“สวัสดีค่ะ” พอตั้งสติได้ พราวฟ้าเอ่ยทักทายเขาเสียงแผ่ว เธอไม่อยากแม้แต่จะสบตาเขา เพราะทำให้นึกถึงไคล์ เป็นอย่างนี้แล้วเธอจะลืมไคล์ได้อย่างไร คุณแม่คิดอะไรอยู่นะ ถึงให้เธอมาอยู่นี่ที่
“เอาล่ะๆ แม่ต้องขอโทษพราวด้วยที่ไม่ได้บอกเรื่องที่ไคล์มีแฝด อาจจะทำให้ลูกตกใจใช่ไหมจ๊ะ”
“แต่ไม่ต้องห่วง คิงไม่เหมือนไคล์ ถึงหน้าตาจะเหมือนกันแต่นิสัยไม่เหมือนกันแน่นอนจ๊ะ คิงไม่มีวันทำร้ายหนูเหมือนไคล์” พราวฟ้ามองหน้าทุกคนซึ่งตอนนี้จับจ้องเธออยู่
แสดงว่าทุกคนรู้เรื่องของเธอกับไคล์
“พี่ชายฉันไม่ได้เรื่องจริงๆ” คิงส่ายหัวพร้อมกับบ่นให้พี่ชาย
หลังจากนั้นทุกคนก็คุยกันอีกนิดหน่อยก่อนที่คุณทิพย์อาภาจะพาพราวฟ้าออกไปดูห้อง ซึ่งมีคิงเป็นคนพาไปและนัดทานข้าวด้วยกันตอนเย็น
“เป็นไงบ้างจ๊ะ พออยู่ได้ไหม”
“อยู่ได้ค่ะ” พราวฟ้าไม่อยากทำตัวให้เป็นภาระท่านอีกแล้ว ในเมื่อตัดสินใจจะเดินออกมาเธอก็ต้องอยู่ให้ได้
แต่ทำไมต้องให้เธอมาอยู่ใกล้คนที่หน้าตาเหมือนเขาด้วยนะ
“แม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คิงดูแลน้องให้”
“ขอบใจจ้ะ ดีกับน้องให้มากๆ นะ อย่าทำให้แม่ผิดหวัง”
“ครับ” พราวฟ้ามองสองแม่ลูกตกลงกัน
“แต่ดูเหมือนน้องจะไม่อยากมองหน้าคิงสักเท่าไหร่นะครับ”
“พราวอาจจะยังไม่ชิน หนูกลัวพี่เขารึเปล่าลูก” คุณทิพย์อาภากลัวว่าพราวฟ้าจะกลัวคิงเพราะหน้าตาเหมือนไคล์
“เปล่าค่ะ พราวแค่ไม่ชิน”
“แม่เข้าใจ แต่ค่อยๆ ปรับไป ถือซะว่ารู้จักไคล์อีกรูปแบบหนึ่ง”
“พราวถามได้ไหมคะ”
“อยากถามอะไรจ๊ะ ถามได้เลยแม่จะตอบทุกอย่าง”
“ไคล์เขารู้ไหมคะว่ามีแฝด” พราวฟ้าถามในสิ่งที่คาใจ
สองแม่ลูกมองหน้ากันทันที ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“รู้จ๊ะ แต่ไม่เคยพูดถึง แม่เองก็ไม่ได้พูดทำให้หนูไม่รู้ จะว่ายังไงล่ะ หนูก็เห็นว่าไคล์เป็นยังไง ไคล์เป็นคนที่คิดว่าคนอื่นไม่รัก คนที่ทิ้งเขาไปเขาก็คิดว่าไม่รักเขาแล้ว และเขาก็ไม่อยากพูดถึง แถมยังกันคนที่รักเขาจริงๆ ออกจากชีวิตอีก”พราวฟ้าพอจะเข้าใจ
“เดี๋ยวพี่แนะนำเพื่อนให้รู้จัก มีแฟนใหม่ซะก็สิ้นเรื่อง” คิงพูดติดตลก ก็โดนฝ่ามือเข้าให้
“ดูพูดเข้า”
“ก็จริงหนิครับ จะรักทำไมคนที่ไม่ได้รักเรา”
“นั่นพี่ชายเรานะ”
“ช่างมันสิครับ มันอยากร้ายดีนักก็ปล่อยให้มันอยู่คนเดียวไปเถอะ” ถึงเขาจะไม่ได้สนิทกับพี่ชายและไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่แยกจากกัน เพราะทางนั้นไม่อยากคุยด้วย แต่ด้วยความที่เป็นแฝดทำให้รู้สึกถึงอีกฝ่ายได้เป็นบางความรู้สึก
“เจ้านี่”
“แล้วนี่แม่จะกลับวันไหนครับ อยู่กับคิงก่อนไม่ได้เหรอ”
