พราวฟ้า 26 เพื่อนใหม่ (3)

ตอนที่ 26 เพื่อนใหม่ (3)

“อะไรคือเป็นยังไง” พราวฟ้าถามอย่างไม่เข้าใจ

“ก็หล่อไหม ถูกสเปคเธอรึเปล่า” คำถามของลิซ่าทำให้เธอชะงัก

“ก็ดูดี” แต่พราวฟ้าก็ยอมตอบ ตอบตามความจริงที่ตาเห็น ว่าพี่ชายของเพื่อนคนนี้ดูดีจริงๆ หล่อเกินตาเกินตาอย่างที่เพื่อนบอก

“แล้วอีกข้อล่ะ”

“ทำไมต้องถามเรื่องนี้ เธอคิดจะจับฉันเป็นพี่สะใภ้รึไง” พราวฟ้าถามตรงๆ เธอไม่ได้โกรธเคืองหรืออะไร

“แล้วได้ไหมละ ฉันถูกชะตากับเธอมากนะ ชอบเธอมากด้วยชอบมากจนอยากได้เป็นพี่สะใภ้” ลิซ่าพูดไปตามความรู้สึก

“ฉันไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดหรอก” พราวฟ้าก้มหน้าพูดเสียงเศร้า

“โถ่ สาวน้อย ไม่ดีที่เธอว่านี่ถึงขนาดเคยฆ่าใครตายรึไง ถ้าไม่เคยแสดงว่าเธอต้องมีดีสิ อย่าว่าตัวเองอย่างนั้น ฉันเป็นคนที่คบคนยาก ยังอยากเป็นเพื่อนกับเธอเลย เธอต้องมีดีแน่ๆ ฉันเชื่อแบบนั้น”

พราวฟ้าหัวเราะในลำคอเบาๆ กับคำเปรียบเปรยของเพื่อนสาว

“อ้าวลูซกลับมาแล้วเหรอลูก” มาริสาทักทายลูกชายที่เดินเข้ามาในบ้าน

“ครับ”

“แล้วแด๊ดเราล่ะ”

“กำลังตามมาครับ ผมกลับมาก่อน”

“เหนื่อยไหมลูก”

“สบายมากครับ ผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

“จ๊ะ แต่แม่วานอะไรหน่อย อาบน้ำเสร็จไปตามน้องลงมาทานข้าวด้วยนะ”

“ครับ”

ครอบครัวของมาริสาทำธุรกิจอยู่ที่นี่ เรียกได้ว่ามีฐานะในระดับหนึ่ง ตอนนี้ลูซเซียนหรือลูซลูกชายเพียงคนเดียวกำลังจะเรียนจบ ผู้เป็นพ่อจึงให้เข้าไปศึกษางานที่บริษัท เรียนจบจะได้เข้าไปช่วยงานทันที ซึ่งลูซเองก็ไม่ขัดเพราะเขาก็ชอบในงานของบิดาอยู่แล้ว นั่นก็คือ งานเกี่ยวกับสถาปนิกการออกแบบบ้านหรือสิ่งที่เป็นโครงสร้างต่างๆ ซึ่งตรงกับสายที่เขาเรียนมา

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จลูซก็เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องของน้องสาว เคาะประตูสองสามทีก็ไม่มีใครมาเปิด สงสัยจะหลับ เขาจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปโดยไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต

ภาพที่เห็นทำให้สองขาของชายหนุ่มชะงัก ขมวดคิ้วมองที่เตียง

บนเตียงไม่ได้มีแค่น้องสาวของเขาเท่านั้น แต่มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่เคยเห็นหน้า และไม่คิดด้วยว่าน้องสาวของเขาจะพาเพื่อนมาบ้าน เพราะเขากับน้องสาวมีนิสัยที่คล้ายกันคือหวงความเป็นส่วนตัวของตัวเอง

ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ๆ

ร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงทำให้เขาอยากเดินเข้าไปค้นหา ผู้หญิงแบบไหนกันนะที่ทำให้น้องสาวของเขาถึงขนาดพามาบ้านได้

ใบหน้าสวยหวานละมุนหลับพริ้ม แค่นี้เขาก็พอมองออกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนเอเชีย เพราะแม่เขาก็สวยหวานแบบนี้เหมือนกัน

