พราวฟ้า 39 เสียงของหัวใจ (2)

ตอนที่ 39 เสียงของหัวใจ (2)

“อะไรนะคะ” เธอไม่แน่ใจในสิ่งที่เขาพูด

“ลงรูปต้องให้เครดิตคนถ่ายไหม” ลูซพูดย้ำ พราวฟ้าชะงักไป

“เอ่อ…”

“หรือไม่กล้า” เขาเลิกคิ้วท้าทาย ปากบางเม้มเข้าหากัน

“ทำไมจะไม่กล้าละคะ”

“จะรอครับ” ลูซยิ้มกริ่ม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาบ้าง และบอกหญิงสาวเป็นในๆ ว่าเขาจะรอการแท็กจากเธอ

พราวฟ้าก้มมองรูปที่เธอตั้งสเตตัสไว้เรียบร้อย ก่อนจะตัดสินใจให้เครดิตคนขี้ทวง ในเมื่อเธออยากลองสักตั้งเธอก็จะไม่ลังเลอะไรอีก อนาคตจะเป็นยังไงก็ชั่ง ในวันที่เขารู้อดีตของเธอ จะเกลียดกันก็ชั่ง ให้ถึงวันนั้นเธอก็จะยอมรับมันเอง

และตอนนี้เธอก็ได้เปิดแอคเคาท์เป็นสาธารณะแล้ว เธอไม่ใช่คนดังจะเปิดหรือปิดก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะมีคนติดตามแค่สามคน

Pf.pf…ความสบายใจ Cr.Lucian_25

พราวฟ้าพิมพ์แคปชั่นเป็นภาษาไทยพร้อมกับแท็กเขา

“แปลว่าอะไร” ลูซเงยหน้าขึ้นถามทันที เขาฟังภาษาไทยออกแต่อ่านไม่ออก พราวฟ้ายิ้มในหน้า

“กดแปลเอาสิคะ”

“หึ” ซึ่งก็ได้รับเสียงหัวเราะในลำคอของลูซกลับมา

แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยพูดอะไรเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นซะก่อนมันเป็นแจ้งเตือนจากไอจีเธอนั่นแหละ พราวฟ้ากดเข้าไปดูทันที ถ้าไม่ผิดคาดน่าจะเป็นเพื่อนของเธอไม่คนใดก็คนหนึ่งแน่ๆ และมันก็ใช่จริงๆ

Pannisa_99 พราว พราว อะไรยังไง cr.คืออะไร เขาคือใคร

Pannisa_99 เราเข้าไปส่องไอจีเขาแล้ว เขาเป็นช่างภาพเหรอ ผู้หญิงหรือผู้ชายเพราะเราเห็นมีแค่ภาพเดียวที่เป็นภาพคน ผู้ชายกับผู้หญิง

พราวฟ้ามองข้อความที่ปริมมาเม้นต์รัวๆ ติดกันสองข้อความ เพื่อนเธอเก็บความอยากรู้ไว้ไม่อยู่เลยจริงๆ

Pannisa_99 พลีสสสส พราวเพื่อนรักมาตอบคำถามเพื่อนเดี๋ยวนี้ มีอีกคนกำลังจะอกแตกตายเหมือนฉัน @ATOM_99

รัวมาอีกหนึ่ง

“ตอบเพื่อนสิ พิมพ์มาซะยาวเลย” ลูซเอ่ยแซว ถึงเขาจะไม่เข้าใจว่ามันแปลว่าอะไรแต่ก็พอเดาได้

“ค่อยตอบก็ได้ค่ะ” พราวฟ้าเมินคำพูดของเขาหันออกไปสนใจวิวด้านนอก ลูซเองก็ไม่เซ้าซี้เธอต่อ ชมความงามของธรรมชาติไปกับเธอด้วย เขาชินกับภาพตรงหน้าไม่ได้ตื่นตาตื่นใจอะไร