“แม่มีงานต้องทำ แค่มาส่งพราวเฉยๆ เอาไว้ครั้งต่อไปแล้วกัน ยังไงแม่ก็จะมาเยี่ยมพราวบ่อยๆ เท่าที่จะทำได้” คิงพยักหน้าเข้าใจ เขาไม่เคยเรียกร้องอะไร และไม่เคยน้อยใจพ่อแม่สักครั้ง เพราะเขาเข้าใจพวกท่าน ไม่เหมือนกับไคล์ ที่เป็นคนเรียกร้องหาแต่ความรัก แต่ไม่เคยเปิดรับมันเลย
พราวฟ้าสัมผัสได้ว่าคิงต่างจากไคล์มากจริงๆ ต่างกันมากจนเธอเริ่มไม่มีความกังวลที่จะใกล้ชิดกับเขาแล้ว เพียงแต่เวลาเห็นหน้าเขาทำให้นึกถึงไคล์ตลอดเวลาแค่นั้น
คุณทิพย์อาภาอยู่เป็นเพื่อนพราวฟ้าได้แค่สามวันเพราะท่านมีงานด่วน เรื่องการเรียนของพราวฟ้าจึงตกไปเป็นหน้าที่ของคริสโตเฟอร์และคิงทั้งสองคนจัดการทุกอย่างให้เธอเรียบร้อยภายในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์
“มีอะไรถึงกลับมาบ้านได้” คุณทิพย์อาภาถามลูกชายที่เดินเข้ามาในบ้าน ร้อยวันพันปีถ้าเธอไม่ขอร้องให้มาหาบ้างไม่มีทางที่ไคล์จะกลับมาที่บ้าน
“รู้สึกว่าบรรยากาศมันดีขึ้น” ไคล์พูดเสียงเรียบก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
“งั้นลูกกลับมาอยู่บ้านเราไหม” ยังไงคุณทิพย์อาภาก็รักลูกชายของท่าน ท่านไม่เคยไม่รักไคล์อย่างที่เขาเข้าใจ การมีพราวฟ้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเธอไม่คิดว่ามันจะแย่ขนาดนี้ ทำให้ลูกชายคนที่รักตีตัวออกห่างและคิดว่าเธอไม่รักเขา
ไคล์เหลือบตามองแม่ของตนด้วยสายตาเฉยเมย
“ลูกคงรู้แล้วว่าน้องไม่อยู่ที่นี่แล้ว น้องไปแล้ว ไปตามความต้องการของลูก แม่ผิดเองทุกอย่าง ผิดที่ทำให้ลูกคิดว่าแม่ไม่รักลูก แม่รักลูกมากไคล์ แต่แม่ก็ไม่คิดว่าการมีน้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเราจะทำให้ลูกคิดมากขนาดนี้” คุณทิพย์อาภาพูดยาวเหยียด สิ่งที่เธออยากจะพูด อยากจะบอกกับลูกชายแต่ไม่เคยมีโอกาสได้พูด เพราะไคล์ไม่เคยรับฟังอะไรเลย
“หึ” ไคล์ทำเสียงขึ้นจมูกเหมือนเยาะเย้ยกลายๆ
“น้องไม่ผิดอะไรเลยไคล์ น้องเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าสงสาร เป็นเด็กดี น่ารัก ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ไม่อยากให้ไคล์เกลียดน้อง แม่อยากให้ทุกคู่รักกันเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ”
“พี่น้องท้องชนกันน่ะสิ” ไคล์พูดสวนขึ้น อยากให้รักกันเหมือนพี่น้องแล้วส่งยัยนั่นมาเป็นนางบำเรอเขาทำไม
“เรื่องนี้มันเป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตของแม่ แม่คิดว่าความดีของน้องจะเอาชนะใจลูกได้ แต่ก็ไม่เลย ลูกไม่เคยรับรู้ความรักที่คนรอบข้างมีให้เลยสักนิด แม่อยากจะบอกลูกว่าที่หนูพราวเขายอมทำตามที่แม่ขอ ยอมไปอยู่กับลูก เพราะเขารักลูก น้องรักลูกไคล์ รักอย่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งรักผู้ชายคนหนึ่งอย่างหมดหัวใจ จึงยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้เขาเห็น”