“อือ” เสียงครางงึมงำทำให้เท้าแกร่งหยุดชะงัก

“อ้าวพี่ลูซ มาทำอะไรที่ห้องลิซอะ” ลิซ่าขยี้ตาเบาๆ พร้อมบิดขี้เกียจพอลืมตาเต็มที่ก็เห็นพี่ชายยืนอยู่ข้างเตียงไม่พูดไม่จาอะไร

“แม่ให้มาตามลงไปทานข้าวน่ะ”

“อ่อ กี่โมงแล้วเนี่ยหลับเพลินเลย พี่ออกไปก่อนเถอะเดียวฉันตามลงไป” ลิซ่าออกปากไล่พี่ชาย

“อืม” ซึ่งลูซก็ไม่ขัด แอบมองหญิงสาวที่นอนอยู่ใกล้ๆ น้องสาวนิดหน่อยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

“น้องล่ะลูก”

“กำลังลงมาครับ” พอลงมาข้างล่างก็เจอกับบิดาและมารดากำลังจัดโต๊ะอาหาร

ครอบครัวเขาเป็นแบบนี้เสมอไม่แบ่งว่าใครเป็นชายเป็นหญิง ถึงจะมีบริวารไว้คอยรับใช้ แต่ถ้าอยากทำเองหรืออยากช่วยกันก็ทำได้เสมอ เหมือนอย่างที่พ่อกับแม่ของเขาช่วยกันจัดโต๊ะอาหารอยู่ตอนนี้

“ดูแม่เราสิ ทำอาหารเหมือนเลี้ยงคนทั้งบริษัท”

“คุณก็ เรามีแขกหนิคะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าหนูพราวชอบอะไร เลยทำหลายอย่าง” ลูซขมวดคิ้วเข้าหากัน แขกของบ้าน หรือเพื่อนของน้องสาวเขาชื่อพราวอย่างนั้นหรือ พราว ออกเสียงยากเหมือนกันนะ

“สำคัญเหรอครับ” มาริสาเงยหน้ามองลูกชายยิ้มๆ ลูกชายของเธอเป็นคนพูดน้อยหน้านิ่ง แต่เธอก็เข้าใจคำถามของลูกชายได้โดยไม่ต้องถามซ้ำ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด

“แม่ชอบเธอนะ น่ารักอ่อนหวาน ลิซก็ชอบ ลูกว่าถ้าน้องชอบถึงขนาดพามาบ้านอย่างนี้สำคัญไหมละ” ลูซพยักหน้า

“นั่นไงลงมากันแล้ว” จอร์นหันมองไปทางบันได

“อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วเหรอคะเนี่ย” ลิซ่าจูงมือพราวฟ้ามาหาทุกคน

“ใช่จ้ะ พาเพื่อนมานั่งได้แล้วลูก”

“ค่ะ” ลิซ่าพาพราวฟ้ามานั่งร่วมโต๊ะอาหาร

“ลิซขอแนะนำเพื่อนใหม่ลิซให้แด๊ดกับพี่ลูซรู้จัก นี่พราวฟ้าค่ะ เป็นคนไทย ส่วนนี้แด๊ดของฉันและพี่ลูซ” พร้อมกับแนะนำเพื่อนสาวให้พ่อกับพี่ชายรู้จัก

“ว้าว คนไทยเหมือนแม่เราน่ะสิ” จอร์นร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

“ใช่ค่ะ น่ารักอ่อนหวานเหมือนแม่เลย” ลิซ่าพูดอย่างภูมิใจ

“สวัสดีค่ะ” พราวฟ้าไม่รู้จะทำตัวยังไงกับคำชมครั้งแล้วครั้งเล่าของลิซ่า ได้แต่ยกมือสวัสดีทุกคนตามมารยาทของคนไทย

“ไหว้สวยมาก” จอร์นดูเหมือนจะตื่นเต้นกว่าใครที่ลูกสาวมีเพื่อนเป็นคนไทย

“ใช่ไหมล่ะแด๊ด ลิซชอบพราวที่สุดเลย อยากได้มาเป็นพี่สะใภ้เลยด้วย”

แกร็ง

เสียงช้อนกระทบจานดังขึ้นทำให้ทุกคนหยุดชะงักแล้วหันไปโฟกัสทางต้นเสียง

ลูซจ้องน้องสาวเขม็ง

“พูดอะไรดูหน้าเพื่อนเธอด้วย” อดไม่ได้ที่จะดุน้องสาว

“แหม พราวเขาไม่ว่าอะไรหรอก ใช่ไหมจ๊ะ” ลิซ่ายิ้มแย้มกับเพื่อน ซึ่งไม่ได้สังเกตหน้าเพื่อนตัวเองอย่างที่พี่ชายว่า ตอนนี้พราวฟ้าทำหน้าเหมือนกลืนข้าวไม่ลงยังบอกว่าไม่ว่าอะไร

“เอาล่ะๆ ทานข้าวกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน หนูพราวรู้จักหมดทุกอย่างใช่ไหมจ๊ะที่แม่ทำ” มาริสาบอกทุกคน แล้วหันมาสนทนากับสมาชิกใหม่ คำแทนตัวเองของผู้เป็นแม่ทำให้ลูซคิ้วขมวดเข้าหากันแต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหรือทักท้วงอะไร

“ค่ะ” พราวฟ้าตอบรับสั้นๆ

“งั้นลองชิมเลยจ้ะ ไม่รู้ว่าจะถูกปากรึเปล่าแม่เองก็ไม่ได้กลับไทยนานแล้ว” พราวฟ้าชิมอาหารตรงหน้า

“อร่อยมากค่ะ รสชาติไทยแท้เลยค่ะ”

“ใช่ลูก ริสาทำอาหารไทยอร่อยมาก แด๊ดเองก็ติดใจจนตามจีบเขามาเป็นแม่ของลูกนี่แหละ” จอร์นเอ่ยชมภรรยา

“คุณก็”

“ก็จริงหนิ เขาว่าผู้หญิงไทยมีเสน่ห์ที่ปลายจวัก ถ้าผู้ชายคนไหนได้ชิมก็จะรักจะหลงเหมือนผมทุกวันนี้ไง”

“ไม่จีบกันสักวันจะได้ไหมคะ ลิซเลี่ยนจะตายอยู่แล้ว” ความหวานของพ่อแม่ทำให้ลูกสาวเลี่ยนได้ทุกวัน แต่เธอก็ยิ้มทุกครั้งที่เห็นพ่อแม่จีบกัน เพราะนั่นแสดงว่าทั้งสองคนยังรักกันดี

“น้อยๆ หน่อยเถอะ”

“หนูพราวทำอาหารเป็นไหมจ๊ะ” มาริสาหันมาพูดกับหญิงสาวต่อ

“เป็นค่ะ แต่อาจจะไม่เก่ง” พราวฟ้าถ่อมตน

“ไม่เก่งแต่ทำเป็นก็ถือว่าดีแล้วล่ะจ๊ะ ลูกสาวแม่นี่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง สอนไม่รู้จะสอนยังไง” มาริสายิ้มเอ็นดูก่อนจะขายลูกสาวให้เพื่อนใหม่ฟัง

“แม่อ่ะ อยู่ๆ มาเผาลิซได้ไง” ลิซ่าหน้าง้ำงออย่างไม่จริงจังนัก ก็เธอไม่ได้ชอบเข้าครัว การทำอาหารเป็นอะไรที่ยุ่งยากมากสำหรับเธอ

“ก็จริงนะ ไม่รู้ว่าจะขายออกรึเปล่า จนป่านนี้แล้วยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน”

“ชิ หยุดพูดเรื่องแฟนเถอะค่ะ ยังไงลิซต้องมีแน่ๆ แฟน แค่ตอนนี้ยังไม่เจอคนที่ใช่”

“จ้า แม่กลัวว่าเราจะขึ้นค้านหน่ะสิ”

“แม่อ่ะ” สองแม่ลูกเถียงกันไปมา แต่ก็ไม่ได้สร้างความรำคาญให้กับทุกคน เห็นว่ามันน่ารักด้วยซ้ำ

“ว่าแต่ หนูพราวมาอยู่ที่นี่นานรึยัง” จอร์นเป็นฝ่ายคุยกับเพื่อนใหม่ของลูกสาวบ้าง

“เดือนกว่าค่ะ พราวพึ่งย้ายมาเรียนที่นี่”

“แล้วอยู่ที่นี่คนเดียวหรืออยู่กับญาติละ”

“มีคนรู้จักอยู่ที่นี่คะ แต่พราวเช่าคอนโดอยู่คนเดียว”

พราวฟ้าบอกตามความเป็นจริง

“อืม แล้วเป็นไงชอบที่นี่ไหม” จอร์นชวนคุยต่อ

“ชอบค่ะ ที่นี่สวยมาก”

“เมืองไทยก็สวยเหมือนกันนะ โดยเฉพาะทะเลไทย แด๊ดชอบมาก เคยไปเที่ยวกับริสาหลายครั้งแล้ว”

“แต่ลิซกับพี่ลูซยังไม่เคยไปสักครั้ง” ลิซ่าพูดแทรกขึ้นมา หลายครั้งที่เธออยากไปเมืองไทยแต่แม่กับแด๊ดก็ยังไม่เคยพาไปสักที แม่ของพวกเธอไม่เหลือญาติอยู่ที่เมืองไทยแล้ว ทำให้ไม่ได้กลับเมืองไทยตั้งแต่พวกท่านเสีย

“แด๊ดยังไม่ว่างไง”

“ชิ ไม่ว่างตลอด ลิซให้พราวพาไปก็ได้ เนอะพราวฟ้า วันไหนที่เธอกลับไปเยี่ยมบ้านชวนฉันด้วยนะ ฉันไปด้วย” พราวฟ้ายิ้มบางๆ

“ได้สิ” ได้สิของเธอไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกัน

เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะพร้อมกลับไปที่นั่น

“รับปากแล้วนะ”

“อืม”

คนที่นี่ส่วนใหญ่ชอบเดินหรือไม่ก็ใช่รถไฟ รถไฟของที่นี่มีหลายสาย สามารถเดินทางไปได้ทั่วทั้งสวิส อยากไปไหนเที่ยวไหนก็สามารถไปได้ แต่เธอก็ยังไม่เคยขึ้นเลยสักครั้งเพราะที่พักของเธอกับมหาลัยไม่ไกลมาก จึงได้แต่ศึกษาหาข้อมูลไว้ เผื่ออยากไปเที่ยวที่ไหน

วิวของที่นี่ทำให้พราวฟ้าตื่นตาตื่นใจมาแล้วเพราะมันสวยมาก เดินไม่ถึงสิบห้านาทีก็ถึงบ้านของลิซ่า สิบห้านาทีนี่ไม่ได้ทำให้เธอเหนื่อยเลยเพราะเริ่มชิน เพราะว่าวันไหนที่เธอตื่นเช้าเธอก็จะเดินมาที่มหาลัย หรืออาจจะนั่งรถประจำทางเพราะมันใกล้มาก

บ้านของลิซ่าหลังใหญ่พอสมควรน่าจะมีฐานะพอดู แต่พราวฟ้าก็พอดูออกว่าเพื่อนสาวของเธอคนนี้มีฐานะเพราะของใช้แต่ละอย่างแบรนด์เนมทั้งนั้น แต่เธอก็สังเกตว่าลิซ่าไม่ได้ใช้ของฟุ่มเฟือย เพราะเธอเห็นลิซ่าใช้กระเป๋าแค่ใบเดียว บางครั้งก็ใส่เสื้อซ้ำกัน

“แม่ขาลิซกลับมาแล้ว มาดูซิลิซพาใครมาด้วย” ลิซซ่าส่งเสียงเรียกหาแม่ของเธอ

ถึงลิซ่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่สวิสแต่แม่ของเธอก็ไม่ลืมว่าเลือดครึ่งหนึ่งของลูกสาวนั้นเป็นคนไทย เธอจึงสอนขนบธรรมเนียมประเพณีไทยให้หลายอย่าง

“อะไรกันลูกคนนี้ มาถึงก็เสียงดัง แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเสียงดัง” เสียงหวานหยดส่งมาก่อนที่ตัวจริงจะมาถึง ร่างบอบบางสูงวัยแต่ก็ยังสวยสมวัยปรากฏขึ้น

“แม่อ่ะ นี่ลิซอุตส่าห์พาพราวมาบ้านเรานะคะ”

“สวัสดีค่ะ” พราวฟ้ายกมือไหว้ท่านอย่างอ่อนน้อม

“สวัสดีจ้ะหนูพราวได้ยินชื่อมาก็หลายครั้ง เจอตัวจริงสักที สวยสมกับที่ตัวแสบชมไว้จริงๆ แถมไหว้สวยอีกต่างหาก” มาริสาเข้าไปกอดเพื่อนลูกสาวอย่างเอ็นดู

“คุณน้าชมเกินไปแล้วค่ะ”

“น้าเน่ออะไรกัน เรียกแม่สิจ๊ะ เรียกแม่เหมือนลิซก็ได้ แม่อยากได้ลูกสาวที่เรียบร้อยๆ แบบหนูมานานแล้ว”

“แม่อ่ะ พราวเรียกแม่ฉันว่าแม่ริสาก็ได้” เมื่อได้ยินผู้เป็นแม่พูดแบบนั้นลิซ่าก็ทำหน้าเง้างอ แต่ไม่ได้จริงจังนัก

พราวฟ้าได้แต่ยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งสองคน

“ขอบคุณนะคะ”

“ปะๆ เข้าไปนั่งในบ้านกัน แม่จะเข้าครัวทำอะไรอร่อยๆ ให้กิน สักพักพ่อกับพี่เราคงมา”

“ลิซขออาหารไทยนะคะวันนี้ ลิซโม้กับพราวไว้ว่าจะบอกให้แม่ทำอาหารไทยอร่อยๆ ให้ทาน”

“จ้า ตามใจลูกสาวเลย”

“แม่น่ารักที่สุดเลย” ลิซ่าเข้าไปกอดเอวแม่แล้วหอมแก้มซ้ายขวา

“ให้พราวไปช่วยนะคะ” พราวฟ้าเสนอตัว

“ไม่ต้องหรอกจ้ะลูก ขึ้นไปเล่นบนห้องกับลิซเถอะ แม่มีลูกมือแล้ว ไว้เสร็จแล้วแม่จะให้เด็กขึ้นไปเรียก”เมื่อท่านพูดอย่างนั้นพราวฟ้าก็ยอมทำตาม

สองสาวเดินขึ้นมาบนห้องโดยมีเจ้าของบ้านเป็นผู้นำทาง

“อยากมาอยู่กับฉันไหม” อยู่ๆลิซ่าก็หันไปถามเสียงร่าเริง

“บ้าน่าลิซ ฉันจะมาอยู่ด้วยได้ยังไง” อยู่ๆ เพื่อนสาวก็ชวนเธอมาอยู่ด้วย

“ได้สิ แม่ฉันเอ็นดูเธอจะตาย”

“ไม่เอาหรอกเกรงใจ ถ้าคุณแม่รู้ตีตาย” พราวฟ้ายกคุณทิพย์อาภามาอ้าง

“จ้า ฉันแค่พูดเล่นเผื่อเธออยากมาจริงๆ ฉันจะได้มีเพื่อน”

“เธอเป็นลูกคนเดียว”

“เปล่าหรอก ฉันมีพี่ชาย แต่ผู้ชายกับผู้หญิงหนิเนอะ มันก็คุยกันไม่ได้ทุกเรื่อง ฉันเลยอยากมีพี่หรือน้องเป็นผู้หญิง แต่ตอนนี้ไม่อยากมีแล้วเพราะมีเธอเป็นเพื่อนแล้วไง”

“แล้วก่อนหน้านี้เธอไม่มีเพื่อนเหรอ”

พราวฟ้าคิดว่าลิซ่าน่าจะมีเพื่อนเยอะเพราะเธอเป็นคนพูดเก่ง

“ก็มีบ้าง แต่ฉันไม่อยากสนิทด้วย ฉันไม่ใช่คนเรื่องเยอะนะ ฉันแค่คิดว่ามันไม่ใช่ เป็นเพื่อนน่ะได้ แต่ให้เป็นคนที่แชร์เรื่องอื่นๆ ด้วยไม่เอาหรอก ไม่สนิท”

“เธอสนิทใจแชร์กับฉันงั้นเหรอ” ลิซ่าหันมาหรี่ตามองเพื่อนสาวคนใหม่

“ใช่สิ เพราะเธอน่ารัก น่าทะนุถนอมขนาดนี้”