“สวยมากเลยค่ะ” พราวฟ้าร้องว้าวออกมาเมื่อวิวด้านนอกของเธอคือทิวเขาสูง แสงแดดอ่อนๆ ส่องลงมาทำให้เพิ่มความสวยงามอีกเท่าตัว

ทั้งที่ความจริงภาพตรงหน้าเป็นภาพที่ชินตาและไม่ตื่นตาตื่นใจอะไรอย่างที่ลูซบอก แต่พอผู้หญิงตรงหน้าเขาพูดและตื่นเต้นไปกับมัน ทำไมเขาถึงมองว่ามันสวยมากกว่าทุกครั้งที่เห็น

ลูซอดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปวิวและรูปของสาวสวยเอาไว้

รอยยิ้มไม่ได้หายไปจากใบหน้าหวานแม้สักเสี้ยวนาทีตั้งแต่ขึ้นมานั่งบนรถไฟสายนี้ พราวฟ้าตื่นตาและเพลิดเพลินไปกับสองข้างทาง มีบางครั้งที่ลูซคุยกับเธอพร้อมกับส่งสายตาที่ทำให้เธออดที่จะเขินอายไม่ได้

ความรู้สึกของเธอตอนนี้คือ ความโรแมนติก ใช่ โรแมนติกมาก

“หิวไหม” ล่วงเลยมาหลายชั่วโมงจนถึงเที่ยงวัน

“หิวแล้วค่ะ” พราวฟ้าไม่ปิดบังเพราะเธอเริ่มหิวจริงๆ

เมื่อหญิงสาวบอกแบบนั้นลูซก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร ในรถไฟมีครบครันทุกอย่าง ทั้งบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม

“อยากสั่งอะไรเป็นพิเศษไหม” เขายื่นเมนูให้เธอ

“ลูซสั่งเลยค่ะ พราวกินอะไรก็ได้”

“โอเค” ลูซหันไปสั่งอาหาร พอพนักงานเดินออกไปเขาก็เอาแต่จ้องเธอ ซึ่งมันทำให้เธอทำตัวไม่ถูก

ก็สายตาของเขาน่ะสิ

“มีอะไรรึเปล่าคะ”

“ฉันชอบนะเวลาที่เธอแทนตัวเองด้วยชื่อ” พราวฟ้านึกว่าเขาจ้องเธอเรื่องอะไร

“อ่อ ค่ะ ฉันเผลอตัวไปหน่อย”

“แทนตัวเองด้วยชื่อสิ ฉันอยากให้เธอทำแบบนั้น” คำขอตรงๆ ของเขาทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน

“คะ?”

“พราว แทนตัวเองว่าพราว” หัวใจดวงน้อยเต้นรัวกี่ครั้งแล้วกับผู้ชายตรงหน้า ทุกครั้งที่เขาเรียกชื่อเธอ เธอเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง แถมชอบเรียกร้องอะไรที่ทำให้เธอเขินอยู่เรื่อย

“ก็ได้ค่ะ” เป็นเธอต้องเอ่ยรับปากเขาอย่างเสียไม่ได้ แต่พอนึกอะไรได้ก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา

“แล้วลูซไม่แทนตัวเองด้วยชื่อหรือพี่บ้างเหรอคะ สำหรับคนไทยคำว่าฉันเธอมันดูห่างเหินมากเลยนะคะสำหรับคนที่เริ่มคุยกัน” พราวฟ้ายิ้มพราย อยากลองแกล้งเขาดูบ้าง เธอไม่ได้หวังให้เขาทำตามหรอก แต่ก็แอบคิดนิดๆ ว่ามันจะเป็นยังไงนะถ้าเขาแทนตัวเองว่าลูซหรือเรียกตัวเองว่าพี่กับเธอ

ลูซเลิกคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้าที่ยิ้มล้อเลียนเขา ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“ได้สิ ชอบแบบไหน” พราวฟ้าชะงัก เพราะผิดคาดไม่คิดว่าเขาจะยอม

“เอ่อ…ล้อเล่นค่ะ ไม่ต้องก็ได้ มันจะดูแปลกๆ นะคะ”

“ไม่เห็นแปลกในเมื่อพราวก็ทำแบบนั้น ชอบแบบไหนบอกสิ” ลูซเท้าแขนทั้งสองข้างไว้กับโต๊ะแล้วโยกตัวมาหาเธอข้างหน้าพร้อมกับสายตาแพรวพราว นี่เธอกำลังโดนเขาแกล้งคืนใช่ไหม

“เอ่อ..”