เพราะเรื่องนี้ทำให้คุณทิพย์อาภาตัดสินใจทำแบบนั้น เธอคิดจริงๆ ว่าความดีของพราวฟ้าจะสามารถเอาชนะใจไคล์ได้ แต่มันก็เปล่าประโยชน์เธอทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องเสียใจ เธอทำลายชีวิตของพราวฟ้า
ไคล์กำมือเข้าหากันแน่น เม้มปากเป็นเส้นตรง รักงั้นเหรอ ทุกคนบอกว่ารักเขางั้นเหรอ หึ
“แต่ผมไม่ได้รักยัยนั่น” ไคล์พูดออกไปเสียงเรียบ เขาไม่มีทางรักยัยนั่น เขาจะรักคนที่เขาเกลียดได้ยังไง ไม่มีทาง
“แม่รู้ แม่ถึงให้น้องไปจากที่นี่ ไปให้ไกลจากสายตาลูก แม่หวังว่าลูกจะพอใจและกลับมาเป็นไคล์คนเดิมของแม่ แม่ทำผิดต่อลูกมาก แม่อยากชดใช้ให้” คุณทิพย์อาภาพูดด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“ยัยนั่นจะไม่กลับมาอีกแล้วใช่ไหม”
คุณทิพย์อาภามองหน้าลูกชายที่ถามคำถามนี้กับเธอ ซึ่งเธอเดาอารมณ์ในคำถามนั้นของลูกชายไม่ออก
“ใช่จ้ะ ถึงกลับมาน้องก็คงไม่มีที่บ้านเราอีก” ในเมื่อไคล์ผลักไสพราวฟ้าขนาดนี้ เธอก็คงไม่มีทางเลือก
“ดี เอาไว้ผมจะกลับมานอนที่บ้านบ่อยๆ” ไคล์ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากบ้านไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาควรดีใจที่กำจัดยัยนั่นออกไปได้ แต่ทำไมความรู้สึกของเขามันเหมือนมีอะไรมากดทับ
ผ่านไปสองสัปดาห์ที่พราวฟ้าไม่ได้ออกจากบ้าน มีเพียงแค่วันเดียวที่ต้องไปมหาลัยเกี่ยวกับเรื่องเรียนของเธอ ซึ่งคุณทิพย์อาภาเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องเอกสารการเดินทางและเรื่องเรียนต่อ
ไคล์เงียบหายออกไปจากชีวิตของเธอ เขาไม่ได้ติดต่อมาหรือว่ามาที่บ้านตั้งแต่ที่เธอตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล คุณทิพย์อาภาเองก็ไม่ได้พูดถึงลูกชายของท่านอีกเช่นกัน
รวมทั้งอะตอมและปริมที่มาเยี่ยมเยียนเธอบ่อยๆ ก็ไม่มีใครเอ่ยถึงไคล์เลยอีกเลย
พราวฟ้าเองก็ไม่ได้ถาม เธอทำใจยอมรับความจริงข้อนี้แล้วจริงๆ ว่ายังไงไคล์ก็ไม่เห็นความสำคัญของเธอ ทั้งๆ ที่ในใจลึกๆ อยากให้เขามาง้อหรือตามหาเธอสักครั้ง แต่มันก็แค่มันความคิดเหลวไหล คนที่อยากให้เราออกไปจากชีวิตเขามากขนาดนั้นจะมาง้อเราทำไม
เรื่องข่าวของพราวฟ้าเป็นที่พูดถึงอยู่เป็นสัปดาห์ ทุกคนวิจารณ์เรื่องนี้ไปต่างๆ นานา โดยที่บางคนก็ถามหาว่าผู้ชายคนที่ทำร้ายเธอขนาดนี้เป็นใคร แต่ก็ไม่มีใครรู้
พราวฟ้าพยายามไม่สนใจ คิดว่าไม่นานเรื่องคงเงียบไปเองเพราะเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นตลอดในสังคมเรา อีกอย่างเธอก็ไม่ได้ดังมาก คนสนใจแป๊บๆ ก็คงลืม เพราะไหนๆ เธอก็จะไปจากที่นี่แล้ว
และหลังจากนั้นไม่กี่วันเรื่องของเธอก็เงียบจริงๆ ไม่มีใครพูดถึงอีก ไม่มีโพสต์ที่วิจารณ์ต่อๆ กัน มันหายไปทั้งหมด ปริมและอะตอมยังแอบสงสัยว่ามันหายไปในพริบตาอย่างนี้ได้ยังไง แต่พราวฟ้าก็ไม่ได้สนใจ เธอใส่ใจกับการเตรียมตัวที่จะไปเรียนต่ออย่างเดียว เธอไม่อยากคิดฟุ้งซ่านไม่อยากทำให้ความตั้งใจของตัวเองเสียเปล่า
วันเดินทางของพราวฟ้ามาถึง คุณทิพย์อาภามาส่งเธอถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง ใช่ ประเทศที่เธอมาเรียนต่อคือประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ท่านบอกว่าถ้าเธอได้ไปอยู่จะต้องลืมความเศร้าแน่นอน เพราะเป็นประเทศที่สวยงามมาก มีภูเขาล้อมรอบ อากาศเย็นสดชื่นตลอดทั้งปี
รวมทั้งมีคนที่ท่านรู้จักและไว้ใจได้อยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งเรื่องนี้พราวฟ้าไม่เคยรู้มาก่อน
“ถึงแล้วจ้ะ แม่พาหนูมาทำความรู้จักกับคนที่จะดูแลหนูอยู่ที่นี่ก่อน แล้วจะพาไปดูคอนโดที่จะอยู่จ้ะ” พราวฟ้าพยักหน้ารับฟังและทำตามอย่างดี
เธอไม่โต้แย้งหรืออะไรทั้งสิ้น เธอเชื่อว่าท่านต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เธออย่างแน่นอนถึงแม้บางครั้งท่านจะโทษตัวเองถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับชีวิตเธอ แต่พราวฟ้าก็ไม่เคยโกรธหรือเกลียดท่านเลยสักนิด เพราะเธอรักท่านมาก รักเหมือนแม่ผู้ให้กำเนิด
“ค่ะ”
บ้านหลังใหญ่โตกว้างขวางมีวิวที่สวยงามอยู่ด้านหลังรวมถึงอากาศที่สดชื่นมากๆ ช่วงนี้อยู่ในช่วงกลางปีเป็นฤดูร้อนของที่นี่แต่อากาศไม่ได้ร้อนอบอ้าวเหมือนฤดูร้อนของบ้านเราสักนิด ถือว่าอากาศดีสุดๆ
พราวฟ้ารู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ไม่ได้มีความกังวลเหมือนอย่างตอนแรก
เธอรู้สึกฮึดสู้กับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เธอต้องมีชีวิตใหม่ ชีวิตที่เป็นของตัวเอง ตัดสินใจทุกอย่างเอง และรักตัวเองมากๆ ต่อไปนี้ทุกวันในชีวิตของเธอจะต้องดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน
“Hi ดาลิ้ง มาแล้วเหรอ” ผู้ชายสูงวัยแต่ดูดีคนหนึ่งเดินเข้ามากอดคุณทิพย์อาภาอย่างสนิทสนม
“ปล่อยนะคริส” คุณทิพย์อาภาผละออกจากหนุ่มใหญ่พร้อมกับส่งค้อนให้
“อะไรกันไม่ได้เจอกันตั้งนานคุณไม่คิดถึงผมเลยเหรอ” คริสโตเฟอร์หรือคริสพูดเสียงน้อยใจ
“ทำไมฉันต้องคิดถึงคุณ”
“น้อยใจจัง”
“หยุดเล่นเหมือนเด็กๆ ได้แล้ว เข้าเรื่องเลยดีกว่า”
“ครับคุณผู้หญิง นี่ใช่ไหมเด็กที่คุณบอก สวยน่ารักสมวัยมาก” คริสหันมามองพราวฟ้าแล้วเอ่ยชม ซึ่งหญิงสาวก็ก้มหัวให้เบาๆ