“อือ เจ็บนะ” ลิซ่าไม่พูดเปล่าแต่เอามือมาหยิกแก้มเธอด้วย

“มันเขี้ยว ถึงแล้วห้องฉัน ปะเข้าไปกัน” ห้องนอนสีขาวเหมือนหิมะเปิดต้อนรับเพื่อนใหม่ พราวฟ้าเองก็เดาใจเพื่อนใหม่ของเธอไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นสไตล์แบบไหน

“ไว้วันหลังฉันไปห้องเธอบ้างนะ” พราวฟ้าไม่ได้ห่วงความเป็นส่วนตัวกับเพื่อนใหม่ เพราะคิดว่าเพื่อนคนนี้น่าคบ

“ได้สิ”

“เยี่ยม ไปนอนด้วยได้ไหม” ได้คืบจะเอาศอก ลิซ่าหันมายิ้มหวานสายตาอ้อนๆ ให้เพื่อนสาว พราวฟ้าส่ายหน้าให้เธอยิ้มๆ

“ขอคุณแม่ริสาให้ได้ก่อนเถอะ”

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ว่าแต่เราจะทำอะไรดี” ลิซ่ากระโดดขึ้นนอนบนเตียง โดยมีพราวฟ้าตามไปนั่งด้วยติดๆ มาถึงขนาดนี้คงไม่ต้องรอให้เจ้าของบ้านเชิญ

“ไม่รู้สิ”

“อืม มานอนข้างๆ ฉันนี่มา” เสียงตบที่นอนทำให้พราวฟ้าหันไปมองแล้วขยับขึ้นไปนอนใกล้ๆ เธออย่างว่าง่าย

“มาดูอัลบั้มรูปครอบครัวฉันดีกว่า” ลิซ่านำอัลบั้มหลายปึกมาวางไว้ข้างๆ แล้วเปิดให้เพื่อนสาวดู

“ครอบครัวเธอน่ารักจัง”

“ใช่ไหมล่ะ” ภาพถ่ายตั้งแต่สมัยที่พ่อแม่ของเธอยังหนุ่มสาวถูกโชว์ต่อหน้าเพื่อนใหม่ รวมถึงรูปการแต่งงานของทั้งคู่ จนกระทั่งตั้งท้อง

พราวฟ้าอดรู้สึกอิจฉาครอบครัวของเพื่อนสาวคนนี้ไม่ได้ ที่เกิดมามีครอบครัวที่สมบูรณ์ได้รับความรักอย่าเต็มเปี่ยม

“นี่เธอดูสิ นี่พี่ชายของฉันตอนเด็กๆ น่ารักไหม” เสียงของลิซ่าทำให้เธอหลุดออกจากความคิดของตัวเองแล้วหันมาโฟกัสภาพที่ลิซ่าชี้ให้ดู

“อืม น่ารักดี” เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ แต่มีแววดื้อรั้นเผยออกมาให้เห็นตั้งแต่ตอนนั้น คงจะแสบน่าดู

“ใช่ พี่ชายฉันนะน่ารัก แต่ก็น่าหมั่นไส้ด้วย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน

“ยังไง”

“ก็หล่อไงล่ะ หน้าตาดีเกินพี่เกินน้อง” ลิซ่าอดไม่ได้ที่จะพูดแขวะพี่ชายแต่ทำไมพราวฟ้ารู้สึกว่ามันเป็นคำชม

เธอเลยหัวเราะออกมาเบาๆ

“เธอก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ” เพื่อนใหม่ของเธอคนนี้เป็นคนสวย สวยมากเลยทีเดียวดูจากที่ไปเรียนด้วยกันจะได้รับความสนใจจากหนุ่มๆ เสมอ

“แกล้งชมฉันรึไง แต่ฉันก็คิดว่าฉันสวยนะเพราะคนอื่นๆ ก็ชมฉันบ่อย มีแต่พี่ลูซนั่นแหละที่บอกว่าฉันไม่สวย” เพราะไม่ได้รับคำชมจากพี่ชายทำให้ลิซ่าเสียความมั่นใจ

“ใช่สิ ฉันลืมแนะนำให้เธอรู้จักพี่ชายฉันไปเลย มาดูนี่ดีกว่า นี่พี่ชายฉัน ชื่อลูซ คนที่หล่อเกินหน้าเกินตาฉัน รูปนี้ถ่ายเมื่อสามปีก่อน หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้ถ่ายกับเขาอีกเลย” ลิซ่าชักชวนและแนะนำพี่ชายเพียงคนเดียวให้เพื่อนใหม่รู้จัก

พราวฟ้ามองตาม ผู้ชายตัวสูงที่ยืนเคียงข้างหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่สูงเพียงแค่ไหล่ของเขา แววตาเรียบนิ่งจ้องมองกล้อง ในความคิดของพราวฟ้าตอนนี้เขาดูดีมากจริงๆ

“เป็นไง” ลิซ่าเงยหน้าขึ้นถาม

พราวฟ้าย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ร่วมเดือนและได้เข้าเรียนเป็นที่เรียบร้อยในสาขาเดิม แต่เธอต้องเรียนภาษาเพิ่มเติม การใช้ชีวิตอยู่ในต่างบ้านต่างเมืองถือว่าลำบากมากสำหรับพราวฟ้า แต่เธอก็ไม่ท้อ เธอเชื่อว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลาในการปรับตัว

และหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอก็ถือว่าเธอทำได้ดี

ส่วนความรู้สึกของเธอตอนนี้ เธอเริ่มทำใจได้แล้ว ทุกคนอาจจะเห็นว่าทำไมเธอไม่ร้องไห้ฟูมฟาย เธอไม่แสดงออกว่าเสียอกเสียใจตอนที่ต้องจากมา เธอบอกเลยว่าเธอเสียใจมาก แต่เธอก็ทำใจไว้แล้วเหมือนกัน เธอร้องไห้มามากพอแล้ว ร้องจนไม่มีแม้แต่น้ำตาจะไหลในวันที่ต้องจากมา

การที่ไคล์ไม่มาตามเธอ ก็เป็นคำตอบแล้วว่าเธอต้องตัดใจจริงๆ ถ้าเขามาง้อเธอสักนิด เธอก็พร้อมที่จะกลับไปอยู่กับเขาให้ครบกำหนด แต่นี่ไม่มีเลย

เธอตัวคนเดียวมาตั้งแต่เกิด ดีแค่ไหนที่มีคนอุปการะเลี้ยงดูจนมีอย่างทุกวันนี้ เธอยอมถอยออกมาเพราะไม่อยากให้ผู้มีพระคุณไม่สบายใจ

และเธอต้องตัดใจให้ได้ เพราะเธอได้ชีวิตใหม่แล้ว

ถึงที่นี่จะเป็นฤดูร้อนแต่อากาศก็ไม่ได้ร้อนมาก เวลากลางคืนสำหรับคนเอเชียอย่างเธอก็ถือว่าเย็นเลยทีเดียว คิงกับคริสโตเฟอร์สองพ่อลูกก็ดูแลเธออย่างดี มีบ้างที่เธอไปกินข้าวบ้านนั้นและคิงมาส่งที่คอนโด

ตอนนี้เธอสามารถมองหน้าคิงได้เต็มตาแล้ว ถึงจะมีเกร็งๆ บ้างและคิดถึงไคล์ทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา และด้วยเหตุนี้ทำให้เธอไม่อยากเจอคิงสักเท่าไหร่

แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้มากนัก เพราะคุณทิพย์อาภาฝากเธอไว้กับพวกเขา

เหมือนอย่างวันนี้ เขามารับเธอไปมหาลัยด้วยกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าทางผ่านพอดี

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นก็ได้คนสวย แม่บอกให้ฉันมารับเธอบ้างถ้ามีเวลา”

“ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” พราวฟ้าตอบกลับเขาเบาๆ

“หึ พูดน้อยจังนะ แต่เธอตอบกลับได้แบบนี้ฉันก็ดีใจ เอาไว้ฉันแนะนำเพื่อนผู้หญิงให้รู้จัก เธอจะได้มีเพื่อน” พราวฟ้าเม้มปากเป็นเส้นตรง อยากปฏิเสธแต่ก็คิดว่าพูดไปก็เท่านั้น เธอพบว่าคิงมีนิสัยเหมือนไคล์อยู่หนึ่งอย่างคือความเอาแต่ใจ

หลังจากนั้นไม่เกินอาทิตย์คิงก็แนะนำเพื่อนให้เธอรู้จักจริงๆ ด้วยการพาเธอไปปาร์ตี้ เธอซึ่งไม่ใช่สาวปาร์ตี้ก็ได้แต่ตามน้ำไป เพราะเธอต้องการปรับตัวให้เข้ากับที่นี่และต้องการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต

เพื่อนของคิงมีแต่คนเปรี้ยวๆ ทั้งนั้น ทำให้พราวฟ้าเข้ากับพวกเธอไม่ได้สักคน แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะพวกเพื่อนของเขาก็ไม่ได้สนใจเธอเท่าไหร่

แต่งานนี้ก็ทำให้เธอได้เพื่อนมาจริงๆ ซึ่งคนนี้อายุเท่าเธอ ชื่อ ลิซ่า หรือ ลิซ สาวลูกครึ่งไทยสวิส สามารถพูดไทยได้นิดหน่อย เพราะแม่เป็นคนไทย ครอบครัวของเธอย้ายมาอยู่ที่สวิสตั้งแต่พ่อกับแม่แต่งงานกัน และมาทำธุรกิจที่นี่

พราวฟ้าทำความรู้จักกับลิซ่าร่วมเดือนจากฤดูร้อนกลายมาเป็นฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งอากาศจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่เธอมาใหม่ๆ อุณหภูมิของที่นี่ตอนกลางคืนอยู่ที่สิบแปดถึงยี่สิบแปดองศาก็เย็นแล้วสำหรับคนเอเชียอย่างเธอ แต่พอเริ่มเข้าเดือนกันยายน อากาศเริ่มเย็นลงยิ่งกว่าเดิม ทำให้เธอแทบไม่อยากลุกจากที่นอน พอเข้าหน้าหนาวจริงๆ เธอจะปรับตัวได้ไหมนะ แต่ก็ต้องได้ล่ะนะ

“พราว วันนี้เธอไปบ้านฉันไหม ฉันพูดเรื่องของเธอให้แม่ฟัง แม่เลยอยากรู้จักเธอด้วย”

มันเหมือนพรหมลิขิตมากเมื่อ ลิซ่า เรียนสาขาเดียวกันกับเธอ ทำให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น ลิซ่าเป็นคนพูดเก่ง ช่างคุย ไม่เสแสร้ง ทำให้พราวฟ้าไม่ได้รู้สึกรำคาญหรือเบื่อ ลิซ่าทำให้เธอไม่เหงา

พราวฟ้ารับรู้ได้ว่าลิซ่าเป็นคนจริงใจ เธอจึงสามารถพูดคุยกับลิซ่าได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

“จะไม่รบกวนเธอเกินไปเหรอ” พราวฟ้ารู้สึกเกรงใจ

“รบกวนอะไร แม่ฉันอยากให้เธอไปมาก ท่านบอกว่าคิดถึงประเทศไทย การที่ฉันมีเพื่อนเป็นคนไทยทำให้ท่านดีใจมากและอยากทำความรู้จักเพื่อนของฉันด้วย นะ ไปเถอะนะ ฉันจะบอกแม่ทำอาหารไทยอร่อยๆ ให้เธอกิน” ลิซ่าโน้มน้าวเพื่อนใหม่ที่คบกันได้ไม่นาน แต่เธอมีความรู้สึกชอบเพื่อนใหม่คนนี้มาก

“ก็ได้”

“เยส งั้นไปกันเลยนะ ไม่มีเรียนแล้วหนิ” พราวฟ้ายังไม่พูดอะไรก็โดนเพื่อนสาวลากออกเดินซะแล้ว บ้านของลิซ่าไม่ได้ใกล้แต่ก็ไม่ได้ไกลจากมหาลัยมากนัก เลยเลือกที่จะเดินเท้าเอา

พราวฟ้า

พราวฟ้า

Score 10
Status: Completed

ความรักที่เธอทุ่มเทให้เขาทั้งกายและใจ เขากลับผลักไส ร้ายกาจกับเธอสารพัด ทำทุกทางเพื่อให้เธอออกไปจากชีวิต ความรักมันเกิดขึ้นได้กี่ครั้งกัน โปรดส่งคนที่มอบความรักความอบอุ่นมาให้เธอที

Options

not work with dark mode
Reset