“ว่าไงครับ” รอยยิ้มเผยตรงมุมปากของเขา ทำให้พราวฟ้าอดหมั่นไส้ไม่ได้ ชิ

“ลูซค่ะ พราวอยากให้แทนตัวเองว่าลูซ เพราะพราวเองก็ไม่ได้อยากมีพี่ชาย” คนที่โดนหยอดโดยไม่ทันตั้งตัวชะงัก แต่ก็แค่แป๊บเดียวก่อนจะหัวเราะออกมา

ส่วนคนที่ใจกล้ากลับหลบสายตาคมหน้าแดงระรื่นเม้มปากตัวเองแน่น เธอพูดอะไรออกไปพราวฟ้า

“งั้นแสดงว่าตอนนี้ พราวก็เป็นแฟนกับลูซแล้วงั้นสิครับ” พราวฟ้าหน้าร้อนผ่าวตาโต หันไปมองคนที่พูดยิ้มหน้าระรื่น

“พูด…พูดอะไรคะ ยังไม่ตกลงซะหน่อย” เธอยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนเขาซะหน่อย และเขาก็ยังไม่ขอเธอด้วยซ้ำ แค่ให้โอกาสเขาเอง

“ก็เห็นบอกไม่อยากมีพี่ชาย นึกว่าอยากมีแฟน”

“ลูซ อย่าแกล้งพราวนะ” พราวฟ้าต้านทานการแกล้งของเขาไม่ไหวเธอเลยได้แต่กระเง้ากระงอใส่เขา

“ฮ่าๆ” ลูซหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเห็นท่าทางของคนตรงหน้า เธอส่งค้อนให้เขา

“ล้อเล่นครับ” เห็นเธอเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเวลาอยู่กับเขา ทำให้เขารู้สึกดี

“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารนะคะ” พนักงานมาเสิร์ฟอาหารทำให้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ

“เชิญครับคนสวยอย่ามัวแต่เขิน” แต่ก็ไม่วายที่เขาจะล้อเลียนเธอ หลังจากพนักงานเดินออกไป

“นี่” พราวฟ้าเผลอเอ็ดเขาเบาๆ พร้อมกับส่งสายตาพิฆาตไปให้

“โอ้ว น่ากลัวจริง ฮ่าๆ” แต่มีหรือที่คนโดนเอ็ดจะกลัวเขากลับแกล้งทำเป็นกลัวและหัวเราะเสียงใสออกมา ทำให้ได้รับค้อนงามๆ กลับมาหนึ่งที

“ไม่ล้อแล้ว ทานเลยๆ” หลังจากนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ทานอาหารไปด้วยพร้อมกับดูวิวสองข้างทางและอีกหนึ่งอย่างคือ รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าของทั้งสองคน มีบ้างที่สองสายตาเผลอประสานกัน ทั้งคู่ต่างเข้าใจความหมายนั้น

พราวฟ้าเองก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่มันหอมหวานและอิ่มเอมเป็นแบบนี้นี่เอง

“ไม่ต้องแทนตัวเองแบบนั้นแล้วนะคะพราวแค่ล้อเล่น ถ้าลูซพูดแบบนั้นมันดูจั๊กจี้ยังไงไม่รู้ ให้พราวพูดคนเดียวก็พอ” ลูซพยักหน้าเข้าใจเธอ ผู้ชายแบบเขาถ้าทำตัวมุ่งมิ้งมันก็จั๊กจี้จริงๆ นั่นแหละ

“ได้ครับที่รัก” คนโดนหยอดรีบสวนกลับหน้าร้อนผ่าว

“ไม่เรียกที่รักด้วย ยังไม่ได้เป็นซะหน่อย” ความเขินอายเกิดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง ทำไมเขาชอบทำให้เขินอยู่เรื่อยเลยนะ

“หึ” ลูซไม่พูดอะไรได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ มองหน้าแดงๆ ของเธออย่างชอบใจ ไม่คิดเหมือนว่าจะได้มานั่งตกลงกับผู้หญิงเรื่องแทนตัวเอง

ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องนอน เห็นร่างบางนอนห่มผ้าอยู่เขาก็ขึ้นบนเตียงสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม กอดกระชับร่างบางจากด้านหลัง พราวฟ้าหันหน้าไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

“ขอโทษ ไม่ได้คิดมากใช่ไหม” ลูซมองก็รู้ว่าเธอรู้สึกแย่กับสิ่งเขาทำก่อนหน้านี้

บางปากเม้มเข้าหากันไม่ตอบคำถามของเขา

อ้อมแขนแกร่งกอดกระชับแน่นขึ้นทำให้ร่างบางจมลงไปกับอกกว้าง

“ฉันแค่ไประงับความต้องการของตัวเอง ฉันไม่อยากฝืนใจเธอ” กลิ่นบุหรี่ที่มาพร้อมกับลมหายใจของเขาไม่ได้ทำให้พราวฟ้ารู้สึกรังเกียจเลยสักนิด

“คุณ ไม่ได้ต้องการแค่เซ็กส์จากฉันใช่ไหม” พราวฟ้ากลั่นใจถามเสียงเบา

ลูซนิ่งงัน เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะคิดแบบนั้น

“ไม่ ฉันยอมรับว่าต้องการ แต่เซ็กส์ไม่ใช่สิ่งที่ฉันขอคบกับเธอ มั่นใจได้เลยว่าฉันไม่ได้ต้องการเธอแค่เซ็กส์ ฉันต้องการทั้งหมดของเธอคนสวย ต้องการทั้งตัวและหัวใจ”

คำพูดของเขาทำให้หัวใจพราวฟ้าเต้นรัว ไม่เคยมีใครเรียกร้องแบบนี้กับเธอมาก่อน ลูซเป็นคนแรก

“คุณนี่” พราวฟ้าเอ็ดเขาเบาๆ

“เรียกชื่อฉันคนสวย อย่าให้ได้ยินว่าเรียกคุณอีก” ปากบางเม้มเข้าหากันกับคำขู่นั้น เธอส่งค้อนให้เขาเล็กน้อยแต่เขาคงไม่เห็น คนอะไรเอาแต่ใจตัวเอง

“ค่ะลูซ ปล่อยได้รึยังคะ จะได้นอนดีๆ” ตอนนี้เธอง่วงเต็มที อาการมึนหัวยังคงหลงเหลือ

“วันนี้ขอนอนกอดนะ”

“ไม่เอาค่ะ ฉันยังไม่ตกลงเลยนะคะ ถ้าจะค้างก็ออกไปนอนที่โซฟาเลยค่ะ” พราวฟ้าหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ลูซทำตาโตไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

พราวฟ้ายิ้มกริ่มเมื่อเห็นสีหน้าของเขา ถึงเวลาเธอเอาคืนเขาบ้าง ใครบอกให้เขาเจ้าเล่ห์นัก

“ไม่เอาน่า แค่นอนกอดเอง ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย มากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว”

พราวฟ้าถลึงตาเขา

“ไม่ค่ะ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ตอนนี้เริ่มนับหนึ่งใหม่ ถ้าไม่โอเคจะกลับก็ได้นะคะ” หญิงสาวลอยหน้าลอยตาพูด ลูซได้แต่เก็บความเข่นเขี้ยวไว้ในใจ

คิดว่าเขาไม่กล้าทำอะไรแล้วเอาใหญ่เลยนะ

มองไม่ผิดจริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้ดื้อเงียบ

“โอเค ที่รัก นอนโซฟาก็นอน” พราวฟ้าหน้าแก้มแดงระรื่นขึ้นทันทีที่ได้ยินว่าเขาเรียกเธอว่าที่รัก

“โอเคก็ลุกสิคะ” โอเคแต่ยังกอดเธอไม่ปล่อยมันหมายความว่ายังไง

“พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันไหม” อยู่ๆ คนตัวโตก็พูดขึ้น

“เที่ยวไหนคะ”

“นั่งรถไฟไง ครั้งก่อนเธอเคยบอกว่าจะกลับไปอีกถ้าหิมะตก” พราวฟ้าหัวใจเต้นแรง

ไม่คิดว่าเขาจะจำได้

“ไม่มีเรียนเหรอคะ”

“ไม่ เธอเองก็ไม่มีใช่ไหม”

“ค่ะ ไปสิคะ แต่ตอนนี้ไปนอนได้แล้วค่ะ ง่วงมาก”

“ครับ จุ๊บ ฝันดี” ก่อนจะลุกเขาก็จูบปากสวยไปหนึ่งทีโดยที่หญิงสาวตั้งตัวไม่ทัน

พราวฟ้ารู้สึกอิ่มเอมหัวใจอย่างประหลาด ดีใจที่เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เขาแคร์เธอ

“แต่งตัวรอนะ ใส่เสื้อผ้าหนาๆ หน่อย เดี๋ยวฉันจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเอากล้องที่บ้านแล้วจะกลับมารับ” ลูซพูดก่อนที่เขาจะออกจากห้องเธอไปในรุ่งเช้าของอีกวัน

เพราะว่าวันนี้มีแพลนจะไปเที่ยวกันทำให้ทั้งสองคนตื่นเช้ากว่าปกติทั้งที่เมื่อคืนนอนดึกมาก

พราวฟ้าพาตัวเองลุกจากที่นอน แอบส่องหน้าต่างก็เห็นว่าหิมะสีขาวได้ปกคลุมไปแล้วซะแล้ว กอดตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องครัว คิดอยู่ว่าจะกินข้าวก่อนไหม แต่อาการร้องประท้วงของท้องทำให้เธอตัดสินใจทำอาหาร

อากาศแบบนี้ เหมาะที่สุดคือข้าวต้มร้อนๆ สำหรับสาวไทยอย่างเธอ เป็นไปได้เธอไม่อยากทานแค่ขนมปังในตอนเช้า เธอชอบทานข้าวมากกว่า อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ เราต้องใช้พลังอีกเยอะ ทานให้อิ่มท้องดีกว่า

แต่ตอนนี้เธอกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะโทรไปถามอีกคนดีไหมว่าจะทานด้วยกันรึเปล่าจะได้ทำเผื่อเขา หรือว่าเขาจะทานมาจากที่บ้านแล้ว

พราวฟ้ากำลังตีกันกับความคิดของตัวเอง แต่รู้ตัวอีกทีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอยู่ในมือซะแล้ว

“โทรก็ได้” ตัดสินใจกดโทรออก รอสายไม่นานทางนั้นก็รับ

(มีอะไรรึเปล่า) ที่ถามคำถามนี้เพราะพึ่งแยกจากกันเมื่อกี้ เลยไม่แน่ใจว่าที่หญิงสาวโทรมาอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

“คือ ฉันแค่จะโทรมาถามว่า จะทานข้าวเช้าด้วยกันไหมคะจะได้ทำเผื่อ”

ลูซเผยยิ้มหัวใจเต้นแรง

(ทำอะไรกินครับ)

“ข้าวต้มค่ะ ทานด้วยกันไหมคะ”

(เอาสิ ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงจะกลับไป)

“ค่ะ”

พอวางสายมือเล็กก็กำโทรศัพท์แน่นแนบไว้ที่อก หัวใจเธอเต้นตึกๆ รู้สึกว่ามันเร็วกว่าปกติ อาการแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอเพราะเธอไม่เคยทำแบบนี้สักครั้ง พอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดฝันไว้ ก็เกิดตื่นเต้นและรู้สึกดี

พราวฟ้าหันมาทำข้าวต้ม ทำเสร็จเธอก็เข้าไปอาบน้ำ อากาศหนาวๆ แบบนี้การอาบน้ำจึงใช้เวลาไม่นาน ถึงจะมีน้ำอุ่นก็เถอะ แต่มันก็หนาวอยู่ดี พอออกมาจากห้องน้ำเธอก็ต้องตกใจเพราะไม่คิดว่าคนที่บอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมงจะมา แต่เขากลับมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงของเธอซะแล้ว

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” พราวฟ้าถามเขาเสียงเบา มือกำผ้าขนหนูในมือแน่น ถึงจะเคยเกินเลยกันไปถึงไหนต่อไหน แต่เธอก็ไม่ชิน ตอนนั้นสติเธอก็ไม่ครบด้วย

เธอไม่คิดว่าเขาจะมาไวขนาดนี้และไม่คิดว่าจะเข้ามารอเธอในห้องนอนด้วย เธอเลยไม่ทันระวังตัวใส่แค่ผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำด้วยความเคยชินเหมือนตอนที่อยู่คนเดียว

“พึ่งมา” ลูซกวาดสายตามองร่างบางก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่

“ออกไปรอข้างนอกก่อนไหมคะ พราวขอแต่งตัวแป๊บหนึ่ง” พราวฟ้าเมื่อเห็นสายตาของเขาเธอก็รีบบอก

ลูซลุกเดินออกไปง่ายๆ โดยไม่พูดอะไร พราวฟ้าไม่ได้คิดมากกับท่าทีของเขา เพราะเธอเข้าใจแล้วว่าที่เขาเป็นแบบนั้นเพราะเหตุใด ท่าทางแบบนั้นของเขาคือการไปสงบสติอารมณ์ของตัวเองนั่นเอง

ปากบางผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบหาเสื้อผ้าใส่และแต่งตัว และเดินออกมาหาคนที่นั่งรออยู่

“ทานข้าวเลยไหมคะ ทานได้ใช่ไหมคะ จะเปลี่ยนเป็นขนมปังกับไส้กรอกไหมพราวทำให้” พราวฟ้าหันไปถามเขา เธอลืมไปว่าเขาอาจจะไม่คุ้นกับการทานข้าวเช้า

“ทานได้ ไม่ต้องยุ่งยากหรอก แม่ฉันก็ทำให้ทานตอนเช้าบ่อยๆ” เมื่อเขาพูดแบบนั้นเธอก็ตักข้าวต้มให้เธอกับเขาคนละชาม ก่อนจะนั่งทานกัน

“กลับไปเจอลิซไหมคะ” พราวฟ้าเงยหน้าขึ้นถาม ที่ถามเพราะอยากรู้จริงๆ ถ้าเพื่อนสาวของเธอรู้ว่าเธอยอมเปิดใจคุยกับพี่ชายของเธอแล้ว ลิซ่าต้องกรี๊ดมากแน่ๆ

“ไม่เจอ ยังไม่ตื่น” พราวฟ้าพยักหน้า อยากถามต่ออยู่เหมือนกันแต่เลือกที่จะเงียบ

หนุ่มสาวพากันทานอาหารเสร็จก็ออกเดินทางโดยครั้งนี้ลูซขับรถมาจอดไว้ที่สถานีรถไฟซึ่งมันไม่ใช่สถานีเดิมที่เธอเคยมาครั้งก่อน

“จะพาไปนั่งรถไฟที่วิ่งช้าที่สุดในโลกเคยได้ยินไหม” ลูซหันมาถาม พราวฟ้าตาโต เธอได้ศึกษามาบ้างและคิดว่าสักวันเธอต้องมานั่งสักครั้ง ไม่คิดว่าครั้งนี้เขาจะพาเธอมา

“เคยได้ยิน ฉันคิดไว้ว่าต้องมานั่งสักครั้งเหมือนกันค่ะ”

ลูซส่งยิ้มให้เธอ เมื่อเห็นว่าเธอยิ้มหน้าบาน

“ไปเถอะ” มือใหญ่เอื้อมมาคว้ามือเล็ก กอบกุมให้เดินไปด้วยกัน การกระทำของเขาทำให้พราวฟ้าหัวใจเต้นแรง เม้มปากมองมือที่โดนเขากุมเอาไว้แน่น โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ทักท้วงหรือดึงออก

รู้สึกอบอุ่นหัวใจจัง

ลูซพาเธอมาซื้อตั๋วและจัดการจับจองที่นั่ง วันนี้คนไม่เยอะมาก

รอไม่นานก็ถึงเวลาเดินทาง ถึงคนไม่เยอะแต่ลูซก็เลือกที่นั่งสี่คน เหตุผลเพราะเขาจะได้นั่งข้างๆ เธอ อีกอย่างวันนี้คนไม่เยอะเขาก็ไม่กลัวว่าจะมีคนอื่นมานั่งด้วย เพราะมีที่ว่างเหลือเยอะ

“หนาวไหม” ลูซหันไปถามหญิงสาว

“ก็นิดหน่อยค่ะ เข้ามาในนี้ก็อุ่นขึ้น” รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวพร้อมกับไกด์ส่วนตัวที่เริ่มบอกรายละเอียดว่ารถไฟสายนี้วิ่งผ่านที่ไหนบ้าง และเส้นทางต่อจากนี้เธอจะเห็นอะไรบ้าง มันทำให้เธออดตื่นเต้นไม่ได้

“ถ่ายรูปไหม” ลูซถาม

“ค่ะ แต่เอาโทรศัพท์พราวถ่ายได้ไหมคะ พราวจะลงรูปในไอจีให้เพื่อนดูเลย” พราวฟ้าส่งสายตาปริบๆ ให้เขา เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อตามความเคยชินตอนที่อยู่เมืองไทย ซึ่งมันก็ทำให้คนโดนอ้อนแบบไม่ทันไม่ได้ตั้งตัวหัวเราะออกมาเบาๆ

“ได้สิ” พราวฟ้ายื่นโทรศัพท์ให้เขา ลูซย้ายมานั่งฝั่งตรงข้ามหญิงสาวเพื่อที่จะถ่ายรูปให้เธอได้สวยๆ

“จะยิ้มไหม” เขาเบี่ยงหน้าออกจากโทรศัพท์ก่อนจะกดถ่ายเพื่อถามหญิงสาว

“ค่ะยิ้มค่ะ” พราวฟ้าตอบทันทีและเธอก็ยิ้ม ลูซหัวเราะเบาๆ กับการยิ้มของเธอ ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน แต่ทำไมเขามองว่ามันน่ารัก

“ได้ไหมคะ” คำถามเดิมๆ ที่พราวฟ้าชอบถามเขาว่าเวลาเขาถ่ายรูปให้เธอเสร็จ

“สวย” เขายื่นโทรศัพท์ให้เธอพร้อมกับตอบ ซึ่งคนที่ถามเองก็ไม่ได้ตั้งตัวที่จะได้รับคำชมตรงๆ กลับมาแบบนี้ ทำให้หน้านวลแดงระรื่นขึ้นทันที

“ขอบคุณค่ะ” เอ่ยขอบคุณเขาเสียงเบา ก่อนจะก้มดูรูป

“ลงรูปต้องให้เครดิตคนถ่ายด้วยไหม”

พราวฟ้าที่กดดูรูปและกำลังจะลงในไอจีต้องเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงทุ้มที่เอ่ยถาม

พราวฟ้า

พราวฟ้า

Score 10
Status: Completed

ความรักที่เธอทุ่มเทให้เขาทั้งกายและใจ เขากลับผลักไส ร้ายกาจกับเธอสารพัด ทำทุกทางเพื่อให้เธอออกไปจากชีวิต ความรักมันเกิดขึ้นได้กี่ครั้งกัน โปรดส่งคนที่มอบความรักความอบอุ่นมาให้เธอที

Options

not work with dark mode
Reset