“ใช่ นี่พราวฟ้าลูกสาวของฉัน พราวลูกนี่คุณคริสโตเฟอร์ พ่อของไคล์จ๊ะ” พราวฟ้าอึ้งไปทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้ชายตรงหน้าคือพ่อของไคล์อย่างนั้นเหรอ
เธอได้ยินเรื่องพ่อของไคล์มาบ้าง ท่านทั้งสองหย่าขาดจากกัน แล้วพ่อของไคล์ก็กลับไปยังบ้านเกิดของท่าน ส่วนคุณทิพย์อาภาก็เลี้ยงไคล์แค่คนเดียว เธอไม่เคยเห็นท่านไปเยี่ยมไคล์เลยสักครั้ง นึกว่าจบกันไม่สวยซะอีก
“ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะหนูน้อย” คริสโตเฟอร์ยิ้มรับ ยื่นมือออกมาเพื่อทักทาย พราวฟ้าก็ก้มหัวให้แล้วจับมือทักทายเช่นกัน
“แล้วนี่จะพักนี่ที่หรือยังไง”
“ฉันพามาแนะนำกับคุณแล้วจะพาไปดูห้อง แค่มาฝากให้ดูแลไม่ได้ให้มาอยู่ด้วย” คริสพยักหน้าเข้าใจ
“ได้ เดี๋ยวจะให้เจ้าคิงดูแล เข้าเรียนที่เดี๋ยวกันกับเจ้าคิงใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ฉันอยากให้คุณเป็นธุระเรื่องเรียนนี้ให้ด้วยเพราะฉันอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน”
“ได้สิ ผมจะจัดการให้”
“แล้วนี่คิงไปไหน”
“ยังไม่กลับ แต่เดี๋ยวคงกลับผมบอกแล้วว่าแม่จะมา”
“งั้นฉันรอเจอลูกก่อนดีกว่าค่อยพาหนูพราวไปดูห้อง”
พราวฟ้าฟังทั้งสองคนคุยกันเงียบๆ เรื่องที่ได้ยินทำให้เธอตกใจไม่น้อย คุณทิพย์อาภามีลูกชายอีกคนอยู่ที่นี่ เรื่องนี้เธอไม่เคยรู้จริงๆ เพราะท่านไม่เคยพูดถึง และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าไคล์รู้เรื่องนี้รึเปล่า เพราะเธอไม่เคยเห็นเขาพูดถึงเหมือนกัน ในบ้านก็ไม่มีรูปเด็กคนอื่นเลยนอกจากรูปเธอและไคล์
“แด๊ด แม่มาแล้วเหรอครับ” เสียงมาก่อนตัว ทำให้ทุกคนหันไปมอง
“ใช่ แล้วธุระที่ให้ไปทำเรียบร้อยไหม”
“เรียบร้อยครับ” ร่างสูงที่ยิ้มกว้างแล้ววิ่งเข้ามากอดแม่อยู่ตอนนี้ ทำให้พราวฟ้าตัวแข็งทื่อ เธอเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจอย่างไงอย่างงั้น
จนคุณทิพย์อาภาสังเกตเห็น
“ไม่ต้องตกใจลูก นี่คิงน้องชายฝาแฝดของไคล์” คุณทิพย์อาภาเข้ามากอดพราวฟ้าพร้อมกับแนะนำลูกชายอีกคนให้หญิงสาวรู้จัก
ซึ่งเธอไม่เคยบอกพราวฟ้าเลยเรื่องนี้
“ส่วนนี่พราวฟ้าจ๊ะ แม่ฝากดูแลน้องด้วยนะ”
“ครับ คิงจะดูแลให้ ว่าไงครับคนสวยได้ยินชื่อมานาน ได้เจอตัวจริงสักที” คิงเดินเข้ามาหาพราวฟ้าพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
พราวฟ้าเองที่ยังไม่หายตกใจ ผงะถอยหลังไปเองอัตโนมัติ
หน้าตาเขาเหมือนกับไคล์มาก เหมือนจนแยกไม่ออก แต่นิสัยต่างกัน ไคล์ไม่เคยมีรอยยิ้มให้เธอเลยสักครั้ง แต่คิงยิ้มให้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน