงเพียงนี้!
“ถึงเวลาจบเรื่องแล้ว!” เมื่อสัมผัสได้ว่าวิชาดาบถึงขั้นแกร่งที่สุดแล้ว มุมปากของหยางเย่เริ่มโค้งขึ้น ดาบในมือเริ่มเร่งจังหวะพร้อมโจมตีต้วนจวินอย่างต่อเนื่อง
ต้วนจวินเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นในใจเมื่อเห็นหยางเย่โจมตีอย่างดุเดือด เขาไม่สามารถควบคุมดาบได้ ดวงตาหยางเย่เปล่งประกาย ดาบพุ่งแทงไปยังอกของต้วนจวิน เหตุนี้ทำให้ต้วนจวินตกใจรีบป้องกันตนเอง ทันใดนั้นดาบในมือหยางเย่เปลี่ยนจากแทงเป็นฟัน และมันทะลวงไปโดนมือขวาต้วนจวิน
อ๊าก!!
เลือดพุ่งออกจากบาดแผลที่มือขวา ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ต้วนจวินร้องโหยหวน ดาบต่อหยกในมือร่วงลงไปยังพื้นลานประลอง ดาบที่ปกคลุมไปด้วยปราณเย็นจ่ออยู่ที่คอหอย
ต้วนจวินพ่ายแพ้แล้ว!
เมื่อพวกเขาเห็นดาบหยางเย่จ่อคอของต้วนจวิน เสียงอึกทึกหายไปหมดสิ้น ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบจนได้ยินกระทั่งเสียงเข็มตกพื้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า!!!” เปาเอ๋อเปล่งเสียงหัวเราะดังลั่นไปยังบรรดาศิษย์นอกสำนักรอบข้าง ราวกับว่านางกำลังกล่าวบางอย่าง “ดูสิ ข้าบอกพวกเจ้าแล้ว!”
ในเวลานี้ บรรดาศิษย์นอกสำนักล้วนตกตะลึงในเหตุการณ์ ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าต้วนจวินจะพ่ายแพ้หลังจากใช้วิชาดาบ พวกเขาไม่อาจยอมรับผลลัพธ์นี้ได้
ในลานประลอง หยางเย่มองไปยังชายชุดเขียวที่ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ข้าสามารถไว้ชีวิตเจ้าได้!”
ต้วนจวินแสดงท่าทีดีใจพร้อมเอ่ย “จริงหรือ?”
ขณะนั้นเขาคิดบางอย่างได้พร้อมเอ่ยต่อ “ได้ เอาเลย บอกเงื่อนไขของเจ้ามา!”
“ทรัพยากรบ่มเพาะพลังและเหรียญทองของเจ้า!” หยางเย่กล่าว
“ย่อมได้! ย่อมได้!” ต้วนจวินรีบพยักหน้า และนำถุงและบัตรเงินออกมาให้หยางเย่ “มียี่สิบหินพลังปราณข้างใน ส่วนบัตรนี้มีประมาณหนึ่งหมื่นเหรียญทอง มันสามารถใช้ได้ทั่วจักรวรรดิต้าฉิน!”
เปลือกตาหยางเย่กระตุกยามได้ยินหนึ่งหมื่นเหรียญทองข้างใน จากนั้นจึงหยิบถุงกระเป๋าและบัตรมา
เมื่อเห็นหยางเย่เอาของไปแล้ว ความอาฆาตแค้นบังเกิดขึ้นลึกในดวงตาพลันนึกในใจ “ฝากไว้ก่อนเถอะ ภายหน้าข้าจะให้เจ้าชดใช้คืนเป็นร้อยเท่า!”
หลังจากรับข้อเสนอเรียบร้อย หย่างเย่ยิ้มและพยักหน้าให้ต้วนจวิน เมื่อเห็นหยางเย่ยิ้ม ต้วนจวินถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา แต่ทันใดนั้นดวงตาหยางเย่หรี่แคบลงพร้อมเหวี่ยงดาบไปยังแขนและขาต้วนจวิน!
“อ๊าก!!!” เสียงร้องโหยหวนดังลั่นไปทั่วลานประลอง แขนและขาของต้วนจวินถูกตัดขาด เลือดพุ่งกระฉูดราวกับน้ำพุจากแขนและขา ความเจ็บปวดนี้ทำให้หน้าของต้วนจวินบิดงอไปมา
“ทำไม? ทำไม? ทำไม!!!?” ต้วนจวินนอนกองอยู่บนพื้นขณะตะโกนอย่างบ้าคลั่งใส่หยางเย่
หยางเย่หัวเราะเย้ยหยันออกมา “ข้าบอกว่าจะไม่สังหารเจ้า แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำลายวรยุทธ์เจ้า ข้าจะนอนหลับสนิทได้เยี่ยงไรหากเก็บภัยไว้ข้างกาย!” หลังกล่าวจบ หยางเย่นั่งลงพร้อมนำหินพลังปราณออกมาโคจรฟื้นฟูพลังปราณล้ำลึกในร่าง
ต้วนจวินโกรธแค้นอย่างสาหัสพร้อมกระอักเลือดเต็มปาก จากนั้นเขาสบถสาปแช่งอยู่บนพื้น
ผู้อาวุโสนอกสำนักด้านล่างลานประลองมองอย่างเย็นชาไปยังต้วนจวินที่นอนกองอยู่บนพื้น เขาส่ายหัวก่อนจะให้ผู้อื่นนำตัวต้วนจวินออกไป
“นี่ มอบหินพลังปราณมาเดี๋ยวนี้!” เปาเอ๋อวิ่งไปยังเจียงชิวสุ่ยและศิษย์ผู้อื่นก่อนจะยื่นมือเล็กจิ๋วออกไป “ข้าคำนวณไว้แล้ว พวกเจ้าทุกคนต้องให้ข้าสามแสนเก้าหมื่นหินพลังปราณ เร็วเข้าส่งมันมาเดี๋ยวนี้!”
ยามได้ยินคำกล่าว สีหน้าบรรดาศิษย์นอกสำนักต่างแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดรุนแรง